ซุปเปอร์เจ้าสําราญ

บทที่ 8 ความปราณนาของ จางดีไม่



บทที่ 8 ความปราณนาของ จางดีไม่

วันต่อมา

เขต ชุมชนเจียงฉือ บ้านของ จาง ไม่

คนของบริษัทที่ขนย้ายได้จัดตกแต่งบ้านใหม่อีกครั้ง และ ครอบครัวของเธอก็สามารถกลับมาอาศัยได้เหมือนเดิมอีก ครั้งด้วย

หลังจากที่ หลินอง ทําอาหารเสร็จ คนในบ้านก็มานั่งล้อม รอบ โต๊ะอาหาร และกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

“ครั้งนี้ถือว่าพระเจ้าคุ้มครองจริงๆ! สุดท้ายสองพ่อลูก จางเถียนให้ ก็ถูกโค่นล้มอำนาจจนได้ คงมีคนจํานวนมากรอ เหยียบย่ำครอบครัวของพวกเขาแน่ และคงไม่มีอำนาจมาก ลั่นแกล้งพวกเราอีก” ลู่หย่าสุ่ย พูดด้วยความดีอกดีใจขึ้น “แต่ก็ไม่รู้จริงๆว่า ใครโค่นล้มพวกเขา ฉันอยากขอบคุณ ต่อหน้าจริงๆเลย!”

บนใบหน้าของ จางซิ่วเฟิง ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน และพูดขึ้นว่า “น้องสามทำงานเด็ดขาดเกินไป แถมยังชอบ มีเรื่องกับคนอื่นอีกมากมายด้วย! ครั้งนี้ไปมีเรื่องบุคคลใหญ่ โต เวรกรรมตามสนองจริงๆ”

“สมน้ำหน้าพวกเขาจริงๆ” ลู่หย่าสุ่ย พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายขึ้นว่า “การปรากฏตัวครั้งนี้ของประธาน สามารถ ทำให้โรงงานอัญมณีของตระกูลเรากลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง ใน อนาคตยังมีการแบ่งกำไรหุ้นส่วนด้วย ฟ้าหลังฝน มัก สวยงามเสมอ”

การเปลี่ยนแปลงของบริษัทเครื่องประดับจางซื้อครั้งนี้ สร้างความฮือฮาทั่วทั้งเมืองชิงหยูน โดยเฉพาะเรื่องราว ภายในห้องประชุมของสองพ่อลูก จางเถียนไห่ ที่แพร่สะพรั่ง ไปทั่วทุกตระกูล และกลายเป็นเรื่องตลกของชาวบ้านด้วย

แม้กระทั่งหนังสือพิมพ์รายวันประจำเมืองของชิงหยูน ยัง รายงานว่า ช็อก! คุณชาย จางเถียนไห่ ของบริษัทเครื่อง ประดับจางซื่อถูกพ่อใช้กำลังบังคับกินเศษอาหารในห้อง ประชุม!

วินาทีแรกที่ครอบครัวของ จางนีโม่ ได้ยินข่าวนี้ต่างพากัน รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ตอนแรกคิดว่าจะถูก จางเถียนไห่ ไล่ ออกจากบ้านไปอยู่ข้างทางแล้ว คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะ พลิกผัน!

“หลายปีมานี้พี่ใหญ่กับน้องสามบริหารบริษัทมีปัญหา ใหญ่จริงๆ แต่เมื่อถูกนิ่งชื่อกรุ๊ปที่มีอำนาจเงินทองยึดบริษัท ทำให้บริษัทมีการเติบโต ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดีอะไร แต่ น่าเสียดายนิดเดียว ธุรกิจของตระกูลที่พ่อสร้างมาได้ถูก เปลี่ยนจากบริษัทประจำตระกูลกลายเป็นบริษัทธรรมดาไป แล้ว” จางซิ่วเฟิง พูดขึ้น พร้อมเผยสีหน้าสับสนเล็กน้อย
ในมือของเขากำลังถือหนังสือพิมพ์รายวันประจำเมืองชิง หยูนฉบับหนึ่ง บนหนังสือพิมพ์กล่าวว่า บริษัทเครื่องประดับ จางชื่อเหมือนมีบุญล้นทับ ประธาน ประกาศนโยบาย พัฒนาจาง อกรุ๊ป

“เห่อ คุณไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว ขนาดคุณมีเจตนาดีต่อ บริษัทขนาดนี้ พ่อของคุณยังไม่เห็นคุณในสายตาเลย! แถม ไม่เอาหุ้นส่วนบริหารบริษัทให้คุณเลยสักนิดเดียว!” ลู่หย่า ฮุย พูดอย่างไม่ไว้หน้า แล้วพูดต่อว่า “ต่อไปคุณก็แค่ทำงาน กับคณะกรรมการบริหารอย่างซื่อสัตย์ก็พอแล้ว ตอนนี้เขา ปฏิบัติต่อโรงงานขนาดเล็กที่อยู่ในสังกัดบริษัทอย่างเท่า เทียมแล้ว แถมคุณยังกลายเป็นหุ้นส่วนเล็กของบริษัทด้วย เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว ในที่สุดคุณก็สามารถกลับไป ประชุมที่ตึกอาคารเป่ายิ่งอีกที

“เห่อเห่อ ก็จริง” จางซิ่วเฟิง ยิ้มอย่างจนปัญญาขึ้น “อย่าง น้อยชีวิตของครอบครัวเราก็ค่อยๆดีขึ้น”

บนใบหน้าของ จางโม่ เผยรอยยิ้มยินดีขึ้นมาเหมือนกัน แถมสีหน้าความกังวลและเหน็ดเหนื่อยก็ถูกขจัดทิ้งหมดแล้ว มีเพียงครอบครัวที่แสนอบอุ่น

“จริงสิ นีโม่ ผมเห็นข่าวว่า ประธาน ต้องการคลื่นลูก ใหม่มาพัฒนาบริษัท เลขประกาศรับสมัครนักออกแบบ อัญมณี คุณเรียนจบสายงานนี้ไม่ใช่หรอ คุณไม่คิดออกแบบ ร่างอัญมณีไปสมัครสักหน่อยหรอ” ในมือของ หลินอิ่ง ก็ถือหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเหมือนกัน

“นายเอาแต่ขายของปิ้งย่างทั้งวัน จะไปเข้าใจอัญมณี อะไร?” ลู่หย่าฮุย ชักสีหน้าใส หลินนิ่ง เล็กน้อย “ไม่ เธอ เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องให้นายมาสั่งสอนหรอก”

หลินอิ่ง ยิ้มอย่างเก้อเขินเล็กน้อย โดยไม่พูดอะไร

เขารู้ดีว่า ภรรยาของเขา จาง โม่ จบการศึกษาเอก ออกแบบอัญมณี และด้วยเพราะเป็นธุรกิจของตระกูล เธอ เลยยิ่งชื่นชอบอัญมณีเป็นอย่างมาก

เขาเคยเห็นแบบร่างงานออกแบบอัญมณีจำนวนไม่ถ้วนที่

จางฉีโม่ วาดไว้ในห้องด้วย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นของไร้

ค่า

การเป็นนักออกแบบอัญมณีที่มีชื่อเสียง และออกแบบ เครื่องประดับอัญมณีโด่งดังไปทั่วโลกเป็นความใฝ่ฝันของ

เธอ

เพียงแต่เมื่อก่อน จางฉีโม่ อยู่ในบริษัทเครื่องประดับจาง ชื่อเป็นเพียงพนักงานธรรมดา อีกอย่างครอบครัวของเธอยัง ถูก จางหงจูน คณะกรรมการบริหารข่มเหงรังแกด้วย แบบ ร่างออกแบบของเธอเลยไม่เคยถูกสนใจเลย

ดังนั้นเรื่องที่ หลินอิ่ง กำชับ อูหยาง นั้นก็เพราะต้องการ มอบของขวัญให้จางฉีโม่ ชิ้นหนึ่ง เพื่อต้องการช่วยให้ความปราณนาของเธอสำเร็จ

” จาง โม่ เหมือนมีความสนใจอยู่ไม่น้อย เธอรีบ หยิบหนังสือพิมพ์ในมือของ หลินนิ่ง มาอ่านอย่างตั้งใจ

“ข้อเสนอของ หลินนิ่ง ถือว่าไม่เลวเลย ฉันจะลองดูสัก ครั้ง” จาง โม่ พูดขึ้น

“การออกแบบอัญมณี นี่คือความสามารถที่ลูกสาวของเรา ถนัด หากไม่ใช่หลายปีมานี้ถูกบริษัทกีดกั้น เธอคงกลายเป็น นักออกแบบอัญมณีที่มีชื่อเสียงแล้ว” ลู่หย่าสุ่ย พูดด้วยความ ภาคภูมิใจขึ้น “ลูกสาว ๆ ตอนนี้ภายในบริษัทกำลัง กวาดล้างอยู่ พนักงานสังกัดของน้องสามไม่มีแล้ว ครั้งนี้ถือ เป็นโอกาสของลูกแล้ว”

“หนูทราบแล้วค่ะ” จางฉีโม่ พูดขึ้น ขณะเดียวกันก็แอบ รู้สึกดีใจในใจเงียบๆด้วย

หลินยิ่ง กินข้าวหนึ่งค่า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า “นีโม่ คุณมีไอเดียแล้วหรอ อันที่จริงในใจของผมมีไอเดีย อัญมณีหนึ่ง”

“นายก็รู้เรื่องการออกแบบอัญมณีด้วยหรอ?” จางไม่ พูดขึ้น พร้อมเผยสีหน้าสงสัย

หลินอิ่ง ยิ้มและพูดว่า “เป็นความชอบตอนเด็ก แต่น่า เสียดายที่ไม่ได้ทําต่อ
ตอนเด็กเขาเรียนตามอาจารย์ แต่เป็นการแยกแยะและ แกะสลักอัญมณีโบราณ ซึ่งนั้นถือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง อัญมณีแบบไหนล้วนผ่านมือเขามาหมดแล้ว

“อ๋อ? ” จางฉีโม่ พูดต่อว่า “งั้นเดียวนายช่วยบอกให้ฉันฟัง หน่อยล่ะกัน”

ความชอบเหมือนกันมักนำพาเรื่องราว จางนีโม่ ดูมี ท่าทางตื่นเต้นไม่น้อย

หลังจากกินข้าวเสร็จ จาง โม่ ก็กลับห้องของตัวเอง แล้ว หยิบแบบร่างออกแบบไม่กี่ชิ้นออกจากลิ้นชัก

“หลินนิ่ง นายมาที่ห้องฉันแบบหนึ่ง

หย่าย และ จางซิ่วเฟิง หันหน้ามาสบตากัน นับตั้งแต่ หลินนิ่ง เข้ามาอยู่บ้านทั้งสองปี ไม่เคยเข้ามาในห้องลูกสาว ของพวกเขาเลย

หลินนิ่ง ลุกขึ้น แล้วเดินเข้าห้อง จางโม่

เขาส่ายหน้ายิ้มเล็กน้อย นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าห้อง ของภรรยาตัวเองเป็นครั้งแรก

ภายในห้องจัดตกแต่งสวยงามมาก ผ้าปูนเตียงและ เสื้อผ้าเป็นสีชมพู บนหัวเตียงมีตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งวางไว้ และ ภายในห้องยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจางๆด้วย

“นี่เป็นแบบร่างออกแบบไม่กี่ชิ้นที่ฉันออกแบบเมื่อก่อนฉันจะลองทดสอบนายหน่อยว่า นายมีความรู้หรือเปล่า” จาง นีโม่ นั่งลง และวางเอกสารลงบนโต๊ะ จากนั้นก็จ้องมองที่

หลินยิ่ง

“ไหน ผมดูหน่อย”

หลินยิ่งหยิบแบบร่างขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้ววิเคราะห์อย่าง

ละเอียด

“อืม สร้อยคอจี้ที่คุณออกแบบเป็นรูปแบบประเภท สัญลักษณ์ เป็นการเลียนแบบหัวใจแห่งมมหาสมุทรใช้ ไหม?” หลินอิ่ง ยิ้มและพูดขึ้น

“หยกชิ้น ออกแบบให้ห้อยลงมาเหมือนดั่งต้นไม้เผชิญ หน้าพระอาทิตย์ เป็นรูปแบบประเภททิวทัศน์เสมือนจริง แต่ ยังแฝงความเป็นเอกลักษณ์อยู่

“แบบร่างสร้อยทองชิ้นนี้ เป็นการออกแบบรูปแบบ ประเภทศิลปะโบราณ ซึ่งต้องใช้ช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญ สูงในการเลี่ยม ถึงจะแสดงถึงความสูงส่ง สง่างาม

หลินนิ่ง ค่อยๆพลิกแบบร่างออกแบบที่ละม้วน พร้อมกับ วิเคราะห์แบบร่างออกแบบของ จางไม่ อย่างคล่องแคล่ว

จางไม่เผยสายตาประหลาดใจ เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย พร้อมจ้องมอง หลินยิ่ง

เธอคิดไม่ถึงเลยว่า หลินอิ่ง จะมีความรู้เรื่องอัญมณีมากถึงขนาดนี้! จนสามารถเข้าใจแบบร่างออกแบบของตัวเอง

ได้ด้วย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ