ชีวิตจักรพรรดิของข้า

บทที่ 5 กระหม่อมถูกใส่ร้าย



บทที่ 5 กระหม่อมถูกใส่ร้าย

ฮ่องเต้ปกครองประเทศยิ่งใหญ่ กลับยากจนราวกับขอทานก็ไม่ ปาน เรื่องตลกนี้ ชักจะเกินไปแล้ว…

ภายใต้สีหน้าที่โกรธของเยเทียนออกคำสั่งให้ หลี่จิ้น นำเอา สมุดบัญชีทั้งหมดออกมา เขาจะตรวจสอบด้วยตนเอง หากพบว่า หลี่จิ้น แอบยักยอก จะถูกประหารเจ็ดชั่วโคตร

มองดูสมุดบัญชีเล่มหนาหลายเล่ม เย่เทียนก็ตาลาย สมอง บวมระเบิดไปหลายรอบ แม่เอ้ย นี่ต้องดูไปอีกนานเท่าไหร่ ที่ หนักกว่านั้นคือเป็นตัวเต็มทั้งหมด ยากที่จะทำความเข้าใจ มี หลายตัวที่เขาอ่านไม่ออก ที่แย่ไปกว่านั้นคือตัวเลขล้วนเป็นตัว เขียน รายรับรายจ่ายบันทึกเอาไว้ด้วยกันหมด หากจะดูให้หมด จริง ๆ น่าจะได้กระอักเลือดตาย

“ปิ้ง” เสียงหนึ่ง เขาปิดสมุดบัญชี และก็ทำให้หลี่จิ้นเสนาบดี คลังที่ยืนอยู่ที่มุมหนึ่งตกใจจนวิญญาณออกจากร่าง เนื้อตัวที่ เต็มไปด้วยไขมันสั่นกระเพื่อม

“หลี่จิ้น เจ้ารู้ความผิดของเข้าหรือไม่” เยเทียนทำหน้าถมึงทึง ลุกขึ้นยืน ตบโต๊ะตะโกนเสียงดัง สมุดบัญชีพวกนี้ก็เหมือนกับ พระคัมภีร์ เขาขี้เกียจจะดูและก็ไม่มีความอดทนและเวลาดู ได้แต่ ต้องทำทีเป็นโมโหออกมานี่แหละ

“ฝ่าบาท กระหม่อมไม่ทราบว่ากระทำการผิดอันใด” หลี่จิ้น ตกใจจนนั่งลงไปคุกเข่า สีหน้าซีดขาวไร้สีเลือด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายลงมาจากหน้าผาก ไขมันทั่วตัวสั่นกระเพื่อมขึ้นมา

เข้าไม่รู้ว่าทำผิดอะไร ทำให้ฝ่าบาทกริ้ว อำนาจของสวรรค์ ยากจะคาดเดา ยากจะคาดเดาจริง ๆ หนนี้น่าจะอนาถแล้ว หาก ทำไม่ดีต้องโดนประหารทั้งตระกูล ประหารเจ็ดชั่วโคตรเลยที เดียว

เยเทียนร้องที่ออกมาเสียวเย็นเยียบ ตะโกนขึ้นเสียงดัง “เจ้า ไม่รู้ว่ากระทำความผิดอันใด

“กระหม่อมไม่ทราบว่ากระผิดอันใด พะเจ้าค่า ” ภายใต้ อารมณ์ที่เกี่ยวกาจถึงขีดสุด หลี่จิ้น กลับปรับอารมณ์ให้สุขุม เยือกเย็น เขาเป็นขุนนางเก่าแก่แล้ว รู้ว่าอันไหนอันตรายอันไหน ดีแอบไม่มิด รอดูว่าฮ่องเต้จะจับจุดตรงไหนของตัวเองมาพูด ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เย่เทียนกล่าวเสียงเย็น “หลี่จิ้น ตำแหน่งเสนาบดีของเข้าเป็น มาก็หลายปีแล้วมิใช่หรือ

หลี่จิ้นที่คุกเข่าอยู่บนพื้นกราบทูลตอบ “ทูลฝ่าบาท หากนับวัน

นี้ กระหม่อมก็ดำรงตำแหน่งเสนาบดีคลังมาได้สี่ปีหกเดือนกับ

อีกสิบแปดวันพะเจ้าค่ะ” “หึ เจ้าก็จำวันและเวลาได้ชัดเจนเชียวนะ” เย่เทียนกล่าวด้วย

เสียงเย็นต่อว่า “ในสี่ปีมานี้ เจ้าแอบยักยอกเงินไปเท่าไหร่กันล่ะ”

เพื่อบีบให้หลี่จิ้น ยอมรับผิด เขายังกล่าวอีกว่า “หาก สารภาพมาตอนนี้ยังอภัยโทษได้ หากปฏิเสธก็คงต้องลงโทษ สถานหนัก เจ้าไม่อยากถูกฆ่าทั้งตระกูล ประหารเจ็ดชั่วโคตร ก็สารภาพตามจริงมาซะดีๆ ข้าจะเห็นแก่ที่เจ้าทำงานมานานจะ ลงโทษสถานเบาเท่านั้น

ในใจของเขาพอใจกับสภาพการณ์ที่ออกมา หากหลี่จิ้น ยักยอกเงินท้องพระคลังของประเทศจริง ยอมรับสารภาพผิดแต่ โดยดี ก็จะลงโทษสถานเบา ยกเว้นโทษตายให้ แต่เงินที่ยักยอก ไปจะต้องเรียกคืนสถานหนัก หากเป็นแบบนี้ เขาก็จะมีเงินก้อน หนึ่งไว้ใช้แล้ว

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง หลี่จิ้นลอบถอนหายใจ พลันยันกายลุกขึ้น ยืน ร้องห่มร้องไห้เสียงดังขึ้นมา “ฝ่าบาท กระหม่อมถูกใส่ร้าย กระหม่อมรับตำแหน่งเสนาบดีคลังมาก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ สุจริต ซื่อสัตย์ ตั้งอยู่ในศีลธรรม ไม่เคยกล้ายักยอกเงินจากท้อง พระคลังแม้แต่น้อย ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ร้ายพะยะค่ะ ขอให้ ฝ่าบาททำการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

ถูกใส่ร้าย เย่เทียนเชื่อแค่เพียงครึ่งเดียว ไขมันเต็มตัว ไม่หนัก ถึงร้อย โลกแปลกแล้ว ขุนนางยากจนรูปร่างแบบนี้ กินเข้าไปจน พุงกางแล้ว

เขาเริ่มเปิดก่อน มั่นใจว่า หลี่จิ้น จะต้องเป็นขุนนางที่ละโมบ โลภมากคนหนึ่ง ยักยอกเงินของเขา ทำให้เขาในฐานะฮ่องเต้จน กรอบยิ่งกว่าขอทาน

เขากัดฟันกรอดๆ กล่าวว่า “เจ้ากินจนเต็มท้องไปหมดยังกล้า พูดว่าอยู่ในศีลธรรม

หลี่จิ้น ตกใจอ้าปากค้าง ข้าแค่กินเยอะไปหน่อย อ้วนไปนิดเดียว แต่จะมาใส่ความว่ายักยอก นี่มันไร้สาระ นี่มันไร้สาระสิ้นดี

“ฝ่าบาท กระหม่อม ถูกใส่ร้าย กระหม่อมขอเอาหัวเป็นประกัน กระหม่อมไม่เคยยักยอก เงินท้องพระคลังไปแม้แต่น้อย ” หลัง จากเขามาดำรงตำแหน่งเสนาบดีคลังแล้ว ก็ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา ไม่มีการยักยอกหรือลักทรัพย์ใน คลังเลยแม้แต่น้อย ประพฤติตัวอยู่ในกรอบศีลธรรมมาตลอด เมื่อพูดออกมาจึงได้ดูมั่นใจ

เย่เทียนจับจ้องตาของเขาไม่วาง เห็นว่าจ้องตอบตัวเอง ไม่มี หลบตาแม้แต่พริบตาเดียว ในใจก็เกิดลังเลขึ้นมา หรือว่าพี่มอง ผิดไปจริงๆ

เขาถามกลับออกมา “ที่บ้านเจ้ามีทรัพย์สินเท่าไหร่กัน

แนวคิดนี้กระโดดไปมารวดเร็วเหลือเกิน หลี่จิ้นตามไม่ค่อยทัน กล่าวตอบอย่างระวังและอ่อนน้อมว่า “ตอบฝ่าบาท กระหม่อม นอกจากมีเงินบำเหน็จ ก็มีเพียงที่ดินหกหมื่นหกพันตาราง เมตรที่ฝ่าบาทพระราชทานให้…..

มีแค่นี้เหรอ เย่เทียนถูจมูกอย่างแรง “เจ้านี่กินจน่าดูนะ…”

หลี่จิ้น ตอบกลับ “ตอบฝ่าบาท น้องสาวของกระหม่อมเพิ่งเป็น ม่ายกลับมาอยู่ที่บ้าน นางทำอาหารได้อร่อย กระหม่อม………

พระเจ้าช่วย ทำไมข้าไพล่ไปเรื่องน้องสาวกันได้ หน้าผากของ หลี่จิ้น ก็มีเม็ดเหงื่อผุดพรายไม่หยุด เขาอยากจะตบตัวเองเรียก สติซักฉาดใหญ่ ขุนนางลุ่มหลงมัวเมาในสุรานารีเห็นสาวสวย ไม่ได้ หากว่าฮ่องเต้ต้องใจน้องสาวของเขาขึ้นมานั่นก็ลำบากแน่แล้ว….

ในสมองของเย่เทียนเต็มไปด้วยเงิน ไม่ได้สนใจคำพูดของเขา เท่าไหร่ เขารู้สึกว่า สมัยก่อนไม่มีผงปรุงรส ไม่มีเครื่องปรุงและ ซอสปรุงอื่น ๆ จะทำอาหารออกมาอร่อย สมัยปัจจุบันได้อย่างไร

“ลุกขึ้นเถอะ” เขาเห็นสีหน้าของหลี่จิ้นเปิดเผยจริงใจ เหมือนกับว่าไม่ได้ยักยอกจริง ๆ ก็โบกมือให้เขาลุกขึ้นยืน ภายในใจก็รู้สึกผิดหวังไปพร้อมกัน เขาหวังให้หลี่จิ้นยักยอก ละโมบแทน

แม่เอ้ย พี่เป็นถึงโอรสสวรรค์ ฮ่องเต้ เป็นเจ้าของทั้งประเทศ ทรัพย์สินเงินทอง สาวงามล้วนเป็นของพี่ ก็พูดแบบนี้แหละ แต่พี่ กลับจนยิ่งกว่าคนยากจนอีก

เย่เทียน หัวเราะอย่างเยาะเย้ยกล่าวว่า “แม่เอ้ย พี่มันฮ่องเต้

ยากจก!”

หลี่จิ้นอ้าปากค้างอย่าห้ามไม่ได้ ฮ่องเต้ทำไม……..ทำไมถึงพูด คําสบถ

“ขอบพระทัยฝ่าบาท” เขาลุกขึ้นยืนจากพื้น เอามือลูบเหงื่อที่ ไหล่ออกมาจากหน้าผากไม่หยุด ในใจกลับคิดว่า โชคยังดีที่ หลายปีมานี้ เขาประพฤติตัวอยู่ในศีลธรรม ไม่ยักยอกเงินคงคลัง เข้ากระเป๋าตัวเอง มิเช่นนั้นอนาถแน่นอน

ฮ่องเต้ที่ลุ่มหลงไม่รู้ว่าคิดวางแผนอะไรอยู่ ที่จะให้ตัวเขาเอง ได้รับโทษยักยอกทรัพย์ให้ได้ ประหารทั้งตระกูล ดูท่าแล้วอยู่ใกล้ฮ่องเต้ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือถอยก่อนดีกว่า มีเช่นนั้นไม่รู้ว่า วันไหนจะถูกปรักปรำให้โทษอะไรให้หัวต้องขาดอีก

เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ เขาก็ย่อกายค่านับกล่าวว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมช่วงนี้โรคประจำตัวกำเริบ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เกรงว่าจะไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระฝ่าบาทได้ ขอให้ฝ่าบาท พระราชทานคำสั่งให้กระหม่อมได้ไปรักษาตัวที่บ้านเกิดพะยะ ค่ะ”

เย่เทียนตะลึง เจ้าคนนี้อายุเพิ่งเท่าไหร่ อายุสี่สิบกว่า เป็นช่วง ที่รุ่งโรจน์ที่สุดของผู้ชาย ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ก็หน้ามีเลือด ฝาด นอกจากจะอ้วนไปหน่อย มีโรคอะไรกัน พอคิดได้ถึงสาเหตุ ที่มา เขาก็สบถออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แม้เมิงเอ้ย จะมาไม้นี้เห รอ

เขาหัวเราะ หีพลางกล่าว “ใต้เท้าหลีที่เคารพรักจะลากลับ บ้านเกิด ได้สิ เจ้าจ่ายเงินมาเงินล้านหนึ่งตำลึง ข้าจะออกคำสั่ง ให้เจ้ากลับบ้านเกิด”

“…” เม็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผากของหลี่จิ้นไหลราวก๊อก ประปา สวรรค์ ข้าจะลาออกไม่ทำแล้ว ยังต้องจ่ายค่าลาออกอีก เงินล้านหนึ่งตำลึง นี่มันหลักการอะไรกันเนี่ย ฮือฮือ………


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ