ชีวิตจักรพรรดิของข้า

บทที่ 11 เพิ่มทรัพย์สินเงินทองอย่างไร้คุณธรรม



บทที่ 11 เพิ่มทรัพย์สินเงินทองอย่างไร้คุณธรรม

“ข้ารับใช้รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาแก่ๆที่พร่ามัวของซูจื่อ หลุนเปล่งประกายขึ้นมา ฮ่องเต้เปลี่ยนนิสัยแล้วจริงหรือ? หวังว่า ฮ่องเต้จะไม่ก่อกวนวุ่นวาย ถ้าหากว่าเปลี่ยนนิสัยจริง ๆ แล้ว ลุก ขึ้นต่อสู้ใหม่อีกครั้ง แผ่นดินของประเทศโจวนี้ยังพอมีความหวัง

เดิมทีเขาที่หมดอาลัยตายอยากยืดอกขึ้นมาทันที เดินไป ข้างๆขุนนางทั้งบุ๋นและกลุ่มหนึ่งอย่างกระปรี้กระเปร่า กวาด แววตาน่าขนลุกจ้องมองพวกเขาทีละคน

บนใบหน้าของพวกขุนนางใหญ่ปุ่นและเหล่านั้นมีสีหน้าแตก ต่างกัน คนที่ในใจไม่มีความผิด โฉมหน้าเยือกเย็นไม่สะทก สะท้าน คนที่ในใจมีความผิดแววตาซ่อนเร้น ไม่กล้าสบตา แวว ตาน่าขนลุกของซูจื่อหลุน พวกเขาแต่ละคนในใจงุนงงอย่างมาก ในน้ำเต้าของฮ่องเต้ที่แท้ขายยาอะไรกันแน่?

ซูจื่อหลุนเดินไปหนึ่งรอบก็กลับมาอย่างรวดเร็ว กราบทูลเบาๆ ว่า “ฝ่าบาท ทุกคนล้วนเรียบร้อยมากพะย่ะค่ะ

“ไอ้ห่า….” เยเทียนทนไม่ไหวเผลอพูดคำหยาบออกไป สีหน้า ที่ผิดหวังเต็มใบหน้า อยากหาข้ออ้างหาเงินสักหน่อย ใครจะคิด ได้ว่าขุนนางใหญ่กลุ่มนี้แม้โอกาสที่จะทำให้เขาหาข้ออ้าง คลุ้มคลั่งก็ไม่มี ในใจไม่พอใจอย่างมาก

เขาไม่รู้เลยว่า ขุนนางใหญ่เข้าเฝ้าฮ่องเต้ทุกวัน ใครกล้ามา สายละ? โทษเบาตีสิบกว่าไม้ โทษหนักอาจจะถูกปลดจากตำแหน่งประหารชีวิต ใครจะกล้าล้อเล่นกับสิ่งที่อาศัยอยู่บนบ่า หรือ?

สำหรับการสวมใส่ให้เรียบร้อย นั่นไม่เพียงแค่สง่าน่าเกรง ขามของขุนนาง นอกจากนี้ยังเป็นชื่อเสียงส่วนตน แต่ละคนต้อง มีรูปร่างลักษณะเรียบร้อย โดยธรรมชาติ แสดงท่าทางลักษณะ ขุนนางออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เย่เทียนอยากหาข้อบกพร่องจาก จุดนี้สักหน่อย เหมือนดั่งหากระดูกในไข่จริง ๆ เลย

มีเรื่องก็รายงานมา ถ้าไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมได้” ซูจื่อหลุนร้ องออกเสียงยาวสำเนียงอย่างมืออาชีพ เขานับได้ว่าเป็นรัฐบุรุษ อาวุโสสามสมัย รับใช้ฮ่องเต้มาแล้วสามรุ่น คำนี้ไม่รู้ว่าต้องออก มากี่รอบนับไม่ถ้วนแล้ว

เสมียนผู้ช่วยแห่งกระทรวงโยธาฉันเช้าเทียน ออกมาทูลว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพะย่ะค่ะ

ไอ้ห่า วันแรกกูเข้าประชุมก็ไม่ไว้หน้าเช่นนี้หรือ? เย่เทียน จ้อง มองฉันเท้าเทียนอย่างไม่พอใจ กระเสาะกระแสะกล่าวว่า “ขุนนางที่รักมีเรื่องอะไรหรือ?”

ฉันเช้าเทียนโน้มตัวลงกราบทูลว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า มหาบัณฑิตหอเกียรติยศใต้เท้าถังเจียงหมิง ต้องถูกใส่ร้ายจน ติดคุกแน่ กระหม่อมยินยอมรับประกัน ขอความเมตตาฝ่าบาท ตรวจสอบให้ชัดเจนพะยะค่ะ

ยังพูดไม่ทันจบคำ ก็มีขุนนางใหญ่สิบกว่าคนออกมากราบทูล เสนอพร้อมเพรียงกัน ล้วนยินยอมใช้ศีรษะมารับประกันมหาบัณฑิตหอเกียรติยศใต้เท้าถังเจียงหนึ่งต้องถูกใส่ร้ายจนติดคุก แน่

ตามหลัง ยังมีขุนนางใหญ่กลุ่มหนึ่งออกมาตำหนิข้อไม่ดีต่างๆ ของถังเจียงหมิงข้อกล่าวหาเรียงรายมากมาย มากจนสามารถ ประหารทั้งตระกูลก็ยังลบความแค้นไม่ได้

ตาก็พูดมีเหตุผลของตา ยายก็พูดมีเหตุผลของยาย ทั้งสอง ฝ่ายสู้รบด้วยน้ำลายกัน น้ำลายพ่นไปทั่ว ดั่งฝนตกหนักในฤดู ร้อน ซ่า! ซาเพนไม่จบไม่สิ้น ขาดแค่ไม่ได้ลงไม้ลงมือ

ทั้งพระตำหนักในหลวนอึกทึกครึกโครมวุ่นวายไปหมด

ไอ้ห่า ขุนนางอุ่นอวดรู้ที่ความรู้ท่วมหัวกลุ่มนี้สู้รบด้วยน้ำลาย ขึ้นมาไม่อ่อนกว่าผู้หญิงปากจัดด่าตามถนนไปทั่วสักนิดเยเทียน ฟังจนหัวโตดั่งกระบุง ดาวเต็มหัว

ในความทรงจํา รางเลื่อนของฮ่องเต้ผีตายโหง จะไม่มีความ ทรงจำของถังเจียงหญิงสักนิดยิ่งไม่รู้ว่าเขาทำผิดบาปอะไรถึงถูก ขังในคุกใหญ่ อีกทั้งชื่อของขุนนางใหญ่ฝ่ายบันและบู๊กลุ่มนั้นก็ ยังไม่ค่อยคุ้นเคย จะให้เขาจัดการคดีเรื่องนี้อย่างไรหรือ?

แต่ว่า ดูพวกขุนนางใหญ่ใส่สะอาดกลุ่มนี้สู้กันอย่างเอาจริง เอาจัง รู้สึกสนุกดีนะ สิบกว่าคนพ่นน้ำลายใส่กันใหญ่ ฉากนี้ค่อน ข้างงดงามมากทีเดียว

เย่เทียนไม่เอ่ยแม้คำพูดเดียวนั่งอยู่บนบัลลังก์ดูความครึก คลัก ครู่เดียวเขาก็มองออกบ้างว่า ขุนนางใหญ่ฝ่ายมั่นและ เหล่านี้ได้แบ่งเป็นหลายฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอาศัยหัวหน้าเหล่าขุนนางจางถึงเดิน สภาอาวุโสจางเป็นหลัก เห็นว่าถึงเจียงหนึ่งมีความ ผิด ควรต้องประหารชีวิต

หัวหน้าเหล่าขุนนาง ขุนนางระดับสูงขั้นหนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่อัคร เสนาบดี สภาอาวุโสจาง เป็นขุนนางอาวุโสสามสมัยที่มีบารมี สูงส่ง ขุนนางทั้งหลายฝ่ายบันและในวัง เห็นได้ชัดว่าส่วนใหญ่ ยืนอยู่ฝ่ายข้างเขา แผ่นดินจีนเป็นเรื่องสมมุติ ระดับชั้นตำแหน่ง ก็สมมุติ ทุกคนไม่ต้องถือว่าเป็นจริง)

อีกฝ่ายหนึ่งฉางชิงซาน ผู้ตำแหน่งเจ้าพระยากงเป็นหลัก เห็นว่าถังเจียงหมิงต้องถูกใส่ร้ายจนติดคุกแน่ขอความเมตตาฝ่า บาทตรวจสอบชัดเจน ทั้งสองฝ่ายนี้สู้กันอย่างรุนแรง

ฝ่ายเจ้าพระยากงนี้คนน้อยกว่า มีเพียงขุนนางปุ่นยี่สิบกว่า คน ที่เหลือล้วนเป็นแม่ทัพ ยังมีแม่ทัพไม่น้อยไม่ได้ร่วมด้วย เพียง แค่ยืนดูความคึกคักอยู่ข้างๆ

ขุนนางใหญ่ที่เหลือบางส่วนน่าจะถือเอาท่าทีที่ปกป้องตนเอง เฝ้าดู ทั้งยังมีคนบางส่วนคาดว่าเป็นหญ้าข้างกำแพง ก็อาจจะ ซื่อสัตย์กับฮ่องเต้ สำหรับจิตใจจงรักภักดีมีเท่าไรก็เพียงแค่ พระเจ้าที่รู้เท่านั้น

เริ่มแรก เย่เทียนเห็นพวกขุนนางใหญ่สู้รบด้วยปาก รู้สึกยังมี ความสนุก ถือเอาจิตใจที่ดูความคึกคัก จนถึงทั้งพระตำหนักจิน หลวนทะเลาะกันหมด วุ่นวายยุ่งเหยิง ทำให้เขารู้สึกน่าเบื่อ

“หุบปาก!” หัวหน้าผู้ดูแลรับใช้ภายในซูจื่อหลุน จู่ๆก็ร้องเสียง ดังออกมา พระตำหนักจินหลวนที่อึกทึกครึกโครมนั้นเงียบสนิททันที เงียบจนเข็มร้อยดอกไม้ตกลงพื้นยังได้ยิน

ซูจื่อหลุนสามารถรับใช้ฮ่องเต้สามรุ่นได้ยั่งยืน พูดได้ว่า เป็นต้นไม้เก่าแก่ นี่คือความสามารถพิเศษของเขาที่เหนือกว่าคน อื่นแน่นอน สังเกตสีหน้า คาดเดาใจฮ่องเต้ ตีสนิทได้ทุกฝ่าย ถือว่าเป็นความถนัดของเขา บนใบหน้าเย่เทียนแสดงออกสีหน้า ที่ไม่พอใจอย่างชัดเจน เขาเห็นนัยน์ตา ออกเสียงทันทีหยุดพวก ขุนนางใหญ่ที่ทะเลาะกันไม่จบ

“เรื่องนี้ ค่อยประชุมวันหลัง เลิกประชุมเช้า!” เย่เทียนลุกขึ้น จากบัลลังก์ สะบัดแขนเสื้อ จากไปอย่างโมโหมาก เหลือเพียง ขุนนางฝ่ายบันและทั้งหลายที่จ้องหน้ากัน

เย่เทียนเดินตรงไปยังวังเฉียนชิงโดยอยู่ภายใต้การคุ้มครอง ของนางข้าหลวงและวันที่กลุ่มหนึ่ง นึกถึงผิวกายขาวที่อ่อนโยน ของพระสนมจีน และสี่เอ๋อ เลือดเดรัจฉานทั้งตัวของเขาก็เดือด พล่าน แทบจะพ่นออกจากจมูก

“หม่อมฉันถวายบังคังคมฝ่าบาท” ส่งสำเนียงอ่อนหวานที่ หยาดเยิ้ม สะเทือนใจ กระชากวิญญาณ กลับเป็นพระสนมเป็น พรสวรรค์ที่ท่าทางประจบสอพลอเดินมาโน้มตัวกล่าว สวัสดี โดยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของนางข้าหลวงและขันที่กลุ่มหนึ่ง

เย่เทียนรู้สึกขนลุก ขาอ่อนทั้งสองข้าง แค่ฟังเสียงที่อ่อนหวาน เข้ากระดูกก็ทำให้คนคิดฟุ้งซ่าน ไฟราคะลุกโชน ถ้าถึงเวลาที่ ต้องทำอย่างนั้นจริงๆ จะไม่ร้องจนยิ่งสยิวกัดกระดูกเลยหรือ?

“ที่รัก”เขาเดินไปข้างหน้าสองก้าว พยุงพระสนมที่โค้งคารวะอยู่ เท้าหมาป่าหนึ่งข้างฉวยโอกาสเกาะเอวเล็กอ่อนนิ่ม ของเขา ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลงไปข้างล่าง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันถือว่าทนรออย่างทรมานแล้วหนึ่งคืน……. พระสนมลสะบัดเอวเล็ก มือเล็กสองข้างจับมือของเยเทียนสะบัด ไปสะบัดมาออดอ้อนอยู่ นัยน์ตาประจบที่กระชากวิญญาณ เต็ม เปี่ยมด้วยความคับแค้นใจ ยิ่งเพิ่มพลังมารส่วนหนึ่งที่สะเทือนใจ

แฮ่ แฮ่ ตอนนี้รู้จักตัดพ้อแล้วหรือ? ใครให้เธอยั่วน้ำลายพี่นะ? เย่เทียนแอบกระหยิ่มในใจปากกลับพูดว่า “เมื่อคืนข้าดื่มเยอะ ไปหน่อย ก็เลยถือโอกาสพักผ่อนในวังเฉียนชิง….”

“ฝ่าบาททำให้หม่อมฉันรออย่างทรมานแล้วหนึ่งคืน หม่อมฉัน จะลงโทษฝ่าบาท…”พระสนมลี่จู่ปากน้อยสีแดงเย้ายวนใจ กระ ซิบเบาๆข้างหูเย่เทียนทูลว่า “หม่อมฉันจะลงโทษฝ่าบาทไม่ อนุญาตให้ลงจากเตียงสามวันเพคะ”

“ข้ายินยอม ขายินยอม เฮอ เฮอ” เย่เทียนฟังจนวิญญาณล่อง ลอยไปแล้ว กระดูกอ่อนไปหมดทั้งตัว ฉีกปากข์อย่างเดียว เฮอ เฮอ แทบอยากจะผลักคนล้มลงในตอนนี้ จัดการในทันที

“ฝ่าบาทคืนนี้อย่าให้หม่อมฉันเฝ้าห้องอย่างโดดเดี่ยวอีกนะเพ ค่ะ มิฉะนั้น หม่อมฉันจะไม่สนใจฝ่าบาทอีกต่อไป” พระสนม ออดอ้อน กระซิบเบาๆข้างหูเขาหลายคำ จากนั้น เป่าลมร้อนเข้า ในหูของเขาอ่อนๆ ออกจากอ้อมอกของเขาก่อนที่เป้าหมาป่า สองข้างของเยเทียนจะลวนลาม

“ฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลลา” พูดจบ เขาย่อตัวลงอย่างงดงามจากไปโดยอยู่ภายใต้การคุ้มครองของนางข้าหลวงจำนวนหนึ่ง ตั้งต้นหลิวไปตามลม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ