ชีวิตจักรพรรดิของข้า

บทที่ 1 โอรสมังกรสวรรค์



บทที่ 1 โอรสมังกรสวรรค์

“เพื่อนเอย นายไปอย่างไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว บ้านเมืองของนาย ฉันคนนี้จะดูแลแทนเอง สนมวังหวังสามพันกว่าคน ฉันจะเลี้ยงดู แทนให้อย่างดี รับประกันได้เลยว่าจะดูแลให้ทั่วถึง ไม่ให้ขาดตก บกพร่องเลยทีเดียว วะฮ่าๆ!” เปเทียนหัวเราะอย่างสบอารณ์ พลางตบไหล่ของชายหนุ่มคนหนึ่ง

เจ้าคนนี้สีหน้าขาวซีดไร้สีเลือด หมองคล้ำ แม้แต่ริมฝีปาก ก็เป็นสีคล้ำ ทั้งหมดรวมกันก็เรียกได้ว่าตัวซวยทีเดียว

“ไม่ เจิ้ง (หมายความว่า ข้าคือโอรสมังกรสวรรค์ ศักดิ์เป็น ฮ่องเต้ เจิ้งเป็นไม่แก่ชรา เป็นอมตะ…” เจ้าตัวซวยพลันร้อง โวยวายดิ้นขัดขืนสุดชีวิต พี่หน้าวัว ประเคนหมัดเข้าไปที่ปากที่ กำลังอ้าอยู่นั้นอย่างไม่ใส่ใจจนสลบไป จากนั้นก็ลากออกไป

“เย่เทียน ถ้าเจ้ายังไม่รีบอีก ก็จะเลยฤกษ์แล้วนะ” พี่หน้าม้า ร้องเตือน เตะเท้ามาที่ก้นของเยเทียน

“อ้า…” เย่เทียน ร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ตกลงไปบน สะพานยมโลกที่ไร้จุดสิ้นสุด

“ฝ่าบาท…ฝ่าบาท…

เสียงร้องอย่างหวาดกลัวและรีบร้อนนั้นทำให้เยเทียนที่กำลัง นอนฝันหวานอยู่นั้นตื่นขึ้นมา เขารีบลุกขึ้นนั่ง มองไปรอบทิศทาง แล้วก็มองไปด้านหน้าบริเวณที่นั่ง สาวสวยชาววังที่ตกอกตกใจใบหน้าหวาดกลัวไร้สีเลือด อ้าปากกว้าง “นี่…นี่…คือ…คือ

“ฝ่าบาท ในที่สุดพระองค์ก็ฟันแล้ว กระหม่อม…กระหม่อม…เป็นห่วงแทบตายเพคะ..” สตรีสวย ดวงตามีหยาดน้ำตาคลอ “สีหน้า” หลากหลาย มีทั้งดีใจ เป็น ห่วง กังวล หวาดกลัว แล้วก็มีความโกรธเคืองแฝงอยู่หลายส่วน ในท่าทางที่อ่อนหวานสง่างามนั้นมีท่าทางอ่อนช้อยยิ่งทำให้เกิด ความรู้สึกที่ยากจะบรรยายขึ้นมา

อ้วว สวยมาก “น่าหลงใหลมาก สะกดวิญญาณ ล่มเมือง ทำให้เดือดร้อน ทำให้ผู้ชายปกติอดไม่ไหวที่จะเกิดอารมณ์แบบ นั้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

เดี๋ยวก่อน เย่เทียนนั่งเหม่ออยู่บนเตียง ใบหน้าแสดงออกว่า มึนงง เขาพยายามคิดทบทวนอารมณ์ที่ “วุ่นวาย” อยู่ในตอนนี้ อย่างสุดชีวิต

ภายในห้องกว้างนี้ เครื่องเรือนทั้งหมดล้วนดูโบราณเลอค่า แม้แต่อาคารก็เป็นแบบโบราณ ไม่มีสิ่งของที่เป็นยุคปัจจุบันเลย

สาวชาววังคนสวยที่อยู่ด้านหน้า สวยจนไม่รู้จะสวยอย่างไร อากัปกิริยา ชดช้อยจนอย่างจะร้องออกมา ตามเกณฑ์มาตรฐาน จัดลำดับสาวสวยของ เย่เทียน นี่คือสาวงามล่มเมืองก่อให้เกิด ความเดือดร้อนกับราษฎรอยู่ในระดับนั้นไปเลย

เอาเถอะ ก็ถือซะว่ากำลังแสดงหนังโบราณอยู่ แต่ยังไงก็ต้อง บอกพี่ให้ชัดเจนสิ พี่เล่นเป็นฮ่องเต้เหรอ อ้วว แต่ไม่รู้ว่าเป็นตัว แสดงนําหรือว่าตัวประกอบกันล่ะ
เห้อ แต่ว่า ถ้าดูจากหน้าตาของพี่แล้ว รูปร่างอัปลักษณ์ระดับ สาม เดาว่าน่าจะเป็นได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น…..

เฮ้ออ ต่อให้เป็นตัวประกอบ ที่ร้ายยังไงก็ต้องมีบทพูดบ้างน่า

“ผู้กำกับ ผู้กํากับ เย่เทียน พลันร้องเรียกเสียงดังออกมา “ผู้ กํากับ ผมมีบทพูดกับเขาหรือเปล่า ค่าแรงคิดยังไงล่ะ”

เป็นตัวประกอบ ไม่มีบทพูดก็แล้วไป แต่ต้องบอกว่าค่าแรง คิดยังไง พี่จนกรอบจะตายอยู่แล้ว ไม่ยอมมาทำงานการกุศล หรอกนะ”

เขากันศีรษะไปรอบทิศ แต่กลับไม่เห็นมีทีมงานถ่ายทำ และก็ ไม่เห็นมีกล้องถ่ายทำ ไฟเอยอะไรเอยก็ไม่มี มีแต่สตรีงามที่สวม ชุดโบราณอยู่ตรงหน้าที่มีสีหน้าดีใจระคนหวาดกลัว

โธ่เอ้ย ไม่ใช้สิ พี่จำได้ว่า…จำได้ว่า ในตอนที่กำลังกระโดด ระเบียงตึกนั้น ระเบียงนั้นเหมือนจะเป็นดินปั้นทำขึ้นมา เสียง แตกละเอียดดังโครม เขาก็ได้แต่แหกปากร้องออกมาแล้วก็ ตกลงไป

ใช่ เขานึกขึ้นมาได้แล้ว เพราะปัญหาหน้าตารูปร่างและ สถานะทางบ้านและอื่น ๆ เขาที่ละอายแก่ใจไม่เคยกล้าที่จะ สารภาพรักกับผู้หญิง ทำได้แต่แอบชอบในใจ

นี่ก็ไม่ใช่ความผิดของเขานี่น่า เกิดมาก็หน้าตาแบบนี้ โดย เฉพาะเครื่องหน้าของเขาก็ถือว่าพอดูได้ ก็แค่ตัวเตี้ยหน่อย เท่านั้น สูงหนึ่งเมตรหกสิบห้า รูปร่างหาก ในสายตาของผู้หญิง ก็คือว่าอัปลักษณ์ระดับสาม ยิ่งไปกว่านั้นน้ำหนักทะลุแปดสิบไปแล้ว แล้วยังมีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นไม่หยุด

ก็เพราะรูปร่าง ความสูงและน้ำหนัก เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ หญิงที่พอดูได้คนใดก็ตามตกใจจนวิ่งหนี แน่นอนว่าก็มีผู้หญิง บางคนที่ไม่เหมือนใครแอบส่งสัญญาณให้เขาอยู่ แต่ว่า….แต่ว่า รูปร่างหน้าตายิ่งกว่าเขาอีก ดังนั้น จนตอนนี้เขาก็ยังเป็นไอ้ไก่ อ่อนอยู่

เพื่อจะแก้คำครหาว่าเป็นไก่อ่อน ไม่ให้พวกนั้นหัวเราะเยาะ เขาที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นสาม เป็นขี้ข้าเจ้าของทำงาน แทนได้แต่กัดฟันทน เก็บหอมรอมริบอยู่สามเดือน เก็บเงินมาได้ หลายร้อยด้วยความลำบาก จากนั้นก็ไม่ยังสถานที่บริการความ งามทําไอ้นั่น

ก็สมน้ำหน้าแล้วที่เขาโชคร้าย โชคไม่ดีไปเจอตำรวจตรวจจับ ลามกอนาถาร ในตอนที่กำลังเข้าได้เข้าเข็มพอดิบพอดี เขาต้อง รีบใส่เสื้อมุดหน้าต่างหนี หนีไปถึงดาดฟ้า กระโดดไปยังระเบียง ของตึกข้างเคียง

ใครจะไปคิดกันหล่ะว่า ตึกมโหฬารหลังนั้นการก่อสร้างจะ กระจอก ระเบียงที่มองดูเหมือนแข็งแรงกลับรองรับน้ำหนักเขา ไม่ไหว หักครื้นแยกลงมา เขาได้แต่ร้องพร้อมร่างที่ตกลงมา อย่างน่าเวทนา

ตึกนั้นตั้งหลายสิบชั้น ผลของการตกลงไปอ่ะเหรอ ใช้หัวแม่ เท้าคิดยังรู้เลยว่าจุดจบจะเป็นยังไง

งั้น………..ว่าพี่ตายเสียแล้ว
“เฮ้อ….เจ็บจัง…” เหม่อลอยอยู่ชั่วครู่ ปฏิกิริยาแรกหลังจาก ดึงสติกลับมาได้เขาก็หยิกเนื้อต้นขาตัวอย่างอย่างแรง

เอ่ นี่ดูเหมือนจะไม่ใช่กำลังแสดงละครย้อนยุค พี่ว่าพี่ข้าม เวลามาแล้ว ความฝันนั้นเป็นความจริง สาวสวยเรียกว่า ฮ่องเต้

พี่เป็นฮ่องเต้จริงๆ

สมองของเขาตอนนี้มึนงงสับสน สาวสวยบันลือโลกตรงหน้า เป็นสาวงามในปฐพีแน่นอน ทำให้ไก่อ่อนที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ สัมผัสมือของผู้หญิงในชาติที่แล้วเกิดความรู้สึกชั่วร้าย แทบจะ อดใจไม่ไหวกดเธอลงกับพื้นแล้วล่วงเกิน

แต่ทว่า ที่นี่กว้างขวาง แต่ที่นี่ตกแต่งหรูหราเป็นวังที่นี่ยังมีคน ยืนอยู่ไม่น้อย สีหน้าของเขาหลากหลาย แต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือ ความหวาดกลัวและหวาดระแวง

“ฮ่องเต้…” สาวงามถูกเสียงหัวเราะและเสียงร้องของเขา ทำให้ตกใจ ร้องอย่างหวาดกลัวขึ้นมา “หมอหลวงจ้าว หมอ หลวงจ้าว…”

ชายสูงวัยที่ยืนหลบอยู่มุมหนึ่งลนลานวิ่งเข้ามา โค้งคำนับ อย่างลนลาน “ฮ่องเต้ พระสนมจีน ข้าน้อยรอรับบัญชา

เย่เทียนออกแรงสะบัดศีรษะที่ค่อนข้างบวมอยู่บ้าง พยายาม อย่างสุดชีวิตที่จะทำความเข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้า พระอาทิตย์ อา หรือว่าความฝันที่จะเป็นความจริงเสียแล้วกัน
เพื่อยืนยันว่าเหตุการณ์ความฝันที่เป็นจริง เขาก็หยกต้นขา ของตัวเองอย่างแรงอีกครั้ง เจ็บจนน้ำหูน้ำตาไหลออกมาอีกรอบ

แม่เอ้ย ไม่ใช่ฝัน เป็นความจริงนี่นา พระเจ้าแม่เอ้ย ฉันข้าม เวลาจริง ๆ ด้วย แล้วยังมาเป็นฮ่องเต้อีก มิน่าล่ะสมองถึงได้รู้สึก แปลกๆ เห็นภาพรางๆ ลอยในหัว….

หมอหลวงจ้าวที่ตกใจจนหน้าซีดก็ตรวจชีพจรให้ฝ่าบาท สีหน้าแปลกยิ่งนัก หน้าผากปรากฏเม็ดเหงื่อผุดพลาย

เมื่อครึ่งชั่วยามก่อน เขาเพิ่งตรวจชีพจรให้ฝ่าบาท ชีพจรของ ฝ่าบาทอ่อนแรงสะจนยาทิพย์ก็ช่วยไม่ได้แล้ว เพียงแต่เขาไม่กล้า พูดความจริงออกมาเท่านั้น แต่ทว่าตอนนี้ ชีพจรของฝ่าบาท…

เย่เทียนออกแรงสะบัดศีรษะอีกครั้ง เอานิ้วสองนิ้วของหมอ หลวงจ้าวออกจากตัวเอง มือหนึ่งกุมมือขาวเนียนของพระสนมจีน มือหนึ่งชี้ไปทางหมอหลวงจ้าว กล่าวขึ้นมาว่า “นายอยู่ก่อน ส่วน คนอื่นออกไปให้หมด”

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นตัวเขาเองนั้น เหมือนเกิดใหม่ วิญญาณมาเข้าร่างนี้ แต่เพราะการต่อสู้กันของ วิญญาณสองดวงทำให้หัวของเขาบวมเจ็บ ในที่สุดวิญญาณของ เขาก็เอาชนะวิญญาณของฮ่องเต้ ได้ร่างนี้มาครอบครอง

พี่เป็นฮ่องเต้ของประเทศ เป็นโอรสสวรรค์ล่ะ

“วะฮ่าๆๆๆ….” เย่เทียนตื่นเต้นจนเปล่งเสียงหัวเราะอย่างบ้า คลั่ง กระโดดไปมาบนเตียงแกะสลัก มือไม้ร่ายรำเป็นพัลวัน เหมือนกับคนเสียสติ
“ฮ่องเต้…ฮ่องเต้…” พระสนมจีน หมอหลวงข้าว และคนอื่นๆ ตกใจจนแทบจะเป็นลม ฝ่าบาท กลายเป็นบ้าไปแล้วหรือไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ