ตอนที่ 6 จําคนผิด
เธอแสร้งทำเป็นเหมือนแม่ที่กำลังยุ่ง ทำราวกับไม่เห็น ปฏิกิริยาของหวีโย่วถิง ทันทีที่ลีฟท์จอด เขาไม่ดูด้วยซ้ำว่า ถึงชั้นไหนแล้ว พุ่งออกไปทันที
หวีโย่วถิงยื่นมือกลับ ทำไมเมื่อกี้เขาถึงได้มีความรู้สึกเช่น นั้น แต่เขารู้สึกได้ว่ามีอะไรประหลาดชอบกล ทว่ากลับจับ ต้นชนปลายไม่รู้
“เจ้านายครับ หวางสีอซานเห็นหวีโย่วถึงใจลอย ก็รู้สึก ประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร ไปเถอะ”
ฉินเหมียนรอลีฟท์อีกครั้งและขึ้นไป ในใจยังคง หวาดระแวงไม่หยุด
เธอก้าวออกจากลีฟท์ ตรงดิ่งไปยังห้องพักรักษาตัวของ ฉินซิ่วซิ่ว เมื่อมาถึงหน้าประตู จู่ๆเงาร่างชุดเหลืองหนึ่งก็พุ่ง ออกมา“surprise!
“เฮ้ย อานซีซี ทำไมถึงเป็นเธอ ตกใจหมดเลย เธอนึกว่า ตัวเองถูกจับได้สักแล้ว รีบมองดูรอบๆอย่างระมัดระวัง เห็น ว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย เธอจึงวางใจลง
อานซีซีเป็นเพื่อนสมัยมหาลัยของเธอ ที่บ้านเปิดร้าน ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กไว้ ในอำเภอถือว่าเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะเช่นกัน
“กลางวันแสกๆ ไม่ได้ทําอะไรผิดไม่กลัวผีมาเคาะประตูนะ เธอร้อนตัวอะไร ะอานซีซีพูดพลางเอามือกอดอกไว้
เธอไม่กลัวผีมาเคาะประตูหรอก เพราะคนบางคนมาเคาะ ประตูน่ากลัวกว่าผีมาเคาะประตูเสียอีก
ฉินเหมียนนึกถึงกลิ่นหอมที่หวีโย่วถึงพูดถึงในลีฟท์ เธอ รีบยื่นหน้าเข้าไปใกล้อานซีซี“เธอลองดมดูสิ บนตัวฉันมี กลิ่มหอมประหลาดอะไรหรือเปล่า”
อานซีซีลองดมอย่างละเอียด ลูกกะตาหมุนไปมาเล็กน้อย รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏขึ้นบนใบหน้า เอียงหน้าไปข้างหูฉินเห มียน
“อืม มีกลิ่นหอมจริงๆด้วย เป็นกลิ่นยั่วสวาทนะ ทำไมฉัน รู้สึกว่าเธอมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปนะ”
“อะไรเปลี่ยนไปกัน ตกลงมีหรือเปล่า”ฉินเหมียนมองบน ใส่อานซีซีทีหนึ่ง รู้สึกใจบางจะแย่แล้ว หรือว่าเรื่องนี้ยังจะ มองออกอีกหรือ
“ไม่มีๆ มีแค่กลิ่นสบู่ safeguard ในวัยเด็กเท่านั้น รีบไป เถอะ ฉันไม่ได้เจอคณน้าตั้งนานแล้ว”อานซีซีรับของบาง ส่วนมาจากฉินเหมียน ผลักประตูออกเบาๆก่อนจะเดินเข้าไป
บนเตียงผู้ป่วย ฉินซิ่วซิ่วหลับตาไว้ คาดว่าคงหลับอยู่ ทั้งคู่ทำตัวให้เงียบและเบายิ่งขึ้น
ฉินเหมียนนำของทุกอย่างวางลงบนโต๊ะด้านข้าง และเดิน ไปข้างเตียงห่มผ้าห่มให้ฉินซิ่วซิ่ว ทันทีที่เธอสัมผัสเข้ากับ ข้อมือของมารดา ความเย็นเยือกที่ผิดปกติแล่นเข้ามาบน ปลายนิ้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก ใน ขณะเดียวกันอานซีซีที่ยืนกุมมือแม่ฉินอยู่ก็ตกใจมากเช่นกัน เสียงพูดสั่นเครือ
“เสี่ยวเหมียนแม่ของเธอ เหมือน เหมือนจะมีอะไรผิดปกติ นะ”
ฉินเหมียนใบหน้าซีดเซียว ร้องเรียกฉินซิ่วซิ่วไม่หยุด ทว่า กลับไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ
“หมอ พยาบาล เร็ว ใครก็ได้เร็วเข้า”ฉินเหมียนตกใจจน พุ่งออกไปทั้งล้มลุกคลุกคลาน ด้วยความร้อนรนเธอชนเข้า ขอบประตูอย่างจังแต่กลับไม่ได้สนใจอะไร ยิ่งอย่าพูดถึง เรื่องใส่หน้ากากและหมวกเลย
อานซีซีรีบกดส่งสัญญาณฉุกเฉินในห้องทันที เธอยืนนิ่ง อยู่กับที่ทำอะไรไม่ถูกเลย
ยังดีที่หมอมาทันเวลา ไม่เกินหนึ่งนาที แม่ฉินก็ถูกนำตัว เข้าห้องฉุกเฉินทันที
เงาร่างที่กำลังยุ่งวุ่นวายเหล่านั้น ในสายตาของฉันเหมื ยนเป็นเหมือนกลุ่มควันวงแล้ววงเล่า ลอยไปลอยมาอย่าง รวดเร็วและวุ่นวาย ข้อควรระวังแผ่นแล้วแผ่นเล่า หนังสือ เห็นชอบถูกส่งเข้ามือเธอเรื่อยๆ
สมองของเธอเย็นจนชาไปหมดแล้ว ลำคอเหมือนถูกบีบ ไว้แน่น ใจเต้นแรงไม่หยุด ทำได้เพียงพิงผนังไว้ป้องกันไม่ ให้ลื่นล้มเพราะขาที่อ่อนแรงนั้นของตน
อานซีซีรีบพยุงแขนฉันเหมียนไว้ หากน่าเสียดาย ในเวลา นี้นอกจากคำปลอบโยนเพียงไม่กี่คำเธอทำอะไรไม่ได้เลย แต่ยังดีที่วันนี้เธอมา มิเช่นนั้นหากฉันเหมียนอยู่คนเดียวจะ ทําอย่างไร
พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา ในมือคือใบเสร็จค่ารักษา พยาบาลเป็นกอง
ฉินเหมียนรับมาอย่างด้านชาก่อนจะเดินไปยังแผนกชำระ เงินที่ชั้นหนึ่ง อานซีซีอยากจะไปช่วยเธอ แต่ก็กลัวว่าใน ห้องผ่าตัดอาจต้องมีญาติอยู่ด้วย เธอสะบัดเท้าเล็กน้อย ก่อนจะยืนนิ่งอยู่กับที่
ในห้องโถงชั้นล่าง
ฉินเหมียนรู้สึกเท้าเบาขึ้นเรื่อยๆ เดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็รู้สึก หัวหนักเท้าเบา ในกระเพาะมีคลื่นรสเปรี้ยวหนึ่งปั่นป่วนไม่ หยุด รู้สึกทรมานไปทั้งตัว
เธอฝืนทนจนชำระค่าใช้จ่ายเรียบร้อย ขณะที่เดินไปยัง ลีฟท์ ขาทั้งสองข้างเกิดอ่อนยวบ ลงไปนั่งกองกับพื้นทันที ลุกอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น
ฉินเหมียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังผู้คนรอบข้างยิ่งทำให้ ตาพร่ามัวไปหมด
เธอเป็นอะไรไป
ทันใดนั้น ในหมู่ผู้คนชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หนึ่งเบียดแทรก เข้ามา เหมือนว่าจะเป็นหวีโย่วถิง
ไม่ได้ เธอจะให้หวีโย่วถิงเห็นไม่ได้เด็ดขาด
ฉินเหมียนดิ้นรนอยากจะหนีไป ทว่าในท้องกลับเกิดความ เจ็บแปลบขึ้น หน้ามืดและเป็นลมหมดสติไปทันที
“เจ้านายครับ คุณหนูเมิ่งนิครับ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ