บทที่15 มีปัญหาใหญ่
คำพูดที่น่าเกลียดขนาดนี้ โดยเฉพาะกับผู้หญิง มันเกินไปจริงๆ แถมยังพูดต่อหน้าลูกของเธอด้วย
เฉินหว่านโกรธมากๆ เธอไม่ต้องไปดู แค่ได้ยินเสียง ก็รู้ว่าเป็น เฉินเสี่ยวเฟิงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอยืนขึ้นทันทีและ ตะโกนว่า
“เฉินเสี่ยวเฟิง คุณทำเกินไปแล้ว ฉันมาฉลองวันเกิดให้
ลูกชาย ฉลองเสร็จก็กลับ คุณ….….…..”
“ฉันจะทำไม? ”
ข้างโต๊ะมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย รอยยิ้มเยาะเย้ย มือขวาของเขายกขึ้นมาแล้วตบไปที่ใบหน้าของ เฉินหว่าน
“ฉันจะตบเธอไง!
เพียะ!
เสียงโดนตบดังชิ้น แต่เป็นเสียงจากใบหน้าของเฉินเสี่ยวเฟิง ใบหน้ามีรอยห้านิ้วอย่างชัดเจน เขาเดินเซถอยหลังไปสองสาม ก้าวจนมีเพื่อนสองคนช่วยพยุงจึงสามารถยืนนิ่งได้
“ลงไม้ลงมือกับผู้หญิง คุณเป็นผู้ชายหรือเปล่า? ”
เฉินหว่านตกตะลึง เธอไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเทียนเจียงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมาอยู่ข้างเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ฮัวจีนถึงไม่รู้จะทำยังไง สามีของเขาคนนี้ เริ่มอยากใช้กำลังและความรุนแรงแล้ว
“พี่หลินเฉิน คุณพ่อของฉันเก่งมากๆ ไม่ต้องกลัว
อีอีพูดกับหลินเฉินที่อยู่ข้างๆ ผู้หญิงทั้งสองคนจึงจำได้ว่ายังมี เด็กอยู่ รีบวิ่งเข้าไปกอด แต่เฉินหว่านรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเพราะเธอ เธอจึงส่งสายตาให้ตัวจนถึง ลุกขึ้นแล้วเดินไปพูด กับเฉินเสี่ยวเฟิงว่า
“เฉินเสี่ยวเฟิง ฉันฉลองวันเกิดให้ลูกเสร็จก็จะกลับ คุณอย่าทำ กิริยาก้าวร้าวแบบนี้ได้ไหม”
ขณะนี้เฉินเสี่ยวเฟิงพึ่งรู้สึกตัว เขารู้สึกเจ็บปวดมากที่ใบหน้า เขาปะทุความโกรธออกมา
“แกกล้าตบฉัน ! แก……..แกกล้าดียังไง ฉันจะกระทืบแก
ตะโกนออกมา เขาและเพื่อนอีกสองคนก็จู่โจมไปที่เทียน
เจียง
เวลาต่อมา เฉินเสี่ยวเฟิงโดนเทียนเจียงบีบคอยกตัวขึ้น สอง ขาลอยขึ้นจากพื้น ทำให้เพื่อนที่มาด้วยสองคนตกตะลึกและไม่ กล้าขยับ
“มีเด็กอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากลงไม้ลงมือ ไสหัวออกไป
เขาคลายมือออก ขณะที่เทียนเจียงเดินออกไปข้างนอก ตอน เดินผ่านโต๊ะได้บอกให้เฉินหว่านนั่งรอที่นี่
“ไม่ต้องเป็นห่วง เดียวฉันออกไปจัดการพวกมันที่ด้านนอก
เฉินหว่านกังวลมากๆและอยากจะพูด แต่ตัวจนถึงรั้งเธอไว้ “ให้เขาไปจัดการเถอะ สามีฉันพึ่งกลับมาจากกองทัพ คนพวก นี้สู้เขาไม่ได้หรอก”
ใครจะไปรู้ว่าเวลาต่อมา เฉินหว่านกลัวจนเกือบจะร้องไห้
“ถึงถึงทำอย่างนี้ไม่ได้ เฉินเสี่ยวเฟิง……. เฉินเสี่ยวเฟิงเป็นสาย ตรงของตระกูลเฉิน ห้ามทำร้ายเขาเด็ดขาด เธอรีบปล่อยฉันออก ไป
“ตระกูลเฉิน? ตระกูลเฉินไหน?
ฮัวจิ๋นถึงไม่ได้ใส่ใจ เด็กเล็กทั้งสองคนถ้าเฉินหว่านอยู่ก็ สามารถช่วยกันดูแล แต่ถ้าเธอไม่อยู่ช่วยดูเด็กอาจเกิดอะไรไม่ดี ขึ้นอีกก็ได้
“ตระกูลเฉินผู้มั่งคั่งแห่งเมืองหนึ่ง! ถึงถึงเธอรีบปล่อยฉันออก
ไป!
อะไรนะ!
ขณะที่มึนงง ฮัวจิ่นถึงได้ปล่อยมือ แต่เฉินหว่านที่ยืนขึ้นก็ตกตะ ลึกมากๆ เพราะฉู่เทียนเจียงกลับมาแล้ว กลับมานั่งลงที่โต๊ะอีก ครั้ง
“พวกเราฉลองกันต่อเลย คุณไม่ต้องขอบคุณผม อีอีกับหลิน เฉินเป็นเพื่อนสนิทกัน หลินเฉินก็เปรียบเสมือนลูกชายบุญธรรมของผม ผมยอมจะให้เรื่องไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวคุณ
ผู้หญิงสองคนมองผ่านกระจกยังด้านนอก เห็นเฉินเสี่ยวเฟี
งกับเพื่อนอีกสองนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่
ที่พื้น ในขณะเดียวเร็ว….ไปจากเร็ว ได้ พวกไปเลย พาหลินเฉินด้วย ทุกอย่างเกิดขึ้นตรงนี้ จะเอง
หลังจากหว่านจบ จนถึงมองที่เทียนเจียงไม่ สนใจและ
“เทียน….กำลังเขามั่งคั่งของเมืองหนิง พ่อยังเคยเตือนฉัน ว่าให้คุณไว้ให้ๆ อย่าเรื่องกับใคร ทำยังไง…….เราจะทำยังไงดี
ฉู่ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงเมนูอาหารอยู่
“ตระกูลเฉินเฉินพวกเขา ไม้ลงมือ
คุยด้วยเหตุผล? ฮัวจิ๋นรู้สึกฉู่เทียนเจียงใช้กำลังในการ ตัดสินปัญหาจนไม่สามารถเยียวยาได้ เริ่มเก็บข้าวของทันที
ประสบการณ์ไม่ในวัยเด็ก ไม่ว่าคิดจะอะไร ฉันจะพาลับบ้านเลยตอนปัญหาคุณสร้างขึ้น คุณต้องจัดการอย่าทำให้ที่บ้านต้องเดือดร้อน
คนโง่ที่ไหนก็คงคิดได้ ถ้ารอคนตระกูลเฉินมาถึง อย่าน้อยคง มีนับร้อยคน เขาเป็นคนของตระกูลเฉินผู้มั่งคั่ง มีปัญหากับพวก เขามันรุนแรงกว่ามีเรื่องกับอารองเป็นพันเท่าหมื่นเท่า
หลังจากฟังฮัวจีนถึงพูดจบ เทียนเจียงก็คิดได้ทันที ลูกสาวไม่ ควรเห็นสถานการณ์ไม่ดีเหล่านั้น
“ก็ได้ อีอี หนูกลับบ้านไปกับคุณแม่ก่อนนะ เดี๋ยวคุณพ่อตาม ไป โอเคไหม”
อีอีพยักหน้า
โอเค คุณพ่อจะไปสู้กับคนเลว อีอี คุณพ่อเก่งที่สุด”
เทียนเจียงยิ้มออกมา เป็นสิ่งหาดูได้ยาก
“ใช่ครับ คุณพ่อของหนูเก่งที่สุดครับ”
เฉินหว่านที่อยู่ด้านข้างรู้สึกร้อนรนไปหมด แต่เมื่อเห็นเทียน เจียงที่ไม่รับฟังอะไรเลย เธอทำได้แค่ปลอบใจลูกชายตัวเองหลิน เฉิน แล้วพูดกับตัวจนถึงว่า
“ถิงถิง รบกวนเธอพาหลินเฉินกลับไปด้วย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจะรับผิดชอบเอง จะไม่ให้สามีของเธอต้องมาเดือดร้อน ฉัน ขอโทษด้วยจริงๆ ถ้าพวกคุณไม่ได้มาวันนี้ก็คง…….
“พี่เฉินไม่ต้องพูดแล้ว หลินเฉินฝากไว้ที่ฉันคุณไว้ใจได้ หวังว่า คุณจะไม่เป็นอะไร ส่วนเขา ฉันไม่เคยเป็นห่วงเขาเลย
หลังจากที่ วจีนถึงจากไป เทียนเจียงมองเฉินหว่านแล้วพูด
“ดูเหมือนว่าคุณน่าจะเป็นคนของตระกูลเฉินใช่ไหม” เธอพยักหน้า แต่ใบหน้าเฉินหว่านดูเศร้ามาก
“เพราะบางสาเหตุ ทำให้ฉันโดนไล่ออกจากตระกูลเฉิน และ ยังถูกห้ามไม่ให้เข้าตัวเมืองอีก ให้ใช้ชีวิตได้แค่ในเขต ชานเมือง”
“ถ้างั้นคุณคงมีเบอร์โทรศัพท์ของท่านเป็นเจียงเหอใช่ไหม
เอามาให้ผม
เฉินหว่านผงะเล็กน้อยและยิ้มอย่างขมขื่น
“มีเบอร์……แล้วทำไงได้ ที่ฉันโดนไล่ออกจากตระกูลเฉินก็ เพราะคำสั่งของปู่”
“ไม่เป็นไร เธอให้เบอร์ผมก็ได้แล้ว คุณเป็นแม่ของหลินเฉิน ในเมื่อผมตัดสินใจที่จะช่วย ผมจะจัดการปัญหาทุกอย่างให้คุณ จนเรียบร้อย”
เห็นสีหน้าที่จริงจังของเทียนเจียง ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เฉิน หว่านได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับฉู่เทียนเจียงไปจริงๆ ตอนนี้ เขาก็ได้รับข้อความทาง WeChatจากฮัวจีนถึง ตอนที่ฉันออกไป เฉินเสี่ยวเฟิงกับเพื่อนก็ไม่อยู่แล้ว คุณต้อง ระวังด้วย ฉันไม่อยากให้อีอีที่พึ่งได้พ่อกลับมา ต้องมาเสียพ่อไปอีก
ตอบกลับด้วยสติกเกอร์OK ฉู่เทียนเจียงยังคงดูเมนูอาหารต่อ
เมื่อสักครู่ อีดูอาหารพวกนี้อย่างละเอียด ผมต้องจำเมนูพวกนี้ไว้ แล้วกลับไปทำให้ลูกสาวทาน “บริกร อาหารทั้งหมดที่ผมสั่งเมื่อสักครู่ รบกวนห่อกลับบ้าน
ให้หน่อย”
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เทียนเจียงลุกขึ้นแล้วพูดกับเฉินหว่านว่า
“ผมได้รับอาหารทั้งหมดแล้ว คนพวกนั้นน่าจะใกล้ถึงที่นี่แล้ว พวกเราไม่ควรทำให้ร้านอาหารต้องมาเดือดร้อน เราออกไปรอ ข้างนอกกันเถอะ”
เฉินหว่านรู้สึกกังวลในใจ ถึงแม้เฉินเสี่ยวเฟิงจะไม่ใช่หลาน ชายที่รักที่สุด แต่เขาก็เป็นสายตรงของตระกูลเฉิน เราควรทำ ยังไงดีกับเรื่องนี้
ออกจากร้านอาหารได้ไม่กี่นาที มีรถBMW X5 ขับด้วย ความเร็วเข้ามาจอดและมีเสียงเบรกกะทันหันดังขึ้น
ทันใดนั้น เฉินเสี่ยวเฟิงที่หน้าดำเขียวได้ลงมาจากรถ ใน เวลาเดียวกัน ได้มีชายวัยกลางคนสองคนในชุดสูทลงมาด้วย ไม่มีคนเยอะๆตามมาเหมือนที่จินตนาการไว้
ฉู่เทียนเจียงดูเฉยเมยไม่สนใจอะไร เขาได้หยิบมือถือขึ้นมา ถ้าสามารถจัดการทุกอย่างได้ เขาก็ไม่อยากจะลงไม้ลงมือกับลูก สมุนพวกนี้
แต่เฉินหว่าน กลับรู้สึกไม่ดีเลย
เพราะชายวัยกลางคนสองคนนี้ เป็นคนสนิทส่วนตัวท่านเฉิน นี่ หมายความว่า คุณปู่ของเธอรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ