จอมยุทธ์กบฏโลก

บทที่ 10 ก่อนตะวันตกดิน



บทที่ 10 ก่อนตะวันตกดิน

“ฮัว โกมางั้นเหรอ? ยังพาฮัวว่านลงมาอีก? พวกเขามาทำ อะไร?

หลิวหลานยืนขึ้นมา สายตาเต็มไปด้วยความกังวล ฮัวเหวิน

ฮุยที่อยู่ข้างๆสีหน้าก็ไม่สู้ดีเช่นกัน

“ยังจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ? ต้องเป็นเรื่องที่เทียนเจียงทำร้าย ฮัวว่านกงแน่ๆ ฮัว โก๋พี่รองคนนี้ถึงกับมาด้วยตัวเองได้ ดูท่า เรื่องนี้คงจะหนักกว่าที่เราคิดแล้วล่ะ”

มองเห็นฉู่เทียนเจียงยังคงปอกเปลือกไข่อย่างไม่ทุกข์ร้อน หลิวหลานรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

“เทียนเจียง แกอย่าทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ เรื่องนี้ใคร

เป็นคนก่อเรื่อง ห้ะ! ”

“คุณแม่ครับ ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเขามาเพื่อขอโทษเอง”

ประโยคนี้ เกรงว่าคงจะมีแค่ฮัวจนถึงเชื่อเพียงคนเดียวแล้วล่ะ ทั้งสองลืมคำพูดทีเล่นทีจริงของเทียนเจียงไปแล้ว แต่เธอยังจำ มันได้ดีเลยล่ะ ก่อนสิบโมงเช้า ครอบครัวของอารองต้องมา ขอร้องอ้อนวอนคืนงานให้กับโรงงานอิฐ ตอนนี้ ถือว่าเป็นจริง แล้วหรอ?

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าหากตัวว่านาง คนเดียวคงไม่เป็นไร แต่ฮัว โก๋อารองของเธอถึงกับมาด้วยตัวเอง เห็นทีไม่เปิดประตูคงจะไม่ได้แล้ว

ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฮัว โก๋กับฮัวว่านถึงเดินเข้ามาด้านใน

สีหน้าไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่นัก “ฉู่เทียนเจียง อารองแกมาแล้วนะ ยังไม่รีบสวัสดีอีก! ”

ฮัวเหวินฮุยยิ้มแหยๆ มองไปยังจู่เทียนเจียงที่กินอาหารเช้า

อย่างไม่รีบไม่ร้อน เขารู้สึกคันไม้คันมือมาก

“สวัสดีงั้นเหรอ? พวกเขาคู่ควรหรอ? ”

ประโยคเดียวถูกพูดออกไปเท่านั้นแหละ ฮัวจนถึงรู้ได้ทันทีว่า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจนั่นก็คือ ฮัว โก๋กับพูดพลางหัวเราะขึ้นมาว่า

“ไม่เป็นไรหรอก ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรให้ มากหรอก เทียนเจียงนายกินอาหารเช้าต่อเถอะ กินเสร็จแล้วเรา ค่อยคุยกัน”

นี่มัน…….

ทั้งสามคนรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก ลูกคนที่สองของตระกู ลอย่างฮัว โก๋ที่รักศักดิ์ศรีมาก และเป็นคนที่อันตรายที่สุดใน บ้าน กลับมีวันที่เป็นมิตรแบบนี้ได้? ที่สำคัญคือยังทำต่อหน้า เทียนเจียงคนที่เป็นศัตรูทำร้ายลูกชายของตัวเองเนี่ยนะ นี่มันดู เกินจริงไปหน่อยแล้วมั้ง

ฮัว โก๋หัวเราะขึ้นมา แต่ในใจรู้สึกโกรธเกลียดฉู่เทียนเจียง เป็นอย่างมาก
ถ้าหากเมื่อคืนไม่เข้าไปหาตาแก่ หลังจากที่เล่าทุกอย่างไป แล้ว ตาแก่กลับให้ตัวเขาจัดการเอง ไม่อย่างนั้นจะยึดทรัพย์สิน ของทุกอย่างกลับไปทั้งหมด เขาจะไปเอาลูกชายมาก้มหัวแบบนี้ ได้งั้นเหรอ?

หลังจากที่นั่งด้วยความอึดอัดใจอยู่ครู่หนึ่ง กว่าจะรอเทียน เจียงทานข้าวเสร็จ ก่อนหน้านั้นได้พูดคุยกันแล้ว ชัวว่านถึง เตรียมจะขอโทษก่อน ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ คงจะทำอะไรได้ยากขึ้น

ถึงแม้จะรู้สึกไม่เต็มใจ แต่มันเกี่ยวข้องถึงเรื่องเงินกู้ก้อนนั้น เรืองศักดิ์ศรีเป็นอะไรไม่สำคัญแล้ว

“เทียนเจียง ฉัน..………

“เมียจ๋า ลูกตื่นแล้ว เดี๋ยวผมขอขึ้นไปดูก่อนนะ

แต่แล้ว ฉู่เทียนเจียงที่ลุกขึ้นยืน กลับไม่ได้มีทีท่าจะเดินไปยัง ห้องรับแขก แต่เขาเดินไปยังบันได

ทันใดนั้น ฮัวว่านถงก็รู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว ในที่สุดฮัว โก๋ก็ ทนไม่ได้อีกต่อไป ลุกขึ้นยืนชี้ไปที่เขา

“ฉู่เทียนเจียง! อย่าจองหองไปหน่อยเลย แกมันก็มีแค่การ์ด เกียรติยศระดับVIPจอมปลอมของธนาคารฮัวรุ่ยเท่านั้นแหละ แก คิดว่าจะสามารถบังคับโชคชะตาของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ฮัวเฟิงได้งั้นเหรอ?

ฉู่เทียนเจียงหยุดเดิน แล้วหันหน้ากลับไปพูดอย่างดูถูก

“กิริยาท่าทางที่เข้ามาเมื่อกี้ ฉันคิดว่าพวกคุณเรียนรู้อะไรได้บ้างแล้ว ตอนนี้ดูท่า คงหนีไม่พ้นเป็นแค่การแสดงจอมปลอม สินะ ในเมื่อคุณคิดว่าควบคุมไม่ได้ ก็ใสหัวออกไปซะ ไม่อย่างนั้น กรุณาทําตัวให้ดีๆหน่อย”

ฮัวจิ๋นถึงทั้งสามยังคงรู้สึกสับสนอยู่ ไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูด อะไรกัน

จองหอง! ไม่ใช่จองหองธรรมดาทั่วไป

สองพ่อลูกฮัว” โกโกรธจนร่างกายสั่นเทา โดยเฉพาะตัว โก๋ ตำแหน่งในบ้านของเขาสูงที่สุด ในเมืองหนึ่งถือได้ว่าเขายัง พอมีหน้ามีตาบ้าง อย่างที่ไหนกัน มาวันนี้ถูกเทียนเจียงที่เป็น รุ่นหลังสั่งสอน เขามองไปที่ฮัวเหวินฮุยพลางพูดขึ้นมาว่า

“น้องสาม! แกมได้ลูกเขยดีๆกลับมาแล้วสินะ ฉู่เทียนเจียง เข้ากองทัพมีผลงานคุ้มกันของล้ำค่า ธนาคารชัวรุ่ยได้มอบ บัตรVIPแห่งเกียรติยศให้กับเขา ใบหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะใช้ ประโยชน์จากมัน กล้าพังแผนการกู้ยืมเงินห้าร้อยล้านก้อนนี้ของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ฮั่วเฟิง”

พูดถึงตรงนี้ ฮัว โก๋ได้จัดการความคิดว่าตัวเอง สีหน้าเย็น ชามากยิ่งขึ้น

“ตอนนี้ท่านโกรธมาก ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ ย่านใหม่ที่กำลังจะ สร้างก็ไม่สามารถเริ่มงานได้ มีความสำคัญมากขนาดไหน แกน่า จะรู้ดีอยู่แก่ใจ ก่อนคืนนี้ถ้าเทียนเจียงยังไม่เปลี่ยนใจ พรุ่งนี้ คง ไม่ใช่ตัวฉันที่มาที่นี่ แต่เป็นท่านมาเอง”

“พวกเรากลับ! ”
เขาเดินมาถึงหน้าประตู คำพูดของฉู่เทียนเจียงดังลอดขึ้นมา อีกครั้ง

“คำพูดเดียวกันส่งคืนให้กับพวกคุณ ก่อนตะวันตกดินถ้ายังไม่

เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง งั้นก็ไม่ต้องมาอีก เขาทําเสียงอย่างเย็นชา ฮัว โก๋กับฮัวว่านถึงเดินตรงออก

ไปทันที พอขึ้นรถมาได้ ชัวว่านางยังคงรู้สึกไม่สบายใจ

“พ่อครับ วิธีนี้จะได้ผลหรอครับ? คุณปู่พูดแล้ว ก่อนพลบค่ำ ถ้ายังจัดการไม่ได้ พวกเราก็จะ..….………

“วางใจเถอะ ถึงฉู่เทียนเจียงจะเข้ากองทัพไปสี่ปี ในเมื่อตอนนี้ กลับมาแล้ว เขายังคงเป็นลูกเขยสวะที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง ฉันให้ ความกดดันกับอาสามของแกไปแล้ว หึๆ ต้องได้ผลแน่นอน

ภายในบ้าน ฉู่เทียนเจียงที่กำลังจะเดินขึ้นไปถูกฮัวจิ๋นถึงดึง

แขนลากลงไป

“เมื่อวานที่คุณให้ฉันไปธนาคารกับคุณ เพราะเหตุผลนี้เห รอ?

“ครับ”

ฮัวเหวินฮุยกับหลิวหลานที่นั่งอยู่บนโซฟา ถือได้ว่าจัดการ ความคิดได้แล้ว จึงพากันถอนหายใจดังเฮือก

“ฉู่เทียนเจียง แกไปบอกกับผู้จัดการธนาคารเถอะ ครั้งนี้ถ้า หากพังแผนการกู้เงินล่ะก็ คงไม่ได้มีแค่อารองของแกที่มีเอี่ยว คงจะมีผลต่อคุณปู่ด้วย ถ้าคุณโกรธ ครอบครัวเราก็จะโดนไล่ออกจากตระกูลแน่ แกเข้าใจไหม? ”

แต่แล้ว หลิวหลานที่อยู่ข้างกลับไม่คิดแบบนั้น เธอกลับ หัวเราะพลางพูดออกมาว่า

“ไม่ต้องสนใจหรอก ลูกเขย ครั้งนี้แม่สนับสนุนแกเต็มที่เลย ฮัว โกวันๆเอาแต่คุยโวโอ้อวดต่อหน้าพวกเราไปมา แม้แต่ตัว ว่านลงที่เป็นรุ่นหลังยังไร้ซึ่งความเคารพที่ควรจะมีต่อพวกเรา ไม่ ต้องสนใจหรอก ดูสิพวกเขาจะทำยังไง”

ฮัวจิ๋นถึง ในตอนนี้ไม่ได้พูดอะไรออกไป จากก้นลึกสุดหัวใจ เขาอยากจะแก้แค้นเหลือเกิน อย่างไรเสียก็เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังต้องสนใจมันทำไมอีก

“พวกเธอน่ะ! ฉันไม่รู้จะพูดสื่อสารกับพวกเธออีกแล้ว ก็ได้ รอ ท่านโกรธก่อนเถอะ อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน!

หลังจากที่เขาโกรธแล้วนั้น ฮัวเหวินฮุยก็สะบัดแขน เก็บข้าว

ของอะไรเรียบร้อยก็เดินออกจากบ้านไปเลย

ก่อนที่จะทานอาหารเที่ยง เทียนเจียงได้เล่นเป็นเพื่อนกับอีอี ที่ห้องรับแขก

“หนูเป็นไดโนเสาร์~~”

ฉู่เทียนเจียงที่หยิบมังกรตัวหนึ่งขึ้นมาค่อยๆเข้าใกล้อีอีเรื่อยๆ แต่อีอีไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ทันใดนั้นมือขวาก็หยิบของเล่นรถ ถังขึ้นมา

ปิ้งๆ! หนูมีรถถังคันใหญ่นะเจ้ามังกรรีบวิ่งหนีไปสิ! ”
ฉู่เทียนเจียงทาแกล้งวิ่ง แกล้งทำท่าทำทางให้ออหัวเราะจนตัว โยน

“อีอีครับ หนูชอบรถถังใช่ไหม?

อีอีพยักหน้าหงิกหงักเป็นการใหญ่

“อืมมม คุณพ่อคะ หนูชอบรถถังที่สุดแล้ว พี่หลินเฉินบอกว่า รถถังเก่งที่สุดแล้ว สามารถปกป้องครอบครัวของเราได้ ”

ราวกับว่าเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว เทียนเจียงเตรียมจะออกไป ซื้อของ ลูกสาวเทพเจ้าแห่งสงครามของเขา จะมีของเล่นเล็กน้อย แค่นี้ได้ยังไงกัน

เขาปล่อยให้อีอีเล่นคนเดียวไปก่อน ฉู่เทียนเจียงเดินเข้าไปหา ฮัวจิ้นถิง

“เมียจ๋า ผมอยากจะขอดูใบสูติบัตรของอีอีหน่อยครับ ฮัวจิ่นถึงขมวดคิ้วเป็นปม แต่ก็ยังคงเดินไปที่ห้องหยิบใบ สูติบัตรออกมา ในขณะที่ยื่นไปนั้นก็ถามขึ้นมาว่า

“ตอนนี้ลูกชื่อฮัวอีอี ถ้าคุณอยากจะแก้นามสกุลกลับไปแล้วล่ะ ก็อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้ รอฉันให้อภัยคุณก่อนเถอะ คุณ ต้องเติมเต็มความรักที่ขาดหายไปของอีอีกลับมา ฉันถึงจะคิด ทบทวนอีกที”

จุดนี้ ฉู่เทียนเจียงไม่ได้ตอกกลับอะไร เขาไม่อาจหนีเวรกรรมที่ เขาเป็นคนก่อขึ้นมาได้
มองดู สองมือที่สั่นเทาขึ้นมาอย่างกะทันหันของเทียนเจียง อยู่ครู่หนึ่ง

“วันเกิดสามขวบของ ใกล้มาถึงแล้วงั้นเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ