บทที่ 6 พรีเมี่ยม
ฉู่เทียนเจียงรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาในทันที ถึงแม้จะห่างแค่ ราวแขวนเสื้อผ้าแค่ราวเดียว แต่เหมือนกับไกลกันสุดหล้าฟ้า เขียว เขาเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงสถานที่เกิดเหตุ
เห็นเพียงแค่ตัวจิ๋นถึงกำลังโอบกอดไว้บนใบหน้ามีรอย ฝ่ามือนิ้วทั้งห้าประทับอยู่บนแก้มแดงฉานกรีดลึกเข้าไปในหัวใจ ของฉู่เทียนเจียง
…คุณมีสิทธิ์อะไรทำร้ายคนอื่น ฮัวจิ๋นถึงโกรธจนน้ำตาแทบจะหล่นผล็อยออกมา ลูกพึ่งกลับ มาวันแรก ก็ถูกคนทำร้ายแล้ว
“คุณพ่อคุณแม่คะ หนู………ไม่ผิดนะคะ”
ทั้งๆที่เจ็บจนน้ำตาคลอเบ้า แต่อีอีกลับยังคอยปลอบโยน มัน ทำให้ร่างกายของฉู่เทียนเจียงเริ่มสั่นเทาขึ้นมา
ทั้งๆที่เมื่อวานเขาพึ่งพูดว่า จะไม่ยอมให้ใครรังแกอีอีอีก
“มีสิทธิ์อะไรงั้นเหรอ? ครอบครัวพวกแกทั้งตัวสวมแต่เสื้อผ้า โนเนม ไม่มีเงินก็ไม่ต้องเข้ามาเดินในร้านแบบนี้ ลูกชายของฉัน ดูแพงขนาดไหนลูกสาวของแกกลับกล้าผลักเขาล้ม ตบแค่ฉาด เดียว ยังถือว่าเบาไปเลย ตอนนี้แกต้องให้ลูกสาวของแกขอโทษ ลูกชายฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้นฉันขอบอกพวกแกไว้เลยนะ เรื่องนี้ ไม่จบแน่”
ฮือๆ!
เด็กชายคนนั้น อายุอานามพอๆกับอีอี ตอนนี้กำลังร้องไห้โฮ อยู่ข้างๆ หญิงสาวที่สวมชุดหรูหราทั้งตัว เหมือนกับไม่รับความไม่ เป็นธรรมยังไงอย่างงั้นแหละ
“ทั้งๆที่ลูกชายของคุณเอาน้ำมูกเช็ดเสื้อผ้าลูกสาวของฉัน คุณ ทำไมไร้เหตุผลแบบนี้”
ฮัวจิ๋นถึงโกรธจนถึงขีดสุด ชี้ไปที่เสื้อผ้าที่เธอเป็นคนซื้อให้ออี
ด้วยตัวเอง
“น้ำมูกของลูกชายฉันนะ มีคนต่างมากมายเท่าไหร่อยากกิน อย่าพูดมาก ขอโทษเดี๋ยวนี้ ฉันจะโอกาสเป็นครั้งสุดท้าย
หญิงสาวโหดร้ายใจดำเป็นอย่างมาก ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วย ความขยะแขยงและความดูถูก เหมือนกับการพูดคุยกับฮัวจีนถึง จะเป็นการทำให้ตัวเองแปดเปื้อนยังไงอย่างงั้น
“เมียจ๋า คนบางจําพวก ไม่เหมาะที่จะใช้คำว่ามีเหตุผล อย่า
ให้อือืมองนะครับ”
ฉู่เทียนเจียงพูดด้วยความรู้สึกผิด แล้วเดินไปข้างหน้าของ หญิงสาว
“ใช้มือข้างไหนดี ยื่นออกมา”
เผชิญหน้ากับเทียนเจียง หญิงสาวไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ยัง คงพูดอย่างยโสโอหัง
“ทำไม? จะมีฉันหรอ? ฉันใช้มือข้างขวาตี มาสิ ถ้าแกกล้า แตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ ฉัน……..อ้าว! ”
ทันใดนั้น หญิงสาวก็กรีดร้องอย่างโหยหวน ใบหน้าบิดเบี้ยว กุมมือข้างขวาข้างขวาพลางนั่งลงกับพื้น
“คุณไม่เหมาะจะมีมือข้างนี้
มือข้างหนึ่งที่ถูกหักนั้น เทียนเจียงราวกับไม่รู้สึกอะไร นั่งลง ลูบไปยังใบหน้าที่มีรอยฝ่ามือห้านิ้วของอย่างเบามือ
“อีอี ยังเจ็บไหมครับ?
เด็กน้อยราวกับหาที่พักพิงปลอดภัยเจอแล้ว ในที่สุดอีก ร้องไห้เสียงดังออกมา โถมตัวเข้าไปยังอ้อมกอดของเทียนเจียง
“เจ็บค่ะ! คุณพ่อคะ อีเจ็บมากเลยค่ะ นะ……..หนูไม่ได้ผลัก
เขาแรงมากนะคะ”
ฮัวจนถึงปาดน้ำตาทิ้ง อีอีเป็นเด็กดี เป็นเด็กดีมากจริงๆ ปกติ ตอนที่อยู่ที่บ้านถูกพวกเขารังแกมากแล้ว เพราะฉะนั้นครึ่งปีมานี้ อีอีจึงหัดเรียนรู้ที่จะไม่โทษใครแล้ว
ถ้าหากว่าเด็กชายไม่ใช้น้ำมูกเช็ดไปที่เสื้อตัวโปรดของเธอ คงไม่ถูกผลักเบาๆแบบนั้นหรอก ตอนนี้เทียนเจียงมาแล้ว ใน ที่สุดก็ทำให้อีอีสามารถออดอ้อนเหมือนเด็กคนอื่นๆได้แล้ว มีคน ที่สามารถพึ่งพิงได้
“แก……แกรอก่อนเถอะ!
ในเวลานี้เอง หญิงสาวคนนั้นเดินผ่านไป โดยใช้เพียงข้าง เดียวจูงเด็กชายวิ่งออกไปจากร้าน สิ่งที่น่าแปลกใจมากไปกว่านั้นก็คือ ใบหน้าที่มีรอยฝ่ามือห้า
นิ้วประทับอยู่ของอีอี หลังจากที่ผ่านการลูบเบาๆจากเทียนเจียง
มันก็ได้หายไปในทันที เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเท่านั้นเอง
“อีอีครับ ซื้อเสื้อผ้าต่อเถอะ ครั้งนี้คุณพ่อคุณแม่จะอยู่เป็น เพื่อนหนูนะครับ”
แค่โทรศัพท์เพียงสายเดียวก็ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉู่เทียน เจียงรู้สึกโกรธเคืองในใจ ยังคงไม่สามารถปล่อยวางได้
เด็กน้อยลืมไปอย่างรวดเร็ว มองดูเสื้อผ้าชุดหนึ่งอย่างมีความ สุข แต่ฮัวจิ๋นถึงกลับยังกังวลอยู่
“ฉู่เทียนเจียง ตั้งแต่คุณกลับมาจากกองทัพครั้งนี้ นิสัยของคุณ รุนแรงไปรึป่าว สามารถมาซื้อของในร้านแบบนี้ได้ ฐานะทาง บ้านต้องไม่ธรรมดาแน่ คุณทำมือของคนอื่นหักแบบนี้ เรารีบ ออกไปกันเถอะ”
ใบหน้าของฉู่เทียนเจียงไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก
“กล้าแตะต้องลูกสาวของผม ต่อให้เป็นเทพเจ้า ก็ต้องรับผิด ชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น มือแค่ข้างเดียว ยังถือว่าน้อยไปด้วย ”
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีอีหยิบชุดกระโปรงเดินมา ด้วยท่าที่เป็น อาย
“หนูอยากได้ชุดนี้ค่ะ”
ฮัวจิ๋นถึงรีบพาเด็กน้อยเข้าไปในห้องลองเสื้อทันที เทียน เจียงรออยู่ด้านข้าง ผ่านไปครู่หนึ่ง ในตอนที่อือออกมาพร้อมกับ ชุดใหม่นั้น หัวใจของเขาละลายทันที แล้วพูดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“อีอีครับ หนูเป็นเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักที่สุดของคุณพ่อเลยค่ะ
พอได้รับคําชมจากคุณพ่อ ก็รู้สึกดีใจมาก หยุดมองกระจก ไม่ได้ด้วยซ้ำ เหมือนจะพอใจกับชุดกระโปรงตัวนี้มาก
“เลือกอีกหลายๆชุดได้นะครับ พอได้ยินประโยคนี้ อีอีก็ทำปากขึ้นมาทันที
“คุณพ่อคะ จะใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้ไม่ได้นะครับ คุณแม่บอก แล้ว ต้องรู้จักพอใจ อีอีเอาแค่ชุดนี้ก็ได้ค่ะ”
หลังจากถูกลูกสาวสั่งสอน เทียนเจียงลูบไปที่จมูกอย่าง
ทำตัวไม่ถูก จึงไม่ได้ฝันอะไรอีก เดินไปถามที่แคชเชียร์ทันที
“ชุดกระโปรงตัวนี้ราคาเท่าไหร่ครับ?
พูดไปด้วย ล้วงเงินสดออกมาจากกระเป๋ากางเกงไปด้วย ดูท่า น่าจะหลายพัน
สายตาของพนักงานขายมีความถูกบางอย่างแวบผ่านไป ถึงว่าทั้งครอบครัวสวมแต่ชุด โนเนม เป็นไปตามคาดคงจะเป็น ครอบครัวที่รวยภายในชั่วค่ำคืน
ในตอนที่กำลังจะเปิดปากพูด ทันใดนั้นก็มีคนห้าคนเดินเข้า มา คนที่ท่าทางเหมือนรปภ.ห้าคน ด้านข้างมีชายวัยกลางคนสวมชุดสูทเรียบร้อย
“คุณผู้ชายท่านนี้ครับ จากการได้รับสายรวมถึงดูจากกล้อง วงจรปิดแล้ว เมื่อครู่คุณได้ทำร้ายร่างกายคุณผู้หญิงคนหนึ่ง กรุณาไปที่ห้องรปภ.รักษาความปลอดภัยกับเราด้วยครับ
เทียนเจียงหัวเราะขึ้นมาทันที
“ในเมื่อคุณดูกล้องวงจรปิดแล้ว ก็น่าจะรู้นะครับ ว่าหล่อน ทําร้ายลูกสาวผมก่อน
ชายวัยกลางคนโบกมือไปมา จากนั้นรปภ.ห้าคนก็กรูกันเข้า มาล้อมตัวเทียนเจียงทันที
“คุณผู้หญิงหลี่เป็นลูกค้าระดับไดม่อนการ์ดของทางห้างเรา
พวกเรามีอำนาจที่จะปกป้องชื่อเสียงรวมถึงความปลอดภัยของ
เธอ”
ทันใดนั้น อีอีก็พุ่งตัวออกมา แขนเล็กๆทั้งสองข้างกางออก แล้วจ้องมองด้วยสายตาเกรี้ยวกราดพลางพูดตะโกนไปที่ รปภ.ทั้งสี่คน
“พวกคุณห้ามทําร้ายพ่อของหนูนะคะ หนูเป็นไดโนเสาร์ตัว
ใหญ่นะ!
รปภ.ทั้งสี่คนถึงอดกลั้นที่จะหัวเราไม่ได้ แต่ก็หยุดก้าวเท้าต่อ ฉู่เทียนเจียงลูบไปที่หัวของอย่างเบามือ ตามมาด้วยการ ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบการ์ดออกมาใบหนึ่ง
“อีอีวางใจเถอะเขาการ์ดไปที่แคชเชียร์ พร้อมพูดกับชายวัยกลางคน
“ห้างสรรพสินค้าตงหัวเปลี่ยนแปลงอำนาจมากมายขนาด ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่แบ่งแยกชอบชั่วดี มองเพียงแค่คนคนนะได้ จะใช้การ์ดของแกดูชัดๆซะ”
พนักงานขายการ์ดอากาศหายใจเข้า แล้วรีบเสียบการ์ดใบนั้นไปที่เครื่องอ่านบัตร ทันที
ปะเป็นไปได้
เวลาต่อมา หลังจากในคอมพิวเตอร์แสดงข้อมูลทั้งหมดของ บัตร
ตกใจอะไรหะ รีบพาตัวเขาไปเดี๋ยว!
พอเห็นฉู่เทียนเจียงหยิ่งยโสโอหังเพียงชายวัยคนรู้สึกโกรธ
สําหรับการ์ดนั้น เขาจะสนใจอย่างงั้นเหรอด้านจมูก
หมาจะสามารถ
เสียงตะโกนของเขา ทำให้พนักงานขายรู้สึกตัวมาทันที รีบ ก้าวสั้นไปข้างตัวของชายกลางคน
“ผู้จัดการอาน………ทางคุณไปหน่อยเถอะ
ผู้จัดการอายคนนี้เป็นผู้รับหน้าที่ดูแลห้างสรรพสินค้าตงหัวชั้น หนึ่ง ร้านไหนบ้างไม่รู้จักเขา
พอเห็นท่าทางกดดันร้อนใจของพนักงานขาย ผู้จัดการอาน รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยังคงเดินไปยืนหน้าคอมพิวเตอร์
“อะไรนะ? เขาก็เป็นลูกค้าระดับไดม่อนการ์ดงั้นเหรอ? ถึงจะ เป็นลูกค้าระดับไดม่อนการ์ดยังไงก็ไม่สามารถมาทำกิริยา ทรามแบบนี้ที่ห้างสรรพสินค้าตงหัวของเราได้
เขาตั้งใจพูดประโยคแบบนี้ออกไปเผื่อเหลือทางให้ตัวเอง แต่ ที่สำคัญ เขาไม่คิดว่าเทียนเจียงที่จนขนาดนี้จะสามารถปล่อย ผายลมดังอะไรได้
แต่วินาทีนี้เอง ทันใดนั้นร่างของผู้จัดการอานก็โถมตัวเข้าไป จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที เบิกตากว้าง ยิ่งไปกว่านั้นเรารับรู้ ได้ถึงภายในสําคอของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น
“ระ…..ระดับพรีเมี่ยมVIP! ”
ตราบจนถึงทุกวันนี้การ์ดระดับพรีเมี่ยมVIPถูกแจกออกไปแค่ สามใบเท่านั้น ห้างสรรพสินค้าตงหัวทั่วทั้งประเทศลำพังแค่ การ์ดใบนี้ใบเดียวสามารถเลือกของมูลค่าหนึ่งแสนหยวนอะไร ก็ได้ ถ้าเกินหนึ่งแสนยังมีอภิสิทธิ์ได้รับส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ สําหรับสมาชิกพิเศษ
ผู้ชายคนนี้ กลับเป็น…..นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ