บทที่20 อยากจะสละโสดแล้วเหรอ?
เสียงกระดิ่งของวิชาแรกเพิ่งดังขึ้น ฉันเตรียมโทรศัพท์ออกมา QQ ก็ได้ยินเสียงคนเคาะโต๊ะเรียนของฉัน พอเงยหน้ามองหวา งจื้อหยวนมองมาที่ฉันพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า นี่อาจเป็นอาจ เหตุผลใบหน้าเขามีเนื้อเยอะเพียงแค่มองก็เห็นรอยเนื้อแน่น
“มีอะไรหรอ หัวหน้าห้องหวาง” ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่เขายิ้มใน ใจฉันกลับรู้สึกไม่ค่อยพอใจ
“หลัวจื้อเหวิน อาจารย์หลิวให้คุณไปพบที่ห้องสำนักงาน “หวางจื้อหย่วน ชื่อจริงของฉันคุณควรเรียกมันออกมามั้ย”ฉัน พูดอย่างจริงจัง เสียงดังขึ้นเรื่อยไป เพื่อนในห้องก็ล้วนได้ยิน หมด
คาดไม่ถึงว่าเมื่อฉันพูดแบบนี้ เขาก็เริ่มหน้าเสีย ในขณะนั้นมี ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ โน้มไปที่หูเขาแล้วพูดอะไรบางอย่าง เขา มองมาที่ฉัน ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “พี่หลัง เมื่อกี้ฉันผิด ไปแล้ว ทีหลังจะไม่เรียกชื่อพี่แบบนั้นแล้ว ตอนนี้อาจารย์หลิวรอ พี่อยู่ที่ห้องทำงาน พี่หลัวจะไปตอนนี้เลยมั้ย!”
เห็นหวางจื้อหย่วนพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง ไม่น่าเชื่อว่า นี่คือเสี่ยวผ้าง ที่อีกนิดหนึ่งก็จะเคารพฉันเหมือนพ่อแล้ว
“ได้ เข้าใจแล้ว” ฉันกรอกตาใส่เขาถึงแม้ว่าจะยังไม่พร้อมจะ พูดอะไร เพียงแต่เวลานี้ฉันรู้สึกว่ามีคนจ้องฉันอยู่ เมื่อหันกลับไปมองก็เห็น หยางเหว่ยจ้องฉันอยู่ ฉันยิ้มให้เขาแล้วออกจาก ห้องเรียนไป
ถ้าหากว่ากันตามนิสัยของฉันเมื่อก่อน ต้องหันหน้ากลับมา ทันทีแน่นอน เพราะว่ากลัวที่จะทำให้เกิดปัญหา ในตอนนี้กฎ ใหม่ของฉันมันชัดเจนขึ้นแล้ว คนอ่อนแอกว่าจะถูกเหยียบให้จม ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่เป็นแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว
ครั้งนี้ฉันฉลาดขึ้นแล้ว ฉันเคาะประตูสำนักงานของอาจารย์ หลิว รอเขาตอบกลับ ฉันจึงเปิดประตูเดินเข้าไป ไม่เช่นนั้นจะได้ เห็นฉากแบบครั้งที่แล้วคงไม่ดีนัก หลังจากเข้ามา
ฉันเห็นอาจารย์หลิวลนลานปิดหน้าเว็บผ่านไป แก้มค่อยๆแดง ขึ้นมาทีละนิด สีหน้าท่าทางของอาจารย์หลิวนี้เต็มไปด้วยความมี ชีวิตชีวา อดไม่ได้ที่จะไม่ให้ตัวเองหัวเราะแล้วพลางถาม เขา”อาจารย์หลิว คุณให้ฉันมาหามีอะไรหรอ
“ตอนนี้ร่างกายคุณคืนสู่สภาพเดิมแล้วใช่มั้ย?”
“ดีขึ้นเยอะแล้ว มาเรียนได้แล้วไม่มีปัญหาอะไร
“งัเนก็ดีแล้ว คุณกลับไปเรียนเถอะ” เมื่อกำลังจะเดินออกไป เขาก็พูดขึ้นออกมาว่า “หลัวจื้อเหวิน วันก่อนทำไมเป็นพี่สาวคุณที่ โทรมาลา ให้คุณแทน คุณคงไม่ได้จะเล่นกลอะไรใช่มั้ย”
“อาจารย์ ไม่มีจริงๆ หรือว่าต้องให้คุณดูแผล” ฉันพูดพร้อม ถูกแขนเสื้อขึ้นจนเห็นรอยบนนั้น ทำให้ฉันปวดใจอีกครั้ง และ จะไม่ปล่อยจางเทียนและพวกไปง่ายๆ เป็นความโกรธที่ฉันเองก็ เก็บเอาไว้ไม่อยู่ “ทำไมรุนแรงขนาดนี้ แล้วทำไมคุณไม่พักเยอะไป’ เดาได้ว่าอาจารย์หลิวเห็นแผลของฉันแล้วต้องประหลาดใจ แน่ แถมยังออกปากเป็นห่วงฉันแบบคาดไม่ถึง “ฉันไม่เป็นไร พัก ผ่อนจนดีขึ้นแล้ว” หลังจากที่เล่นคอมในห้องเช่าเป็นเวลานาน พบว่าไม่มีอะไรสนุกกว่าการมาโรงเรียนแล้ว เพื่อจะได้ไม่ให้ อาจารย์หลิวโทรหาผู้ปกครองที่บ้าน “เอาหล่ะ งั้นคุณกลับ ห้องเรียนได้ ถ้ามีอะไรก็มาลากับฉัน
อาจารย์หลิวฟังความวุ่นวายในใจฉันออก ดังนั้นสำหรับฉันก็ ไม่ได้รุนแรงอะไร
เมื่อกลับไปที่ห้องเรียน อาจารย์ยืนพูดอยู่ตรงโต๊ะ ฉันเห็นเจ ยงเวยเวยดวงตาทั้งสองแสดงความแวววาวออกมา วันนั้นไม่ได้ มองให้ละเอียดแต่รู้สึกว่าสวยมากๆ ตอนนี้ดูมีเสน่ห์เหมาะสมกับ เธอ
ฉันยืนหน้าประตูก่อนจะตะโกนว่า “รายงานตัว” เธอหันมายิ้ม อย่างอ่อนโยนให้ฉันเข้ามาเถอะ”
วิชานี้ฉันยังคงตั้งใจฟังเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์กลับสั่นขึ้นมา หลังจากที่กดดูก็พบว่ามีคนแอดฉัน หลังจากเห็นชื่อที่คุ้นเคย นั้นก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ หวงหยุนหมูน แอดฉันกลับอย่างคาดไม่ ถึง ใบหน้าฉันยิ้มขึ้นมาทันที “สาวสวยมีเรื่องอะไรหรอ” จาก การคาดการณ์ของฉัน ฝั่งนั้นรีบตอบข้อความกลับมา อย่า ซีเรียส ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณสักหน่อย”
“เราสองคนจะต้องสุภาพทำไม มีอะไรพูดมาตรงๆเลย” ฉันพูด น้ำเสียงยั่วยุและส่งอีโมจิแลบลิ้นให้เธอ
“นักเรียนคนนั้น ตอบคำถามข้อนี้หน่อย” ในระหว่างที่รอหวง หยินหยูนส่งข้อความกลับมาทันใดนั้นก็มีเสียงนุ่มนวลเข้ามา แต่ ฉันก็ได้ยินเสียงนั้นมีความไม่พอใจปนอยู่ ฉันเงยหน้าขึ้นก็เห็น เจียงเวยเวยมองฉันอย่างจริงจัง เนื่องจากระยะห่างค่อนข้างใกล้ ทำเอาใจฉันมันหล่นไปที่ตาตุ่ม
ฉันมองไปที่กระดานดำแล้วมองไปที่ตาของเสี่ยวผ้าง เมื่อสัก ครูฉันไม่ได้ฟังอะไรเลย จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาถามว่าอะไรแต่ไม่ว่า อย่างไรก็ตามเพื่อนอย่างเสียวบ้างก็อาศัยไม่ได้เหมือนกัน อย่า มองดูว่าแสร้งทำเป็นตั้งใจฟัง เดาได้ว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับ เทพธิดานางฟ้าของตัวเองอยู่
“นี่” ฉันเริ่มพูดอึกอัก ดวงตาคู่หนึ่งเหมือนติดตั้งเครื่องแสกน ไว้ ฉันกวาดสายตาจนในที่สุดฉันก็เห็นความหวัง หวางจื้อหย่วน เขียนบนกระดาษขาว ยกขึ้นมาให้ฉันดู
“นักเรียนรู้ไหม”
“ฉันรู้ บทกวีนี้คือทักษะเลียนแบบคน เพื่อให้เห็นภาพความ ทุกข์ยากของคน
“ดี งั้นนั่งลง ครั้งหน้าต้องตั้งใจหน่อยนะ” เจียงเวยเวย หันมา พยักหน้าให้บางทีใจคงคิดว่าเด็กน้อยลูกสวรรค์
หลังจากที่ฉันตอบคำถามเสร็จก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ฉัน สะกิดแขนของเสี่ยวผ้างแล้วบ่นว่า “เสี่ยวผ้างเมื่อกี้ทำไมไม่บอก ฉันละเกือบทําให้ฉันปล่อยไก่แล้ว”
“เสี่ยวเหวินคุณคะแนนของฉันไม่ใช่หรอ จะฟังหรือไม่ฟังก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”
“เอาเถอะ” ฉันมองเขาอย่างท้อใจ เสี่ยวผ้างหมอนี่จริงๆ แล้ ดีตรงไหนเนี่ย สมองก็กำกวมดังนั้นทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อนใน ห้องสักเท่าไหร่
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็ได้แต่แสดงความขอบคุณหวางจื้อหยวนใน ใจ แต่นั่นเป็นเรื่องเพียงชั่วครู่ คิดไปถึงเรื่องต่างๆ ที่เขาทำมา ก่อนหน้านี้ เดาได้ว่าที่เขาเอาใจตอนนี้ นอกจากนี้ยังเป็นการ ชดใช้ความผิดที่เขาทำต่อฉัน
ครึ่งหลังของวิชา เจียงเวยเวยเอาแต่จ้องมองมาที่ฉันโดนไม่ ละสายตาไปไหน แต่ในที่สุดฉันก็ตระหนักความเจ็บปวดกับสิ่งที่ ฉันอยากทำแต่ทำไม่ได้
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น ฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่บนนั้น กลับมีข้อความของหวงหยุนหน ที่เหลือก็มีแค่คนที่แนะนำ ให้ฉันรู้สึกเสียใจขึ้นมาครู่หนึ่ง แต่ก็เปิดแชทของหวงหยุนหน แต่โดยดี สักพักก็ปลุกใจให้ฮึกขึ้นมา ดาวโรงเรียนวัดฉันไป ช็อปปิ้งวันเสาร์โดยคาดไม่ถึง ฉันก็ไม่ค่อยกล้าเชื่อเท่าไหร่ ฉัน ยืนยันกับหวงหยุนหยุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากนั้นก็ตั้งตำแหน่งที่ซินเทียนตี้สแควร์ นั้นคือถนนการ ค้า มีห้างสรรพสินค้าที่ที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่บริเวณ ใกล้เคียงกัน
มันเป็นแหล่งชอปปิงชั้นดี ไม่เพียงแต่คำเชื้อเชิญกับหวงหยู นหยูน ฉันตื่นเต้นมากไป
มองร่างอ้วนๆหน้ากลมๆ สั่นไม่หยุด “เสี่ยวผ้าง ฉันจะสละโสดแล้ว สละโสดแล้ว”
“เสี่ยวเหวินคุณพูดเสียงแสบหู คุณจะแก้ผ้าเหรอ ? ไม่ดีนะ นี่ ห้องเรียน คุณอย่าใจร้อน!”
เมื่อฟังคำพูดของเสี่ยวผ้าง ฉันก็หัวเราะจนปวดท้อง “เสี่ยวผ้า งที่ฉันพูดคือ ฉันจะสละโสดแล้ว ไม่ใช่สลัดผ้าออก
ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณทำให้ฉันจริงๆ”
“เสี่ยวเหวิน นี่คุณคิดจะ……….
“จะเป็นไปได้ยังไง” ฉันยังคงหัวเราจนหายใจแทบไม่ออก แต่ ทันใดนั้นนึกถึงเรื่องที่หวงหยืนหยูนนัดฉันไปช็อปปิ้ง แล้วมอง เสื้อผ้าตัวเองที่ใส่อยู่ ตอนที่ออกจากบ้านมาก็ไม่ได้เอาเสื้อผ้า อะไรมา สวมเสื้อยืดยาดๆ แบบนี้แล้วจะไปเดทสละโสดได้ อย่างไร ดังนั้นฉันตัดสินใจว่าจะซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองก่อนสองตัว จัดการแมทช์สามารถได้ผลลัพธ์สองเท่า โดยใช้ความพยายาม เพียงครั้งเดียว
ในที่สุดถึงเวลาพักกลางวันแล้ว ฉันออกไปตรงประตูโรงเรียน แล้วก็ไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้เคียง ไปยูนิโคล่เพื่อซื้อเสื้อเชิ้ต แขนสั้นสองตัวและกางเกงสีกากีอีกสองตัว ฉันดูการแมทช์ชุดนี้ จากอินเตอร์เน็ต มะนค่อนข้างมีเสน่ห์แต่ว่าคำนี้นั้นคงจะไม่ค่อย เหมาะกับฉันสักเท่าไหร่ การใส่เสื้อผ้าดีๆนั้นไม่เพียงแสดงว่าฉัน สนใจหวังหยินหยูนขนาดไหน กล่าวว่าสาวน้อยยังสนใจในเรื่อง นี้
หลังจากชำระเงินเสร็จ ฉันก็เตรียมลงไปซื้อข้าวอบหม้อดิน กลับบ้าน ก็เห็นหวางเพิ่งฉีกับชายวัยกลางคนนั้นจูงมือเดิน เข้าไปในร้านเสื้อผ้าพอดี ด้วยความทันใดนั้นอยากรู้อยากเห็น คุณพ่อพาลูกสาวมาซื้อเสื้อผ้า ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
ฉันค่อยๆเดินช้าๆเข้าไปในร้านเสื้อผ้านั้น เมื่อเข้าไปพนักงาน ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา”พ่อหนุ่ม สวัสดีคุณต้องการซื้อชุดชั้นใน แบบไหนให้แฟนสาวคะ!”
เมื่อฉันพยักหน้าก็พบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าแถวชุดชั้นในที่มี รสนิยม ทันใดนั้นหน้าแดงขึ้นมาทันที ตอนที่เห็นเขาถือแว่นตา มองฉัน ฉันสูดหายใจเข้าลึกไป พูดอย่างอายๆว่า”ธรรมดา หน่อยก็ได้”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ