PlayBoy ผมเป็นเพลย์บอย

บทที่16 ปัญหารุมเร้าเข้ามา



บทที่16 ปัญหารุมเร้าเข้ามา

“เสี่ยวเหวิน เจ็บอีกแล้วใช่ไหม! พี่หยิ่งมองฉันด้วยใบหน้าที่ อ่อนโยน พยุงพาฉันไปที่เตียง

“ฉันไม่เป็นไร พี่หยิ่ง พี่ก็ไม่เป็นไรใช่ไหม” ฉันมองพี่ก่อนจะ ตอบกลับไป โดยเฉพาะรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วประทับบนใบหน้า ของเธอ แอบตกใจเล็กน้อย สำหรับสิ่งที่ผู้หญิงผมทองกล่าว ก็ เกิดความสงสัย

“ฉันไม่เป็นไร แต่ต้องมาเหนื่อยเธออีกแล้ว” พี่หยิ่งพูด พลาง มองฉันใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ ดวงตามอง อย่างลึกซึ้ง

“ฉันคิดไม่ถึงเลย ว่าเรื่องนี้ก็ผ่านมานานแล้ว แต่เธอก็ยังคง

ตามมา”

ฉันทำหน้าสงสัยก่อนจะมองเขา ในใจฉันมันลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะถามคำถามที่ฉันสงสัยออกไปว่า “พี่หยิ่ง พี่บอกกับฉันได้ ไหม เรื่องนี้มันคืออะไรกันแน่”

“! เรื่องนี้พูดออกมามันก็ยาว” ฉันเห็นสีหน้าของพี่หยิ่ง เปลี่ยนเล็กน้อยอย่างชัดเจน มองฉันแล้วถอนหายใจยาว

“ไม่มีอะไร ก็คิดซะว่าพูดให้ครอบครัวฟังเถอะไม่มีใครก้าว ข้ามผ่านมันไปไม่ได้หรอก” ฉันมองพี่หญิงก่อนจะปลอบ

ด้านหนึ่งฉันก็สนใจเรื่องนี้ ส่วนอีกด้านของเรื่องนี้ฉันเองก็ไม่เข้าใจ มันทําให้ใจฉันอยากรู้อยากเห็น

“โอเค”พี่หยิ่ง ถอนหายใจมองฉัน ที่จริงแล้วเรื่องนี้ต้องเริ่มพูด จากหนึ่งปีก่อน ตอนนั้นฉันกับซานจีเพิ่งจะคบกัน เวลานั้น เธอก็ ทะเลาะกันมาแล้ว ซานมักจะอธิบายว่าเป็นแฟนเก่า และความ สัมพันธ์ของเขาทั้งสองคบกันได้ไม่นานก็เป็นอันต้องเลิกลาไป ผู้ หญิงคนนั้นก็มาวุ่นวาย ต้องการเกาะเขาไม่ปล่อย

“พี่มั่นใจเหรอ? “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของพี่หยิ่ง แต่ทว่า ผู้ชายเป็นพวกชอบเปลี่ยนสาวเป็นว่าเล่น และไม่ใช่แค่ครั้งสอง ครั้งด้วย จึงทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยและไม่เชื่ออย่างง่ายๆ

“ฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจ”ทันใดนั้นพี่หยิ่งก็พูดอย่างคับข้องใจ “เธอเองก็เห็นทั้งหมดแล้ว จนกระทั่งวันนี้ เธอยังมาหาเรื่องฉัน ถึงที่ แล้วบอกว่าฉันล่อลวงผู้ชายของเธอ

พี่หยิ่งพูดประโยคนั้นจบ ทันใดนั้นก็ร้องไห้โฮออกมา เดาว่า คงจะเป็นเพราะความไม่สบายใจที่อัดอั้นอยู่ในใจ ตอนนี้ฉันทำ หน้าที่เป็นที่การระบายอารมณ์

ด้วยความรู้สึกสงสารผู้หญิงด้วยกันเองที่มีมาแต่กำเนิด จึงตบ หลังเธอเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “พี่หยิ่งหรือว่าเรื่องพวกนี้พี่ ยังไม่เคยถามพี่ซาน

เธอปกปิดใบหน้าพลางส่ายหัว “ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนเด็กคนนี้ ไม่ได้เป็นแบบนี้ ปัจจุบันเธอย้อมผมสีทอง จะไปต่างอะไรกับผู้ หญิงที่เป็นไปวันๆกันเล่า !

อย่าถอนหายใจเลยพี่หยิ่ง “ฉันรู้ว่าพี่หญิงก็ใจอ่อนแบบนี้ทั้งๆที่เพิ่งจะถูกตบไป ตอนนี้ไม่ใช่แค่ให้อภัย แต่กลับเป็นห่วง เป็นใยคนนั้นอีกด้วย

“เสี่ยวเหวิน ขอบคุณที่เป็นห่วง

“นี่เรื่องเล็ก ถ้าหลังจากนี้ผู้หญิงคนนั้นยังกล้ามา ฉันจะเป็นคน แก้แค้นแทนพี่เอง

“เธอยังเป็นเด็กที่เรียนหนังสือ ! อย่าออกไปมีเรื่องอะไรข้าง นอกเลย” เธอพูดๆอยู่ จู่ๆ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงสะอื้นออกมา “ตอนที่ฉันเรียนหนังสืออยู่เกรดก็ดีไม่ใช่น้อย น่าเสียดาย พ่อ ผิดใจกับพวกมาเฟีย

วันๆถูกคนไล่ฆ่า แม้กระทั่งฉันเองก็พลอยซวยไปด้วย แถมใน บ้านยังมีน้องชายอีกสองคน ฉันจะไม่นึกถึงพวกเขาเลยก็ไม่ได้

“พี่หยิ่งงั้นพี่เสียใจในภายหลังไหม? ” เมื่อได้ฟังดังนั้นฉันก็

รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะการตัดสินใจทำแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

เลยทีเดียว

“เสียดายสิ ทำไมจะไม่เสียดาย” พี่หยิ่งมองฉันก่อนจะปรากฏ รอยยิ้มจางๆออกมา “แต่ถ้าให้ฉันเลือกอีกรอบ ฉันก็ยังคงตัดสิน ใจทําแบบนี้”

ฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจสั่นไหวเล็กน้อย มุมมองที่มีต่อพี่หยิ่ง ค่อยๆเปลี่ยนอย่างช้าๆ อันที่จริงฉันก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเขา แค่คราวข่าวของเมื่อคืน ฉันกลัวพวกเขาจะมาพังห้องจริงๆ

“พี่หยิ่ง ชีวิตของพี่นี่ไม่ง่ายจริงๆ” ในใจของฉันชื่นชมเธอมากๆ

หางตาพี่หยิ่งเต็มไปด้วยน้ำตา “ไม่มีอะไรที่ลำบากหรอก เดี๋ยวก็ค่อยๆชินไปเอง

กำลังพูดถึงประโยคนี้ มีเงาพุ่งเข้ามาในห้องของฉัน ดวงตาของฉันเบิกกว้าง ก่อนที่ฉันจะพบว่าคอเสื้อของฉันถูกดึง ขึ้นมา หน้าอกที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว พอเป็นแบบนี้ยิ่งเจ็บเข้าไปใหญ่

* บ้าเอ๊ย คุณทำอะไรเนี่ย! ” เมื่อฉันถูกต่อยไปหนึ่งหมัด ฉัน เพิ่งตระหนักว่า ตรงหน้าคือผู้ชายที่ถึงแม้ว่าจะสูงผอม แต่พละ กำลังกลับไม่ธรรมดาอย่างมาก ตอนนี้มุมปากของฉันมีกลิ่นของ เลือด ฉันจึงถ่มน้ำลายลงพื้น และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ว่าปากของ ฉันถูกย้อมไปด้วยสีเลือด

“ซานจีคุณทำอะไร” หลังจากฉันถูกต่อย พี่หยิ่งถึงจะดึงสติตัว เองมาได้ ก่อนจะดึงหมัดของชายคนนั้น และในเวลานั้นเองฉัน ถึงได้รู้ว่านี่คือพี่ซานจีที่ทะเลาะกันมานาน

“บ้าเอ๊ย! เขากล้ามาดึงเธอแบบนั้นเหรอ ต้องข้ามศพฉันไป ก่อน ฉันจะบอกเธอให้นะหลินหยิ่ง ถ้าวันนี้ฉันไม่ฆ่าเขา ก็อย่ามา เรียกฉันว่าซานจี” ฉันเห็นดวงไฟลุกออกมาจากตาเขา ฉันรู้ว่าตัว เองถูกเข้าใจผิดแล้ว และยังถูกคิดว่าเป็นสามีของพี่หยิ่งไปเสีย แล้ว เมื่อก้มมองดู เสื้อผ้าที่ฉันสวมอยู่ดูไม่เรียบร้อย ราวกับว่า เพิ่งจะไปทำอะไรกันมา พอนึกถึงประโยคนั้นก็อดไม่ได้ที่จะ เกลียด เพราะในเมื่อเขาจะเข้าใจผิด ก็เข้าใจผิดสุดๆไปเลย

“ซาน คุณทำอะไร เขาคือลูกพี่ลูกน้องของฉัน!” ไม่รู้ว่าทำไมพี่หญิงถึงบุ่มบ่ามพูดประโยคนี้ขึ้นมา แต่ชานยอมยั้งมือ “ลูกพี่ลูกน้อง? คุณมีลูกพี่ลูกน้องที่ไหน ทำไมผมไม่รู้

“คือลูกของลุงกับป้าฉัน เขาชื่อหลัวจื้อเหวิน คุณน่าจะพอคุ้นๆ อยู่บ้างนะ! ”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่หยิ่ง ฉันก็เริ่มเชื่อขึ้น มาเล็กน้อย พยายามคิดทบทวนดู ฉันคงไม่ได้เป็นญาติอะไรของ พี่หยิ่งจริงๆ ใช่ไหม!

ฉันตบตัวเบาๆทันที พลางพึมพำกับตัวเอง โถ่! หลัวจื้อเหวิน เธอนี่มันทิ่มจริงๆเลยนะ

“ลูกของลุงกับป้า? ” ฉันจ้องพี่ซานที่ทำหน้างุนงง เพราะไม่ เคยได้ยินเสียงเย็นชาของพี่หยิ่ง เขาก็พูดทันที “พอจำได้ พอจะ จําได้บ้าง เขาเป็นลูกของป้าไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ข้าง ห้องของเราได้ล่ะ!

“พ่อแม่ของเขาทะเลาะกัน แล้วโรงเรียนอยู่ละแวกนี้ ดังนั้นตัว เขาเองย้ายมาอยู่ ก็เลยบังเอิญมาอยู่แถวๆห้องเราพอดีเลย” พี่ หยิ่งจ้องตาพี่ซานจี “คุณดูร่างกายของเขามีบาดแผลขนาดนั้น แล้ว ยังจะลงมือหนักอีก! ”

เมื่อได้ยินคำตำหนิ ใจฉันก็แอบสั่นกลัว ที่จริงพี่หยิ่งก็เป็นผู้ หญิงที่มีคำพูดที่น่าเชื่อถือ แม้แต่การพูดก็ทำให้ใครต่อใครรู้สึก เกรงกลัวได้

“น้องชาย พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ไม่เห็นบาดแผลของคุณ แถมคุณทั้งสองท่าแบบนั้นพอดี เป็นใครใครก็โกรธ!

“ซานจี! คุณพูดอะไรเนี่ย! เธอเริ่มโกรธขึ้นมานิดหน่อย เพราะเมื่อได้ฟังคำอธิบายของพี่ซาน แล้วก็รู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย

แต่ลองคิดดูจากอีกมุม ถ้าเป็นฉันถูกคนอื่นสงสัย ก็คงจะรู้สึก ไม่สบายใจ แต่ฉันคงจะเลือกที่จะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของ ทั้งสองคนดีกว่า ฉันยิ้มไปทางพี่ซาน (แน่นอนว่ารอยยิ้มนั้น เป็นการฝืนยิ้ม) “พี่ซาน ฉันไม่เป็นไร” ชั่วพริบตาเดียวก็หันไป จับแขนของพี่หยิ่ง ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ พี่ก็อย่า นําหนิ ซานเลย”

“ฮึ! “พี่หยิ่งส่งเสียงอย่างเย็นชา ก่อนจะเบือนหน้าหนี

“น้องชาย ฉันผิดไปแล้วจริงๆ” ขณะพูดก็เอามือเข้าไปค้นหา ในกระเป๋ากางเกง เมื่อฉันเห็นสิ่งของสี่เหลี่ยมๆที่ออกมาจาก กระเป๋าของเขา ก็พลันปรากฏรอยยิ้มและความชื่นชมขึ้น พี่ซาน นี้ไม่เลวเลย หยิบของแบบนี้ออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้วย เขา คงมีความต้องการที่ไม่ธรรมดาเลยล่ะ

“พี่ซานจี นี่คืออะไร? ” ฉันแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจมองและถาม เขา โดยเฉพาะเวลานี้ฉันแกล้งทำตาใส ทำเหมือนตัวเองเป็นเด็ก ที่ไม่รู้อะไร

“ซานจีคุณ! คุณไปทำอะไรลับหลังฉันอีกล่ะ? ” พี่หยิ่งโมโหดึง หมอนจากบนเตียงของฉันทุบไป แต่พี่ซานรับหมอนในมือได้ ทันควัน”

“ที่รัก คุณอย่าโกรธไปเลย ของนี่คือผมเอาไว้ในกระเป๋าเองกับมือเมื่อคืน ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ ไม่เชื่อคุณก็ตรวจส “พี่ ซานจีเปลี่ยนเป็นเด็กที่เชื่อฟังทันที ยิ่งไปกว่านั้นทำตัวเองเผชิญ หน้า ทำเอาฉันเอือมระอา คนอะไรเปลี่ยนได้ไวเช่นนี้นะ

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ ฉันจึงพูดออกไปด้วยความโกรธ “พี่หยิ่ง ฉันรู้สึกว่า พี่ซาน คงไม่ใช่คนแบบนั้น น่าจะไม่ทันระวัง ของ วางไว้ในกระเป๋าสตางค์”

“ใช่แล้ว น้องชายพูดถูก!” พี่ซานได้คว้าฟางเส้นสุดท้ายเพื่อ ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้อย่างซาบซึ้งใจ

“ฮี คืนนี้คุณไม่ต้องกลับไปนอนที่ห้องเลย ไม่ใช่แค่ทำน้องชาย

ฉันแบบนั้น แต่ยังคิดทำเรื่องไม่ดีอีก”

“นี่คือ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ในขณะที่พูดพี่ซานจีหยิบเงินจาก กระเป๋าของเขาออกมาสองร้อยหยวนอย่างรวดเร็วแล้วมอบให้ ฉัน “โหรวเหวินน้องชาย ถือว่าพี่เขยให้เงินชดเชยก็แล้วกัน อย่า โกรธแค้นพี่เลยนะ”

“ใครบอกว่าคุณเป็นพี่เขย เสี่ยวเหวินอย่าไปฟังคนสารเลว! ขณะพูดพี่หยิ่งก็รีบเปิดประตูแล้วเดินออกไป ทันทีหลังจากนั้นฉัน ได้ยินห้องข้างปิดประตูเสียงดังครืนครั่นสะท้อนมา จนหน้าต่าง ด้านข้างก็พลางสั่นไปด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ