PlayBoy ผมเป็นเพลย์บอย

บทที่19 ลูกพี่ลูกน้องของซาน



บทที่19 ลูกพี่ลูกน้องของซาน

ในขณะที่ร่างของฉันกระโดดมาหวางเพิ่งเข้ามาประคองฉัน ด้วยความบังเอิญ ไม่อย่างนั้นฉันคงล้มไม่เป็นท่าแน่ๆ “ เพิ่งฉี ” ทันใดนั้นเสียงของผู้ชายวัยกลางคนก็ดังขึ้น ฉันมอง ”

ไปยังชายวัยกลางคนผู้นั้นที่ยืนอยู่กลางลานบ้านกำลังกวักมือ

เรียกหวางเมิ่งฉี

“เฮ้ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” หวางเมิ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ย้ายเก้าอี้กลับเข้าห้อง พลางมองฉันแล้วพูดว่า “หลัวจื้อเหวินคุณ ลงไปลองเคเบิลเถอะ ”

” ได้ วันนี้ขอบคุณคุณจริงๆ ” ฉันมองหวางเพิ่งฉีทันใดนั้นก็ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

เมื่อหันหลังกลับไปมองชายกลางคนคนนั้นเดินขึ้นมาอย่างที่ คิดไว้จริงๆ ฉันถือเคเบิลเดินลงไป ตอนที่จะลงไปฉันได้ยินเสียง ของผู้ชายคนนั้น

“เมิ่ง ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร คุณเป็นอะไรกับเขา ” เมื่อ ได้ยินเช่นนั้นจิตใต้สำนึกก็สั่งให้ฉันหยุดฝีเท้า ในใจของฉัน อยากรู้ว่าหวางเมิ่งฉี มองฉันเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ด้าน เดียวก็ตาม แต่สำหรับการประเมินค่าของหญิงสาวสวยนี้ฉัน สนใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“คือเพื่อนบ้านชั้นล่างที่เพิ่งย้ายเข้ามา เมื่อสักครู่เขามายืมม้านั่งไปต่อเคเบิลก็เท่านั้น คุณคิดว่าเขาเป็นอะไร ก็แค่นักเรียนที่ เรียนอยู่ละแวกนี้ก็เท่านั้น ”

เมื่อฟังถึงบทสนทนาของสองคนนั้นฉันก็ไม่อยากที่จะฟังมันอีก แต่ชายกลางคนคนนั้นอาจจะเป็นพ่อของหวางเพิ่งถ้าไม่อย่าง นั้นคงไม่ก้าวก่ายหญิงสาวขนาดนั้น แต่เรื่องพวกนี้มันก็ไม่ได้ เกี่ยวกับฉัน

คนเขาอาจมีแฟนก็ได้ สำหรับเรื่องการแย่งคนรักจากคนอื่น ฉันไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่

เมื่อกลับมาถึงห้องฉันเชื่อมอินเตอร์เน็ตเสร็จ ด้วยความอยาก รู้อยากเห็น ฉันจึงเปิดคลังหนังขึ้นมาดู ฉันรู้สึกว่าได้ย้อนกลับไป อีกครั้ง เพราะไม่เจอกันนานเลยอาโออิ ส่วนยูอิ ฮาตาโนะกลับ มาแล้ว

ในนี้มีเรื่องคลาสสิกหลายเรื่อง แถมยังมีเรื่องแปลกใหม่อีก ด้วย

ฉันใดนั้นฉันหยิบม้วนกระดาษชำระมาไว้ข้างมือ ความฮึกเหิม ของสองสามวันก่อนก็ค่อยๆปล่อยออกมาในขณะที่ภาพยนต์ ดาเนินไป…………

ฉันนอนจนมาถึงวันที่สอง เมื่อฉันเห็นอาจารย์หลวส่งข้อความ มาหาฉัน ในโทรศัพท์

ยืดเส้นยืดสายแขนขาทั้งสี่มุมปากยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ แผล ก็ดูดีขึ้นแล้ว ไปโรงเรียนได้แล้ว
เมื่อดูเวลาตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว ฉันอาบน้ำเสร็จก็ ออกไป ตอนที่เปิดประตู พี่หญิงก็มายืนที่หน้าประตูพอดี

“เสี่ยวเหวิน คุณจะไปไหน?

“ฉันจะไปโรงเรียน อาจารย์หลวส่งข้อความมาหาฉันแล้ว เอ่อ ใช่แล้ว พี่หยิ่งคุณมีธุระอะไรหรอ?

พี่หยิ่งที่ยืนหน้าประตูตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ไม่ปล่อยให้ฉัน แปลกใจเลยสักนิด ฉันเดาว่าอาจเป็นเรื่องของพี่ชานเมื่อวาน แน่ๆ”

“ถ้างั้นไม่มีอะไรหรอก เมื่อวานอาจารย์หลิวยังโทรมาถามว่า แผลคุณเป็นอย่างไรบ้าง ฉันบอกว่าเดี๋ยววันนี้มาดู ถ้าไม่มีอะไรก็ ไปโรงเรียนเถอะ”

“พี่หยิ่งงั้นทำไมคุณไม่ให้ฉันโทรหาล่ะ ทำให้คุณลำบากแต่ เช้า” ตั้งแต่หลังจากฉันมีคอมพิวเตอร์กลางคืนก็ใส่แต่หูฟังนอน ฉันไม่ได้ยินอะไรเลย ” ฉันยังไม่ได้บันทึกเบอร์คุณเลย!” พี่หยิ่ง พูดออกมาโดยที่ทำตัวไม่ถูก พลางที่มาทีหัวฉันที่หนึ่ง

“พี่หยิ่ง ฉันบันทึกเบอร์พี่ ถ้าให้สะดวกก็เพิ่มเพื่อนในวีแช ทด้วยเลยละกัน” พูดตรงๆก็คือ คืนที่ฉันเจ็บกลับมาความ สัมพันธ์ของฉันกับเธอก็เพิ่งจะเริ่มพัฒนา แถมยังได้ลูกพี่ลูกน้อง เพิ่มมาอย่างงงๆอีกด้วย

” โอเค”

“งั้น ฉันไปแล้วนะ” ฉันบอกลา แล้วเตรียมไปโรงเรียน อีกไม่นานก็จะจบแล้ว

บนถนนฉันกดแชทของพี่หยิ่งดู โปรไฟล์นั้นสะดุดตาอยู่ไม่ น้อย แต่ส่วนใหญ่ โปรไฟล์ก็ยังมีรูปของเขาและพี่ซานจีถ่ายด้วย กัน เห็นรูปของทั้งสองคนที่แสดงความรักกันแล้ว ฉันก็รู้สึกกลุ้ม ใจอีกครั้งน่าเวทนากูน่าสงสารที่ยังคงโสดอยู่

เมื่อตอนที่ใกล้จะถึงประตูโรงเรียน ฉันบังเอิญพบกับหวงหยู นหยูน เธอเพิ่งจะลงจากรถเห็นเธอเร่งฝีเท้าก้าวเข้ามาหา “หลว จื้อเหวิน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ทำไมไม่พักอีกสักหน่อย

“ฉันไม่เป็นไร ” พร้อมกับยิ้มให้เขา “หวงหยุนหน คุณรู้ได้ยัง

ไงว่าฉันไม่ได้มาเรียน เป็นห่วงฉันขนาดนี้ แอบรักฉันหรอ”

“คุณ จริงจังหน่อย คุณไม่เป็นไรจริงๆ หรือว่าแกล้งเนี่ย อย่ามา โอ้อวด วันนั้นหมอบอกว่าพักอย่างน้อยสองสัปดาห์นะ!”

เห็นหวงหยุนหนูนเป็นห่วงฉันขนาดนี้ ฉันก็ตื้นตันใจขึ้นมา คือท่าทีธรรมดาของดาวโรงเรียนที่เข้ากับคนง่ายอย่างคาดไม่ถึง ฉันมองเธอแล้วยิ้ม “ฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ดูสิ นี่แข็งแรงแล้ว” ฉันจงใจหมุนตัวให้เธอดู

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว คุณต้องพักเยอะๆ” หวงหยินหยุนหยุด พูดเหมือนกับเห็นอะไรบางอย่างเข้า ทันใดนั้นก็มองมาที่ฉันแล้ว พูดว่า “พวกเรารีบเดินเถอะ อย่าหันไปนะ”

“ทำไมหล่ะ?” ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันหันกลับไป ท่าทางของหวงหยืนหยูนเมื่อสักครู่นี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจ
เมื่อฉันหันกลับไปก็เห็นจางเทียนรีบวิ่งไป แต่ในหัวก็คิดถึงคำ ที่พี่ชานจีพูดขึ้นมา

ในเมื่อเขาพูดว่าจัดการพวกของจางเทียนแล้ว งั้นคงไม่เป็นไร หรอก แต่ตอนที่เดิมมาเจอจางเทียนใจฉันยังคงตื่นเต้นอยู่เล็ก น้อย ข้างๆจางเทียนมีคนร่างเล็กผิวคล้ำเดินมามองที่ฉันแล้ว พูดกับฉันอย่างหยาบคายว่า “หลัวจื้อเหวิน แกยังกล้ามา โรงเรียนอีกหรอ?”

“ไอ้บ้าน แกพูดกับพี่หลัวว่าอย่างไรนะ” ทันใดนั้นจางเทียนก็ เตะไปที่ร่างเล็กผิวคล้ำอย่างไม่เบาเลย จนคนนั้นลงไปหมอบอยู่ กับพื้น “พี่ใหญ่ พี่ทำอะไร?”

“แกไม่รู้จักพี่หลัว แต่นี่คือน้องของพี่ซาน ตาของพวกแกยาว ไปถึงไหน ครั้งที่แล้วยังกล้าแตะต้องพี่หลัวโดยไม่คิดอีก”

ได้ยินจางเทียนเรียกว่าพี่หลัวแล้ว ฉันก็รู้สึกเอือมขึ้นมา คิดไป

ถึงเมื่อก่อนยังถูกพวกเขาเรียกเที่ยวมาเที่ยวไป ตอนนี้เรียกฉันว่า

พี่หลัวอย่างเคารพนพน้อม ฉันเองก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่

“ยังไม่ขอโทษพี่หลัวอีก” จางเทียนตะโกนลั่น มองมาที่ฉันแล้ว ก็ยิ้ม”พี่หลัวพวกเรามีตาหามีแววไม่ ก่อนหน้าไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ เจ็บตัว ตอนนี้พี่จะลงโทษอะไรอย่างไรก็ได้แล้วแต่พี่เลย….”

“หลัวจื้อเหวิน ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรนะ?” หวงหยินหยุน ดกับฉัน หน้าตาที่งงงวย “บางทีพี่เขยฉันสั่งสอนพวกคุณได้ แต่ รายละเอียดฉันยังไม่แน่ใจสักเท่าไหร่”

“โอ้ยยย แค่ตราบใดที่พวกเจ้าไม่มารังควานก็ดีแล้ว”
“ฉันจะลงโทษอย่างไรก็ได้จริงหรือ? ” ฉันมองจางเทียนพวก เขายิ้ม นึกในใจพวกนี้ทำกับฉันอย่างไร ฉันก็จะทำอย่างนั้นกลับ

“แน่นอน ขอแค่พี่หลัวมีความสุข ได้ทั้งนั้น ” จางเทียนยิ้มให้ ฉัน แต่จะว่าไปยิ้มของเขาดูทุเรศกว่าร้องไห้ซะอีก แต่ฉันกลับมี ความสุขที่ได้เห็นฉากนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมองแว๊บเดียวก็ดูออกว่า หวงหยุนหนไม่รังเกียจเหตุการณ์นี้

อย่างไรก็ตามเวลานี้ดูเหมือนจะไม่ดีนัก เสียงกระดิ่งเข้าเรียน ดังขึ้น ฉันมองพวกเขาหัวเราะพลางพูดว่า “บทลงโทษตอนนี้ฉัน ยังไม่ได้คิด ไว้คิดออกค่อยพูดแล้วกัน”

“ได้ ได้ ได้ ” จางเทียนพูดกับสุนัขรับใช้ว่า “ยังไม่รีบขอบคุณ พี่หลังอีก”

“ขอบคุณพี่หลัว ขอบคุณพี่หลัวจริงๆ

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาในโรงเรียนไม่น้อย เดาได้ว่ามีหลายคนที่ ต้องการอยากดูละครฉากนี้ แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงเห็นสายตาที่ประหลาดใจของคนที่เดินผ่าน ในที่สุด จางเทียนก็เรียกฉันว่าพี่หลัว แน่นอนเรื่องนี้สุดท้ายก็แพร่สะพัด ไปทั้งโรงเรียน แต่ก็แพร่สะพัดไปหลายแบบบ้างก็ว่าครอบครัว ฉันกลายเป็นเศรษฐีใหม่เลยได้รับการดูแลจากอาจารย์ บ้างก็ บอกว่าฉันเข้าไปอยู่ในสังคมอิทธิพลมืด ไปจนถึงพี่ซานที่เป็นหัว หน้าแก๊งมาเฟีย ครั้งนี้ทำให้จางเทียนย่อยยับในปี

ฉันกลับมาที่ห้องเรียน ได้ยินเสียงพูดคุยกันยังไม่หมดไป ฉันที่ เพิ่งนั่งลงเสี่ยงผ้างก็มาดึงมุมเสื้อฉัน “เสี่ยวเหวิน ที่พวกเขาพูดกันในห้องนะ มั้ย

“คุณพูดเรื่องอะไร?” ฉันพูดเสร็จเป็นไม่เรื่อง

“ก็คุณถูกเรียกว่า หลัวนะ เสี่ยวเหวินไม่ถึงเลย ตอนนี้ คุณไม่เลวเลย เมื่อจางเทียนเรียกคุณพี่หลัง คุณรีบเล่าฉันละเอียดคำพวกนั้นฉันกลัว

อะไรเชื่อ มองเสียวยิ้มพลางพูดว่า จากนี้คุณอยู่หอต้องกลัว เขานะ มีอะไรก็บอกฉันได้

“โอเค งั้นฉันขอบคุณไว้ก่อน”

เสี่ยวผ้างเคยช่วยไว้ แต่ จางเทียนความสำนึกของพวกเขา ฉันเพียงแต่ว่ายังคงยืนยันที่แกล้งคนที่อ่อนแอกว่า หากว่า กลัวซาน ลงโทษอาจเป็นไปได้

ทันใดนั้นในหัวฉันก็อุปทานห้าหกคนนั้นยืนอยู่ให้จัดการ มันจะเป็นอย่างไรกันนะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ