บทที่ 16 ประชุมครอบครัว
บทที่ 16ประชุมครอบครัว
เฉียวสวนโส้ ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วปล่อยมือจากหน้าเธอ พร้อมกับสะบัดมืออีกข้างอย่างแรง เขาเคลื่อนไหวอย่าง รุนแรง และโยน ป้ายโร่ซีไปบนพื้น
ป้ายโรซี ทรุดนั่งลงไปบนพื้นทั้งตัว เช็ดมือทั้งสองข้าง อย่างเงอะงะบนพื้นที่เย็นและเปียก ความเจ็บปวดจาก การฉีกขาดส่งผ่านจากฝ่ามือและปลายนิ้วไปถึงหัวใจ แล่นผ่านแขนขาทั่วทั้งตัว
น้ำตาเจ้ากรรมกลั้นไว้ไม่อยู่ ชั่วพริบตาเดียวก็ไหลออก มา หยดลงบนแก้ม
กางเกงเปียกชุ่มแล้ว อากาศหนาวเย็นทําให้เธอเหมือน ตกลงไปในห้องน้ำแข็งใต้ดิน เจ็บปวดราวกับมีหนอนพิษ นับพันล้านตัวค่อยๆกัดกินหัวใจทีละนิด
เธอเจ็บปวดเกินกว่าจะขยับได้
น้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกดังขึ้นเหนือหน้าผากของเธอ เหมือนใบมีดแหลมคมทิ่มแทงเข้าไปในใจที่แตกสลาย ของเธอ
“ผู้หญิงอย่างเธอไม่เคยรักษาสัญญามาแต่ไหนแต่ไร และยิ่งไม่เคยพูดความจริง ถ้ายังกล้าเอาคำพูดฉันเป็น เรื่องไร้สาระ ฉันจะทำให้เธอกลายเป็นเศษขยะ”
ปล่อยคำพูดที่ไร้ความรู้สึกออกมาแล้ว ชายหนุ่มก็หมุน ตัวจากไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ได้ยินฝีเท้าไกลออกไปแล้ว ป่ายโร่ซี ใช้ฝ่ามือพยุงตัว ลุกขึ้นช้าๆ ฝ่ามือทั้งสองข้างหนังถลอก เลือดไหลออกมา ผสมกับทราย ความเจ็บปวดเข้าไปในหัวใจ
เธอไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่มือของเธอ ดวงตาที่มี น้ำตาพร่ามัวมองไปทางเฉียวสวนโส้ เดินไกลออกไป
แผ่นหลังที่เย็นยะเยือกยังคงดูห่างเหิน หมอกทำให้การ มองเห็นของเธอพร่ามัว จนไม่สามารถบอกว่าเป็นน้ำตา หรือฝน
เขาบอกว่าเธอไม่รักษาสัญญา? แล้วเขาเคยรักษา สัญญาที่ไหนกัน?
ในตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาสาบานว่าจะปกป้องเธอตลอด ชีวิต พี่สามที่ไม่ยอมให้เธอต้องได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กลับ ทำร้ายเธออย่างล้ำลึก ให้เจ็บปวดที่สุด
ฝนยังไม่หยุดตก และตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ท้องฟ้ายังไม่สว่าง ยิ่งมืดลงเรื่อยๆ ราวกับว่าจะถล่มลง
มา และทั่วทั้งพื้นที่ก็หม่นหมองมากขึ้น…
อารมณ์ของป่ายโร่ซีแย่ยิ่งกว่าสภาพอากาศ เธอนั่ง แท็กซี่กลับไปที่บ้านตระกูลเฉียว
ไม่มีแม่อยู่ข้างกายแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะไปหาอ้อมกอดใคร เพื่อปลอบประโลมใจ ทำได้เพียงแค่ถึง บ้านตระกูลเฉียว ก็ซ่อนตัวเลียผลอยู่ในห้องคนเดียว
ในตอนเย็น หลังจากที่แม่บุญธรรมของเธอหลิวเยว่โทร มา ในใจของเธอก็สับสน เธอไม่คิดที่จะสนใจหลิวเยว่แต่ รู้ว่าหล่อนจะต้องวิจารณ์เธออีกครั้ง แล้วหลังจากนั้นเธอ ต้องรับผิดชอบการติดคุกของป่ายซานซาน
โทษจําคุกของ ซานซาน ตั้งแต่ 45 วันไปจนถึงครึ่งปี นี่ เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึง
หลิวเยว่ เอาความผิดทั้งหมดนี้มาใส่ตัวเธอ แล้วตะโกน ด่าอย่างหยาบคายและรุนแรงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นคำ เตือนถึงภัยคุกคามจึงทำให้หล่อนสงบลง
เธอนอนคว่ำอยู่บนเตียง เหมือนร่างศพที่เดินได้ แต่ไม่มี วิญญาณ ไม่หัวใจ รับฟังการล่วงเกินทางวาจาของอีก ฝ่ายได้เรื่อยๆโดยไม่มีปัญหาใดๆจนจบ กระทั่งอีกฝ่ายด่า จนเหนื่อยและวางหูไปเอง
ลมหนาวพัดเข้ามาจากระเบียง และด้านนอกฝนก็ยังไม่
หยุดตก
“ก๊อกก๊อก”
เสียงดังขึ้นที่ประตู
ป่ายโร่ชี ไม่ขยับตัวเลย
“ก๊อกก๊อก…
รออยู่นานมาก ป่ายโร่ซีก็ยังไม่ขยับตัว ประตูได้เปิดออก ที่ปากประตูมีเสียงป่าชิว ดังขึ้น “คุณโร่ซี คะ คุณโร่ซี…”
ป้าชิวเข้ามา และอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น รีบเดินเข้าไปหา แล้วกระซิบอย่างกังวลใจ : “พระเจ้าช่วย คุณโร่ซีคุณไม่ หนาวเหรอคะ? ที่ระเบียงลมพัดแรงมาก ข้างนอกฝนก็ตก ด้วย คุณยังไม่ปิดหน้าต่างอีก…”
ป้าชิว บ่นพร้อมกับปิดหน้าต่างระเบียงลง และปิดผ้าม่าน หน้าต่างด้านข้าง หันกลับไปก็พบว่าป้ายโรซี ยังคงนอน นิ่งไม่ขยับตัวอยู่บนเตียง
ป้าชิว วิ่งไปที่ขอบเตียงด้วยความกังวลใจ เมื่อก้มหน้ามองใบหน้าของเธอ พบว่าดวงตาของป่ายโร่ซี หมองคล้ำ และเต็มไปด้วยน้ำตา ดูไม่มีความสุข : “คุณโร่ คุณโอ เคหรือเปล่าคะ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
ป้ายโร่ซี หลับตาลงช้าๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
ป้าป๋ว พูดว่า : “คุณโร่ซี ถ้าหากไม่ได้ไม่สบายตรงส่วน ไหน อย่างนั้นแล้วเชิญไปที่เป่ยย่วน ด้วยค่ะ ท่านปู่(คุณปู่ เฉียว)ขอเชิญ”
ป้ายโร่ สูดหายใจลึก พอได้ยินคำว่านายท่านสองคำนี้ ก็ขยับมือ ทันใดนั้นป่าชิวก็กรีดร้องอย่างตกใจแล้วจับมือ ของป่ายโร่ซี : “ตายแล้ว คุณโร่ซี ทำไมมือของคุณถึงมี เลือดออกได้ล่ะคะ?”
ป้ายโร่ซีดึงมือกลับมาแล้วพูดเบาๆว่า : “ไม่มีอะไรค่ะ”
“เสื้อผ้าของคุณก็เปียกด้วย นี่คุณ… ใบหน้าของป้าซิว เป็นกังวล
ป้ายโร่ซึ ไม่สนใจแม้แต่น้อย เธอปืนลุกขึ้นจากเตียง แล้วลากขาเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยความเหนื่อยล้าเปยย่วน
ห้องนั่งเล่นที่เหลืองอร่ามแวววาวที่มีรูปแบบโอ่อ่า อลังการนั้นแตกต่างกับ หนานย่วน ตรงที่มีความย้อนยุค มากกว่า
ในห้องเต็มไปด้วยของเก่าแก่ที่มีมูลค่ามากมายอยู่ทั่ว บริเวณ ชุดเครื่องเรือนเป็นแบบคลาสสิค มีองค์ประกอบ โบราณที่อลังการมากกว่าและมีความทันสมัยน้อยกว่า
คุณปู่เฉียว อาศัยอยู่กับลูกชายคนรอง สาเหตุเป็น เพราะว่าตอนนั้นเฉียวอี้ชวน หย่าขาดจากภรรยาแล้วหลัง จากนั้นเลือกแต่งงานใหม่กับแม่ของป้ายโร่ซี จุดนี้ทำให้ เขาโกรธมาก
ถึงแม้ว่าจะยอมรับ อันเสี่ยว และ ป่ายโร่ซี แต่ไม่ได้ แสดงว่าคุณปู่เฉียวจะเห็นด้วยกับวิธีการของลูกชายคน โต
ในห้องประชุมครอบครัวของ เป่ยย่วน
ชายที่กำลังนั่งอยู่ตรงกลางมีผมหงอกสีขาวอายุแปดสิบ ปี มีความน่าเกรงขามและสงบนิ่ง จากประสบการณ์ตาม วัยที่ผ่านมาอย่างโชกโชนทำให้มีความมั่นคง อารมณ์ที่ สูงส่งยังไม่สามารถปิดบังออร่าอันแข็งแกร่งของเขาได้
ทางด้านซ้ายคือครอบครัวของพี่ใหญ่เฉียว ชวน
มีหลานชาย : เฉียวสวนผู่ และ หยื่นยืน หลายชายคนที่ สาม : เฉี่ยวสวนโต้
ด้านขวาคือครอบครัวลูกคนที่สอง เฉียวอีให้
หลานชายคนเล็ก : เฉียวตงหลิง หลานสาวคนเล็ก : เฉียวเขียวเขียว
ทุกคนล้วนแต่นั่งเงียบรอให้คุณปู่เฉียวเอ่ยปากพูด แต่ เขายังไม่ยอมพูด
เฉียวเซียวเซียวร้อนใจแล้วถามอย่างเย็นชาว่า : “คุณ ปู่คะ ปู่ไม่ได้บอกว่าจะประชุมครอบครัวเหรอคะ? แล้ว ทำไมถึงยังไม่เริ่ม?”
“คนยังไม่ครบ” คุณปู่เฉียว ตอบกลับเสียงราบเรียบ
เฉียวเซี่ยวเซี่ยว กวาดตามองดูทุกคน แล้วเอนหลังพิง พนักเก้าอี้พร้อมกับใช้สองมือกอดอก สีหน้ามืดครึ้ม : “ที่ ควรมาก็มาแล้ว ใครยังไม่มาเหรอคะ?
คุณปู่เฉียวยังคงเงียบและรอต่อไป
จนกระทั่งมีเสียงกริ่งดังขึ้น พ่อบ้านของเปียย่วน จึง เดินไปเปิดประตูและทักทายด้วยความสุภาพอย่างมาก : “คุณโรธี เชิญครับ”
ป้ายโรซี ยังไม่ทันที่จะก้าวเข้าประตูมา เฉียวเซียวเชียว ก็เริ่มป่าแล้ว ผลุดลุกขึ้นทันที และพูดอย่างหุนหันพลัน แล่นกับทุกคนในครอบครัว : “ขอโทษอย่างมากนะคะ ฉัน ไม่ต้องการเข้าร่วมการประชุมครอบครัวครั้งนี้ค่ะ ฉันไม่ สามารถนั่งประชุมร่วมกับลูกสาวของศัตรูได้
“นั่งลง” คุณปู่เฉียวออกคำสั่งออกมา มันมีอำนาจจนไม่ อาจขัดขืนได้
ลูกคนที่สองเฉียวอีโห้ เองก็ดึงแขนลูกสาวของตนเอง และกระซิบว่า : “เชื่อฟังคุณปู่ของแก นั่งลงซะอย่าสร้าง ปัญหา”
เฉียวเซี่ยวเซี่ยว สะบัดมือพ่อของเธออย่างรุนแรง มุม ปากกระตุก แล้วถามเฉียวอีโห้กลับไปว่า : “พ่อก็พอได้ แล้ว แม่ของป่ายโร่ซี ฆ่าแม่ของหนูนะคะ แล้วจะให้หนูนั่ง กับหล่อนได้ยังไง?”
ป้ายโร่ซีที่ประตูก็ได้ยินคำพูดของเฉียวเซี่ยวเซี่ยว พี่ สาวที่อายุไล่เลี่ยกับเธอคนนี้ไม่ชอบเธอมาตลอด และตั้ง เป้าโจมตีเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก
ตอนนี้เป็นเพราะเรื่องของแม่ จึงเพิ่มความเกลียดชังเธอ มากยิ่งขึ้น
สีหน้าของเฉียว ขวน เปลี่ยนไปแล้ว เขาเอ่ยอย่างแผ่ว เบาว่า : “เซียวเชียว ฆาตกรที่เธอพูดถึงก็คือภรรยาของ ลุงนะ ถ้าอย่างนั้นลุงก็นั่งกับเธอไม่ได้แล้วสินะ?”
เฉียวเซียวเซียว รีบร้อนบอก : “คุณลุงคะ นี่มันไม่เหมือน กัน ลุงกับหนูต่างเป็นเหยื่อค่ะ”
เฉียวอีชวนถึงกับพูดไม่ออกในคำพูดที่ไร้เหตุผลของ หลานสาวคนนี้
ป้ายโร่ซี เดินเข้ามาช้าๆ และยืนอยู่ด้านข้างคุณปู่เฉียว แล้วโค้งคำนับช้าๆ : “สวัสดีค่ะคุณปู่”
จากนั้นตามด้วยการโค้งคำนับทุกคนอย่างสุภาพ
คุณปู่เฉียว ยิ้มเบาๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นมีเมตตา : “เสี่ยวซี นั่งเถอะ”
เฉียวเซี่ยวเซี่ยวกำหมัด แล้วเตะเก้าอี้ออกพร้อมกับเดิน ออกไป
คุณปู่เฉียวจึงเอ็ดว่า : “ฉันบอกให้นั่งลง”
เฉียวเซียวเชียว ชี้ไปที่หน้าของป่ายโร่ซีด้วยความ เดือดดาล ก้มหน้าลงเอ่ยถามคุณปู่เฉียวอย่างโกรธเคือง ว่า : “คุณปู่คะทำไมต้องให้คนนอกมาร่วมการประชุม ครอบครัวของพวกเราด้วยล่ะ? หล่อนนามสกุลปาย ไม่ใช่ เฉียว นะคะ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ