Hello!! My Cinderella นางซินหน้า...

Chapter 9 : แผนลวงสำเร็จแล้ว



Chapter 9 : แผนลวงสำเร็จแล้ว

วันนี้โชคเข้าข้างยัยมะลิจอมเพี้ยนอีกแล้ว….

บางทีผมว่าอาจจะไม่ใช่แค่โชคเข้าข้างอย่างเดียวหรอก อาจจะเป็นเพราะการมีไหวพริบดีของมะลิด้วยมากกว่า เลยทำให้แม่ผมค่อนข้างจะพอ ใจในตัวเธอไม่น้อย

ผมรู้จักแม่ผมดีถึงแม้ว่าแม่จะทำท่าทางนิ่งๆ เหมือนไม่ ยินดียินร้ายอะไรกับการที่ผมพามะลิมาแนะนำแบบนั้นก็ เถอะ นี่แหละแม่ผม เธอจะชอบทำท่าทางให้คนอื่นเกรง กลัวเสมอ แต่ก็เว้นผมไว้คนหนึ่งก็แล้วกันนะ

ตอนแรกผมกลัวมะลิจะหลุดซะแล้ว หลายคำถามผมรู้ว่า เธอพูดมาจากใจและมันคือตัวตนของเธอเอง และหลาย คำถามเธอก็ตอบตามความเป็นจริงทำให้แม่ผมจับโกหก จากเธอไม่ได้ยังไงล่ะ

“ฉันว่าแม่หนูจัสมินอะไรนี่ดูแปลกๆนะ” แม่ผมพูดขึ้น ท่ามกลางความเงียบในศาลาท่าน้ำข้างบ้านเรา ที่นี่คือมุม โปรดของคุณหญิงเลยล่ะ ทั้งร่มรื่นมีธารน้ำตกเล็ก ๆ ให้ดู ปลาคาร์ฟหลากสีสันแหวกว่ายไปมา ฟังเสียงน้ำไหลแบบ นี้ผมว่ามันทำให้ผมสบายใจขึ้นเยอะเลยนะ
ผมนั่งอยู่ศาลากับแม่สองคนโดยที่เรานั่งแหมะอยู่กับ พื้น คุณหญิงก็นอนพิงหมอนอิงสีสวยอย่างวางท่าอยู่ใน ที ส่วนมะลิก็โดนแม่ผมหลอกให้ไปทำขนมในครัวโน่น แม่ผมพูดขึ้นลอย ๆ ว่าอยากทานขนม เธอก็เลยขันอาสา อย่างรวดเร็วเข้าครัวไปทำให้โดยมีแม่บ้านคนอื่น ๆ คอย ช่วยอยู่ไม่ห่าง ผมรู้ว่าแม่ผมต้องการคุยกับผมตามลำพัง เหตุผลแอบแฝงอีกหนึ่งอย่างก็คือแม่ต้องการรู้ว่ามะลิ ทำได้อย่างที่พูดหรือ เปล่า ไม่ใช่เอามาโม้แล้วทำไม่ได้

“แปลกยังไงครับคุณหญิง” ผมถามแสร้งทำเป็นไม่สนใจ พลางนั่งถ่ายรูปปลาคาร์ฟเล่นไป พอดีผมแอบซิวกล้อง โปรฯ ตัวล่าสุดของบริษัทมาน่ะ เลยมานั่งลองถ่ายเล่นดู

เห็นผมนิ่งแบบนี้ในใจชักหวั่นขึ้นมาแล้วล่ะสิ…

“ฉันว่าเธอดูเรียบร้อยไป ไม่เหมาะสมกับแกเลยสักนิด”

“โถแม่ อย่างผมเนี่ยนะจะไม่เหมาะกับจัสมิน ฐานะเรา ก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ ทําไมจะไม่เหมาะ ผมว่าเรา เหมาะกันยิ่งกว่ากึ่งหยกอะไรนั่น”

“กิ่งทองใบหยกย่ะ” แม่ช่วยแก้ให้ ดวงตาคมละจากการ ร้อยมาลัยมาจ้องหน้าผมนิดๆ ก่อนจะกลับไปสนใจมาลัยในมือต่อ

แม่ผมชอบนั่งร้อยมาลัยมากเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ค่อย สวยสักเท่าไหร่ก็เถอะ =_=; เอ่อ ผมไม่ได้ติอะไรแม่ หรอก ผมพูดตามความจริงน่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าแม่ไม่ ค่อยได้นั่งทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่ด้วยแหละ แต่ถ้าเธอ อารมณ์ดีขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ แม่บ้านก็เตรียมตัวเหนื่อย ออกไปหาดอกไม้มาให้คุณหญิงทำอะไรแบบนี้ได้เลย

เป็นอีหรอบนี้ แม่ผมกำลังอารมณ์ดี หึๆๆๆๆ แบบนี้ก็เข้า ทางยัยมะลิของผมล่ะ ผมเคยเห็นพวงมาลัยที่ยัยนั่นร้อย ไปขายตอนที่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้น ฝีมือดีไม่มีที่ติจริง ๆ

“ช่าง งอะไรนั่นเถอะครับ ว่าแต่แม่…คิดยังไงกับจัส มิน?” ผมหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้หญิงวัยกลางคนตรง หน้า

“ก็งั้น ๆ” แม่ยักไหล่ขึ้นประกอบคำพูด

“ใช่เร้อ ผมว่าถ้าแม่รู้จักเธอมากกว่านี้รับรองว่าแม่ต้อง ตกหลุมรักเธออย่างที่ผมเป็นแน่ ๆ”

ตกหลุมรักงั้นเหรอ…ไม่ชินปากเลยแฮะ
“เหรอออออ ดีแซมลูกรัก” ไม่ว่าเปล่าแม่ยังเอื้อมมือมา หยิกแก้มผมแรงๆอีกต่างหาก

“โอ๊ยยยย แม่เจ็บนะ ฮ่ยยยยยย~ มาจับกงจับแก้ม ทำ อย่างกับผมเป็นเด็กผู้หญิงไปได้ ขนลุก!” ผมเลิกสนใจแม่ แล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปปลาต่อ

“หวังว่าแกคงไม่ได้จ้างใครมาหลอกฉันหรอกนะ”

โดนประโยคนี้เข้าไปผมถึงกับชะงักมือที่กําลังจะกด ชัตเตอร์เลยทีเดียว แต่มันก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น แล้วผมก็ทําราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“นั่นมันในละครน้ำเน่าที่แม่ชอบดูแล้วล่ะ ของผมต้องรัก จริงอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะพามาเหยียบที่บ้านได้”

“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่ว่าฉันมาจับได้ทีหลัง แกตายนะดี แซม”

“โธ่แม่ ผมเคยพาผู้หญิงคนอื่นเข้าบ้านซะที่ไหนล่ะแม่ก็รู้ เรื่องจัสมินน่ะเชื่อใจผมสิครับคุณหญิงแม่” ผมยักคิ้วกวน ให้แม่ กลบเกลื่อนความกังวลในใจไม่ให้คนตรงหน้าจับ ได้

จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ค่อยได้นั่งคุยกับแม่นาน ๆ แบบนี้มา นานแล้วเหมือนกันนะ ผมไม่ค่อยได้มาค้างที่บ้านน่ะส่วนใหญ่จะค้างที่คอนโด เที่ยวเสร็จขับรถกลับบ้านมัน ค่อนข้างไกลน่ะ คอนโดใกล้กว่ากันเยอะ

ผมกับแม่นั่งคุยกันผ่านไปพักใหญ่ หัวข้อส่วนใหญ่ที่คุย กันก็เป็นเรื่องทั่วไปเรื่อยเปื่อย ถ้าแม่ถามเกี่ยวกับจัสมิน ผมก็จะเปลี่ยนมาคุยเรื่องอื่นอย่างแนบเนียน ผมยังไม่ อยากตอบอะไรให้มันรัดตัวมะลิไปมากกว่านี้ ถ้าเจ้าตัว อยู่ตรงนี้คงจะตอบคําถามได้ดีที่สุด

แล้วผมก็เหลือบเห็นมะลิเดินมากับป่าสายพินกับพี่ผึ้ง ทั้งสามคนช่วยกันถือจานขนมสีสันน่ากินมาด้วย มะลิคุ อะไรไม่รู้กับทั้งสองคน ผมรู้แต่เพียงว่ารอยยิ้มของเธอ ช่างสดใสน่ามองมาก…มากจนผมอดไม่ได้ที่จะยกกล้อง ถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายรูปเธอไว้

“แม่ดูสิว่าเธอสวยแค่ไหน ผมไม่เคยเห็นใครยิ้มสวยเท่า มะ…มินมาก่อนเลย” ผมมองไปทางมะลิเรียกสายตาแม่ ผมให้มองตามไปด้วย

เกือบหลุดชื่อมะลิไปแล้วมั้ยล่ะ…แต่ผมไม่ปฏิเสธเลยว่า รอยยิ้มของเธอช่างน่ามองมากจริงๆ

“ก็งั้น ๆ ตอนเป็นสาวฉันยังสวยกว่ายัยหนูนี่อีก”

ผมถึงกับส่ายหน้าเอือมระอากับความปากแข็งของคุณ หญิงแม่ ผมรู้อยู่เต็มอกว่าแม่ก็เห็นด้วยกับผมเหมือนกันนั่นแหละน่า

“ขนมมาแล้วค่ะ ^^”

มะลิเดินถือจานขนมมาทางนี้ เห็นอย่างนั้นผมจึงเดินไป ช่วยเธอถือจาน ไม่อยากให้แม่มองว่าเป็นผู้ชายประสา อะไรที่เอาแต่นั่งบื้อปล่อยให้แฟนตัวเอง เดินถือจานขนม มาโดยไม่ช่วยอะไรเลย

“เดี๋ยวผมช่วยนะ ^^” ผมพูดกับมะลิพร้อมกับยิ้มหวานไป ให้ ทำราวกับว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่ผมรักมากที่สุด

“ขอบคุณค่ะ”

ผมเดินถือจานขนมนำมาโดยมีมะลิ ป้าสายพินและพี่ผึ้ง เดินตามมาด้วย และแล้ว…ขนมไทยน่าตาน่ากินหลาย อย่างซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามก็วางลง ตรงหน้าคุณ หญิงหมื่นกะรัตเป็นที่เรียบร้อย

มะลินั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อยข้างกายผมโดยทิ้งระยะ ห่างจากผมพอสมควร สำหรับผมแล้วการจับมือถือแขน หรือกอดกันมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว คงเป็น เพราะผมเป็นผู้ชายด้วยนั่นแหละเลยมองเรื่องนี้ไม่ค่อย สำคัญเท่าไหร่ แล้วอีกอย่างเลือดความเป็นชาวตะวันตก ของผมมันคงเยอะด้วยแหละมั้ง แต่สำหรับมะลิแล้วเธอ ไม่ใช่แบบนั้น เธอเป็นคนถือตัวมากนะ ผมว่านิสัยแบบนี้ของเธอคงโดนตาแม่ผมแน่ ๆ

“นี่เป็นขนมไทยค่ะ นี่คือทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมเม็ดขนุน ขนมน้ำดอกไม้ ขนมเปียกปูน ลูกชุบแล้วก็ ขนมวุ้นกะทิค่ะ” มะลิร่ายเมนูเบื้องหน้าให้ทุกคนฟัง เธอ คงทำขนมพวกนี้บ่อยถึงได้รู้จักเป็นอย่างดี

ผมเคยเห็นขนมพวกนี้นะ ขนมสีทองพวกนี้มีรสหวาน มาก แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบกินหรอก ผมไม่ค่อยชอบอะไร หวาน ๆ น่ะ

“นี่เธอทำเองทั้งหมดเหรอ?” แม่ผมกวาดตามองขนม เบื้องหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อตาตัวเอง เห็นแบบนี้ก็ ทําให้ผมแอบอมยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

“ค่ะคุณหญิง”

“เรื่องจริงเหรอ?” แม่หันไปถามป้าสายพิน

“เรื่องจริงค่ะคุณผู้หญิง คุณจัสมินเธอทําเองทั้งหมดเลย ค่ะ พวกดิฉันแค่ยืนเป็นลูกมือให้เท่านั้นเองค่ะ เธอเก่ง เรื่องทำอาหารคาวหวานมากเลยนะคะ” ป้าสายพินช่วย ยืนยัน นั่นยิ่งทำให้ผมพอใจเข้าไปใหญ่ที่ทำให้คนอย่าง คุณหญิงหมื่นกะรัตคาดไม่ถึง

เอาสิครับคุณหญิง เห็นมะลิของผมซื่อๆแบบนี้ แต่เธอเล่นด้วยยากนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ

“ไม่ลองชิมดูละครับแม่ ฝีมือจัสมินอร่อยที่สุดแล้ว” ผม อวยมะลิสุดพลัง

“เดี๋ยวก็รู้ว่าจะท่าดีทีเหลวรึเปล่า” แม่พูดแค่นั้นก่อนจะ ใช้ซ้อมจิ้มขนมทองหยิบขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง

แม่ชะงักไปนิดหน่อยแต่ก็เห็นได้ชัด เธอเคี้ยวขนมไปสัก พักแล้วเลือกจิ้มทองหยอดขึ้นมากินอีกชิ้นหนึ่ง

“เป็นไงครับแม่ ฝีมือจัสมินอร่อยรึเปล่า?” ผมถามแม่ไป ทั้งที่รู้คำตอบอยู่เต็มอก ท่าทางแม่ผมบอกอยู่แล้วว่าขนม ฝีมือมะลินั้น…ไม่ธรรมดาเลย

“ก็ดี” แม่ตอบแบบขอไปที ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าแม่ต้องตอบ แบบนี้ เรื่องปากแข็งล่ะต้องยกให้ผู้มีพระคุณของผมคนนี้ “แล้วแกไม่กินรึไง เห็นอวดสรรพคุณนักหนา”

แม่รู้น่ะสิว่าผมไม่ชอบกินของหวาน คงจะแก้เผ็ดผมแน่ๆ

ผมหันไปมองหน้ามะลิก็เห็นว่าเธอยิ้มหวานมาให้ เป็นการเชิญชวนให้ลองชิมขนมฝีมือเธอ เอาก็เอาวะ ถึง จะไม่ชอบของหวาน ลองกินสักชิ้นรักษาน้ำใจของยัย เพี้ยนนี่ก็แล้วกัน
ผมใช้ซ้อมจิ้มขนมสีทองรูปร่างคล้ายวงรี ไอ้ที่มะลิเรียก ว่าขนมเม็ดขนุนขึ้นมาชิม ในใจนึกจินตนาการถึงรสชาติ หวานเลี่ยนจนคลื่นไส้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว…มันอร่อย มาก ไม่หวานมากเกินไปและหอมมากด้วย

ผมไล่ชิมขนมทุกอย่างจนครบ ขนมแต่ละอย่างมีรสชาติ แตกต่างกันไป หวานมาก หวานน้อย หวานพอดี มันอร่อย แบบนี้นี่เองสินะขนมไทย…เป็นเอกลักษณ์ โดยรวมแล้ว ผมชอบนะ ชอบมาเลยล่ะ

“เป็นไงคะ?” มะลิถามยิ้ม ๆ ดวงตากลมโตทอประกาย อย่างอยากรู้

“อร่อยมากเลย” ผมตอบตามความจริง นั่นยิ่งทำให้หญิง สาวข้างกายเผยรอยยิ้มกว้างโชว์ลักยิ้มมุมปากทั้งสอง ข้างได้อย่างน่ารัก

ผมใช้ซ้อมนั่งจิ้มขนมเข้าปากด้วยความเพลิดเพลินโดย ไม่ลืมแชะรูปไว้ด้วย ลืมไปแล้วว่าขนมหวานที่ผมไม่ปลื้ม เป็นยังไงเมื่อได้มาเจอกับขนมไทยฝีมือมะลิ

“ไม่ทราบว่าคุณหญิงก็ชอบร้อยมาลัยเหมือนกันนะคะ ^^” มะลิชวนแม่ผมคุย ดวงตากลมโตมองไปยังถาดใส่ ดอกไม้นานาชนิดหลากหลายสีสันเบื้องหน้า
“ฉันก็ทำเพลิน ๆ น่ะ ทำแล้วได้สมาธิดี ผิดบ้างถูกบ้างก็ ว่ากันไป”

“เอ่อ…ถ้าไม่รังเกียจให้หนูช่วยสอนให้มั้ยคะ?”

แม่นิ่งไป ดวงตาคมกริบมองผู้หญิงตัวเล็กข้างกายผม นิด ๆ จนเธอเริ่มกลัว มะลิคงคิดไปแล้วว่าเธอพูดอะไรไม่ เข้าหูแม่ผมเข้าแล้ว แต่เปล่าเลยในเมื่อ… “ก็เอาสิ”

เท่านั้นแหละมะลิก็ถึงกับยิ้มกว้างขึ้นมาทันที เธอขยับไป นั่งใกล้กับแม่ผมเพื่อสอนร้อยมาลัยอย่างถูกต้อง

มะลิหยิบเข็มร้อยมาลัยขึ้นมา เธอเอาวาสลีนทาเข็ม เพื่อง่ายต่อการร้อยและรูดดอกไม้ออกจากเข็ม เธอเอา ใบตองมาพับเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ท่าเป็นแป้นเพื่อไม่ให้ ดอกไม้ที่เราร้อยไปหลุดออกจากเข็มนั่นเอง

มะลิเริ่มสอนการร้อยมาลัยให้แม่ผมอย่างช้า ๆ เพื่อให้ ๆ แม่ผมตามทัน มาลัยที่เธอกำลังสอนอยู่คือมาลัยกลม เห็นมะลิเรียกว่างั้นนะ

นี่คงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ผมเห็นคนอย่างคุณ หญิงหมื่นกะรัตนั่งทำ ตัวเป็นลูกศิษย์ที่ดีให้กับมะลิ ทั้ง สองคนเป็นเหมือนคุณครูแสนใจดีคอยชี้แนะนักเรียน เสมอเมื่อนักเรียนทำไม่ถูกและเป็นเหมือนเด็กนักเรียนตัว น้อยหน้าตาใสซื่อพร้อมจะรับความรู้จากคุณครูตลอดเวลา

ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่น่ามองมาก….ผมไม่ลืมที่จะถ่าย รูปประวัติศาสตร์นี้ไว้มากกว่าร้อยรูป

ทำไมก็ไม่รู้สินะ…ผมถึงละสายตาไปจากดวงหน้าใส หวานของมะลิไม่ได้เลย…

มะลิคือผู้หญิงธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาสำหรับผม ยิ่งอยู่ ใกล้เธอผมก็ยิ่งรู้ว่าเธอมีเสน่ห์บางอย่างที่น่าค้นหา เธอมี เสน่ห์ตรงที่เธอไม่เหมือนใคร

มะลิคือผู้หญิงอบอุ่นเพียงแค่ผมได้อยู่ใกล้

ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง…ถ้าเทียบ กันแล้ว ผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมพวกเธอมี เสน่ห์ไม่เท่ามะลิเลยด้วยซ้ำ

ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำหอมราคาแพงล่อแมลงเพศผู้ให้เข้า ใกล้ เพียงแค่อยู่ใกล้มะลิกลิ่นหอมอ่อน ๆ เหมือนดอกไม้ ชื่อของเธอกลับหอมยิ่งกว่าน้ำหอมทุกยี่ห้อบนโลกใบนี้

ไม่ต้องแต่งเติมเครื่องสำอางบนใบหน้าเพราะผมเชื่อว่า ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง ผมกล้าท้าให้ผู้หญิง ทุกคนที่ผมควงอยู่มาประชันหน้าสดกับมะลิ…รับรองเธอกินขาดอยู่แล้ว

ทุกสิ่งที่เป็นมะลิ…คือธรรมชาติที่ลงตัว

ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้ผมจะอยู่บ้านนานขนาดนี้…

ขนมของมะลิก็มาอยู่ในท้องผมหมดแล้ว ผมกวดเรียบ คนเดียวจนไม่เหลือสักชิ้น วันนี้ผมอยู่กับแม่ทั้งวันในรอบ หลายเดือน แม่กับมะลิเริ่มสนิทกันมากขึ้นจากการสอน ร้อยมาลัยของยัยมะลิจอมเพี้ยน มีอย่างที่ไหนลูกศิษย์ ดุคุณครูพอคุณครูสอนร้อยมาลัยที่ยากขึ้นยิ่งกว่ามาลัย กลม

ผมก็แอบขำหน้ามะลินะ ก็อย่างที่รู้กันว่ามะลิน่ะเป็นคนขี้ เกรงใจและขี้กลัว เธอจะหงอทันตาเลยล่ะ แต่พอเริ่มสอน อีกครั้งจิตวิญญาณของคุณครูจะเข้าสิงในทันที

ผมหัวเราะจนท้องแข็งเมื่อเอามาลัยไม่ว่าจะเป็นมาลัย กลม มาลัยเกลียว มาลัยซีก มาลัยแบนและอีกหลาย อย่างที่ผมไม่รู้จักของแต่ละคนมาวางเทียบกัน ของมะลิ แค่อุบะก็กินขาดแล้วไม่ต้องพูดถึงตัวมาลัย ของแม่ผมน่ะ ทั้งช้ำเพราะมือหนัก เบี้ยวบ้างล่ะ หลุดบ้างล่ะ ผมหัวเราะ ไม่หยุดและนั่นก็นำมาซึ่งฝ่ามืออรหันต์ตวัดมาตบกบาล ผมหนึ่งที =..=,, ทำไมแม่ต้องทำแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิงด้วยเล่า ผมขายหน้านะ

เมื่อเห็นว่าได้เวลากลับผมจึงขอตัวพามะลิกลับ เพราะ ผมมีเรื่องต้องจัดการต่อจากนี้…

“ผมพาลูกสาวชาวบ้านมานานแล้วตอนนี้ได้เวลากลับ แล้ว งั้นผมพาจัสมินกลับบ้านก่อนนะครับ”

“ไม่รออยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?” แม่ผมหันไปถาม มะลิ ซึ่งยัยตัวดีก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ไปให้เท่านั้น เธอไม่กล้า ตอบอะไร

“ไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ วันนี้ต้องพาเธอไปทำธุระต่อ น่ะคุณหญิง” ผมตอบไปแบบนั้นเรียกดวงตากลมโตให้หัน ขวับกลับมาจ้องหน้าผมอย่างมีคำถาม “ใช่มั้ยจัสมิน?”

“เอ้อ…อ้อ…ใช่ค่ะ คือหนูมีธุระต่อนิดหน่อยค่ะ ^^;;”

“งั้นเหรอ”

“ครับ ผมไปแล้วนะ”

“หนูกลับแล้วนะคะคุณหญิง สวัสดีค่ะ” มะลิยกมือไหว้ แม่ผมอย่างนอบน้อม แม่ผมก็รับไหว้หน้าตานิ่งเฉยตามฉบับ

ผมลุกขึ้นก่อนจะช่วยฉุดมะลิให้ลุกขึ้นบ้าง เราเดินออก มาจากศาลาได้ไม่ไกลแม่ผมก็เรียกไว้อีกครั้ง

“นี่” ผมกับมะลิหันกลับไปมองหน้าคุณหญิงอย่างมี คำถาม แต่แล้วประโยคต่อมาก็ทำให้ผมยิ้มออกมาอย่าง พอใจที่สุด “วันหลังก็มาเที่ยวที่นี่อีกสิ”

ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ดวงตาคมที่มองมาทาง มะลิก็ทำให้ผมรู้ว่า…แม่ผมหลงรักผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว

“แล้วหนูจะมาเยี่ยมคุณหญิงอีกนะคะ ^^”

ผมกับมะลิยิ้มให้กันอย่างรู้กัน….เราทำสำเร็จแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ