Hello!! My Cinderella นางซินหน้า...

Chapter 4 : เปิดตัวคุณหนูจัสมิน



Chapter 4 : เปิดตัวคุณหนูจัสมิน

ณ ห้าง B

เลิกเรียนแล้วฉันก็ขึ้นรถเมล์ตรงดิ่งมาที่นี่ตามที่คุณ แชมนัดไว้ทันที ตอนนี้ฉันกำลังตามหาร้านกาแฟที่เขา บอก

อ๊ะ! นั่นไง

ร้านกาแฟ S เป็น ร้านกระจกใส สามารถมองเข้าไปใน ร้านได้ และนั่น…ร่างสูงคุ้นตากำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ ต่างประเทศอยู่ตรงมุม หนึ่งติดกระจก บนโต๊ะมีกาแฟเย็น แก้วใหญ่วางไว้ตรงหน้า

ออร่าคุณดีแซมจับมาก แค่เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เงียบๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาถึงกับต้องเหลียวมองกัน เป็นแถวเลยทีเดียวโดย เฉพาะสาวๆ

ฉันไม่มัวแต่พูดพร่ำทำเพลงอะไร เดินเข้าร้านไปหาเขา ทันที เขาอาจจะรอฉันนานแล้วก็ได้ ให้ผู้ใหญ่รอนาน ๆ มันไม่ดี ก็เขาอายุมากกว่าฉันตั้งสองปีนี่นา เขาเป็นผู้ใหญ่ กว่าฉันก็พูดถูกแล้วนี่นา

“ขอโทษที่มาช้านะคะ” ฉันขอโทษจากใจเมื่อเดินเข้าไป หยุดอยู่เบื้องหน้าคุณดีแซม
“มาแล้วเหรอ” คุณดีแซมบอกโดยไม่มองหน้าฉันแล้วพับ หนังสือพิมพ์เก็บ เขากำลังอ่านข้าวสารบ้านเมืองที่เกิดขึ้น ทั่วโลก ไม่งั้นก็คงจะเป็นข่าวเศรษฐกิจทั่วโลกล่ะมั้ง “นั่ง ก่อนสิ

“ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงยังตำแหน่งตรงข้ามกับคุณดีแซม ตามคำอนุญาต “คุณมารอนานรึยังคะ?”

“ก็พอสมควร” เขาตอบแล้วยกกาแฟขึ้นดูดจ๊วบใหญ่

“ขอโทษอีกครั้งนะคะ

“ช่างเถอะ เธออยากกินอะไรล่ะ รีบมาขนาดนี้คงจะ เหนื่อย”

ฉันไล่สายตามองตามป้ายเมนูที่ติดอยู่ด้านบนตรง เคาน์เตอร์พนักงาน พอเห็นราคาเท่านั้นความหิวก็มลาย หายไปทันที

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ทานกาแฟน่ะ (^^;;)” ฉันหันกับมาบ อกคุณ แซม

“นมสดก็มีนี่”

“ไม่ดีกว่าค่ะ” ฉันรีบปฏิเสธอย่างด่วน
อะไรกัน แต่นมสดราคาก็ครึ่งร้อยแล้ว T^T ฉันกินนมสด ร้านข้างถนนได้ตั้งหัวถุงแนะ

“ก็ตามใจเธอ” คุณดีแซมพูดแค่นั้นแล้วดูดกาแฟเย็นอีก จ๊วบหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “งั้นไปกันเถอะ”

“ไปไหนคะ 0.02″

“ก็ไปแปลงโฉมไง -_-;”

“อะ…อ้อ”

ฉันรีบมากจนลืมไปแล้วน่ะ

คุณดีแซมไม่คิดจะสนใจฉันอีกต่อไป เขาเดินนำออก จากร้านไปทันที…

สองชั่วโมงผ่านไป…

มะลิไม่อยู่ ตอนนี้อยู่แต่ผู้หญิงที่ชื่อจัสมิน…..

ฉันคิดว่าถ้าเพื่อนมาเห็นฉันตอนอยู่ในร่างจัสมินคงไม่มี ใครจำฉันได้แน่…
ฉันใช้เวลาแปลงโฉมอยู่พักใหญ่ก็มาอยู่ในชุดรัดรูปสั้น เว้าหลังสีขาว ส้นสูงสี่นิ้วเข้ากัน ทำการแต่งหน้าทำผม เสร็จสรร

“เสร็จแล้วค่ะคุณผู้หญิง ^^” พี่กระเทยใจดีผู้เปลี่ยน

ฉันเป็นคนละคนบอกหลังจากที่จัดการกับผมฉันเป็นสิ่ง

สุดท้ายเรียบร้อยแล้ว “ขอบคุณนะคะ” ฉันหันไปพูดกับเธอก่อนจะลุกจากเก้าอี้

หน้าจกมา

คุณดีแซมหายไปไหนนะ…เขาไม่ได้อยู่รอฉันแต่งหน้า เขาบอกเพียงแต่ว่าจะออกไปเดินเล่นในห้างรอแค่นั้น เขา หายไปแบบนี้ ฉันไม่มีเงินพอจะจ่ายหรอกนะ

“อะ…เอ่อ พี่คะ” ฉันเรียกพี่กระเทยคนเดิมที่กำลังเก็บ เครื่องสําอาง

“คะ?” เธอหันมามองหน้าฉันประมาณว่ามีอะไรรึเปล่า

“คือผู้ชายที่มากับฉันน่ะค่ะ…เอ่อ…เรื่องค่าใช้จ่าย…

“อ๋อ แฟนคุณน่ะเหรอคะ เขาจัดการให้แล้วค่ะ แฟน คุณหล่อมากเลยนะคะ แถมใจดีมากด้วย ชาติที่แล้วคุณ ทำบุญมาด้วยอะไรคะเนี่ย”
“เขาไม่ใช่แฟนฉันหรอกค่ะ (^^;;)”

“แหม เรื่องแบบนี้ไม่เห็นน่าอายเลย มีแฟนหล่อแบบนี้ ต้องบอกต่อนะคะ”

ฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆกับความเป็นมิตรของเจ้าของร้าน และไม่คิดจะต่อปากต่อ คํากับเธออีก ดูสิ ฉันบอกว่าคุณดี แซมไม่ใช่แฟนฉันเขายังไม่เชื่อเลย

“คุณสวยมากเลยนะคะ หุ่นก็เริศ โครงหน้านี่ไม่ต้องพูด ถึง แต่เสียอยู่อย่างหนึ่ง คุณขี้อายไปหน่อย

“งั้นเหรอ^^.” ฉันรู้ว่าเจ้าของร้านก็ชมไปอย่างนั้นแหละ มันเป็นการเรียกลูกค้าอย่างหนึ่งใช่มั้ยล่ะ

“ถ้าคุณมีความมั่นใจอีกหน่อยนะ เลอค่ามากค่ะ”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณมาก สำหรับวันนี้ค่ะ”

ฉันตัดบทเพียงแค่นั้นแล้วเดินออกมาจากร้าน จำได้มั้ย ว่าคุณดีแซมเคยซื้อรองเท้าส้นสูงให้ฉันหลายคู่ อยู่บ้า นว่างๆฉันก็เอามาหัดใส่และลองเดินดูจนตอนนี้เริ่มชินกับ รองเท้าส้นสูงแล้วล่ะ
ฉันมองหาคุณ แซมอยู่หน้าร้านซักพักไม่เห็นจึงตัดสิน ใจโทรตามเขา สัญญาณมือถือตั้งอยู่ไม่นานปลายสายกั กดรับ

ว่าไง

“ฉันแต่งตัวเสร็จแล้วนะคะ ตอนนี้อยู่หน้าร้าน คุณดีแซม อยู่ไหนคะ?”

[หันมาทางขวาเธอสิ] พูดแค่นั้นคุณดีแซมก็ตัดสายไป

ฉันมองไปตามทิศที่เขาบอกก็สบตาเข้ากับร่างสูง แวบ หนึ่งฉันเห็นเขาชะงักไปเมื่อสบตากับฉัน…

คุณดีแซมเดินเข้ามาใกล้โดยที่ดวงตาคมไม่ละไปจาก ใบหน้าฉัน เขามองฉันขนาดนี้รู้มั้ยว่ากำลังจะทำให้ฉัน หมดความมั่นใจนะ ฉันยิ่งมีน้อย ๆอยู่ (-*-)

คุณดีแซมคงไปเดินซื้อของมาเพราะในมือเขามีถุงจาก ร้านสินค้าแบรนด์ดังติดมือมาด้วย

“คุณไปซื้อของมาเหรอคะ?” ฉันถามแก้เก้อ เขามองฉัน นาน ๆแล้วมันเขินนี่นา (.///.)

“ฉันไปซื้อกระเป๋ามาให้เธอ” ว่าแล้วก็ยื่นถุงในมือมาให้ฉัน ฉันได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ ให้ฉันงั้นเหรอ… “รับไป

“ขอบคุณนะคะ” ฉันรับของมาถือไว้

“ฉันว่ากระเป๋าที่เธอใช้อยู่มันไม่เหมาะกับการแต่งตัว แบบนี้ของเธอ”

ดวงตาคมเลื่อนมองกระเป๋าสะพายข้างสีฟ้าอ่อนของ ฉัน มันมีสภาพค่อนข้างเก่าเนื่องจากฉันใช้มานานหลายปี แล้ว เห็นเก่าๆอย่างนี้แต่เรื่องทนทานต้องยกให้มันนะ

“อ๋อ…ค่ะ”

ฉันพูดได้เพียงแค่นี้ ฉันรู้ว่าคุณดีแซมไม่ได้ดูถูกฉันที่ ใช้ของเก่าๆอย่างนี้หรอก ที่เขาทำมันก็ถูกนะ ของหรูแบ รนด์เนมต้องคู่กับคุณหนูจัสมินอยู่แล้ว แต่สำหรับยัยมะลิ การถือของราค่ามากกว่าห้าร้อยถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ มาก

“เปลี่ยนกระเป๋าซะสิ” คุณเจ้าหนี้สั่ง ฉันจึงทำตามอย่าง ไม่อาจเลี่ยงได้ ฉันเอากระเป๋าใหม่มาถือไว้แล้วยัดประ เป๋าใบเก่าเข้าถุงสลับกันแทนโดยไม่ลืม เอาข้าวของเล็กๆ น้อยๆจากกระเป๋าใบเก่าใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหม่ด้วย
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“ทุกทีเธอพกอะไรบ้างนอกจากมือถือของเธอเนี่ย” คุณ ดีแซมถาม ฟังดูจากน้ำเสียงเขาแล้วเขากำลังทึ่งนะ

“ฉันไม่มีข้าวของอะไรมากหรอกค่ะ มีมือถือ สร้อยพระ ของยาย กระเป๋าสตางค์ สมุดโน้ตจดรายการของลูกค้า กับปากกาแค่นั้นแหละที่ไม่เคยเอาออกจากกระเป๋า

“ลูกค้างั้นเหรอ??”

“ค่ะ ฉันขายพวงมาลัยแล้วก็ดอกมะลิสดน่ะค่ะ”

“อ้อ” คุณดีแซมร้องขึ้นเบาๆ เขาคงจำได้แล้วมั้งเพราะ ตอนเราเจอกันฉันทำพวงมาลัยกับดอกมะลิสดตกเรี่ยราด เต็มพื้นเลยนี่นา “เธอควรจะพกมือถือเครื่องที่ฉันให้ใช้ได้ แล้วนะ ฉันไม่ได้ให้เธอเอาไปดองนะ จะเก็บไว้ให้มันเป็น ซากฟอสซิลรึไง =_=;;”

ฟอสซิสอะไรกันเล่า ฉันไม่ได้เอามือถือของเขาไปดอง ซะหน่อย อย่างน้อยฉันก็ใช้มันดูคลิปสอนแต่งหน้าในยู ทูบก็แล้วกันล่ะน่า

ไม่แปลกใช่มั้ยที่คนอย่างฉันจะรู้จักยูทูบน่ะ =_=;; ฉันดู เขาแต่งหน้าในวิดีโอแล้วทำตาม มันช่างต่างกันจริงๆนะ ยกตัวอย่างการเขียนคิ้ว เขาเขียนแป๊บเดียวก็ได้รูปสวยแล้ว ฉันเขียนแล้วเขียนอีกจนคิ้วตกเป็นชินจังก็ยังไม่ สวยซะที

ถ้าอยากสวยแล้วลำบากขนาดนี้ ฉันก็ไม่อยากจะสวย แล้วล่ะ TOT

“มือถือเครื่องไหนก็ใช้ได้เหมือนกันนั่นแหละค่ะ” ฉันก้ม หน้าเถียงคนตรงหน้าในคอเบาๆ เวลาเถียงเขาน่ะฉันไม่ กล้าสบตาคมนั่นหรอก เขาน่ากลัว…

“เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ฉันแล้วมีคนโทรมาเธอจะควักมือถือ เธอขึ้นมาคุยรึไงฮะ”

อีกแล้ว…เขาทำให้ฉันจนคำพูดอีกแล้ว มันก็จริงของ เขา….คุณหนูจัสมินใช้มือถือเครื่องเก่ามันไม่เข้ากันเลย สักนิด

“อ้อ ฉันว่าเธอควรจะพกพวกเครื่องสำอางติดกระเป๋าไว้ บ้างก็ดีนะ ฉันเห็นผู้หญิงคนอื่นพกไม่เคยขาดกระเป๋า

“ฉันยังแต่งหน้าไม่ค่อยเก่งน่ะค่ะ”

“เธอก็พกไปเถอะ อ้อ แล้วได้ไปเรียนแต่งหน้าบ้างรึเปล่า เนี่ย”
“ฉันไปมาเมื่อวานค่ะ คุณครูใจดี สอนดีมากเลยค่ะ”

“ก็ดีแล้วนี่ สิ่งที่ฉันคาดหวังจากเธอคืออะไรจำได้รึเปล่า”

“แต่งหน้า ทำผมเองเป็นค่ะ (-)”

“ดีแล้วที่จำได้ เราไปกันดีกว่า คนที่ฉันจะพาเธอไปพบ คงรออยู่แล้ว” แล้วคุณดีแซมก็หมุนตัวเดินนำไป

นี่เขาไม่เคยคิดจะรอคนขาสั้น (กว่าเขา) อย่างฉันเลยรึ ไงเนี่ย ช่วยเห็นใจกันบ้างสิ ฉันใส่ส้นสูงอยู่นะ จะวิ่งตาม เขาทันได้ยังไงเล่า O/// ไม่ใช่คุณแม่เขาแน่นอน ก็ คุณแม่เขาเป็นคนไทยนี่นา

เฮ้ย! ภาษาอังกฤษงั้นเหรอ O[]O ซวยแล้วสิ ภาษา อังกฤษฉันไม่แข็งแรงนะ ฟังน่ะพอรู้เรื่องแต่เวลาจะพูด ปากมันก็หนักขึ้นมาดื้อๆเลย แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็พอจะดำ น้ำลื่นไหลได้

คุณดีแซมเอามือถือเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตาม เดิมหลังจากที่เขาคุยกับใครบางคนเสร็จแล้ว

“เราไปนั่งรอข้างในดีกว่า” คุณดีแซมหันมาบอกฉันแค่ นั้น เขาก็เดินไปบอกพนักงานที่ยืนรอต้อนรับว่ามากันสาม คน
พนักงานหนุ่มเดินน่าพวกเราไปยังโต๊ะว่างกลางห้องอัน กว้างใหญ่…

“ไม่ทราบว่าจะสั่งอาหารก่อนหรือต้องการรอแขกอีก ท่านมาก่อนดีครับ” พนักงานเอยถามอย่างสุภาพด้วยรอย ย้มแจ่มใส

“รอก่อนดีกว่าครับ”

“ครับ” พนักงานโค้งให้คุณดีแซมกับฉันนิดๆแล้วเดินผละ ออกไปทําหน้าที่ของตัวเอง

พนักงานเดินออกไป…ความเงียบก็เข้ามาแทน…

ฉันนั่งมองของบนโต๊ะอาหารแก้เก้อ….ไม่ว่าจะเป็นแก้ว น้ำใสกิ๊กมันวาววับ จานที่ทำจากวัสดุชั้นดี ช้อน ส้อม และของอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่วางไว้อย่างเป็นระเบียบสมกับ โรงแรมหรูห้าดาวจริง ๆ

ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกจ้องมองตามสัญชาตญาณดึง สายตาฉันให้หันไปสบตากับสายตาคมคู่นั้น….ดวงตาสี ไพรินสดใส…

คุณดีแซมกำลังมองหน้าฉัน…
“เอ่อ…มี อะไรติดหน้าฉันรึเปล่าคะ?” ฉันถามออกไป อย่างสงสัย ก็เขาเอาแต่มองหน้าฉันลูกเดียวเลยนี่นา อาจ จะมีอะไรติดอยู่ก็ได้ มันคงตลกจนเขาเอาแต่มองล่ะมั้ง

“เปล่าหรอก ฉันแค่สงสัยอะไรบางอย่าง”

“อะไรคะ?”

“เธอมีแฟนรึยัง?”

“ฉันไม่มีแฟนค่ะ”

“ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่มี” คุณดีแซมยิ้มมุมปากนิดๆ ฉัน ไม่มีแฟนแล้วเป็นเรื่องตลกสำหรับเขามากรึไง =[]=;; ฉัน ว่าหน้าอย่างฉันมี แฟนสิแปลก “ฉันว่าต่อไปนี้เธออาจจะ มีคนมาจีบก็ได้ ดูสายตาผู้ชายพวกนั้นสิ ผู้ชายโสดมอง เธอยังพอว่า เธอนี่ฮอตขนาดผู้ชายที่นั่งกับเมีย พาลูกมา กินข้าวยังแอบมองเธอเลยนะ”

คุณดีแซมพูดติดตลก เขาหัวเราะในลำคอนิดๆพลาง จ้องหน้าฉันไม่ละไปไหน ฉันไล่มองไปทั่วบริเวณตามที่ คุณดีแซมบอกก็เห็นแบบนั้นจริง ๆ ทันทีที่สบตากับฉัน พวกเขาก็แอบขยิบตาให้ บางคนก็ยกไวน์ขึ้นทักทายนิดๆ
“มาแล้วสินะ”

เสียงของคุณ แซมตึงสายตาฉันให้หันไปมองตาม สายตาเขา…แขกของเขามาถึงแล้ว…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ