บทที่ 10 คำขอร้อง
บทที่ 10 คำขอร้อง
ป้ายโร่ซีเดินออกมาจากหนานย่วน ก็ตรงไปที่เป่ยย่วน ทันที
ถึงแม้เฉียวสวนโส้รับปากว่าจะช่วยแม่ของเธอ แต่เธอก็ ไม่อาจนั่งรอเฉยๆได้ เธอไม่ได้มีความอดทนขนาดนั้น
พ่อบ้านของเป่ยย่วนบอกกับเธอ ว่าคนรับใช้สองคนนั้น ลาออกไปแล้ว
จึงขอเบอร์โทรศัพท์กับที่อยู่บ้านคนรับใช้มา แล้วป่ายโร่ ก็รีบออกจากบ้านเฉียวทันที
พอก้าวออกมาจากประตูเหล็กบานใหญ่หน้าสวนของ คฤหาสน์ ก็เจอเข้ากับคู่สามีภรรยาวัยกลางคน ป้ายโร่ซี หยุดเท้าลง มองไปที่คู่สามีภรรยาที่คุ้นเคยด้วยความรู้สึก หลากหลาย—พ่อกับแม่เลี้ยงของเธอ
ทั้งคู่ใบหน้าหนักอึ้ง สายตาดูมีความโกรธเคือง พอเดิน เข้าไปใกล้ ป้ายโร่ซีก็พูดขึ้นก่อน “พ่อ แม่ มาฉันหรือ เปล่า?”
ทั้งคู่ไม่ได้ตอบเธอ ป่ายหลิ่วหัวไม่พูดอะไรซักคำ หลิวเยว่เริ่มเข้าประเด็นทันที “ตำรวจแจ้งพวกเรามาแล้ว ว่า ซานซานไม่ได้เสพยา ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าท่าไมตำรวจ ยังต้องกักตัวเธอไว้อีกตั้ง45วัน ได้ยินว่าพี่สามของแก ตำแหน่งใหญ่โต แกไปพูดกับพี่สามของแกหน่อย ให้เขา ปล่อยซานซานออกมา”
นี่เป็นคําสั่งที่หยิ่งผยองไม่เบา มาขอให้เธอช่วยเหลือยัง จะถือตัว ป่ายโร่ซีห้ามริมฝีปากตัวเองไม่ได้ หลุดยิ้มอย่าง เจ็บปวดออกมา
กักขัง45วัน? ถ้าเธอเดาไม่ผิด น่าจะเป็นโทษของการค้า ประเวณี 45วันถือว่าเบามาก ยังไม่พอใจอีก?
ไม่ทันรอให้ป่วยโรซีตอบอะไร หลิวเยวยื่นมือออกไป ผลักไหล่ของป๋ายโร่ซีอย่างไร้ความอดทน “นี่ แกได้ยินที่ ฉันพูดไหม?”
ป้ายโรซีเซถอยไปหนึ่งก้าว เกือบล้มลงกับพื้น เธอขมวด คิ้วมองไปที่หลิวเยว่ แล้วพูดว่า “ทำเรื่องที่ผิดก็ต้องได้ รับโทษตามความผิด 45วันก็ไม่นาน ปล่อยให้เธอได้ ไตร่ตรองความผิดพลาดของตัวเองในนั้น ให้คนข้างใน สอนเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีต่อตัวเธอนี่”
หลิวเยว่โกรธจนควันออกหู เอานิ้วที่เคลือบด้วยยา ทาเล็บสีแดงกดไปที่หน้าผากของป่ายโร่ซี กัดฟันแล้ว ตะคอกออกมา “แกมันหมาป่าตาขาว ยังไงซานซานก็เป็นน้องสาวทางสายเลือดของแก เรื่องง่ายๆแค่นี้แกไม่ ช่วยแกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า? แกมันก็แค่…
ป้ายโร่ ปิดนิ้วของเธอออก เดินถอยไปหนึ่งก้าว หายใจ เข้าลึกๆแล้วถามอย่างเย็นชา “สิ่งที่คนเป็นมนุษย์เขาไม่ ทำกัน ป่ายซานซานทำมาหมดแล้ว เธอ…”
ป้ายโร่ซีอยากจะพูดแต่ก็หยุด
ถ้าพูดออกไปว่าป่ายซานซานขายพี่สาวแลกกับชื่อเสียง คาดว่าคู่สามีภรรยาที่รักลูกสาวคนเล็กดั่งดวงใจตรงหน้า คงไม่เชื่อ
ป้ายหลิ่วหัวเริ่มพูดด้วยอารมณ์โกรธ “บางทีคนอื่นอาจ จะไม่รู้ว่านายพลใหญ่แห่งประเทศซีเฉียวสวนโส้เป็นลูก หลานของตระกูลเฉียว แต่ฉันรู้ว่าเฉียวสวนใส้คือพี่สาม ของแก ตอนนี้ให้แกไปเปิดปากพูดหน่อยยากนักหรอ? นั่นมันน้องสาวแก ตอนนี้เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากการ ถูกคุมขัง จิตสำนึกแกถูกหมากินหมดแล้วหรือไง?”
โดนสามีภรรยาคู่นี้ด่าเหมือนหมูเหมือนหมา เป็นพี่สาว เห็นแก่ตัวที่กระทั่งน้องสาวของตัวเองยังไม่ช่วย ป้ายโร่ซี รู้สึกน่าขำสิ้นดี
หลิวเยว่พูดต่อด้วยความโมโห “ซานซานไปทำอะไรให้ แกนักหนา? แกถึงได้ใจแข็งเป็นหินขนาดนี้?”
ป้ายหลิ่วหัวก็โมโหมากเช่นกัน “ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้แก ยังไม่ช่วย งั้นความสัมพันธ์พ่อลูกเราก็สิ้นสุดลงตรงนี้”
ป้ายโร่ซียืนนิ่ง มองไปที่ป้ายหลิ่วหัว
ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่เคยได้รักความรักใดๆจากเขา ตอนนี้ เพื่อป่ายซานซาน ยังจะเอาความสัมพันธ์พ่อลูกมาขู่เธอ?
ที่น่าขำคือสองคนนี้หวังกับเธอป้ายโร่ซีมากเกินไปแล้ว ในใจของเฉียวสวนโส้ เธอเปรียบไม่ได้แม้กระทั่งฝุ่น แล้ว จะมาช่วยเธออย่างง่ายดายแบบไร้เงื่อนไขได้ยังไง?
ในตอนนั้นเอง ประตูเหล็กบานใหญ่ก็ค่อยๆเปิดออก รถ ของกองทัพก็ขับออกมาช้าๆ
หลิวเยว่ออกอาการทันที คว้าแขนของป่ายโรซี แล้วลาก
เธอไปยืนขวางทางรถ
หลิวเยวโบกมือโค้งคำนับให้รถ ยิ้มให้ทันที ด้วยท่าทาง อ่อนน้อมถ่อมตน
อาเหลียงหันไปข้างหลัง แล้วพูดกับเฉียวสวนโส้ที่นั่งอยู่ เบาะหลังว่า “คุณชายสาม คุณโร่ซีกับสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งยืนขวางทางอยู่ครับ
เฉียวสวนโสขมวดคิ้วเล็กน้อย พอเงยหัวขึ้นมองไปข้าง หน้า กระจกรถก็ถูกคนเคาะพอดี
เขาลดกระจกลง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางเข้ม จัดก็โผล่มาจากนอกหน้าต่าง ส่งยิ้มเก่าแก่ไร้รสนิยมมา ให้
“คุณชายสาม สวัสดีค่ะ ฉันเป็นแม่คนที่สองของโร่ซี พวกเราก็ถือว่าเป็นญาติกันนะ วันนี้ต้องขอโทษจริงๆที่มา รบกวนคุณ น้องสาวของโร่ซีถูกพาตัวไปอย่างไม่มีสาเหตุ โดนจับขัง45วัน โร่ซีของบ้านเรารักน้องสาวเธอมาก เธอ อยากขอให้คุณช่วย…
หลิวเยว่พูดจาอย่างสนิทชิดเชื้อ
ป่ายโร่ซีถูกบีบแขนอย่างแรงให้ยืนอยู่ข้างๆ เธอแค่มอง ชายหนุ่มผู้เฉยชาที่นั่งอยู่ในรถอย่างเงียบๆ
สวรรค์ไม่ยุติธรรมเสียจริง มอบรูปลักษณ์ที่น่าถนัด ถนอมและสมบูรณ์แบบให้กับชายคนนี้ ทำไมไม่มอบ หัวใจที่อบอุ่นให้เขาด้วย?
ตราบเท่าที่เขายังอยู่ ก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเข้าสู่ยุคน้ำ แข็ง
หลิวเยว่ยังคงพูดเจื้อยแจ้ว “…โร่ซีเป็นน้องสาวของคุณ ในนาม ซานซานก็เป็นน้องสาวของ โร่ซี ว่าตามเรื่อง ซาน ซานก็ถือว่าเป็นน้องสาวของคุณด้วย ขอให้คุณชายสาม เห็นแก่หน้าของโร่ซี ช่วยพวกเราเสียหน่อยเถิด สำหรับ คุณแล้ว นี่ไม่นับว่าเป็นธุระอะไร”
พูดจนน้ำลายแห้ง เฉียวสวนโส้เป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็ง พันปี นั่งนิ่งไม่ไหวติง ยังคงมองไปข้างหน้าด้วยแววตา เฉยชา แต่ก็ไม่ได้บอกให้คนขับรถขับออกไป
หลิวเยว่คิดไปคิดมา เดาว่าชายคนนี้กำลังรอให้ป้ายโร่ ซีพูด เธอร้อนรน แอบหยิกแขนป้ายโร่ซี แล้วกระซิบเสียง ต่ำ “พูดขอร้องให้ซานซาน”
ป๋ายโร่ซีเลิกคิ้ว ดึงแขนออกด้วยความเจ็บ กัดริมฝีปาก ล่างจ้องไปที่หลิวเยว่ ไฟลุกโชนขึ้นในใจอย่างโมโห
แต่เธอจะทำอะไรได้? หยิกกลับไปหรอ?
ตอนที่ย้ายกลับไปบ้านป่าย ครั้งหนึ่งมีปากเสียงกันผลัก เธอนิดเดียว ก็ถูกพ่อตบตีเจียนตาย ความเจ็บปวดในวัน นั้นยังจำมาถึงวันนี้
ถึงแม้ไม่เต็มใจที่จะช่วยป่ายซานซาน แต่เธอก็ต้อง ออกปากพูด “พี่สาม ขอร้องพี่ช่วยป๋ายซานซานหน่อย เถอะ”
หลิวเยว่พยักหน้าทันที “ใช่ใช่ ช่วยซานซานของบ้านเรา ทีเถอะ”
เฉียวสวนโส้เอียงคอ มองไปที่ใบหน้าสวยงามของป่าย โร่ซีด้วยดวงตาคมเข้มดุจเหยี่ยว ภายใต้การเฝ้ามองอย่าง คาดหวังของหลิวเยว่ สีหน้าเขาไม่แยแส ออกคำสั่งอย่าง เย็นชา “อาเหลียง แจ้งไปทางนั้น ให้ตรวจสอบว่าก่อน หน้านี้ป่ายซานซานเคยทำอะไรผิดอีกไหม 45วันเบาไป ต้องลงโทษหลายคดี”
สีหน้าหลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที แม้แต่ป่ายหลิ่วหัวที่ยืน ห่างออกไปหนึ่งเมตรยังตะลึงงัน ผลตอบรับนี้มาอย่าง ไม่ทันตั้งตัว พวกเขาไม่อาจยอมรับได้
ทั้งสองต่างตกตะลึง
“ครับ” อาเหลียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกไปทันที
ป่ายโร่ซีรู้แต่แรกแล้วว่าชายคนนี้จะไม่ช่วย แต่ไม่นึกว่า มันจะเลวร้ายยิ่งกว่าที่เธอคิดไว้
มองเข้าไปในตาที่ชวนหลงใหลคู่นั้นของเฉียวสวนโส้ ป่า ยโร่ซีรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งอันมืดมิด หนาว เย็นลึกลงไปไม่มีที่สิ้นสุด
เธอไม่มีทางเดาได้เลยว่าชายคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่เกลียดเธอมากขนาดไหนกัน?
เฉียวสวนโส้ถามอย่างใจเย็น “ยังมีเรื่องจะขอร้องฉันอีก
ไหม?”
คำถามนี้พูดง่ายๆก็คือการประชดอย่างยิ่ง เธอป้ายโร่ซี ยังกล้าขอขอร้องอะไรอีก?
เธอกล้าไหม?
ขอให้เขาช่วยแม่ก็ผลักตัวเองเข้าไปในนรกที่ไม่รู้เป็นยัง
ตอนนี้ธุระเล็กๆก็กลายเป็นหายนะได้ เธอเค้นรอยยิ้มที่ ขมขื่นออกมา ลดสายตาลงไม่มองไปที่ดวงตาที่ไม่อาจ หยั่งรู้อีกต่อไป
“ไม่มี” เธอตอบกลับเสียงเบา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ