I have a crush on you

บทที่ 8 ช่วยเหลือ



บทที่ 8 ช่วยเหลือ

บทที่ 8 ช่วยเหลือ

ออกจากคุกมา ป้ายโร่ซีก็นั่งรถของเฉียวสวนโส้ต่อ ยัง คงความเงียบไว้อย่างนั้น

ไม่อยากทำให้เขาเกลียดยิ่งขึ้น จึงพยายามให้ตัวเองพูด ให้น้อยที่สุด

ป้ายโร่ซีพิงหัวไว้กับกระจกข้างรถ เหม่อมองวิวทิวทัศน์ ด้านนอก ดูแสงพระอาทิตย์ส่อง

จิตใจเหมือนตกลงไปในเหวลึกที่มืดมิด ดำดิ่งลงไปไม่

สิ้นสุด

รถเร่งเครื่องไปราวกับไร้จุดหมาย เวลาผ่านไปราวกับ ทศวรรษ ป้ายโร่ซีรู้สึกอึดอัดจนแทบจะเป็นบ้า จึงค่อยๆ เปิดปากถาม “พี่สาม พวกเราไม่กลับบ้านเฉียวหรอ?”

“เธอรีบกลับหรือไง?” เฉียวสวนโส้ถามกลับด้วยน้ำเสียง

เย็นชา

“อืม” เพราะไม่มีแรงที่จะพูด ป้ายโร่ซีจึงตอบส่งๆไป

มือของชายหนุ่มกำพวงมาลัยแน่นขึ้น เส้นเลือดปูดขึ้นเด่นชัด แววตามืดมน

ทั้งสองกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง

ป้ายโร่ชีเงยศีรษะขึ้นมาพิงเบาะเก้าอี้ เอียงศีรษะมอง ใบหน้าด้านข้างที่เด็ดเดี่ยวของเฉียวสวนโส้ งดงามมาก จนพริบตานึงคนมองไม่อาจห้ามใจตัวเองได้

“พี่สาม เดือนหน้าพี่จะแต่งงานแล้วหรอ?”

“อืม” เฉียวสวนโส้เปล่งเสียงแผ่วเบาออกมาจากสําคอ

“จะเชิญฉันไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวไหม?” พอป้ายโร่ซีพูด คำนี้ออกมา ล่าคอก็ร้อนจนอึดอัด น้ำตาที่กลั้นไว้ทำให้

ใจดำดิ่งลงไปอีก

เฉียวสวนโส้พูดตอบอย่างหนักแน่น “ไม่”

ป้ายโร่ซียมอย่างขมขื่น แบบนี้ก็ดี เธอก็กลัวว่าจะห้ามตัว เองไม่ให้ร้องไห้ในพิธีแต่งงานของพวกเขาไม่ได้

“ไม่เชิญฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันอยากให้ของขวัญอวยพร พวกพี่ พี่สามอยากได้อะไรที่สุด?”

เฉียวสวนโส้บีบแตรรถอย่างหัวเสีย ทําเอาป่ายโร่ซีสะดุ้งตกใจ พบว่ามีคู่สามีภรรยาขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่าง เชื่องช้าอยู่ด้านหน้า

รถมอเตอร์ไซค์เบี่ยงออกไปแล้ว แต่ป้ายโร่ซีรู้สึกได้ถึง ความโกรธที่อธิบายไม่ได้แผ่ออกมาจากชายหนุ่มอย่าง ชัดเจน

ผ่านไปพักหนึ่ง เขาถึงตอบคำถามของเธอด้วยความ ฉุนเฉียว “ที่ฉันต้องการ เธอให้ไม่ได้”

คำพูดนี้ ทำให้ป้ายโร่ซีไม่อาจพูดอะไรได้

เธอเป็นแค่พนักงานออฟฟิศทั่วๆไป เงินเดือนเดือนนึง พอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ก็ดีแล้ว แน่นอนว่าไม่มีหน้าไปถาม คนใหญ่คนโตที่ไม่ขาดอะไรเลยว่าอยากได้ของขวัญ อะไร

เธอนิ่งเงียบ

ความหัวเสียของเขายังคงลุกโชนอย่างไม่รู้สาเหตุ สีหน้ายากที่จะมองออก

รถที่เคลื่อนอยู่บนถนน ครั้งนี้แล่นไปโดยมีจุดหมายไป ทางบ้านเฉียว
กลับถึงบ้านเฉียวก็เย็นแล้ว

รถของเฉียวสวนโส้จอดอยู่ที่ทางเดินหน้าประตูทางเข้า คฤหาสน์ ป้ายโร่ซีเปิดประตูลงจากรถ พึ่งเดินไปได้สอง ก้าวก็มองเห็นหยื่นย

เธอแต่งตัวหรูหราและอ่อนหวาน สูงส่งราวกับเจ้าหญิงที่

สง่างาม

หยิ่นรุ่ยรอยยิ้มมีความสุข เพราะเธอสองคนเจอกันบ่อย ความสัมพันธ์ใกล้ชิดราวกับพี่น้อง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ เมื่อเจอกัน

“โร่ซี เธอก็อยู่ด้วย!” หยิ่นรุ่ยเดินมาหาป้ายโร่ซี

ป้ายโร่ เปล่งเสียงพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แข็งทอ “อืม” หยิ่นรุ่ยเดินผ่านตัวป่ายโร่ซีไป

เฉียวสวนโส้พึ่งผลักประตูปิดลง หยิ่นรุ่ยก็พุ่งเข้าหาทันที ตรงเข้ามากอดเอวเขา วางศีรษะไว้ตรงหน้าอก แล้วพูด ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “สวนโส้ ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว”

ป้ายโร่ซีค่อยๆหันหัวกลับไปมอง แต่ก็เสียใจหันหน้ากลับทันที เธอก้าวเท้าเดินจากไปอย่างจนปัญญา รองเท้า เหยียบลงบนพื้น ต่างเป็นเสียงหัวใจที่สลาย

เฉียวสวนโสขมวดคิ้ว ยืนนิ่งก้มหน้ามองหญิงสาวที่กอด เขาอยู่ สายตาเย็นชาพร้อมพูดขึ้น “กอดพอหรือยัง?”

หยิ่นรุ่ยรีบปล่อยมือออก เดินถอยไปหนึ่งก้าว หันกลับ ไปมองรอบๆ พบว่าป้ายโร่ซีเดินจากไปแล้ว เธอจึงเสย ผมทัดหูอย่างขัดเขิน แล้วพูดว่า “พวกเราไม่ได้เจอกัน นานแล้ว ก็เลยดีใจมากไปหน่อย”

เฉียวสวนโส้ไม่พูดอะไร เดินผ่านหยิ่นรุ่ยไปอย่างไม่ แยแส

หยิ่นรุ่ยรีบตะโกนเรียกเขาไว้ “สวนโส้ ยังจ่าสัญญาของ นายได้ไหม?”

เฉียวสวนใส้หยุดชะงัก ยังคงหันแผ่นหลังให้หยิ่นรุ่ย

หยิ่นรุ่ยพูดต่อ “ก่อนนี้นายเคยรับปากกับฉัน ก่อนอายุ สามสิบถ้าเราทั้งคู่ยังไม่แต่งงาน นายจะมาขอฉัน อีก อย่างเพื่อช่วยนายฉันยอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง ถึงแม้ความ สัมพันธ์ของเราจะเป็นแค่เพื่อนที่ดีต่อกัน แต่พวกเรารู้จัก กันดีที่สุด พวกผู้ใหญ่หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน แบบนี้จะ เป็นประโยชน์ต่อกิจการของทั้งสองครอบครัว…”

เฉียวสวนโส้พูดขัดขึ้นอย่างเด็ดขาด “ฉันเฉียวสวนโส้ พูดแล้วไม่คืนคำ ไม่จำเป็นต้องให้เธอมาเตือน”

หยิ่นรุ่ยยิ้มออกมาเบาๆ “คุณน้ารองของนายพึ่งเสียชีวิต ได้ไม่นาน ไม่สามารถจัดงานเลี้ยงได้ พวกเราแค่ไปจด ทะเบียนสมรสก็พอ มีหรือไม่มีพิธีแต่งงานก็ไม่เป็นไร”

“ยังไม่ถึงเวลา” เฉียวสวนโส้ทิ้งประโยคสุดท้ายไว้อย่าง เฉยชา แล้วเดินก้าวเข้าคฤหาสน์ไปอย่างเงียบๆ

หยิ่นรุ่ยยืนนิ่ง กำหมัดแน่น เล็บที่ประดับเพชรถูกกด แน่นลงบนฝ่ามือ สีหน้าจมดิ่งลง

ป่ายโร่ซีเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างว้าวุ่น จิตใจ ไม่สงบ นั่งอยู่ปลายเตียงคนเดียว

บางที น้ำตาคงแห้งเหือดหมดแล้ว

และบางที ก็อาจจะเตรียมใจไว้นานแล้ว
หัวสมองเธอว่างเปล่า ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ทำอะไร ใจลอยอยู่เงียบๆ

“ก๊อกก๊อก…”

ประตูถูกเคาะ เคาะประตูครั้งที่สองถึงจะดึงป้ายโร่ซีก ลับมาจากความใจลอย

เธอรีบเดินไปเปิดประตู สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือใบหน้า สวยงามที่มีความสุขของหยิ่นรุ่ย เธอฉีกยิ้มกว้าง “โร่ซีฉัน อยากให้เธอช่วยอะไรฉันหน่อย

“เข้ามาสิ” ป่ายโร่ซีเปิดประตูออกให้เธอเข้ามา ฝืนยิ้ม เล็กน้อย “ให้ฉันช่วยอะไรหรอ?”

หยิ่นรุ่ยนั่งลงบนเตียงของป่ายโร่ซี แล้วพูดอย่างอารมณ์ ดี “โร่ซี เธอช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าไปฮันนีมูนที่ไหนดี? ฉัน กับสวนโสของเธอวางแผนว่าจะไม่จัดงานเลี้ยง แต่อยาก หาสถานที่ที่จะไปฮันนีมูน ถ่ายภาพแต่งงานเก็บไว้เป็น ความทรงจํา”

ป้ายโร่ซีนิ่งไป ประตูที่กำลังปิดค้างอยู่ครึ่งนึง ไม่ สามารถขยับได้ราวกับถูกกดปุ่ม

“เดือนหน้าฉันก็จะได้ย้ายมาอยู่กับเธอแล้ว ถึงตอนนั้น พวกเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ป้ายโรซีสูดหายใจลึก ค่อยๆปิดประตูลง ในตอนนั้น เธอ รู้สึกแทบหายใจไม่ออก แต่ก็แสร้งทำเหมือนไม่เป็นอะไร

เธอหันตัวเดินไปทางหยิ่นรุ่ย พร้อมยิ้มกว้าง “เธอควรจะ ไปหาพี่สามคุยเรื่องสถานที่ฮันนีมูนนะ”

หยิ่นรุ่ยยิ้มแย้มอย่างมีความสุข “เขาให้ฉันรับผิดชอบ เรื่องนี้

ป้ายโร่ซีนั่งลงข้างหยิ่นรุ่ย สองมือวางบนเตียง ก้มหน้า ลงพื้นแล้วพูดเสียงเบา “งั้นเธอจัดการก็ดีแล้ว ฉันไม่ค่อย รู้เรื่องพวกนี้”

หยิ่นรุ่ยตบไหล่ของป่ายโร่ซี ถามขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ฉัน คบหากับพี่สามของเธอมาหลายปีแล้ว ไม่ได้บอกเธอเลย เธอจะโทษฉันไหม?”

ป้ายโร่ซียิ้มอย่างขมขื่น ส่ายหัว หลบสายตาเพื่อปิดบัง ใบหน้าที่เศร้าหมองของเธอ

“ตอนนี้เธอยังชอบพี่สามของเธออยู่หรือเปล่า?” หมิ่นรุ่ ยถามอย่างระมัดระวัง

ป้ายโร่ซีค่อยๆหลับตาลง แล้วพูดอย่างไม่จริงใจ “ไม่ ชอบมาตั้งนานแล้ว”
หยื่นรุ่ยจับมือของป่ายโร่ซี พูดเสียงแผ่วด้วยความรู้สึก ผิดมาก “ขอโทษนะโร่ซี ความรักมันบังคับกันไม่ได้ พี่สาม ของเธอก็ไล่ตามฉันมาหลายปีแล้ว ฉันรู้ว่าเธอชอบเขามา ตั้งแต่เด็ก ฉันจึงปฏิเสธเขาไปหลายครั้ง แต่ความรักของ เขามั่นคงมาก ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง”

ป่ายโร่ซีเงยหน้า ปัดผมทัดหู รอยยิ้มที่ฝืนเค้นออกมา นั้นแข็งทื่อ แต่ก็ยังพูดปลอบโยนด้วยความใจดี “ยัยโง่ จะมาพูดขอโทษฉันทำไม? ฉันไม่ได้โทษเธอ มีผู้หญิงตั้ง มากมายแอบชอบเขา เธออย่าไปใส่ใจเลย ในสายตา ของพี่สามฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ความรักมันต้อง เต็มใจทั้งสองฝ่าย ไม่มีอะไรมาก่อนมาหลัง ฉันตอนนี้ ปล่อยวางแล้วจริงๆ

เพื่อเก็บซ่อนความว้าวุ่นในใจ และเพื่อไม่ให้หยิ่นรุ่ยกล่า วโทษตัวเองอีก ป้ายโร่ซีจึงหาเหตุผลมาอ้าง “ตอนนี้ฉันมี ผู้ชายที่ชอบมาก ผู้ชายแบบพี่สามที่มักจะไม่ค่อยอยู่บ้าน มอบชีวิตให้ประเทศชาติ ชอบเผชิญหน้ากับอันตราย ไม่มี ความรู้สึกปลอดภัย ฉันไม่ชอบเขาจริงๆ เธอไม่ต้องกังวล เรื่องความรู้สึกฉัน ฉันขออวยพรให้เธอมีความสุขจากใจ”

“เป็นเรื่องจริงหรอ?” หยิ่นรุ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ

ป้ายโร่ชีพยักหน้าอย่างฝันใจ สายตาหลีกเลี่ยงการจ้อง มองของเธอ “อื้ม!”
จีนชายที่เธอชอบคือใครหรอ?”

“ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นแฟนแล้วค่อยบอกเธอ

หยื่นรุ่ยผลักไหล่ของเธออย่างยั่วยวน “ยังไม่เป็นแฟน กันได้ยังไง? เธอดูหุ่นแซ่บๆอย่างเธอ ใบหน้าอย่างกับ นางฟ้า ฉันไม่เชื่อว่ายังจะมีผู้ชายไม่สนใจเธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ