ตอนที่ 2 ลด าหนัก
จริงสิ ยังไม่รู้เลยว่าร่างเดิมร่างหน้าตาเป็นยังไง เมื่อนึกได้ แบบนี้เธอจึงก้มลงมองเสื้อผ้าของตนเอง เมื่อมองแล้วพบว่าสิ่ง นี้ยังไม่น่ากังวลเท่าไหร่ สิ่งแรกที่เธอมองเห็นคือก้อนเนื้อกลุ่ม ก้อนขนาดใหญ่ที่ปูดนูนออกมาจากตรงกลางท้อง ทั้งยังพับจน เป็นชั้นๆ เป็นรูปร่างแบบมิชลินมาตรฐานเลยทีเดียว นี่มัน นี่มัน คงจะเป็นห่วงยางว่ายน้ำในตำนานเลยใช่ไหม เฉินเสวี่ยลอง บีบๆ ดู สัมผัสที่นุ่มนวลเป็นความรู้สึกที่ยากเกินบรรยายได้ ของแบบนี้เมื่อก่อนเธอเห็นแต่อยู่บนตัวของคนอื่นยังไม่เคยได้ รู้สึกและสัมผัสสิ่งนี้ด้วยตัวของตัวเองมาก่อนเลย
เธออยากจะลุกขึ้นยืนไปส่องกระจกอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าแค่ การยืนยังจะต้องใช้เวลาไปนานกว่าหลายวัน เธอยังไม่คุ้นเคย กับร่างกายของตัวเองที่หนักมากขนาดนี้ ทั่วทั้งร่างกายยังคง ปวดอยู่เล็กน้อยคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเมื่อครู่นี้นอนขดอยู่บน โซฟานานเกินไป
เฉินเสงี่ยหากระจกบานหนึ่งเจอในห้องน้ำ ติดอยู่บนผนัง กำแพงของห้องน้ำ ทันทีที่เธอเดินเข้าห้องน้ำไปก็มองเห็นทันที เมื่อได้มองมันก็ทำให้ภายใน จิตใจของเฉินเสวี่ยจมดิ่งลงไป รูปร่างของหญิงสาวที่อยู่ใน กระจกคนนี้น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ เนื้อตัวอวบอ้วนยังไม่ พอ บนใบหน้ายังเต็มไปด้วยเนื้อหนัง ใบหน้าขนาดใหญ่ที่ อวัยวะทั้งห้าเบียดชิดกันอยู่ตรงกลาง ดวงตานั้นถูกเนื้อแก้ม เบียดจนแทบจะไม่มีแล้ว หากสามารถพูดอะไรที่ช่วยปลอบใจ ได้บ้างก็คงจะเป็นผิวที่ดูแล้วเหมือนจะค่อนข้างใช้ได้ ไม่มีสิว แล้วก็ไม่มีหลุมอะไร มองแล้วแลดูเนียนเกลี้ยงเกลา แต่ว่า ความเรียบเนียนกว่าครึ่งคาดว่าจะเป็นความเนียนจากเนื้อที่ บีบแออัดกัน เฉินเสวี่ยทำได้เพียงปลอบใจตัวเองอยู่ภายในใจ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คนอ้วนทุกคนล้วนเป็นหุ้นที่มีศักยภาพ
แต่สิ่งที่ทำให้เธอทนไม่ได้มากที่สุดคือเส้นผมที่มันเยิ้ม ของหญิงสาวคนนี้ แทบจะพันกันเป็นก้อนแล้ว เดิมทีเฉินเสวี่ย เป็นคนที่รักสะอาดและใช้ชีวิตด้วยความมั่นใจ มาเห็นเกียรติ ของตนเองในตอนนี้ ปัญหารูปลักษณ์ของร่างกายเป็นปัญหา ระยะยาวไม่สามารถแก้ไขได้ในทันที แต่สุขอนามัยถูกคนๆ นี้ ทำเสียจนกลายเป็นแบบนี้มันทำให้ยากที่จะทนได้จริงๆ
เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความหงุดหงิดใจอยู่ไม่เป็นสุข คิดว่าจะไปอาบน้ำก่อน ยังไงก็ต้องอาบน้ำล้างตัว ของตัวเองให้สะอาดก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องอื่นๆ ทีหลัง แต่เมื่อ ออกจากห้องน้ำเธอถึงได้สังเกตเห็นว่าห้องนั่งเล่นยังรกสกปรก อยู่เลย บนพื้นมีเปลือกเมล็ดแตงโมและเปลือกแอปเปิ้ลถูกโยน ทิ้งเอาไว้ บนขนาดเล็กที่ใช้เป็นที่วางน้ำชายังมีอาหารสอง จานกับน้ำซุปหนึ่งหม้อวางอยู่ซึ่งต่างถูกกินไปกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้เป็นฤดูร้อน นี่เดาว่าคงจะวางไว้กว่าครึ่งวันแล้วเพราะมี กลิ่นที่ไม่น่าอภิรมย์โชยออกมาแล้ว
ได้ ทำความสะอาดห้องก่อนแล้วกัน ทำเสร็จแล้วค่อยไป อาบน้ำถึงจะรู้สึกสดชื่น
เฉินเสวี่ยถอนหายใจ ก่อนจะจัดการเก็บอาหารบนโต๊ะ ก่อน เอาวางไว้ด้านนอกนานขนาดนี้คงจะกินไม่ได้แล้ว ทว่า เมื่อมองๆ ดูแล้วภายในบ้านก็ไม่มีตู้เย็นเช่นกัน อาหารพวกนี้ จึงถูกเททิ้งทั้งหมด เธอจัดการเช็ดโต๊ะน้ำชาแล้วก็กวาดพื้นห้อง เมื่อเดินผ่านประตูห้องเข้าไปเห็นว่าผ้าห่มที่อยู่ด้านในยังไม่ได้ พับเก็บเลยจึงเดินเข้าไปพับผ้าห่ม ขณะที่กำลังพับอยู่ยังพบว่า ผ้าปูที่นอนมีรอยเปื้อนของรอยเลือดจางๆ อยู่ด้วยจึงถอด ผ้าปูที่นอนกับปลอกผ้านวมเอาออกไปเปลี่ยนซักอย่างจำใจ ในยุคที่ไม่มีเครื่องซักผ้าแบบไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะฟื้นฟูทักษะการซักผ้าช่วงที่ ตนเองฝึกทหารสามารถทำความสะอาดผ้าปูที่นอนปลอก ผ้านวมสะอาดหมดจด ออกแรงบิดหมาดๆ แล้วตากแห้งระเบียง ด้านล่างยังอ่างรองเอาด้วยอัน ช่วยได้ ใครใช้ให้ไม่เครื่องซักผ้าย่อมปั่นแห้งไม่ได้? การชีวิต ในยุคแปดศูนย์แบบนี้ยากลำบากมากจริงๆ
ใช่ ยุคแปดศูนย์ เฉินเสวี่ยยืนยันมั่นใจแล้ว เมื่อครู่ทำความเธอเห็นปฏิทินวันที่ 16 มิถุนายน 1982 ข้ามเวลาสักครั้งกันข้ามอยู่ใน ช่วงต้นของการและเฉินเสวี่ยรู้สึกสบเลยจริงเธอได้อยากจะ ใช้ประโยชน์จากสายลมแห่งการปฏิรูปในฤดูใบไม้ผลิทำ อะไรที่เป็นความเสี่ยงเพื่อความก้าวหน้าของยุคสมัยใหม่ เธอ เป็นคนหลังแปดศูนย์จริง แต่ปี 1982 เธอยังเกิดเลย ด้วยซ้ำ ไหนเลยว่ายุคที่แท้แล้วเป็นแบบนี้ ไม่ตู้เย็น ไม่มี เครื่องซักผ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มี ไม่โทรศัพท์มือถือสิ่งของเหล่าใช้เวลานาน กว่าสิบถึงสิบให้หลังถึงเผยแพร่ขึ้นมา เธอมาอยู่ในยุคเพื่อมาลำบากอย่างนั้นหรอ เธอก็แค่อดหลับอดนอนเร่งทำแปลน ออกแบบอยู่ที่บ้านเท่านั้นถึงกับต้องได้รับรางวัลเป็นการข้าม เวลาแบบนี้เลยหรอ เมื่อเฉินเสงี่ยนึกถึง Loft [2] แสนสะดวก สบายของตัวเองแล้วอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา จริง แถม ยังไม่มีแอร์ด้วย ในหน้าร้อนแบบนี้แอร์คือชีวิตของฉันเลยนะ
ตอนนี้เก็บกวาดทำความสะอาดไปหนึ่งรอบ ทั้งยังต้อง ลากร่างกายอันหนักอึ้งแบบนี้รู้สึกได้เลยว่า ในสภาพอากาศ ร้อนอบอ้าวแบบนี้ทำให้ทั่วทั้งตัวของตนเองเปียกชุ่มไปหมด เฉินเสวี่ยคิดถึงเครื่องปรับอากาศเป็นที่สุด
ในที่สุดบ้านก็ได้ถูกทำความสะอาดจนดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น มาบ้างแล้ว ส่วนอีกหนึ่งห้องถูกล็อคอยู่ เฉินเสวยผลักแล้วเปิด ไม่ออก ภายในบ้านนี้ก็หากุญแจไม่เจอจึงตัดใจแล้วปล่อยมัน ไปเฉยๆ
เธอมองห้องที่สะอาดขึ้นไม่น้อยแล้วพลางถอนหายใจด้วย ความโล่งใจ พร้อมเตรียมตัวอาบน้ำ ร่างกายนี้ที่เดิมที่มีทั้ง ความมันทั้งเหงื่อ หลังจากเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วยิ่งมี ฝนเพิ่มเข้ามาอีกทำให้ยากที่จะอดทนอดกลั้นได้จริงๆ
หาเอาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนอาบน้ำจากในตู้เสื้อผ้าออก มาสองสามชิ้น เฉินเสวี่ยเองก็ไม่ได้เลือกเพราะเสื้อผ้าพวกนี้ ไม่มีอะไรให้น่าเลือกเลย ทั้งหมดมีกี่ตัวไม่ว่าแถมยังเป็นเสื้อ เชิ้ตผู้ชายตัวใหญ่และกางเกงสำหรับคนอ้วนแบบสไตล์ยุคแปด ศูนย์ทั้งหมดด้วย
พูดตามความจริงว่าอย่าไปเชื่อพวกเทคนิคแมทช์เสื้อผ้า บนอินเตอร์เน็ตพวกนั้นเลย การเลือกสีแบบชาญฉลาด ให้มอง แล้วรู้สึกผอมไปสิบกิโล ตอนเรียนมหาวิทยาลัยสิ่งที่เป็นเสวี่ย เรียนคือการออกแบบเสื้อผ้า หากต้องการบอกว่าผลจากการ แมทช์เสื้อผ้าสามารถทำให้ดูผอมลงไปสองสามกิโล หรือกล่าว อีกนัยหนึ่งว่าสามารถช่วยปรับความรู้สึกการมองเห็นให้ขยาย จุดเด่น ซ่อนเร้นจุดด้อยยังนับว่าพอเชื่อถือได้ แต่เมื่อเผชิญหน้า กับคนอ้วนร่างใหญ่ที่หนักเกินกว่าเจ็ดสิบห้านั้น สิ่งเหล่านี้ต่าง เป็นเหมือนเมฆลอยไปลอยมา เพียงแค่อ้วนปุ๊บก็ทำลายทุกสิ่ง ทุกอย่าง
อันที่จริงด้านในห้องน้ำก็ไม่มีที่สำหรับอาบน้ำ ทว่ามีติด ตั้งหัวฝักบัวไว้แต่ไม่มีน้ำอุ่น แม้ว่าจะเป็นฤดูร้อนแต่เฉินเสวี่ย ไม่กล้าอาบน้ำเย็นเพราะแบบนี้ทำให้ร่างกายเย็น ประจำเดือน มาก็จะปวดท้องมาก แบบนั้นได้ทุกข์ทรมานแน่นอน
หลังจากต้มน้ำร้อนสองหม้อผสมกับน้ำเย็นแล้วจึงจัดการ สระผมก่อน น้ำดำๆ ที่ล้างออกมาพวกนั้นทำเอาเฉินเสวี่ยแทบ จะทนมองไม่ได้ ร่างเดิมเธอยังไงนะ ผมแทบจะบีบเอาน้ำมัน ออกมาได้เป็นครึ่งแล้วยังไม่สระ? โชคดีที่ร่างกายไม่ได้สกปรก มากขนาดนั้นจึงใช้สบู่อาบเพียงสองรอบ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอ หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกคือเนื้อบริเวณหน้าท้องของเธอที่มี รอยพับรอยย่นอยู่ด้วยจริงๆ ต้องแยกมันออกแล้วล้างให้ สะอาด วิธีการล้างแบบนี้เมื่อก่อนเธอจะได้พบเจอเพียงแค่ตอน กลับบ้านเกิดแล้วอาบน้ำให้หลานชายตัวอ้วนของเธอเท่านั้น
ในที่สุดก็จัดการกับตัวเองจนสะอาดสะอ้านแล้ว เฉินเสวี่ย เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวคู่กางเกงสีกากีสีเข้ม นั่งลงบน โซฟาตัวเล็กในห้องนั่งเล่นแล้วเริ่มคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อ ไป
เมื่อค้นดูความทรงจำผ่านๆ อีกครั้งก็พบว่านับตั้งแต่พวก เขาทั้งสองคนแต่งงานกันหลัวต้าอวี่ไม่เคยสัมผัสแตะต้องตัว เธอเลย ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย แต่อย่างน้อยเงินเส ยก็สามารถโล่งใจได้ที่ไม่จำเป็นต้องร่วมเตียงนอนกับผู้ชายที่ ไม่คุ้นเคย ในยุคปัจจุบันเธอเองก็เคยมีแฟนมาหลายคน ชื่นชม ความรักความรู้สึกที่ไม่มีการฝืนอกฝืนใจ สำหรับการต้องนอนร่วมเตียงเพื่อภาระ หน้าที่สามีภรรยาที่ติดตัวร่างเดิมมาด้วยอะไรแบบนั้น ขอบคุณ ด้วยความเคารพ เธอไม่มีทางทำอย่างเด็ดขาด
โดยปกติแล้วเมื่อหลัวต้าอวี่กลับมาจะนอนในห้องที่ถูก ล็อกประตูไว้ห้องนั้น ด้านในนั้นตัวของร่างเดิมเองก็ไม่เคย เข้าไปมาก่อน ไม่รู้ว่าด้านในตกแต่งอย่างไร อย่างไรเสียเงินเส ยก็ไม่สนใจ เข้าไปไม่ได้ก็ดีจะได้ไม่ต้องทำความสะอาด ล็อก ไว้แล้วไม่เห็นก็จะไม่รำคาญใจ ไม่อย่างนั้นเมื่อเห็นว่าด้านใน รกยุ่งเหยิงขึ้นมาเธอเกรงว่าถ้าโรคย้ำคิดย้ำทำของตัวเอง กำเริบขึ้นมาคงได้ในหน้าต่างเข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาด แต่ในความทรงจำหลังจากแต่งงานแล้วหลัวต้าอวี่เป็นคน ทำความสะอาดบ้านตลอด เดาว่าผู้ชายคนนี้คงจะไม่ปล่อยให้ ห้องของตัวเองรกหรอก ในกองทัพมีข้อกำหนดเกี่ยวกับกิจการ ภายในไม่ใช่หรอ ผ้าห่มต้องพับให้เป็นก้อนเต้าหู้อะไรทำนอง นั้น เธอทำไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้เฉินเสวี่ยแก้ปัญหาของตัวเองก่อนดีกว่า ยังไงซะก็ มาถึงที่โลกนี้แล้ว แม้จะไม่รู้ว่าทำไมแต่ก็ใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ ให้มันสุดติ่งไปเลย กฎเกณฑ์ชีวิตของเฉินเสวี่ยคือทุกที่ทุกเวลา ต้องใช้ชีวิตอย่างมีอิสระและเป็นตัวของตัวเองแม้ว่าจะมีสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยมากมาย แต่ว่าก็มีข้อดี ในแบบของมัน ในเมื่อตอนนี้เป็นช่วงต้นของยุคเปิดและปฏิรูป เศรษฐกิจ เฉินเสวี่ยอยากจะทำงานศิลปะที่เข้าถึงคนเป็นของตัว เอง นักออกแบบระดับชั้นนำ ไม่ว่ายังไงต้องหาเวทีของตัวเอง เจออย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสําหรับความสัมพันธ์สามีภรรยาเธอยังไม่ รีบร้อนที่จะแก้ไข ถ้าหากแก้ไขแล้วเกิดความรักความรู้สึกขึ้น มา เธอคงจะไม่สามารถเป็นอิสระได้แบบนี้แล้ว ทางที่ดีที่สุดขอ ให้สุดท้ายผู้ชายคนนี้ทำเรื่องนอกใจมีขึ้นมาแล้วเป็นฝ่ายขอ หย่ากับเธอเอง เธอจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองอีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยทำผิดพลาดอะไร แต่เธอหย่าร้างถูก ทอดทิ้ง พ่อแม่และพี่ชายคงจะไม่มีทางโกรธอะไรเธอแล้ว พอดี แถมเธอยังสามารถใช้เหตุผลนี้บอกว่าตนเองหมดความศรัทธา เชื่อถือในการแต่งงานแล้ว ต่อจากนี้ไปไม่อยากแต่งงานอีก แล้ว เมื่อก่อนครอบครัวต่างตามอกตามใจเธอมากขนาดนั้น คงจะไม่มีทางบังคับให้เธอแต่งงานให้ได้หรอก ซึ่งเธอยัง สามารถเดินบนเส้นทางไม่แต่งงานของตนเองต่อไปได้ด้วย
ส่วนเรื่องที่หลังจากหย่าไปแล้วหลัวต้าอวี่จะถูกตระกูลเฉิน แก้แค้นหรือไม่นั้นเฉินเสวี่ยไม่สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว อย่างไรเสีย เธอก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีคนนี้อยู่แล้ว ถ้าหาก เขาถูกล้างแค้นก็พอดี ถือเสียว่าเป็นการแก้แค้นให้กับร่างเดิม ใครใช้ผู้ชายคนนี้เย็นชากับเมียของตัวเองขนาดนั้น ถ้าหาก เขายอมเปลี่ยนแปลงสักน้อย ปฏิบัติต่อร่างเดิมให้ดีกว่านี้อีก หน่อย ไม่แน่บางทีอาจจะทำให้ร่างเดิมเองก็เปลี่ยนแปลงไปใน ทางที่ดีขึ้นด้วยก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่มีทางทำให้ร่างเดิมเจ็บปวด ทรมานจนสลบตายไปเป็นผลให้ตนเองถูกดึงมาที่โลกนี้แบบนี้
เฉินเสวี่ยครุ่นคิดเกี่ยวกับอนาคตที่มีอิสระเสรีอยู่ครู่หนึ่ง พลางตบๆ หน้าตัวเอง จัดการที่อยู่ตรงหน้าก่อนเถอะ ภารกิจ สำคัญอันดับแรกของเธอในตอนนี้คือต้องกำจัดไขมันทั่วทั้งตัว ของตนเองออกไป เธอคุ้นชินกับการได้เห็นเส้นกล้ามหน้าท้อง เล็กๆ ของตัวเองไปแล้ว สภาพตอนนี้ รูปร่างห่วงยางว่ายน้ำ แบบนี้เธอรับไม่ได้จริงๆ
เดิมทีตัวของเฉินเสวี่ยเองถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการ ออกกำลังกายคนหนึ่ง ทุกสัปดาห์ก็มักจะไปเสียเหงื่อที่ฟิสเนสอ ยู่บ่อยครั้ง แต่ทว่าตอนนั้นจุดประสงค์หลักของเธอคือการสร้าง รูปร่างไม่เหมือนตอนนี้ที่ต้องลดไขมันเป็นหลัก แต่เกี่ยวกับ ทฤษฎีการออกกำลังกายลดไขมันเธอเองก็มีอยู่ไม่น้อย เมื่อก่อนมีเพื่อนสนิทที่เล่นด้วยกัน คนหนึ่งเพราะผิดหวังจากความรักจึงทำให้เป็นโรคบูลิเมีย [3] ซึ่งกลายเป็นคนอ้วนมากภายในเวลาไม่นานเหมือนโดนเป่าลม เธอเห็นด้วยตาของตัวเองว่าเพื่อคนนั้นเปลี่ยนจากสาวน่ารักที่ อวบนิดๆ กลายเป็นคนอ้วนที่หนักถึงเจ็ดสิบห้ากิโล จากนั้น ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปีก็ผอมลงมาถึงสี่สิบกิโล ทั่วทั้งตัวแห้ง เหมือนผักขาดน้ำ นอกจากนี้ยังเพราะอดอาหารมากจนเกินไป จนเกิดอาหารซึมเศร้าแถมยังเป็นบูลิเมียขึ้นรุนแรง ต่อมาน้ำ หนักก็ดีดกลับไปที่เจ็ดสิบห้าอีกครั้ง จนกระทั่งต่อมาเพื่อนสนิท ของเธอสองสามคนตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเธอด้วยกัน กินและ อยู่ด้วยกัน ออกกำลังกายเป็นเพื่อนเธอ ช่วยเธอคลาย ความเครียด หนึ่งในเพื่อนสนิทเหล่านั้นมีคนหนึ่งเป็นโค้ช ฟิสเนสที่มีชื่อเสียงมากเคยมาแนะนำบอกกล่าวพวกเขาว่าเมื่อ ต้องการลดน้ำหนักควรจะวางแผนการออกกำลังกายและ ควบคุมอาหารอย่างไร ในที่สุดเพื่อนคนนี้ก็ผอมลงจนน้ำหนัก อยู่ที่ห้าสิบกิโล แต่รูปร่างผอมเพรียวเรียวยาว หุ่นเปลี่ยนเป็น ดีมาก ขาเรียวยาวบั้นท้ายเล็กอารมณ์ก็เปลี่ยนกลับมาสดใส ร่าเริงอีกครั้ง ทั้งยังได้รางวัลเป็นความรักครั้งใหม่ด้วย
เพราะมีประสบการณ์จากการเป็นผู้ชมนี้อยู่เฉินเสวี่ยถึงรู้ว่าอยากลดความอ้วนไม่สามารถพึ่งพาเพียงการ ลดอาหารอย่างเดียวได้ จำเป็นต้องควบคู่ไปกับการออกกำลัง กายด้วยซึ่งมีเพียงแค่การออกกำลังกายตามหลักวิทยาศาสตร์ คู่กับการควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมถึงจะสามารถได้ผลลัพธ์ ที่ดีที่สุด นอกจากนี้การอดอาหารแบบสุ่มสี่สุ่มห้าสามารถมี โอกาสทําให้ร่างกายทำงานผิดปกติ แม้ว่าน้ำหนักจะลดลงแต่ ก็ไม่แข็งแรง เฉินเสวยอยากมีรูปร่างผอม แต่ต้องเป็นความ ผอมที่แข็งแรง เธอไม่อยากกลายเป็นคนงามแบบป่วยๆ
การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือต้องมีแอโรบิคกับการฝึก พละกำลังของร่างกายประสานกัน ตอนนี้ร่างกายของเธอหนัก มากขนาดนี้ถ้าหากวิ่งคงทำให้เกิดอาการปวดเข่าเอาได้ง่ายๆ ว่ากันว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิคที่ดีที่สุดคือการว่ายน้ำ พอดีตอนนี้เป็นฤดูร้อน แถมทางนี้ก็เป็นทางใต้ ช่วงนี้ว่ายน้ำใน สระว่ายน้ำกลางแจ้งคงจะไม่หนาวแถมยังสามารถคลายร้อน ได้ด้วย
สำหรับการฝึกพละกำลังเมื่อก่อนเฉินเสวี่ยเองทำอยู่บ่อยๆ แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่มีอุปกรณ์ที่เป็นทางการอะไร แต่เธอยังมี การเคลื่อนไหวด้วยมือเปล่าอีกหลายอย่างที่สามารถทำได้ ยก ตัวอย่างเช่นลุกนั่ง วิดพื้น ยกสะโพกอะไรทำนองนั้น
เพียงไม่นานเฉินเสวี่ยก็จัดแผนการฝึกของตนเอง เรียบร้อย จากในความทรงจำของร่างเดิมเธอพอจะรู้ว่าทุกวัน สระว่ายน้ำของค่ายทหารที่นี่เปิดถึงหกโมงเย็น เธอตัดสินใจ แล้วว่าทุกวันตอนเช้าจะเล่นโยคะ ยืดกล้ามเนื้อกระดูกทุกเช้า วันละครึ่งชั่วโมง จากนั้นช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะเข้าสู่การฝึก พละกำลังซึ่งเวลาไม่จำเป็นต้องนานเกินไป หนึ่งครั้งสิบห้านาที ก็โอเคแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องเข้มข้นมากหน่อยแบบนี้สามารถ เพิ่มศักยภาพของร่างกายได้ดีที่สุด เพิ่มความเร็วในการเผา ผลาญ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตกล้ามเนื้อ ส่วนเรื่องที่ จะสร้างกล้ามเนื้ออะไรพวกนั้นด้วย เฉินเสวี่ยกล่าวได้เลยว่า อย่าได้กังวลไป เพราะเดิมทีสาเหตุจากระดับฮอร์โมนของผู้ หญิงก็ทำให้ไขมันเติบโตง่าย กล้ามเนื้อเติบโตยากอยู่แล้ว พวกกล้ามใหญ่แบบของพวกผู้ชายนั้นต้องใช้เวลาแช่อยู่ใน ฟิสเนสทุกวันวันละหลายชั่วโมง แถมยังต้องกินโปรตีนที่จืดชืด ไร้รสชาติหลายอย่างถึงได้ออกมาแบบนั้น ไม่ใช่ว่าวิดพื้นอยู่ที่ บ้านสามสี่ครั้งก็สามารถมีกล้ามเนื้อหน้าอก กล้ามเนื้อหน้าท้อง กล้ามแขนได้
เวลาไม่เคยคอยท่า ในเมื่อตอนนี้ทำแพลนเสร็จเรียบร้อย แล้ว เฉินเสวี่ยไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองหาอะไรมาเป็นข้ออ้างในการเริ่มต้นฝึกฝนที่สมบูรณ์ของตัวเอง ในวันพรุ่งนี้เช้า ตอนนี้จึงเริ่มเตรียมตัวสำหรับการลดน้ำหนัก
เนื่องจากวันนี้ตื่นขึ้นมาก็ช่วงบ่ายแล้ว บวกกับเก็บกวาด จัดระเบียบบ้าน อาบน้ำ จัดเรียงความทรงจำ เฉินเสงี่ยมองดู เวลาเห็นว่าเป็นเวลากว่าบ่ายสี่โมงแล้ว เธอจึงออกกำลังกาย เล็กน้อยแล้วตรงไปที่สระว่ายน้ำเลย เฉินเสวี่ยหาชุดกีฬาและ ชุดว่ายน้ำออกมาจากตู้เสื้อผ้า จัดเตรียมของที่อีกเดี่ยวจำเป็น ต้องใช้สำหรับการไปว่ายน้ำ ให้เรียบร้อย ถึงแม้ว่าวันนี้จะอาบ น้ำไปแล้วหนึ่งครั้ง หลังจากว่ายน้ำแล้วยังต้องอาบอีก แต่เงิน เสวี่ยก็ไม่มีทางเอาตัวเองออกไปทั้งที่ผมมันแพลบแบบนั้น อย่างแน่นอนแค่คิดก็รู้สึกไม่ดีแล้ว อีกทั้งอีกเดี๋ยวเธอยังต้อง ออกกำลังกายอีกต้องเหงื่อแตกทั้งตัวแน่นอน ค่อยไปว่ายน้ำ พอดี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ