ตอนที่7 องค์หญิงจอมแก่น
ผู้ที่จะมาให้คำตอบแก่นัท หรือหลงอี้เฟย มิใช่ใคร…. คือ องค์หญิงหมิงจื่อเว่ย ราชธิดาของฮ่องเต้และฮองเฮาพระองค์ ก่อนที่ได้สวรรคตตั้งแต่องค์หญิงยังทรงพระเยาว์ นางจึงเป็นดั่ง แก้วตาดวงใจของฮ่องเต้
ด้วยถูกตามใจแต่เล็กจึงมีนิสัยเอาแต่ใจ แก่นแก้วไม่เกรงใคร ทว่าสนิทสนมกับหลงอี้เฟยเป็นอย่างดีด้วยเติบโตมาด้วยกัน ผนวกกับหลงอี้เฟยอ่อนแอจึงเป็นที่เวทนาขององค์หญิงจึงออก หน้าปกป้องหลงอี้เฟยเป็นประจำ ทำให้เกิดความหมั่นไส้ แก่ หลี่ เฉียงจิ้ง หลานปู่ มหาอำมาตรหลี ที่คอยรังควาญ กลั่นแกล้ง หล งอี้เฟยทุกคราที่องค์หญิงจื่อเว่ยเผลอ ด้วยองค์หญิงจื่อเว่ย นั้น มหาอำมาตรหลี่หมายมั่นปั้นมือจะให้มาเป็นหลานสะใภ้ตกแต่ง กับหลี่เฉียงจิ้ง จะได้เสริมสร้างบารมีตระกูลหลี่ให้แข็งแกร่งยิ่ง ขึ้น ติดแต่ก็เพียง องค์หญิงจื่อเว่ย นั้นเกลียด หลี่เฉียงจิ้งยิ่งกว่า อะไรด้วยเป็นคนชอบโอ้อวด เท่ากับผู้รับเคราะห์ต้องตกเป็นหล งอี้เฟย คอยรองมือรองเท้า โดนหลี่เฉียงจิ้งกลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป และข้างกายองค์หญิงจื่อเว่ยที่ติดตามเป็นเงาตามตัวคือ
หม่าฉันซวง บุตรชายหัวหน้าองครักษ์ หม่าคน รับหน้าที่ อารักขาองค์หญิงจื่อเว่ย จึงถูกส่งมาเรียนยังสถานศึกษาหลวง ด้วยกันกับองค์หญิง หม่าฉันซวงถือได้ว่าเป็นผู้มีฝีมือรุ่นเยาว์ หนึ่งแห่งอาณาจักรต้าหมิง มีนิสัยพูดน้อย ตรงไปตรงมา
และจงรักษ์ภักดีเยี่ยงบิดา แต่… ค่อนข้างไม่ค่อยถูกชะตากับ หลงอี้เฟยด้วยความอ่อนแอทำให้ต้องคอยเป็นภาระขององค์ หญิงช่วยอยู่ร่ำไป…..
“อยู่นี่เองอี้เฟย ข้าตามหาเจ้าซะแทบแย่ เป็นอะไรมากมั้ย มีคนไปรายงานว่าเจ้าถูกเจ้าบ้าเฉียงจิ้งแกล้งเอาอีกแล้วใช่มั้ย…. คอยดูข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง เผลอเป็นไม่ได้”
องค์หญิงจื่อเว่ยกล่าวด้วยโทษโกรธแค้นแทนหลงอี้เฟย ที่ โดนกลั่นแกล้งเป็นประจำทั้งที่ตนเอง หม่าฉันซวง หลี่เฉียงจิ้ง และหลงอี้เฟย ล้วนเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
“จื่อเว่ย ข้าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วง ต่อไปข้าจะดูแลตัวเอง ข้า จะต้องเข้มแข็งขึ้น จะได้ไม่เป็นภาระให้เจ้าคอยห่วงอีกต่อไป….
ด้วยถูกNP09 ผสานความทรงจำของหลงอี้เฟยเข้ากับนัท ทำให้รู้ข้อมูลขององค์หญิงจื่อเว่ย จึงเรียกอย่างสนิทสนมได้สนิท ใจ
ด้วยคำตอบและท่าทีที่เปลี่ยนไปจากคนอ่อนแอกลับกลายเป็น คนล่ะคน ทั้งแววตาที่มุ่งมั่น ทำให้องค์หญิง และหม่าฉันซวงรู้สึก แปลกใจ
” เอะ…!!เจ้าเปลี่ยนไปนะ เป็นอะไรรึเปล่า”
องค์หญิงจื่อเว่ยอดถามมิได้
“พอดี ข้าหลับไปบนึง ท่านยมบาลมาเข้าฝันนะ ถ้าข้าไม่ลุก ขึ้นเปลี่ยนแปลงตนเอง จะไม่ปล่อยให้ข้าอยู่แบบรกโลก จะเอา ข้าไปทิ้งไว้ในนรก ข้าเลยจำต้องเปลี่ยนตัวเอง แบบว่า….ข้า กลัวไม่ได้เจอหน้าเจ้าอีกนะ………
นัทแถไปข้างๆคูๆแถมอดหยอดมิได้ ตามนิสัยเจ้าชู้ อันเป็น สันดานดั้งเดิม เจอคนน่ารักเป็นไม่ได้ต้องหยอด ซึ่งคำตอบแบบ นี้ยิ่งทำให้องค์หญิงจื่อเว่ย และ หม่าฉันซวงยิ่งแปลกใจเข้าไป อีก ด้วยนิสัยเดิมของหลงอี้เฟยไม่มีทางที่คำพูดเยี่ยงนี้หลุดจาก ปาก แต่นี่เป็นคนล่ะคน แลดูเข้มแข็งขึ้น ก็ส่วนหนึ่ง แต่คำพูด แนวแทะโลมนี่ไม่เคยมี ส่งผลให้หม่าฉันซวงที่อยู่ด้านหลังองค์ หญิง ผลาเข้ามาขวางหน้าองค์หญิง พลางชี้ไปที่หลงอี้เฟย
“เจ้า….!! เจ้าเป็นใครบอกข้ามา เจ้าปลอมตัวมา เป็นเจ้า ขี้แยอี้เฟย เพื่อจุดประสงค์ใด
เอาแล้วไง….นัทในร่างหลงอี้เฟย เกาหัวแกร๊กๆ ไม่น่าพลาด เลยตรู… เปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนได้ แต่สันดานนี้ท่าจะยาก เอาว่ะ ไหนๆก็ไหน แถแล้วก็แถให้ถึงที่สุด
เป็นข้าอี้เฟยจริงๆนะ…เยๆ ดูแผลที่หัว คงได้รับความ กระทบกระเทือน ทำให้เบลอๆเอ้อๆไปบ้างนะ โอ้ยๆ …. ปวดหัว หนึบๆอีกแล้ว ดูสิ ข้าชื่ออะไรบางที่ข้าก็ลืมๆไปแล้วมั้งเนี้ย ยยย…..!!!
(จะรอดมั้ย NP…)
นัทแก้ตัว เรียกว่าแถดีกว่า
NP09 ไม่ตอบ ถ้าเห็นหน้าได้คงได้เห็น AI-NP09 ส่ายหน้า
เอือมระอาในลูกกะล่อนของเจ้านายตน ” เอาหล่ะๆ ข้าเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าตาซื่อบื่อจะมีใครกล้ามา
ปลอมตัวเป็นเจ้ากันหล่ะ เจ้ากล้า ฉินซวง .. ”
องค์หญิงรีบยุติข้อพิพาท ด้วยเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนเว้น ซะจาก กิริยาบางอย่างที่เปลี่ยนไป หม่าฉันซวงเองก็ไม่ค่อยเชื่อ ซะทีเดียวแต่ด้วยหาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไม
แต่… ระแวงไว้ก่อน ค่อยจับตาดูอยู่ห่างๆเห็นไม่ชอบมาพา กลค่อยลงมือ แม้ความรู้สึกภายในลึกๆแล้ว หลงอี้เฟย ต้องมี อะไรปิดบังไว้แน่นอนเพราะปรกติเป็นคนที่อ่านง่ายดุจน้ำใสใน บ่อ แต่ บัดนี้เหตุไฉน บ่อน้ำที่เคยใสกลับลึกจนยากหยั่งถึงเยี่ยง นี้
เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว องค์หญิงจึงชักชวนทั้งหมดกลับ ที่พัก สถานศึกษาหลวง กวงหมิง
ณ.สถานศึกษาหลวงกวงหมิง ด้วยกำแพงที่สูงใหญ่ อาณา
บริเวณกว้างขวาง ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ด้านข้างมีแม่น้ำใหญ่พาด ผ่านจนไปถึงตัวเมืองต้าหมิงเยี้ย เมืองหลวงแคว้นต้าหมิง
ด้านหลังคือ ที่ราบสุดลูกหูลูกตาถัดที่ราบไป คืออาณาเขตป่า อันลึกลับ และเป็นเขตหวงห้าม น้อยคนที่เข้าไปแล้วจะกลับออกมาแบบสมประกอบ ส่วนมากมักเสียสติ หรือหายสาปสูญไป เลยก็มี ทางการจึงประกาศให้เป็นเขตห้ามเข้า ด้านหน้าคือถนน ใหญ่ทอดยาวไปสู่ตัวเมืองต้าหมิงเตี้ย อันเป็นชื่อเมืองหลวงของ แคว้นต้าหมิง
บัดนี้องค์หญิงจื่อเว่ยได้เดินนำขบวนเข้าสู่ บริเวณตึกใหญ่ ภายใน สถานศึกษาหลวงกวงหมิง นัทแม้นจะได้ข้อมูลผ่านความ ทรงจำของหลงอี้เฟย แต่เมื่อได้มาเห็นกับตา อดทิ้ง ตะลึงงัน ความใหญ่โตอัครสถานในโลกต่างมิติแห่งนี้มิได้ เพราะนี่แค่ สถานศึกษาหลวงยังใหญ่ขนาดนี้ วังหลวงที่ประทับฮ่องเต้ และ องค์หญิง จะยิ่งใหญ่กว่านี้เป็นที่เท่ากันแน่ โลกในจินตนาการ จากภาพยนต์จากโลกที่ตนจากมา กับการได้มาประสบด้วยตา ตนเองช่างแตกต่างเสียนี่กระไร
ในขณะที่นัทหันรีหันขวางตะลึงในความโออ่าของสถานที่ อยู่นั้น มิทันได้สังเกต มีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งเดินตรงเข้ามา มิใช่ ใคร หลี่เฉียงจิ้งนั่นเอง เดินนำหน้าลูกสมุนผู้ติดตามมาจำนวน หนึ่ง สายอาดๆเดินตรงเข้ามา พลางกล่าวขึ้นด้วยท่าที่ยโส
“นึกว่าใครเดินมากับองค์หญิงของข้า ที่แท้… เจ้าสวะ เฟยนี่เอง ไหนใครบอกว่าแปลงร่างเป็นเต่าหดหัวอยู่ใต้โคลน ถ้าองค์หญิงไม่ไปตามมันคงไม่มีปัญญาขึ้นมาหรอก ฮ่าๆ
“เจ้า….!!”
องค์หญิงทำท่าจะตอกกลับอย่างเอาเรื่อง แต่… หลงอี้เฟยรีบเข้าขวางพลางกล่าวตอบกลับไป
แหมท่านเจียงจิ้งผู้ยิ่งใหญ่ให้เกียรติเชิญข้าไปทั้งที เสียดายเอาพลัดตกไปในเอง ครั้งต่อไป ข้าแก้ท่านเฉียงนี้…”
ด้วยคำตอบฉะฉานของนัทในร่างหลงอี้เฟย สร้างความ ประหลาดใจให้กับหลี่เฉียงจิ้ง แต่ ก่อนที่หลี่เฉียงกล่าวออกพลันเฟยล่วงบ้างสิ่งจากแขนเสื้อ เป็นหยกแข็ง เนื้อคำว่า จิ้ง สลักอยู่ พลางกล่าว
เมื่อพี่เฉียงจิ้งเหมือนจะบอกว่าตัวเองมิได้อยู่ในนั้น สิ่งคงของท่าน เผอิญอุจจาระของสุนัข …. ดูสิ!
กล่าวจบ หลงเฟยเร้นลมปราณที่เพิ่งได้การอัพเกรด มา บดขยี้เนื้อแข็งเป็นหยกประจำตัวเฉียงจิ้งมือแหลกละเอียดเป็นผุยผง พลางโปรยไปยังเบื้องหน้าถอดสี ไม่แม้น องค์หญิงจื่อเว่ยและหม่าฉันซวงยืนอยู่ข้างๆ
ด้วยทราบกันดีตระกูลหลี่นั้นการค้าอัญมณีโดยเฉพาะ ธรรมดาขยี้เป็นล่ะ
โดยไม่รอให้หลี่เจียงจึงกล่าวสิ่งใด นัทรีหลงอี้เฟย พลาง หัวเราะรวมอย่างอารมย์ดีชักชวนให้องค์หญิงจื่อเว่ยและหม่าฉัน ช่วงเดินตามตนเข้ามาในอาคาร ทิ้งให้หลี่เฉียงจิ้งและพวกยืนตก ตะลึงตาค้างไว้เบื้องหลัง ก่อนจะรู้ตัว หลงอี้เฟยและคณะก็เดิน ลับตาไปแล้ว ได้ยินแต่เพียงเสียงหัวเราะกังวานแว่วมาเบาๆ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ