ทะลุมิติตะลุยยุทธภพ

ตอนที่11 ” เพราะเจ้า…..!!!!



ตอนที่11 ” เพราะเจ้า…..!!!!

“เจ้าบ้า…”

องค์หญิงจื่อเว่ยเอ่ยบริภาษด้วยความหมั่นไส้ บุรุษผู้อยู่ เบื้องหน้า ด้วยโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัยมิได้คิดสิ่งใดเกินจาก คําว่า

“เพื่อน” บัดนี้ความรู้สึกบางอย่างเริ่มจู่โจมด้วยมิทันตั้ง ตัว จึงรีบแจงเหตุผลที่มา หวังกลบเกลื่อนความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว อยู่ภายใน….

“เจ้าบ้า… พูดจาไร้สาระ ที่ข้ามา ด้วยจะแจ้งให้ทราบว่า ก่อนเที่ยง วันนี้มีประกาศที่ ห้องโถงกลางเรื่องการแบ่งกลุ่ม เพื่อ ทดสอบประเมินความรู้ก่อนปิดภาคเรียนเจ้าไม่รู้รึไง ไปอยู่ที่ไหน มา”

(ห้า…!! มีทดสอบด้วยเหรอ อี้เฟยทำไมไม่บอกพี่ก่อน ตายๆ มัวแต่ฝึกวรยุทธ หนังสือ หนังหา ไม่ได้อ่านเลย…จะรอดมั้ยเนี่ย)

นัทแอบสะดุ้ง พลางร้องถามหลงอี้เฟยจากภายในมิติจิต

[ ข้าก็นึกว่าท่านพี่นัทรู้อยู่แล้ว ไม่เป็นรัยท่านพี่นัท เรื่อง ทดสอบความรู้ฝ่ายบันข้าช่วยท่านเอง ท่านรับหน้าภาคสนามไป แล้วกัน]
หลงอี้เฟยพลางแบ่งรับแบ่งสู้เพื่อให้นัทได้สบายใจ ” ว่าไงเจ้าบื่อ ยืนอึ้งอยู่ได้ เตรียมพร้อมรึยัง ”

องค์หญิงจื่อเว่ยยังคงนึกเคืองคำพูดแทะโลมเมื่อสักครู่ จึง ใส่ชุดสองไปไม่ยั้ง

อ่อ… อ่อ.. โอเคร สบายอยู่แล้ว”

นทรีบกลบเกลื่อนเพราะมัวแต่หาข้อมูลจากหลงอี้เฟยอยู่ ” เอ๊..!! เจ้าพูดจา อะไรเพี้ยนๆอีกแล้วเนี้ย อะไร เครๆ ข้า ไม่เข้าใจ…”

องค์หญิงกล่าวพลางหันไปมองหน้ากับ หม่าฉันช่วง เหมือนจะถามอะไรบางอย่าง หม่าฉันซวงไม่ตอบได้แต่ เป็นหน้า ไปทางอื่น พลางคิดในใจ แค่นี้ยังน้อยไป องค์หญิง เจ้าน ที่ผ่าน มาอาการหนักกว่านี้เยอะ

เมื่อไม่เห็นว่าได้คำตอบจากองค์รักษ์คนสนิทซักเท่าไหร่ จึง ได้แต่จดบัญชีนี้ไว้ในใจ หันมากล่าวกับนัท ที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้ จัด นั้นโน้นเหมือนเตรียมจะไปเรียน

“ทำอะไรของเจ้า ตั้งแต่วันนี้ไม่มีเรียน ให้เตรียมตัวเข้ารับ การทดสอบที่จะมาถึง ไปโรงอาหารกัน หาอะไรกินข้าหิวแล้ว กิน เสร็จค่อยไปดูประกาศรายชื่อการจัดกลุ่ม….”

ไม่รอช้า องค์หญิงตรงเข้าลากข้อมือนัท ที่มัวมะงุมมะง่ามร้องบอกให้ตามตนไปที่โรงอาหาร โดยมีหม่าฉันซวง ส่ายหน้า ด้วยความระอา เดินตามไปห่างๆ เจ้าอ้วนอกวงยืนมองนายน้อย และสหาย เจรจาโต้ตอบกันไปมาอย่างงงๆ รีบโผทะยาน ติดตามไปอีกคน

เมื่อขบวนองค์หญิงเดินเข้ามาถึงห้องโถงโรงอาหารกลาง แทบจะดึงดูดสายตาของทุกคู่ มิใช่ด้วยความงามขององค์หญิงที่ ทุกคนมองจนชินตาแล้ว แต่ บุรุษผู้สง่างาม ท่าทางองอาจ ที่ ติดตามมาเบื้องหลังต่างหากหล่ะ ที่เป็นจุดสนใจของทุกคน

เฮ้ย…!! นั้น ใครอ่ะที่ติดตามองค์หญิงมา สง่างามยิ่ง

นัก…”

“รูปหล่อ แบบเข้มๆด้วยสิ”

“เด้วๆพวกเจ้าไม่รู้รึไง นั้นเจ้าขี้แย เฟยไง เพื่อนข้าเรียนห้อง

เดียวกับเค้าเล่าให้ข้าฟัง คนนี้แหล่ะ…”

อ่อ คนนี้นะเหรอ ที่จากเคยอ่อนแอ เป็นพวกสวะ ถูกกลั่น แกล้ง จนต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ เชียวเหรอ….หล่ออ่ะ ”

” พี่ฉินซวงองครักษ์องค์หญิงจื่อเว่ยว่าเท่ห์แล้วนะ คนที่ ติดตามมาข้างกายองค์หญิงต้องบอกว่าโคตรจะ เท้…. เท่ห์”

” คนนี้ใช่คนเดียวกับหลงอี้เฟย ทายาทท่านแม่ทัพปราบบูร 11 พาใช่รึไม่ ไหนว่า เป็นพวกหนอนหนังสือ เมื่อก่อนผอมกร่อง ถูกพวกขาใหญ่คอยรังแกเป็นประจำ ไฉนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

“ก็ไม่แปลกหรอกนะ ถูกรังแกมากๆเข้า เกิดมานะฝึกฝน ตนเอง วันก่อน ใช้คนนี้ป้าว ที่ เข้ามา เอาแต่ วิ่ง และว่ายข้าม แม่น้ำไปกลับทั้งหลายสิบรอบ ”

“อ่อ… ใช่ๆ ข้าก็เห็น แต่ไม่นึกว่าจะเป็น เจ้าขี้แย หลงอี้เฟย ดูสิ เปลี่ยนไปยังกับคนล่ะคน”

ฯลฯ

ทันที ที่องค์หญิงเดินนำขบวนเข้ามาย่อมสัมผัสถึง บรรยากาศแปลกๆที่เปลี่ยนไป ดึงดูดสายตาทุกคู่ที่อยู่ ณ ที่นี้ แบบ งงๆ

หันไปมอง หลงอี้เฟย และหม่าฉันซวง ที่ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว กับเจ้าอ้วนอกวง ที่เดินตามมาด้วยไม่รู้อะไรเลย ในบรรยากาศที่ ผิดปรกติเยี่ยงนี้

เมื่อทั้งหมดเดินหาที่นั่งภายในอาคารโรงอาหารได้ไม่นาน หม่าฉันซวงและเจ้าอ้วนอกวงแยกไปตักอาหารเพื่อนำมาให้เจ้า นายตน องค์หญิงกล่าวแบบเคืองๆ

“เจ้าพวกนี้เป็นอะไรกัน ทำเหมือนเห็นพวกเราเป็นตัว ประหลาด…”

พลางชี้หน้าไปยังหลงอี้เฟยที่ทำเหมือนไม่ได้ยิน ในคำบ่น พึมพำของหญิงสาวสูงศักดิ์ผู้เป็นสหาย
“เพราะเจ้า…!!”

ก่อนที่หลงอี้เฟย จะได้กล่าวสิ่งใด พลันเบื้องหลัง มีเสียง หนึ่งดังแทรกขึ้นมา ” ข้าก็นึกว่าใครดึงดูดสายตาของทุกคน ที่แท้ องค์หญิง

ของข้านี่เอง”

ผู้ที่มาใหม่มิใช่ใคร หลี่เฉียงจิ้งและลูกสมุนทั้งสอง เข้ ชุน เบเขียน เดินเข้ามา พลางสอดส่ายสายตาไปยังบุรุษที่นั่งหัน หลังให้กับตน

อ้าว เจ้านี่ใครบังอาจ มานั่งร่วมโต๊ะกับองค์หญิงของข้า ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง….”

หลี่เจียงจิ้งเอ่ยประกาศศักดา ไปยังบุรุษหนุ่มชุดดำ จะคุ้นก็ ว่าคุ้น จะว่าไม่คุ้นย่อมไม่ผิด

เหอะๆ จากกันไม่นาน ไม่ทราบสมองท่านพี่เฉียงจิ้งเสื่อ มอย่างไร ถึงลืมผู้น้อง หลงอี้เฟย ผู้นี้ ได้ลงคอ…”

นัทในร่างหลงอี้เฟย กล่าวพลางหันมาเผชิญหน้ากับคู่ปรับ ตลอดกาล ของตน

“เอะ นี่เจ้า…..!!!

หลี่เฉียงจิ้งถอยผงะ ด้วยกระแสปราณเข้มข้นที่ถูกส่งมา จากร่างหลงอี้เฟย ตรงเข้าสร้างสภาวะกดดันให้ตนรู้สึกอึดอัดเหงื่อกาฬแตกหลานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ดีที่ หมาฉินซวงเดินถือถาดอาหารเข้ามา หลงอี้เฟยรีบสลาย

ลมปราณ ทำให้หลี่เฉียงจิ้งพอหายใจได้โล่งขึ้น หลี่เฉียงจิ้งพลางหันไปกล่าวแก่องค์หญิงจื่อเว่ย

“พวกเจ้าไปดูป้ายประกาศรียัง ถ้ายังก็จงไปดูซะ เสร็จแล้ว

จงไปหาข้าที่ตึกเรียน… พวกเรากลับ !!”

“อารายของเค้าหว่า นึกจะมาก็มา นึกไปก็ไป สงสัยเห็นพี่ ฉินซวงเดินมาเลยกลัว พี่ฉินซวง เนอะ…”

นัทหันกล่าวกับหม่าฉันซวงที่ นั่งรับประทานอาหาร อย่าง ไม่พูดไม่จาด้วยคร้านจะต่อปากต่อคำ อันเป็นบุคลิกประจำตัว ของตน

” ข้าว่าไม่น่าใช่เพราะฉินซวง

แต่…. เป็นเพราะเจ้าหลง อี๋ เฟย”

หลังจากทั้งหมดจัดการกับอาหารตรงหน้าหมด องค์หญิงเดิน นำคนทั้งหมดไปดูตรงแผ่นป้ายประกาศ เจ้าอ้วนอกวงอาสาไปดู มาให้ ครู่หนึ่ง ก่อนแหวกผู้คนที่มุงดูรายงานด้วยท่าทีแตกตื่น…..

” แย่แล้ว องค์หญิง

แย่แล้ว นายน้อย…..!!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ