ตอนที่ 3 อ๋องชิงผิงแต่งงาน
ตอนที่ 3 อ๋องชิงผิงแต่งงาน
จางยวี่โหร่วยิ้มเยาะอยู่ในใจ ปากหวานราวกับคมดาบ ราดน้ำผึ้ง ใครจะไปนึกว่าจิตใจที่ชั่วร้ายเช่นนี้จะซ่อนอยู่ ในภายใต้รูปลักษณ์ที่อ่อนแอ ต่อให้ในใจอยากจะฉีก ร่างกายของนางเป็นชิ้นๆมากแค่ไหน แต่ภายนอกนาง กลับไม่แสดงท่าทีใดๆ
“ เจ้าสวยดั่งดอกไม้จิตใจงดงามบริสุทธิ์เช่นนี้ จะต้องได้ แต่งงานกับคนที่ปรารถนาเป็นแน่ ”
จ้าวซินซินใช้ผ้าเช็ดน้ำตาและแสร้งทำสีหน้าเศร้าใจ “ ได้ยินมาว่าองค์ชาสามรูปงามไร้ที่ติและมีความสามารถ เป็นเลิศ ได้แต่งงานกับสามีแบบนี้ ชีวิตนี้ก็ไม่ผิดหวังแล้ว ข้าจะโชคดีอย่างท่านพี่ได้อย่างไรกัน ”
ก่อนหน้านี้นางร้องไห้กับตัวเองว่าท่านพ่อเตรียมจะให้ นางแต่งงานกับลูกชายของขุนนางคนหนึ่ง ท่านชายคน นั้นหน้าตาอัปลักษณ์ก็แล้วไป แต่ภายในจวนยังมีเมีย น้อย 18 คน หลังจากที่ได้แต่งไปจะต้องรู้สึกน้อยใจแน่ หลังจากที่นางรู้ก็รีบให้ท่านปู่จางไท่ซือของตัวเองออก หน้ากดเรื่องนี้ให้เงียบลง และยังบอกอีกว่าหากหลังจาก นี้นางจางยวี่โหร่วแต่งงานออกเรือนไปก็จะพานางไปด้วย ทนดูนางถูกใครรังแกไม่ได้
นางมานึกถึงในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าจ้าวซินซินต้องการ
ให้นางพาตัวเองแต่งงานกับตำหนักสามด้วย!
แต่กลับไม่คิดว่าในครั้งนี้จางยวี่โหร่วจะพูดอย่างเป็น ซา “ ดังนั้นนะ การเป็นคนต้องมีคุณค่าในตัวเอง อย่าไป ดึงดันในสิ่งที่ไม่ได้เป็นของตัวเอง หากปรารถนาสูงเกิน ไปจะทำให้ได้รับผลลัพธ์ตรงกันข้ามและเสียแรงไปโดย เปล่าประโยชน์ ”
จ้าวซินซินใบหน้าซีดเผือด นางหมายความว่าอย่างไรกัน กำลังดูถูกว่านางฐานะต่ำต้อยไม่คู่ควรที่จะแต่งงานกับ สามีที่ดีเหรอ?
เมื่อดูท่าทางของจ้าวซินซินในตอนนี้แล้ว ในใจของนาง ยิ้มเยาะ ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น!
“ เจ้าอย่าได้เข้าใจความหมายของข้าผิดไปเลย ข้าแค่ ทอดถอนใจกับโชคชะตาของตัวเองเท่านั้น ลูกสาวที่ แต่งงานออกเรือนไปก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออก หลังจาก ที่แต่งงานออกเรือนไปแล้วก็ไม่สามารถคอยอยู่ข้างๆ ปรนนิบัติดูแลพ่อแม่และคนที่รักเหมือนเช่นตอนนี้ได้อีก พอคิดถึงเรื่องนี้ ข้าก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย ”
จ้าวซินซินบิดผ้าเช็ดหน้าที่มือเข้าหากันด้วยความอิจฉา นางได้แต่งงานกับโอรสของฮ่องเต้ ต่อไปก็เป็นราชนิกุล ของราชวงศ์และอาจจะได้เป็นฮองเฮาของแผ่นดิน นี่คือฐานะที่นางไม่สามารถจะไปอิจฉาได้เลย แต่ ตอนนี้นางกลับพูดถึงความเสียใจอะไรกัน
แต่ทว่าจ้าวซินซินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็ก น้อย คำพูดของจางยวี่โหร่วเมื่อครู่นี้ทำให้นางตกใจกลัว มาก คิดว่านางมองอะไรออกแล้วเริ่มจะรำคาญนาง ใน เมื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ดีไป
ดังนั้นนางจึงพูดประจบประแจงขึ้นมาทันที ” ท่านพี่มี ฐานะเป็นถึงคุณหนูผู้สูงส่งเพียงคนเดียวของตระกูลจาง หลานสาวสุดที่รักของจางไท่ซือ ถึงแม้หลังจากนี้พี่จะ แต่งงานกับองค์ชายสาม อยากจะกลับบ้านมาเยี่ยมญาติ ก็สามารถมาได้ทุกเวลา อีกทั้งองค์ชายสามก็ยังจะมากับ ท่านพี่ด้วย ”
จางยวี่โหร่วไม่มีพี่น้องผู้หญิง นางมีพี่ชายห้าคน ดังนั้น นางจึงปฏิบัติต่อจ้าวซินซินในฐานะน้องสาวแท้ๆ มองดู ท่าทางบอบบางน่ารักของนางจึงดูแลเป็นพิเศษ แต่พอ มองดูหน้าตาของนางในตอนนี้แล้ว จางยวี่โหร่วรู้สึกเพียง แค่ความสะอิดสะเอียน และอยากจะเปิดเผยใบหน้าจอม ปลอมของนางจนแทบจะทนไม่ไหว
ไม่เป็นไร ทุกอย่างสามารถค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ นางจะเอาทุกอย่างที่จ้าวซินซินเคยทำมาทั้งหมด คืนกลับ ไปให้นางสิบเท่าร้อยเท่า ทำให้นางได้เข้าใจอย่างดีว่า อะไรคือรสชาติของการตายทั้งเป็น หากจะประหารชีวิต ของนางในตอนนี้ จะไม่ดูถูกนางเกินไปหน่อยเห
เสี่ยวเฟิงที่ยังอยู่ตลอดวิ่งเข้ามาอีกครั้ง และเห็นว่าพวก นางสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ผ้าคลุมหน้าของจางย โหร่าก็ยังไม่ได้คลุม จึงรีบเร่งในทันที ” คุณหนูนี่มันเวลา อะไรกันแล้วเจ้าค่ะ องค์ชายสามมาถึงแล้ว ท่านชาย ท่าน หญิงกับญาติๆทุกคนกำลังรออยู่ พวกท่านให้บ่าวมาช่วย ประคองคุณหนูออกไปตอนนี้แล้ว ”
เจ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นมาแล้ว พอนึกถึงเป่ยจื่อห้าว จางย วี่โหรวก็ตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ นิ้วของนาง ประสานสําหมัดแน่น
เป่ยจื่อห้าว! เขาไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตของนาง แต่ยัง ทําร้ายครอบครัวของนางทั้งตระกูล ความเกลียดชังที่ฝัง ลึกเข้าไปในกระดูกแม้ตายนางก็ไม่มีวันลืมนี้ แทบรอที่จะ ควักหัวใจของสัตว์ร้ายตัวนั้นเมื่อเขาเข้าประตูมาไม่ไหว แล้ว นางจะไม่มีวันแต่งงานกับเขาอีกเด็กขาด
แต่ฮ่องเต้ได้ประกาศพระราชโองการแต่งงานแล้วและก็ ถึงเวลาที่จะต้องขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว หากนางยกเลิกงานแต่ง ในตอนนี้ก็เท่ากับขัดพระราชโองการ ตอนนี้นางควรจะ ทำอย่างไรดีล่ะ?
ทันใดนั้น ก็มีเสียงขบวนแห่เกี้ยวรับตัวเจ้าสาวดังมาจาก ทางทิศตะวันตก จางยวี่โหร่วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย* วันนี้ยังมีคนแต่งงานงั้นเหรอ? ”
ได้ยินเช่นนั้น บนใบหน้าเล็กๆของเสี่ยวเฟิงก็ปรากฏ สีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันที นางเพียงแค่ถามว่าวันนี้มี ใครแต่งงานแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงทำให้นางตกใจจน มีท่าทางแบบนี้?
สีหน้าของจ้าวซินซินก็ซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ” วันนี้ เป็นวันที่อ๋องชิงผิงแต่งงาน โธ่…ช่างน่าสงสารแม่นางคน นั้นจริงๆ! “
ในใจจางยวี่โหร่วสั่นเทา ความทรงจำชาติที่แล้วกำลังจะ กลับมา
นางคิดออกแล้ว ตอนที่นางแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าวยังมี ขบวนเกี้ยวรับตัวเจ้าสาวอีกขบวนหนึ่งจริงๆ
เพียงแต่นางไม่รู้แน่ชัดว่าใครที่แต่งงานวันเดียวกันกับ นางในตอนนั้น ทั้งหัวใจของนางกำลังตกอยู่ในความสุขที่ ได้แต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ความคิดเรื่องของอ๋องชิงผิงนั้น จึงเลือนรางมาก
ในตอนนั้นดูเหมือนว่าจะมีท่านอ๋องชิงผิงท่านหนึ่ง เพียง แต่ถูกส่งไปประจำที่ชายแดนเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้นาง จะเป็นฮองเฮามาห้าปี ก็ไม่เคยได้เจอหน้าเขาเลยสักครั้ง
เมื่อเห็นนางพูดถึงชื่อของเขา ทั้งสองคนก็ตกใจจน กลายเป็นแบบนี้ จางยวี่โหร่วจึงแปลกใจเล็กน้อย “ การ แต่งงานไม่ได้เป็นเรื่องที่ควรยินดีหรอกหรือ เหตุใดพวก เจ้าจึงมีท่าทางเช่นนี้? ”
“ คุณหนู ท่านฐานะสูงส่ง ทั้งยังได้รับความเอ็นดูจาก ท่านจางไท่ซือ แน่นอนว่าไม่รู้เรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ท่าน อ๋องชิงผิงคนนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามของพวกเรา หนานหมู่ อายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น มีวีรกรรมในการ รบอย่างโดดเด่น ฮ่องเต้จึงพระราชทานยศท่านอ๋องให้ แก่เขา ดูแลดีกว่าองค์ชายเหล่านั้นอีก ภายในพระที่นั่ง ฮ่องเต้ทรงอนุญาตยกเว้นให้สองคนที่ไม่ต้องคุกเข่า เคารพเป็นพิเศษ ท่านแรกคือท่านปู่จางไท่ซือของคุณหนู อีกท่านหนึ่งก็คืออ๋องชิงผิง ”
ท่านอ๋องชิงผิงคนนี้เก่งกาจขนาดนั้นเชียว เหตุใดนาง ถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาในชาติก่อนเลยล่ะ? หรือว่าหลัง จากที่นางกลับชาติมาเกิดอีกครั้ง บางสิ่งบางอย่างได้เริ่ม เปลี่ยนแปลงไป?
จางยวี่โหร่วไตร่ตรองดูก็รู้สึกปล่อยวางเล็กน้อย นางสามารถกลับชาติมาเกิดได้ เดิมทีแล้วก็คือการ เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต ถึงแม้เรื่องราวอื่นๆจะไม่เหมือน เดิมก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“ ในเมื่อท่านอ๋องชิงผิงเก่งกาจเช่นนี้ เช่นนั้นการได้ แต่งงานกับเขาก็ควรจะเป็นเรื่องที่มีความสุขมากไม่ใช่หรือ เหตุใดพวกเจ้าถึงพูดว่าหญิงสาวคนนั้นน่าสงสาร ล่ะ?”
“ ถึงแม้ท่านอ๋องชิงผิงจะชื่อเสียงโด่งดัง แต่ในเมืองหลวง นี้ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าท่านอ๋องชิงผิงหน้าตาอัปลักษณ์ ใส่ หน้ากากปิดบังใบหน้ามาตลอด ฆ่าคนจนเป็นนิสัย มีโรค เรื้อรังติดตัว หากบ้าคลั่งขึ้นมาไม่เพียงแต่ฆ่าคน แต่ยังกิน เนื้อและดื่มเลือดของมนุษย์อีก ก่อนหน้านั้นเขาเคยแต่ง พระชายามาหลายคนแล้ว และถูกยิงตายภายในเจ็ดวัน หลังจากแต่งงานเข้าเรือน ฉายาท่านอ๋องชิงผึ้งกินภรรยา นี้นั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งแผ่นดิน ทุกคนล้วนพูดว่าพระ ชายาสองสามคนที่ตายไปนั้นถูกเขาทรมานจนตาย การ ได้แต่งงานกับเขาก็หมายความว่าเท้าข้างหนึ่งได้ก้าวเข้า สู่ประตูนรกไปแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ”
จางยวี่โหร่วฟังจบก็ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแต่อย่างใด หึม…ประตูนรก? นางแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าว ถึงจะเรียกว่า เข้าสู่ประตูนรกอย่างแท้จริง นางมีประสบการณ์มากมาย ในชาติที่แล้วและยังเห็นการตายอย่างน่าอนาถของคนใน ตระกูล 72 คนด้วยตาตัวเอง ยังมีความน่ากลัวอย่างอื่นที่ น่ากลัวมากกว่านี้อีกไหม?
ในชาตินี้ นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเอง และเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตระกูลจางให้ได้ ทำให้ คนที่รังแกนาง ดูถูกนาง ทำร้ายนางเหล่านั้นชดใช้อย่าง เจ็บปวด
” เช่นนั้นทุกคนที่พูดว่าพระชายาสองสามคนตายอย่าง ทรมาน มีใครเคยเห็นด้วยตาตัวเองบ้างไหม? ”
“ เรื่องนั้น…บ่าวจะรู้ได้อย่างไรกัน ล้วนแต่ได้ยินมาทั้ง นั้น ” เสี่ยวเฟิงรีบส่ายหัว
จางยวี่โหร่วยิ้มเบาๆ “ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ข่าวลือ สิ่งที่ ไม่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้ก็คือคนชั่วที่ดูจริงใจและเที่ยง ธรรม แต่คนที่ภายนอกดูสุภาพเรียบร้อยแต่ภายในเห็น แก่ตัวเหล่านั้นถึงจะเป็นความน่ากลัวที่แท้จริง “
ในตอนนั้นเองไม่รู้ว่านางรู้สึกผิดไปหรือเปล่า จ้าวซินซิน จับมือของนางอย่างสั่นเทาเบาๆ หากไม่หวาดผวา นางก็ ไม่เป็นถึงเช่นนี้
นางยอมที่จะแต่งงานกับผีกินคน ดีกว่าต้องเห็นใบหน้า จอมปลอมน่าสะอิดสะเอียนของเป่ยจื่อห้าวอีก
ดังนั้นนางต้องคิดหาวิธี ถ้าหากนางจำไม่ผิดหลังจากที่ นางขึ้นไปบนเกี้ยวเจ้าสาว ทั้งสองขบวนดูเหมือนจะไป ทางทิศตะวันออกด้วยกัน หลังจากเดินทางไปตลอดสิบลี้ ถึงจะแยกจากกัน ขบวนหนึ่งไปทางตำหนักสามทางตะวัน ออกเฉียงเหนือ อีกขบวนหนึ่งเลี้ยงไปทางทิศตะวันออก เฉียงใต้
จางยวี่โหร่วจับผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น ในครั้งนี้ไม่ว่าจะต้องพยายามใช้วิธีใดก็ตาม นางก็ต้องเปลี่ยนแปลงชะตา
ชีวิตตัวเองให้ได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ