ฝืนชะตา:ชายาเกิดใหม่

ตอนที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน



ตอนที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน

ตอนที่ 6 คำนับเทวดาฟ้าดินเพื่อแต่งงาน

ทุกอย่างล้วนเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว จางยวี่โหร่ วกัดฟัน ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงพิธีคำนับเทวดาฟ้าดิน ของวันนี้ไม่ได้แล้ว

คำนับก็คำนับ ถึงแม้จะต้องแต่งงานกับสามีที่กินเลือดกิน เนื้อของมนุษย์จริงๆ ก็ยังดีกว่าแต่งงานกับเป่ยจื่อห้าวสัตว์ ร้ายหน้าเนื้อใจเสือตัวนั้น

“ หนึ่ง คำนับฟ้าดิน! ” ภายใต้ความช่วยเหลือของสาวใช้ ทั้งสองคนโค้งตัวลงทําความเคารพ

“ สอง คำนับพ่อแม่! ” พ่อแม่ของอ๋องชิงผิงเสียชีวิตทั้งคู่ ดังนั้นจึงไม่มีพ่อแม่อยู่ มีเพียงแค่ป้ายชื่อบูชาที่อยู่บนโต๊ะ

“ สามีภรรยาคำนับกันและกัน!” ไม่รู้เพราะเหตุใดตอนที่ ได้คำสี่คำนี้ความรู้สึกในใจของจางยวี่โหร่วจู่ๆก็ยุ่งเหยิง ขึ้นเล็กน้อย นี่คือการแต่งงานครั้งที่สองในชีวิตของ นาง ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งจะแต่งงานกับสามีสองคนได้ อย่างไรกัน เพียงแต่การแต่งงานในครั้งนี้กลับเป็นเพียง แค่แผนการอย่างหนึ่ง ดูเหมือนว่านางเป็นหนี้ท่านอ๋องชิง ผิงคนนี้ถึงจะถูก
*ส่งเข้าเรือนหอ! ”

เมื่อเสร็จพิธีก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากัน พูดได้ว่า ฐานะใน ตอนนี้ของนางก็คือพระชายาชิงผิง

ทรมานร่างกายมาเป็นเวลานาน พอร่างกายได้สัมผัสกับ เตียงนุ่ม จางยวี่โหร่วก็รู้สึกร่างกายสบายทั้งตัวในทันที มี เพียงแค่นางอยู่คนเดียวภายในห้อง นางไม่อยากปฏิบัติ อย่างไม่เป็นธรรมกับตัวเอง เมื่อมองเห็นขนมวางอยู่บน โต๊ะ นางจึงหยิบขึ้นมาเติมเต็มท้องที่หิวโหยของนางก่อน

ในขณะนั้น นางจึงค่อยๆเริ่มกังวลขึ้นมาว่า สถานการณ์ ทางด้านตำหนักสามนั้นตอนนี้เป็นอย่างไร?

หวังว่าหลินจือนั้นจะไม่แสดงพิรุธออกมา ตราบใดที่ สามารถทำพิธีคำนับฟ้าดินได้อย่างราบรื่น เรื่องอื่นๆนั้น นางก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

ตามที่จางยวี่โหร่วคาดไว้ เป่ยจื่อห้าวไม่สามารถค้นพบ ได้อย่างง่ายดายว่าเจ้าสาวนั้นได้ถูกเปลี่ยนตัวแล้ว

อีกทั้งขนาดตัวของหลินจือก็ต่างกับจางยวี่โหร่วไม่มาก นัก ชุดแต่งงานก็ไม่ต่างกัน ตราบใดที่ไม่เปิดผ้าคลุมหน้าออก ใครจะไปคิดว่าได้ถูกสับเปลี่ยนกันไปแล้ว

เป่ยจื่อห้าวนั้นไม่ได้โดดเด่นน่าจับตามองที่สุดในบรรดา องค์ชาย แต่ในครั้งนี้เขาได้แต่งงานกับหลานสาวแท้ๆของ จางไท่ซือขุนนางรับใช้ฮ่องเต้มาสามราชวงศ์ จางไท่ซือ นั้นได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้องค์ก่อนและฮ่องเต้องค์ ปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง เป่ยจื่อห้าวได้รับการสนับสนุนจาก ตระกูลจางก็เท่ากับว่ามีดาบอันแหลมคนอยู่ในมือ คนใน ราชสำนักเหล่านี้ยังจะไม่รีบใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้มา ประจบประแจงก่อนเหรอ? ดังนั้นงานแต่งงานในวันนี้จึง เต็มไปด้วยขุนนางชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก กดดันให้ของ ล้ำค่าภายในกล่องล้วนถูกส่งมาเป็นของขวัญแต่งงาน

ฮ่องเต้นั้นได้แต่งตั้งองค์รัชทายาทแล้ว ถึงแม้จะบอกว่า องค์รัชทายาทเป่ยจื่อเฉินนั้นมีนิสัยอ่อนแอ แต่เขาก็เป็น โอรสของฮองเฮาภรรยาคนแรกของฮ่องเต้ ฮ่องเต้รักและ ผูกพันกันนางมาก ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ไปเป็นเวลาหลาย ปีเขาก็ยังนึกถึงนางอยู่ตลอดและไม่ได้แต่งตั้งใครขึ้นมา อีกเลย ถึงแม้องค์รัชทายาทสติปัญญาธรรมดา แต่ฮ่องเต้ ก็รักและเอ็นดูเขามาก

องค์ชายสองเป่ยจื่อหัวเรียนรู้วิธีการปกครองแผ่นดินมา ตั้งแต่เด็ก ในบรรดาองค์ชายก็โดดเด่นมากที่สุด เสด็จ แม่ขององค์ชายสองซูเฟยเจ้าหญิงแห่งชนเผ่าหนึ่ง คอย สนับสนุนอย่างมั่นคง
องค์ชายสี่กับองค์ชายห้าล้วนเป็นโอรสของจิ้นกุ้ยเฟย จี้ นกุ้ยเฟยเป็นหลานสาวแท้ๆของแม่ทัพลี่ที่เสียชีวิตไปแล้ว แม่ทัพลี่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งประเทศ ติดตามฮ่องเต้องค์ก่อน บุกเบิกดินแดน และวางรากฐานเมืองหนานหมู่ หลังจาก จิ้นกุ้ยเฟยได้สร้างคุณูปการให้แก่แผ่นดิน ก็มีเกียรติและ ความรุ่งโรจน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

มีเพียงแค่องค์ชายสามที่ไม่มีที่พึ่ง สติปัญญาและความ สามารถจึงไม่ได้โดดเด่นที่สุดในบรรดาองค์ชาย แม่ของ องค์ชายสามสี่เฟยเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาที่ถูกคัดเลือก มา เป็นเพราะให้กำเนิดโอรสจึงได้ถูกแต่งตั้งตำแหน่ง ดัง นั้นองค์ชายสามจึงไม่ได้อยู่ในสายตามาโดยตลอด

แต่ต่อจากนี้ตำแหน่งของเขาจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง องค์ชายสามแต่งงานกับหลานสาวของจางไท่ซือก็ไม่ต่าง กับเสือที่มีปีก ถ้าหากแย่งชิงบัลลังก์ก็มีโอกาสชนะเป็น อย่างมาก

หลังจากกราบไหว้เทวดาฟ้าดิน เจ้าสาวถูกส่งตัวไปยัง เรือนหอ องค์ชายสามอยู่ดื่มสุราและต้อนรับแขกตาม ประเพณี

หลังจากพิธีเสร็จการฮ่องเต้ก็เสด็จกลับพระราชวังก่อน เนื่องจากการงานรัดตัว ลี่เฟยแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเขาจึงอยู่ ที่ตำหนักต่อเป็นธรรมดา
แขกเดินกันสับสนวุ่นวาย ลี่เฟยส่งคนไปตามองค์ชาย สามมา

” ลูกรัก ถึงแม้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ยังดีที่ลูกสาว ของตระกูลจางนี้กลายเป็นของล้ำค่าในกระเป๋าเสื้อของ เรา เมื่อมีความช่วยเหลือของตระกูลจาง บัลลังก์นี้ก็จะ ต้องตกอยู่ในมือของเราไม่ช้าก็เร็ว ”

ที่จริงแล้วในตอนแรกฮ่องเต้ต้องการรับสั่งให้จางยวี่โหร่ วแต่งงานกับองค์รัชทายาท ฮ่องเต้รักใคร่องค์รัชทายาท ย่อมต้องกังวลว่าตำแหน่งของเขาจะถูกคุกคามในภาย หลัง หากมีความช่วยเหลือของตระกูลจางก็จะขึ้นครอง ราชบัลลังก์ได้อย่างราบรื่นอย่างแน่นอน แต่องค์ชาย สามเริ่มต้นลงมือก่อนอย่างแข็งแกร่ง พยายามอย่างเต็ม ที่เพื่อเอาชนะใจของจางยวี่โหร่ว จางไท่ซือนั้นกราบทูล กับฮ่องเต้ด้วยตนเองว่าหลานสาวของตนกับองค์ชาย สามมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และขอพระราชทานจัดงาน แต่งงานขึ้น ฮ่องเต้จะทำได้เพียงปล่อยไป

ในแววตาของเป่ยจื่อห้าวมีความสับสนเล็กน้อย ไม่ได้มี ท่าทางสุภาพและสง่างามเหมือนปกติเลยแม้แต่น้อย “ ข้า อดทนกับผู้หญิงคนนั้นมาพอแล้ว หากข้าไม่ใช่คิดถึงภาพ รวม ข้าก็ไม่เกรงใจนางตั้งนานแล้ว

จางยวี่โหร่วงดงามราวกับเทพธิดา แต่ถูกตามใจจนชิน มาตั้งแต่เด็ก นิสัยก็เอาแต่ใจเล็กน้อย องค์ชายสามจึงต้องลดตัวเองลงต่อหน้าของนาง จนต้องเอาอกเอาใจเพื่อ ให้นางพอใจ เขาทนไม่ไหวมานานแล้ว

” ลูกอย่าเพิ่งใจร้อน นางแต่งงานกับลูกแล้ว จากนี้ไปผู้ หญิงต้องปฏิบัติตาม ค่อยๆสั่งสอนก็ย่อมได้ ”

* ได้ เพื่อแผนการใหญ่ ข้าจะอดทนนางชั่วคราว หลัง จากที่ทุกสิ่งลงตัวแล้ว สิ่งที่จะจัดการอย่างแรกก็คือนาง

ใบหน้าที่งดงามได้รับการดูแลมาอย่างดีของลี่เฟยเผย ให้เห็นรอยยิ้ม ” เอาล่ะ อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันแต่งงาน ใหญ่ของเจ้า ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว รีบไปที่เรือนหอเถอะ

เมื่อพูดถึงเรือนหอ ในใจของเป่ยจื่อห้าวก็ยิ่งใจร้อนขึ้น และสะบัดแขนเสื้อเดินออกไปอย่างเกลียดชัง

เมื่อมองดูท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆมืดลง จางยวี่โหร่วง่วง จนแทบจะหลับลง แต่ยังต้องฝืนมีสติเข้าไว้

ตอนนี้นางอยู่ที่ตำหนักอ๋องชิงผิงสถานที่ที่ผู้หญิงทุกคน เมื่อได้ข่าวก็สีหน้าเปลี่ยนไป และยังมีสามีที่สามารถฆ่า คนอย่างบ้าคลั่งกินเลือดกินเนื้อมนุษย์พร้อมที่จะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่ออีก หากนางยังมีใจที่จะนอนหลับในเวลา นี้ก็อาจจะใจกล้ามากเกินไปหน่อย

กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ในตอนนั้นจู่ๆก็มีเสียงฝีเท้า ดังมาจากด้านนอก นางกำมีดพกในแขนเสื้อแน่นโดยไม่รู้

ประตูห้องถูกเปิดออก นางได้ยินเสียงแหบเล็กน้อยเอ่ย ปากพูดว่า ” พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าไปเอง ”

“ พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ”

เมื่อเห็นเขาปิดประตูลง ในห้องดูเหมือนถูกแยกออกเป็น สองโลกในทันที จางยวี่โหร่วประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย

เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนนางสามารถมอง

เห็นรองเท้าหุ้มแข้งคู่หนึ่งภายใต้เสื้อคลุมสีแดง

ในชั่วพริบตาที่ผ้าคลุมหน้าเปิดขึ้น จางยวี่โหร่วก็ชักมือ ออกราวกับสายฟ้า แต่เห็นได้ชัดว่าคนนั้นโต้ตอบได้เร็ว ยิ่งกว่า หลบตัวออกจากมีดพกของนางได้อย่างรวดเร็ว จับข้อมือของนางหักมีดพกลง จากนั้นกดตัวนางลงบน เตียง

“ ท่านปล่อยข้านะ ปล่อยข้า! ” ในสายตานั้นคือหน้ากาก หมาป่าอันหนึ่ง ดูเหมือนดุร้ายน่ากลัว จางยวี่โหรวต่อสู้ดิ้นรนลุกขึ้นอย่างสุดกำลัง

“พระชายาต้องการจะลอบทำร้ายสามีตนเองในคืนวัน แต่งงานงั้นรึ?” ไม่รู้ว่าทำไม นางรู้สึกถึงรอยยิ้มเยาะเย้ย บางๆในดวงตาสีดำเข้มอันมืดมิดราบกับน้ำหมึกคู่นั้นจาก ด้านหลังหน้ากาก

จางยวี่โหร่วจึงคิดจะถือโอกาสตอนที่เขายังมีสติปัญญา อยู่อธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง เพื่อหลีกเลี่ยง “ความ บ้า” ของเขาอย่างฉับพลัน ” ข้าไม่ใช่พระชายาของท่าน ข้าชื่อจางยวี่โหร่ว เป็นหลานสาวของขุนนางจางไท่ซือใน ราชสำนัก ท่านรู้จักจางไท่ซือไหม? ”

ชื่อเสียงของท่านปู่ของนางนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ถึงแม้จะ เห็นแก่หน้าตาของท่านปู่นาง เขาก็ไม่ควรจะทำให้นาง ลําบากใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ