แบดบอยคะนองใจ

บทที่ 1 ผู้ชายที่ถูกรังแกมากที่สุด



บทที่ 1 ผู้ชายที่ถูกรังแกมากที่สุด

บางที ในรั้วโรงเรียนก็โหดร้ายมากกว่าใสสังคมซะอีก เพราะนั่นคือวัยรุ่นกลุ่มนึงที่มีพลังทำลายล้างแต่ไม่มี ความอดทน

———บันทึก

คุณสามารถมองมันว่าเป็นอัตชีวประวัติ ความทรงจำ นิยาย หรืออะไรก็ดี แต่ขอแค่อย่าถามผมเด็ดขาดว่ามัน เคยเกิดขึ้นจริงรึเปล่า แบบนั้นมันจะทำให้ผมรู้สึกลำบาก ใจสุดๆ

ตอนมัธยมต้น ผมคือชายที่ถูกรังแกมากที่สุดในห้อง

ตอนตอบคําถามในชั้นเรียนเสร็จ ในตอนจะนั่งลงนั้น เก้าอี้ก็ต้องโดนเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ข้างหลังดึงออกแน่นอน จากนั้นผมก็นั่งลงไปกับพื้นเต็มตูด เพื่อนๆ ในห้องพากัน หัวเราะเสียงดัง แม้แต่ครูก็อดที่จะขำไม่ได้ มีบางครั้งที่ เก้าอี้ของผมไม่โดนลากออก ผมก็นั่งลงอย่างโล่งใจ แต่ก็ ต้องรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะตูดนั้นโดนหมุดแหลม หลายอันทิ่มไปเรียบร้อยแล้ว และที่ตามมาก็คือเสียง หัวเราะที่ดังกระหึ่ม

ตอนที่ทบทวนบทเรียนเองอยู่นั้น เพื่อนในห้องต่างพากัน พูดคุยกัน หัวหน้าฝ่ายวินัยกลับเดินมาอยู่ข้างหลังผมบทที่ 1 ผู้ชายที่ถูกรังแกมากที่สุด

บางที ในรั้วโรงเรียนก็โหดร้ายมากกว่าใสสังคมซะอีก เพราะนั่นคือวัยรุ่นกลุ่มนึงที่มีพลังทำลายล้างแต่ไม่มี ความอดทน

———บันทึก

คุณสามารถมองมันว่าเป็นอัตชีวประวัติ ความทรงจำ นิยาย หรืออะไรก็ดี แต่ขอแค่อย่าถามผมเด็ดขาดว่ามัน เคยเกิดขึ้นจริงรึเปล่า แบบนั้นมันจะทำให้ผมรู้สึกลำบาก ใจสุดๆ

ตอนมัธยมต้น ผมคือชายที่ถูกรังแกมากที่สุดในห้อง

ตอนตอบคําถามในชั้นเรียนเสร็จ ในตอนจะนั่งลงนั้น เก้าอี้ก็ต้องโดนเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ข้างหลังดึงออกแน่นอน จากนั้นผมก็นั่งลงไปกับพื้นเต็มตูด เพื่อนๆ ในห้องพากัน หัวเราะเสียงดัง แม้แต่ครูก็อดที่จะขำไม่ได้ มีบางครั้งที่ เก้าอี้ของผมไม่โดนลากออก ผมก็นั่งลงอย่างโล่งใจ แต่ก็ ต้องรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะตูดนั้นโดนหมุดแหลม หลายอันทิ่มไปเรียบร้อยแล้ว และที่ตามมาก็คือเสียง หัวเราะที่ดังกระหึ่ม

ตอนที่ทบทวนบทเรียนเองอยู่นั้น เพื่อนในห้องต่างพากัน พูดคุยกัน หัวหน้าฝ่ายวินัยกลับเดินมาอยู่ข้างหลังผมพยายามยิ้มแล้วเป็นเพื่อนกับทุกคน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้น คือ พวกเขายิ่งเยาะเย้ย ดูถูก กลอกตา ผลักออก……ทุก ห้องนั้นต้องมีผู้ชายที่โดนรังแกมากที่สุด มันโชคร้ายสุดๆ ที่ผมได้เล่นบทนี้

แล้วต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพราะเพื่อนที่นั่ง ข้างๆ ผม เป็นเด็กอ้วนลูกเศรษฐี ใช่แล้ว ก็คือไอ้เป็น หัวโจกที่ห้ามผมเตะฟุตบอลในสนามคนนั้นพูดถึงแล้วก็ ต้องโทษผม ที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่น ถูกการเรียน ล้างสมอง เวลาครูสั่งให้ทำอะไรก็ทำแบบนั้น

การเรียนของผมก็ใช่ได้ แต่คนที่นั่งข้างคมกลับเรียนได้ แย่มาก ทุกครั้งที่ทดสอบนั้นเขาก็จะลอกคำตอบของฉัน ตลอด ตอนนี้พอคิดๆ ดูแล้ว เขาอยากลอก ผมก็ให้เขา ลอกเลย ก็ไม่เสียหายอะไร

ในตอนที่อยู่มัธยมนั้น ผมก็ลิ้มลองความเย็นชาและ ความอบอุ่นของผู้คนมาแล้ว เดินไปเรียนคนเดียว เดิน กลับคนเดียว ตอนคาบพละอยู่ที่มุมนึงคนเดียว ทำ กิจกรรมไม่มีกลุ่มให้อยู่ด้วย ผู้หญิงที่ชอบนั้นก็ทำได้แค่ มองอยู่ห่างๆ เพราะเธอไม่กล้าเข้าใกล้ผมแม้แต่ครึ่งก้าว

ผมในตอนนั้น ก็เคยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย

ความโหดร้ายในรั้วโรงเรียนนั้น มันโหดร้ายกว่าในสังคม นี่เป็นวัยรุ่นกลุ่มนึงที่มีพลังทำลายล้างแต่ไร้ซึ่งความอดทน ทั้งหมดที่พวกเขาทํานั้นทําอย่างบ้าบิ่น ไม่ได้ คิดว่าจะเกิดผลอะไรขึ้น ผมในตอนนี้ใจแข็งเหมือนเหล็ก หัวรุนแรง มืดมน ออกห่างจากสิ่งที่พบเจอในตอนนั้นไม่ ได้

วันแล้ววันเล่า ผม ผมหวังมากที่สุดคือการเรียนจบเร็วๆ สอบเข้ามัธยมปลาย ถิ่นเดิมของเราเป็นแค่เมืองเล็กๆ มี แค่ประถมกับมัธยมต้น ถ้าอยากจะเรียนม.ปลายก็ต้อง ไปในเมือง ผมคิดว่า หลังจากไปเรียนม.ปลายในเมือง แล้ว นักเรียนทุกคนต่างก็มาจากเมืองรอบๆ กัน ก็สามารถ รอดพ้นจากสถานการณ์ความเจ็บปวดในตอนนี้ได้

ผมร่าเรียนอย่างหนัก ตั้งใจเรียน และพยายามไม่ยุ่ง กับคนรอบข้างใดๆ พวกเขาทั้งเยาะเย้ย ทั้งแกล้ง ทั้ง ดูถูก ผมมันลงท้องไป ผลการเรียนของผมดีขึ้น เรื่อยๆ แล้วสุดท้ายพอสอบเข้าม.ปลายผมก็สอบได้ที่ ห้าขอทั้งโรงเรียน แล้วก็สอบเข้าเป้าหมายแรกในเมือง

ได้——โรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนาน

ตอนที่ไปรับไปประกาศการผ่านการคัดเลือกนั้นก็มีจุด เปลี่ยนเล็กน้อย ทางโรงเรียนโทรมาหาผม บอกให้ผมไป รับที่สำนักวิชาการ พอผมไปถึงที่นั่นกลับหายังไงก็หาไม่ เจอ แม้แต่ครูก็ยังแปลกใจ “เมื่อกี้ยังอยู่นี่อยู่เลย หายไป ไหนแล้วล่ะ” พอตั้งใจคิดๆ ดูแล้ว ก็บอกอีกว่า “ใช่แล้ว เมื่อกี้มีเพื่อนร่วมห้องของพวกเธอมารับผลประกาศด้วย เหมือนกัน เอาไปให้เธอด้วยรึเปล่า เธอลองไปถามดู ”

พอผมได้ยินก็ตัวเย็นไปทั้งตัว เพื่อนในห้องของผมไม่มี ทางใจดีช่วยรับผลประกาศให้ผมแน่นอน ถ้าเป็นพวก เขาเอาไปจริงๆ ก็รับรองได้ว่าพวกเขาอยากจะเอาผล ประกาศของผมนั้นไปเผาทิ้งไม่ก็ฉีกทิ้งแน่นอน ผมผลัก ประตูออกไปเหมือนคนบ้า วิ่งกลับไปแล้วตามหาร่องรอย ของพวกเขา

เมืองของเรานั้นไม่ได้ใหญ่ ผมเจอกับร่องรอยของพวก เขาที่สนามเล็กอย่างรวดเร็ว มีประมาณสี่ถึงห้าคน หนึ่ง ในนั้นมีเพื่อนที่นั่งข้างๆ ผมด้วย ไอ้ลูกเศรษฐีอ้วนๆ นั่น ใน มือของเขา กำลังเล่นกับจดหมายนั้นอยู่ เห็นตัวหนังสือ “โรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนาน” รางๆ ผมพุ่งเข้าไปแล้ว ตะคอกเสียงดังว่า “โจวหยาง เอาผลประกาศคืนมาให้ ฉัน” เดินไปก้าวนึง จะแย่งผลประกาศของผม

โจวหยางดึงกลับ ไอ้อ้วนนี่ก็กระตือรือร้นอยู่เหมือนกัน ชู ผลประกาศขึ้นสูง หัวเราะแล้วพูดว่า “แกเข้ามาแย่งสิ ถ้า แย่งได้ก็ถือว่านายมีความสามารถ

โจวหยางไม่ใช่แค่อ้วน แต่ยังสูงอีกด้วย เป็นคนเล่น บาสเกตบอลเก่งคนนึงในห้อง ส่วนผมทั้งผอมทั้งเตี้ย แน่นอนว่าแย่งของจากมือเขาไม่ได้อยู่แล้ว กระโดดไป กระโดดมาก็ไม่ถึง เหมือนกับตัวตลกยังไงเปล่าๆ แล้วก็ ทำให้คนอื่นๆ พากันหัวเราะขึ้น “โจวหยาง ขอร้องนายล่ะ คืนให้ฉันเถอะ” ผมเกือบจะร้องไห้ ผลประกาศใบนั้นเป็นความหวังเดียวที่จะทําให้ผมหลุดพ้นจากนรกได้

“ฮ่าฮ่า ไม่ร้องนะหวางห้าว” โจวหยางโบกใบประกาศ ในมืออย่างได้ใจ สะบัดจดหมายบางๆ ใบหนึ่งอยู่กลาง อากาศ

“โจวหยาง คืนให้ฉันเถอะ” ผมขอร้องเสียงเบา และสั่น

ไปทั้งตัว

“คุกเข่าลง” จู่ๆ โจวหยางก็พูดขึ้นว่า “ถ้าคุกเข่าลง ฉันจะ คืนให้นาย” จากนั้น เขาก็โน้มตัวลง เอาผลประกาศจ่อไป ที่รูท่อน้ำทิ้ง แล้วเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา “ไม่อย่างงั้น ฉันก็จะปล่อยมือ” นิ้วมือสองนิ้วของเขาหนีบใบประกาศ เอาไว้ เพียงแค่ปล่อยมือ ใบประกาศก็จะหล่นลงไป

“อย่า……” ผมตัวสั่นมากขึ้นไปอีก แล้วสุดท้ายน้ำตาก็ ไหลออกมา ผมในตอนนั้น นึกว่าถ้าใบประกาศนั้นหาย ผมก็จะไม่มีความหวังที่จะได้เข้าเรียนชั้นมัธยมปลายแล้ว

“คุกเข่าลง” เสียงของโจวหยางนั้นเย็นชาขึ้นไปอีก เพื่อนคนอื่นๆ ไม่ห้าม และดูด้วยท่าทางที่เฉยชา คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก็นึกแค่ว่าเด็กกำลังเล่นกัน ก็ไม่ได้สนใจสถานการณ์ทางนี้เลยสักนิด

มีใครบ้างที่จะรับรู้ว่าใจผมในตอนนั้นเจ็บปวดมากแค่ ไหน

ผมจะไปจากที่นี่ ต้องไปจากที่นี่แน่นอน

ในใจของผมแอบๆ พูดแบบนี้ จากนั้นขาทั้งสองข้างก็ ค่อยๆ คุกเข่าลงมา

แน่นอนว่าความเจ็บปวดในใจนั้นหาทำไหนมาเทียบไม่ ได้ ความแค้นนี้ ต้องชาระ ต้องเอาคืน แล้วฝ่ามือของผมก็ กำเป็นหมัด

ถ้าขึ้นม.ปลายแล้ว ผมต้องมีเพื่อนที่ร่วมเป็นร่วมตายกับ ผม สักวันหนึ่ง ผมจะให้โจวหยางคุกเข่าต่อหน้าผม!

ผมสาบานคำนี้ไว้ในใจ แล้วน้ำตา ก็ค่อยๆ ไหลลงไปบน พื้นที่สะอาดทีละหยดๆ

“ฮ่าๆๆๆๆ ….. โจวหยางหัวเราะลั่น จู่ๆ อารมณ์บนหน้า ก็แข็งที่อไป เอานิ้วออกมาจากท่อน้ำ “ใบประกาศล่ะ ใบ ประกาศเผลอตกลงไปแล้ว” บนหน้าของเขามีความตื่น ตกใจอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขายอมรับผลที่ตามมานี้ไม่ได้ ตั้งแต่เด็ก
ผมมองดูมือเขาต้องความช็อก ภาพนั้นกลับว่างเปล่า ใบ ประกาศนั้นไม่รู้ว่าไปทางไหนแล้ว

ในหัวของผมเหมือนโดนฟ้าผ่า แข็งที่อเป็นท่อนไม้ตั้งแต่ หัวจรดเท้า ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยสักนิด ถึงขึ้นลืมว่าตัว เองยังคุกเข่าอยู่

“ฮ่าฮ่า ล้อนายเล่นหน่า” ไม่รู้ว่าโจวหยางเสกใบประกาศ ออกมาจากที่ไหน หัวเราะดีใจแล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าผม เอาใบประกาศมาตบที่หน้าของผม “เด็กอย่างนายสอบ เข้าโรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนานได้ด้วย ทำให้ฉันชื่นชม จริงๆ” หนึ่งที สองที สามที

ผมอดทนเอาไว้อย่างเงียบๆ การโดนตบแบบนี้ ก็ไม่ใช่ ครั้งแรกอยู่แล้ว อีกอย่าง ใช้ใบประกาศฟาดหน้าก็เหมือน จะไม่เจ็บสักเท่าไหร่

สุดท้าย โจวหยางตบจนเบื่อแล้ว ก็เอาใบประกาศวาง บนหัวผม พาเพื่อนสองสามคนหัวเราะแล้วเดินไปไกล ผมมองดูแผ่นหลังของพวกเขา เอาใบประกาศลงมาจาก หัว ข้างบนนั้นเขียนชื่อของผมอยู่ ทำให้ในใจของผมนั้น ปลาบปลื้ม ผมค่อยๆ ลุกขึ้น ขาทั้งสองข้างนั้นเริ่มชา บน หน้านั้นยังมีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งอยู่

“ฉันออกจากที่นี่ได้แล้ว” ผมมองไปรอบๆ ทั้งเมืองนี้นั้น ต่างเป็นฝันร้ายของผมทั้งหมด
โรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนาน ผมจะมาแล้ว

ตลอดทั้งปิดเทอม ผมไม่ได้ออกไปไหน ผมกลับว่าจะ ไปเจอกับเพื่อนเมื่อก่อนอย่างโจวหยางที่ตลาดอีก เดี่ยว จะโดนดูถูกโดยไม่มีเหตุผลอีก พ่อแม่ยังโทษผมอีกว่าไม่ ชอบออกไปวิ่งเล่นข้างนอก หมกอยู่ในบ้านเหมือนขึ้นรา ไปแล้ว เห้อ พวกเขารู้ถึงความเจ็บปวดของผมซะที่ไหน กัน แต่ที่ผมก็สอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนานได้ พวกเขาก็ดีใจมากเหมือนกัน ปกติพออยู่บ้านเบื่อแล้ว อย่างมากก็ออกไปวนๆ อยู่หน้าประตูบ้าน ไม่มีทางออก ไปวิ่งเล่นไกลแน่นอน

บางครั้งก็จะเจอเพื่อนบ้านอย่างหยู่เฉิงเฟย เขาโตกว่า ผมปีนึง ก็เรียนในเมืองเหมือนกัน แต่การเรียนของเขา นั้นแย่มาก สามารถเรียนได้แค่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเฉิง หนานที่ห่างกับโรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนานแค่กำแพง กั้น ทั้งสองโรงเรียนอยู่ใกล้กันมาก แต่ระดับนั้นต่างกัน ราวฟ้ากับดิน ด้วยความที่หมู่เฉิงเฟยนั้นไปเรียนในเมือง ก่อนหนึ่งปี ผมเลยถามเขาเรื่องสถานการณ์ทางนั้น คุ้น เคยๆ ซะก่อน เพื่อจะได้ไม่ได้ต้องงง

มีครั้งนึงที่พอคุยเสร็จ หยู่เฉิงเฟยก็เผลอบอกกับผมว่า “หวางห้าว ถ้าเกิดเรื่องอะไรที่โรงเรียนมัธยมปลายเฉิง หนานก็จำไว้ว่าให้ไปหาฉัน”

หน้าของผมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณครับพี่หยู่” แต่ ก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ สถานการณ์แบบนี้เจอมาเยอะแล้ว ผมขึ้นชื่อเรื่องถูกรังแกในห้อง ยังมีขาใหญ่ของ โรงเรียนเสนอว่าจะรับผมเป็นลูกน้อง ตอนนั้นผมดีใจมาก นึกว่าจะหาที่พึ่งเจอแล้ว แต่สุดท้ายคำพูดต่อมาของลูกพี่ ใหญ่ก็คือ “พรุ่งนี้เอาเงินมาห้าสิบหยวน” ผมถึงกับเศร้า และหมดคำพูด ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ เพราะฉะนั้น การบุกที่จะคุ้มกะลาหัวผมนั้น ผมก็มีความระมัดระวังอยู่ บ้างเหมือนกัน

แต่ถึงยังไงโรงเรียนมัธยมปลายเฉิงหนานนั้นเป็น โรงเรียนมัธยมปลายที่โด่งดัง จะมีเรื่องอะไรได้ ทุกคน ตั้งใจเรียนก็ยังจะไม่มีเวลาเลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ