บทที่ 12 คุณฉินโม่หานเป็นคนไม่ดี
บทที่ 12 คุณฉินโม่หานเป็นคนไม่ดี
หลังจากมื้อค่ำ ชูสือเยว่ก็กลับเข้ามาในห้อง
เธอถอดเสื้อผ้าออก ตอนที่กำลังสำรวจรอยฟกช้ำที่ได้จาก การถ่ายงานในวันนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก
เธอรีบใส่เสื้อผ้าก่อนจะเปิดประตู
คนคนนั้นคือซิงหยุน
เจ้าหนุ่มน้อยเดินเข้ามา ก่อนจะส่งกระดาษใบหนึ่งให้กับ เธอ ” เซ็นซะ ”
ในขณะเดียวกัน ซิงเฉินก็ดันประตูห้องหนังสือออก
การทำงานของฉินโม่หานได้ถูกขัดจังหวะกลางคัน
” สัญญาหลังแต่งงานงั้นเหรอ ”
ซูสือเยว่เลิกคิ้ว ” ข้อแรก ต้องตกหลุมรักคุณฉินโม่หาน ภายในเวลาหนึ่งเดือน ”
” ฉันไม่มีทางรักเขาหรอกนะ
พ่อก็ไม่มีทางรักเธอหรอก
ฉินโม่หานที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือก็ดันสัญญาออกไป ข้าง ๆ ด้วยท่าทีที่ไม่สนใจ ” มากสุด แค่ไม่เกลียดกับไม่ รําคาญ ”
ซิงเฉินเอามือทั้งสองข้างมาเท้าคาง และดวงตาใสคู่โตนั่นก็ กะพริบใส่ฉินโม่หานรัว ๆ ” แต่ว่าแด๊ดดี้ ไม่เกลียดไม่รำคาญ ก็ แปลว่าแด๊ดดี้เริ่มชอบเธอแล้วนั่นแหละ ”
” แด๊ดดี้จะโสดไปทำไมนาน ๆ หลายปีล่ะ ต้นไม้ที่ถึงจะอายุ มากแล้วก็ควรผลิดอกออกผลบ้างไม่ใช่เหรอ! ”
ฉินโม่หานชายตามอง ” พ่อไม่ผลิดอกอะไรทั้งนั้น ลูกกับพี่ ชายของลูกเข้ามาได้ยังไงกัน ”
ซิงเฉิน มองบนก่อนจะพูดว่า ” แด๊ดดี้ไม่ได้รักหม่ามี้ที่เกิดพวก เรามานี่นา ”
ฉินโม่หานเลิกคิ้ว
ก่อนภาพข้างหน้าจะปรากฏถึงความมืดมิดเมื่อห้าปีก่อน
นึกถึงน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเธอ และเรือนร่างของเธอที่ดูนุ่ม
นวลน่าสัมผัส
เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกในลำคอ ” ลูกรู้ได้ยังไงว่าพ่อไม่ ชอบแม่ของลูก ”
” และแด๊ดดี้รู้ได้ยังไงว่าผมจะต้องชอบแด๊ดดี้ล่ะ ”
ซูสือเยวที่อยู่ในห้องนอน มองซิงหยุนแบบหมดหนทาง
“เด็ด หล่อเหมือนพวกเธอเลย
” แต่การจะชอบคนคนหนึ่ง มองจากแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ 11 ได้หรอกนะจ๊ะ ”
” แด๊ดดี้ก็เพอร์เฟคแทบจะทุกด้านนั่นแหละ คุณลองเดี๋ยวก็รู้ เอง ”
ซูสือเยว่ ” ….
เธอเม้มปาก แล้ววาดสายตาลงบนสัญญา
ทำไมต้องมีลูกให้ท่านชายฉินภายในครึ่งปีล่ะ ”
” เพราะว่าหม่ามี้ไม่มีลูกที่ให้กำเนิดเองยังไงล่ะ ”
ในห้องหนังสือ ซิงเฉินยิ้มจนตาหยีก่อนจะพูด ” แด๊ดดี้ ดูสิ แด๊ดดี้มีผมกับพี่กลายเป็นลูกจริง ๆ อยู่แล้ว ”
* แต่หม่ามี้คงจะเหงาน่าดูเลย ดังนั้น แด๊ดดี้ต้องให้เธอมีลูก เป็นของตัวเองนะ คอยอยู่ข้าง ๆ เธอไง ”
ฉินโม่หานกระแอมเสียงเย็น ๆ ” แน่ใจเหรอว่าตอนนี้พวกลูก
อยู่ข้างพ่อน่ะ ”
ซิงเฉิน ”
เจ้าหนุ่มน้อยโดดลงจากโต๊ะทำงานอย่างไว มือทั้งสองข้าง เท้าสะเอว ” ผมไม่สน! ผมแค่อยากมีน้องสาวสักคน! ”
” ภายในครึ่งปี ผมไม่สนว่าแด๊ดดี้จะใช้วิธีอะไร แต่ต้องให้ หม่ามี้ท้องน้องสาวให้ผมให้ได้! ”
” ถ้าไม่อย่างนั้น ผมจะประกาศอย่างโหดเหี้ยมให้เหมือนก่อน 11 หน้านี้เลย ไปแด๊ดดี้ไม่เก่งเรื่องพวกนั้น! ”
ฉินโม่หาน ”
หลังจากนั้นสิบนาที ฉินโม่หานก็ไล่ซิงเฉินกับซิงหยุนกลับไป ยังห้องนอนของตัวเอง
ที่ผ่านมาเข้าไม่อยากให้ความสนใจเจ้าเด็กพวกนั้น แต่ทำไง ได้ ชิงหยุนเก่งด้านโปรแกรมมาก ถึงกับทําแก้ปัญหาไวรัสได้ อีกหน่อยคงเป็นจุดแข็งได้ไม่น้อย
มีลูกชายที่มีความสามารถขนาดนี้ บางทีก็วุ่นวายได้เหมือน
ซูสือเยวที่อยู่ห้องของตัวเอง กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ
เธอไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะรับลูกชายที่ไม่มีความเกี่ยว พันทางสายเลือดได้ง่าย ๆ
แต่ตอนนี้ พอได้แช่ในอ่างอาบน้ำที่ซึงหยุนโรยกลีบกุหลาบ ให้ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจริง ๆ
ได้รับความรักจากลูกชายมันรู้สึกดีมาก ๆ เลยล่ะ
เธออาบน้ำเสร็จด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ก่อนจะห่อผ้าขนหนู แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ
ข้างนอกนั่น ชายหนุ่มที่ดูสูงศักดิ์และเย่อหยิ่ง กำลังเอนตัว อ่านหนังสืออยู่บนเตียง
ไฟตรงหัวเตียงส่องสว่างไปยังใบหน้าด้านข้างของเขา ทำให้เค้าโครงของร่างกายของเขายิ่งดูมีมิติชวนให้หลงใหล
ดุลยเตกใน แทนจะร้องออกมา “คุณ…. คุณมาอยู่ที่นี่ ได้ยังไง
ฉันไม่หานเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่เธอ ” ทำไมผมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ
ซูสือเยว่เม้มปาก เขาพูดถูก พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน
เขาควรจะมาอยู่กับเธอ
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ ซึ่งหยุนให้เธอเซ็นสัญญาข้างในยัง มีบอกอีกว่า ให้เธอมีลูกให้เขาภายในครึ่งปี……
นี่มันคงเป็นความคิดของเขาสินะ
ที่จริงแล้วชิงหยุนเป็นแค่เด็กอายุห้าขวบ จะมาเรียกร้องอะไร ทํานองนี้ได้ยังไง
คิดถึงตรงนี้ ใจเธอก็สั่นเบา ๆ
* แผลยังไม่หายอีกเหรอ ”
ฉินโม่หาน นิ่วหน้า กวาดสายตาสำรวจรอยฟกช้ำและรอย
แดงบนร่างของเธอ
ดูเหมือนว่า รอยแผลจะดูหนักกว่าในรูปที่ชิงหยุนให้เขาดูเมื่อวาน
“นี่มันรอยใหม่น่ะ ”
ซูสือเยวดึงสติกลับมา เปิดเอายารักษาอาการบาดเจ็บฟกช้ำ ตรงลิ้นชักหัวเตียง ก่อนจะนั่งลงบนพรมที่พื้นแล้วเริ่มทา ” ฉัน เป็นสตั๊นแมนต่อสู้ของสตูดิโอนี่นา แผลแค่นี้เล็กน้อยจะตาย ”
ชายหนุ่มวางหนังสือลง ” สตั้นแมนเนี่ยนะ ”
” เธอตบตีใครเขาเป็นด้วยเหรอ
11
” ไม่เป็นหรอก ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มจนตาหยี ” แต่ฉันหนังหนามาก เลยนะ โดนตีโดนฟาดได้อยู่แล้วล่ะ ”
มองไปที่ขาขาวยาว ๆ นั่น ฉินโม่หานหรี่ตาเล็กน้อย
หนังหนางั้นเหรอ
เขายังจําขาคู่เล็กบนอุ้งมือของเขาได้ สัมผัสที่อ่อนนุ่มนั้น
สายตาของชายหุ้มทำให้ใบหน้าของซูสือเยวรู้สึกร้อน ระอุ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอทายาช้าลง
รอเธอทายาเสร็จ เขาคงหลับไปแล้ว
แสงสลัวจากโคมไฟติดผนังทำให้ความเย่อหยิ่งแข็งกร้าวบน ใบหน้าของเขาของอ่อนลงมาเล็กน้อย
เธอลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเอาผ้าห่มลงมาปูที่พื้น
*ไม่กล้านอนบนเตียงเหรอ ”
ตอนไฟในห้องนอนปิดไป เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มได้ดังขึ้น
ซูสือเยว่กำผ้าห่ม ในใจรู้สึกกังวล ” ฉันนอนไม่ค่อยปกติน่ะ กลัวว่าจะรบกวนคุณเปล่า ๆ ”
11 เหอะ ”
ข้าง ๆ หูมีเสียงขำเนิบ ๆ ของชายหนุ่ม ก่อนทั้งห้องจะเงียบลง
ทั้งคืนเงียบสงบ
ตื่นมาตอนเช้า บนเตียงว่างเปล่าไม่มีใครอยู่เลย
ซูสือเยวลุกจากพื้น ก่อนลงไปทำอาหารเช้า
หม่ามี “
ตอนกินข้าว ซึ่งเฉินถามอย่างไม่ยั้งปากว่า ” เมื่อคืนนี้หม่ามี้ กับแด๊ดดี้นอนด้วยกันเป็นยังไงบ้าง ”
ซูสือเยว่ยิ้มแบบเกร็ง ๆ ” ก็ ก็ดีจ๊ะ ”
“นายกินข้าวดี ๆ เลย ”
ชิงหยุน กรอกตามองซิงเฉิน
เจ้าหนุ่มน้อยเบ้ปาก ก้มหน้ากินข้าวอย่างว่าง่าย
ซูสือเยว่ไปทำงานแล้ว ซิงเฉินไปนอนแผ่ตัวอย่างน้อยใจบน โซฟา มองไปที่พี่ชายของบ้านนี้ ” เมื่อกี้พี่มองค้อนผมหรอ! ”
ซิงหยุนยืนกอดอกเหมือนคนแก่ก่อนจะพูดว่า ” เมื่อคืนพวก เขาไม่ได้ปั๊มน้องกันนี่นะ ”
ซิงเฉินเบะปาก ” นายรู้ได้ไง ”
ซิงหยุนยกมือขึ้นเคาะที่หัวของเขาก่อนจะพูด ” แด๊ดดี้ไป ทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว พูดถึงเรื่องเมื่อคืน หม่ามี้หน้าก็ไม่เห็นจะ แดงเลย ”
” นี่เป็นข้อยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้มีอะไรกันเลยยังไงล่ะ ”
” ถ้าพวกเขามีอะไรกันจริง ๆ แด๊ดดี้คงไม่ปล่อยให้หม่ามี้เดิน เองหรอก ”
ซิงเฉินพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ค่อยยินดี กับผลลัพธ์แบบนี้เท่าไหร่
ผ่านไปค่อนวัน เขาเงยหน้าขึ้น ตาใสนั่นมองไปยังพี่ชายที่โต เหมือนตัวเองจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน ก่อนจะพูดว่า ” แต่ว่า ถ้าคุณฉินโม่หานเป็นคนไม่ดีล่ะ ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ