ลิขิตฟ้าประธานลูกสาม

บทที่ 1 อยากเป็นหม่ามี้ผมหรอ ไม่มีทางหรอก!



บทที่ 1 อยากเป็นหม่ามี้ผมหรอ ไม่มีทางหรอก!

บทที่ 1 อยากเป็นหม่ามี้ผมหรอ ไม่มีทางหรอก!

“ที่รัก คุณหวานจังเลย…..

ภายใต้ความมืด มีเสียงแหบของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาข้างหู ของซูสือเยว่

มือทั้งสองข้างของเธอไขว้หลังไว้ โดยที่เธอไม่สามารถขยับ ตัวได้

สำหรับพละกำลังของผู้ชาย เธอไม่สามารถที่จะต่อต้านมัน

ได้เลย

ภายใต้ความมืดมิดนี้ ทุกอย่างมันสูญเสียการควบคุมไป

ทั้งหมดแล้ว……..……

ซูสือเยว่ลืมตาขึ้น พร้อมกับศีรษะของเธอที่มีเหงื่อไหลออกมา

แก้มของเธอเต็มไปด้วยความร้อนผ่าวทั้งสองข้าง ผ่านมาห้า ปีแล้ว ทำไมเธอยังฝันถึงสิ่งนี้อยู่กันนะ?
เธอลุกขึ้นก่อนจะไปล้างหน้าในห้องน้ำ ของเหลวเย็นๆนี้ทําให้ เธอได้สติขึ้นมาในทันใด

เธอหยิบแก้วขึ้นมาก่อนจะลงไปกดน้ำชั้นล่าง

“ไม่ค่ะ——! ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคนวิปริตอย่างเขาหรอก

ค่ะ!”

“ใครๆเขาก็รู้ไม่ใช่หรอคะว่าคุณชายคนที่สามของตระกูลฉิน ทั้งแก่ทั้งขี้เหร่แค่ไหน? มีผู้หญิงในเมืองหรงแค่ไม่กี่คนหรอก ค่ะ กล้าแต่งงานกับเขา!”

“เมื่อห้าปีก่อนเขาโดนไฟครอกนี่คะ หน้าตาก็บิดเบี้ยวน่า เกลียด! ได้ยินมาว่าเขาเล่นงานผู้หญิงสองคนนั้นด้วย! หนูไม่ แต่งกับเขาหรอกค่ะ!”

ภายในห้องนั่งเล่น จู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงที่แหลมคมดังขึ้นทัน ทันใด “อีกอย่าง ถ้าจะแต่งก็ควรเป็นซูสือเยว่นะคะที่ต้อง แต่งงานกับเขา! แล้วเธอก็ไม่ใช่หญิงสาวอายุน้อยที่ยังไม่เคย แต่งงานนี่คะ เธอเคยมีลูกแล้วด้วย! ประสบการณ์ก็มีมากโข! แต่งงานกับผู้ชายวิปริตคนนั้นคงไม่เสียหายอะไรหรอกค่ะ!”

“โม่โม่!”

เสียงของคนเป็นพ่ออย่างซูจิ่นเฉิงดังขึ้นเพื่อหยุดเธอ “เยว่เอ๋ อร่เป็นพี่สาวของเธอนะ!”
ซูโม่กัดฟัน ก่อนจะพูดปนเสียงร้องไห้ “คุณพ่อคะ หนูเป็น ลูกสาวแท้ๆของคุณพ่อนะคะ แต่ซูสือเยว่เป็นแค่ลูกที่อุ้มสลับ กับหนู หนูใช้ชีวิตอย่างลำบากแสนเข็ญแทนหล่อนมาสิบแปด ปีแล้วนะคะ! กว่าจะได้กลับมาอยู่ในตระกูลซู ตอนนี้หนูก็มี อาชีพเป็นของตัวเองแล้ว คุณพ่อจะมาบังคับให้หนูไปแต่งงาน กับคนอื่นไม่ได้นะคะ!”

“ใช่ค่ะ”

เฉินฟางที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นในทันใด “โมโม่มีชื่อเสียงในแวดวง ธุรกิจ แล้วก็เป็นความรุ่งโรจน์ของตระกูลเรา เราจะเสียเธอไป ได้ยังไง?”

“อีกอย่าง เราก็เลี้ยงดูเยว่เอ๋อร์มาสามปีแล้ว หล่อนก็ควรจะ ตอบแทนบุญคุณเราได้แล้วค่ะ”

เมื่อพูดจบ ทั้งสามคนก็ลุกขึ้น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็หัน ไปมอง ซูสือเยวที่ยืนอยู่บนชั้นสองของบ้าน

ซูสือเยว่ถือแก้วน้ำเอาไว้พร้อมกับใบหน้าซีดเล็กน้อย

เธอเข้าใจแล้วล่ะ

พวกเขาต้องการจะจับคลุมถุงชนกับตระกูลฉิน แต่ก็ไม่อยาก เสียซูโม่ไป ก็เลยอยากจะตัดเธอออกไปแทน

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะลงบันไดมา ก่อนจะยื่นมือมาหาซูจิ่นเฉิง “ข้อตกลงค่ะ”

ซูจิ่นเฉิงไม่เข้าใจ “ข้อตกลงอะไร?”

“ก็ที่ให้หนูไปแต่งงานกับตระกูลฉินแทนซูโม่เพื่อเป็นการ ตอบแทนพระคุณของตระกูลซู ก็ต้องมีข้อตกลงไม่ใช่หรอคะ? ไม่อย่างนั้นถ้าพวกคุณอ้างถึงพระคุณที่เลี้ยงหนูมา แล้วบังคับ ให้หนูไปฆ่าคน หนูก็ต้องทำแบบนั้นใช่มั้ยล่ะคะ?”

ซูจิ่นเฉิงอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง ซูโม่และเฉินฟางที่อยู่ข้างหลังก็เช่น

กัน

“จะไม่เขียนหรอคะ?”

ซูสือเยว่หยิบกระดาษและปากกามา ก่อนจะเขียนตัวอะไรลง ไปสองสามบรรทัด และสุดท้ายเธอก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไป “เรียบร้อยแล้วค่ะ พวกคุณไม่ต้องแสดงละครแล้วค่ะ หนูจะ แต่งงานกับเขาเอง”

เมื่อพูดจบ เธอก็เดินเข้าห้องครัวไปกดน้ำ จากนั้นก็เดินขึ้น บันไดไป

ซูโม่รีบพุ่งตัวเข้าหากระดาษแผ่นนั้นทันที

ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า :
ซูสือเยว่แต่งงานแทนซูโม่ และบุญคุณที่เลี้ยงกันมายี่สิบสาม ปีเป็นอันจบสิ้น

เรื่องนี้ราบรื่นจนเหลือเชื่อ

ซูโม่เงยหน้าขึ้นมามองแผ่นหลังที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปของ ซูสือเยว่ ก่อนจะพึมพำว่า “คุณแม่คะ ซูสือเยว่โง่รึเปล่าคะ? หล่อนตอบตกลงแต่งงานแบบนี้ หล่อนจะเลิกกันแฟนตัวเอง อย่างนั้นหรอคะ?”

เฉินฟางรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของซูโม่ทันที ก่อนจะมองไป หาซูสือเยว่ เพราะกลัวว่าหล่อนจะเปลี่ยนใจ

จริงๆแล้วซูสือเยว่ได้ยินหมดแล้วล่ะ

เธอหัวเราะอย่างขมขื่น เมื่อสองวันก่อน เธอยังมีแฟนหนุ่ม ที่รักกันมานานกว่าหกปีแล้ว เขาเป็นแฟนหนุ่มที่พร้อมจะทำ ทุกอย่างเพื่อเธอ แต่ตอนนี้ ไม่มีแล้ว

สำหรับเธอแล้ว ไม่ว่าจะแต่งงานกับใคร มันก็เป็นแค่การ เปลี่ยนที่อยู่การใช้ชีวิตของเธอเท่านั้น ไม่มีความแตกต่างแต่ อย่างใด

สามวันต่อมา ซูสือเยว่ถูกนำตัวไปที่คฤหาสน์ของตระกูลฉิน
อีกฝ่ายไม่ได้ออกมาต้อนรับเธอโดยตรง แต่เธอต้องเป็นฝ่าย เข้าไปในคฤหาสน์ก่อน ก่อนจะตัดสินใจ

อีกนัยหนึ่ง แม้ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่กล้าที่จะแต่งงานกับคนใน ตระกูลฉิน แต่ลูกชายคนที่สามของตระกูลฉินก็ไม่ใช่ว่าจะ แต่งกับใครพราเพรื่อเช่นกัน

คําสั่งที่ จิ่นเฉิงสั่งซูสือเยว่ก็คือ ต้องทำให้คุณชายคนที่สาม ของตระกูลฉินพึงพอใจและทําให้เขาตกลงแต่งงานกับเธอให้ ได้ แล้วก็ทำให้เขาอัดฉีดเงินเข้าซูซื่อกรุ๊ปให้ได้

ในคืนนั้น

ซูสือเยวนั่งอยู่ในห้องนอนเงียบๆ เพื่อรอให้ชายคนนั้นมา

ต้อนรับเธอ

เสียง “ฟีบ——!” ดังขึ้น แล้วทั้งคฤหาสน์ก็อยู่ในความมืดมิด

ไฟดับสินะ

แล้วร่างของซูสือเยว่ก็สั่นเทาไปโดยสัญชาตญาณ

เธอกลัวความมืด!

ตั้งแต่คืนเมื่อห้าปีนั้นมา เธอก็ไม่กล้าที่จะเผชิญกับความมืด คนเดียวอีก แม้แต่เวลานอน เธอก็ต้องเปิดไฟหัวเตียงเพื่อที่จะ ได้นอนอย่างสบายใจ
ในวันนี้ เธอมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เธอจึงรู้สึก หวาดระแวงตามสัญชาตญาณ แล้วไฟก็ยังมาดับอีก!

หญิงสาวกอดเข่าของตัวเองโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับร่างที่สั้น เทาภายใต้ความมืดมิดนี้

เป็นเพราะเธอกลัวมากเกินไป เธอเลยไม่ได้สังเกตเห็น ว่า ประตูห้องถูกเปิดออกแล้ว

ภายใต้ความมืดนี้ มีบางสิ่งที่มาสัมผัสกับข้อเท้าของเธอ และ กุมมือเธอ

สิ่งๆนั้นที่ทั้งเหนียวและเย็นเยือกสัมผัสมือของซูสือเยว่

เธอกรีดร้อง ก่อนจะถอยหลังไป และในที่สุดแผ่นหลังของ เธอก็ไปกระทบกับผนังห้องที่แข็งและเย็นทันที เธอเจ็บจน แทบจะเป็นลมแล้ว

แต่ภายใต้ความมืดนั้น สิ่งมีชีวิตนิรนามนั้นก็คืบคลานเข้ามา

หาเธอ

และเสียงที่หยาบราวกับเสียงประตูไม้ก็ดังขึ้นในทันใด “เมีย จ๋า เมียของฉัน……….ฉันคือผัวของเธอไง…………

แล้วเสียง “ฟีบ” ก็ดังขึ้น ก่อนที่ไฟในห้องจะสว่าง
และในที่สุดซูสือเยว่ก็รู้ว่า “ก้อนกลม” ที่อยู่ตรงหน้านั้นคือตัว อะไร

เป็นผู้ชายที่หน้าตาน่ากลัวคนหนึ่ง!

หรือบางที ก็อาจจะเรียกว่าคนไม่ได้……….

รูปร่างของเขาง่อนแง่น ราวกับคนแคระ แม้กระทั่งมือและเท้า ของเขาก็เป็นสีดำเปีไปหมด จนไม่สามารถที่จะแยกออกได้

ผู้ชายคนนี้มีชุดคลุมอาบน้ำคลุมอยู่ เขาพิงอยู่บนเตียง ก่อน จะจ้องเธอด้วยสายตาสีเข้มของเขา

และใบหน้านี้ของเขา…….

นี่มันเรียกว่า “หน้าคน” ไม่ได้แล้วด้วย า บนใบหน้าของเขา นั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่ต่างกันออกไป จนขี้เหร่ไปทุกมุม ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ร้ายที่ขึ้นมาจากขุมนรกยังไงอย่างนั้น!

“อ๊า——!”

ถึงแม้ว่าซูสือเยว่นั้นจะเตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อเห็นผู้ชายที่ดูหน้าตาครึ่งผีครึ่งคนคนนี้เรียกเธอ เธอก็ กรีดร้องออกมาโดยสัญชาตญาณ!
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะฮิฮิออกมา “เมีย เธอกรีดร้องทําไม เธอ กลัวฉันใช่มั้ย?”

“แต่เธอตอบตกลงที่จะแต่งงานกับฉันแล้วนะ——“

สือเยว่แทบจะเป็นบ้าแล้วนะ!

เธอรีบคลานลงจากเตียงด้วยความตื่นตระหนก แล้ววิ่งออก ไปข้างนอกด้วยร่างที่สั่นเทาของเธอ โดยที่ไม่กล้าหันหน้า กลับมามองผู้ชายคนนี้อีก! หญิงสาวตื่นตระหนกโดยที่ไม่มอง ทาง จนไม่ทนสังเกตด้วยซ้ำว่าจนเท้าของเธอนั้นไปกระแทก กับกระถางต้นไม้จนเลือดออก!

เมื่อเห็นร่างของซูสือเยวนั้นเลือนหายออกไป “ผู้ชาย” ที่อยู่ บนเตียงก็ออกมาจากชุดคลุมอาบน้ำ แล้วก็ถอดถุงมือและ หน้ากากของเขา จนเผยให้เห็นใบหน้ากลมที่สะอาดสะอ้านน่า รักน่าชัง “อยากจะเป็นหม่ามีผมหรอ ไม่มีทางหรอกนะ!”

เขาลงมาจากเตียง ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องหนังสืออย่างมี ความสุข “พี่ครับ ผมทำให้คนตกใจจนวิ่งเตลิดไปอีกคนนึงแล้ว ครับ!”

ในห้องหนังสือ มีเด็กชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันนั่งและก้ม หน้าอ่านหนังสือภายใต้โคมไฟอยู่ “อือ”
ความสนุกของเด็กน้อยหายไปทันที ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัว เล็ก “พี่สนใจเรื่องของแด๊ดดี้หน่อยสิครับ ก็เห็นๆกันอยู่ว่าแด๊ด ต่อต้านที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่น แต่คุณปู่ก็ยังจะหา ว่าที่ภรรยาคนแล้วคนเล่าให้แด๊ดดี้ตลอด นี่คนที่สามแล้วนะ ครับ”

เด็กชายขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับใบหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่สมกับวัยของเขา “อือ”

เด็กน้อยคนน้อง : “

พี่ชายของเขานั้นเป็นคนฉลาดไอคิวสูง แต่มักจะทำตัวเย็น ชากับคนอื่นๆตลอด พูดง่ายๆก็คือ พูดจาน้อยคำ เหมือนแด๊ดดี้ ของเขาไม่มีผิด!

เขาเบะปาก ก่อนจะวิ่งขึ้นไปที่ห้องหนังสือชั้นสาม ร่างของ เด็กน้อยเปิดประตู “คุณฉินโม่หานครับ ว่าที่ภรรยาคนที่สาม ของคุณเนี่ย หน้าตาก็งั้นๆนะครับ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ