ลิขิตฟ้าประธานลูกสาม

บทที่ 3 ต่อไป ผมจะปกป้องคุณเอง



บทที่ 3 ต่อไป ผมจะปกป้องคุณเอง

บทที่ 3 ต่อไป ผมจะปกป้องคุณเอง

ซูสือเยว่ยุ่งอยู่ในห้องครัวอยู่ยี่สิบกว่านาทีแล้ว เธอทำข้าวห่อ ไข่สไตล์ญี่ปุ่น แล้วก็มันฝรั่งทอด จากนั้นก็นำไปเสิร์ฟบนโต๊ะ อาหาร “ซิงหยุน มากินข้าวสิ!”

ซิงหยุนมองนาฬิกา และเห็นว่าเหลืออีกสิบห้านาทีกว่าจะสอง

ทุ่ม

เด็กน้อยกระโดดลงมาจากโซฟา ก่อนที่ขาสั้นๆที่สง่านั้นจะ เดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้โต๊ะอาหาร

ชั้นบน ซิงเฉินน้อยยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำลายที่ไหล เขาพูดออก มาด้วยนํ้าเสียงเย็นชาว่า : “ถึงแม้กลิ่นจะหอม แต่ก็หน้าตาก็ไม่ เห็นจะน่าทานเลย”

“อร่อยจังครับ”

ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงน้องชายจากชั้นสอง ซิงเฉินตักขึ้น มากินคําหนึ่ง ก่อนจะวิจารณ์เบาๆ

ซูสือเยว่ยิ้มอ่อนๆ “ถ้าอร่อยต่อไปฉันจะทำให้กินอีกนะ”

เมื่อพูดจบ ก็เหมือนกับว่าเธอคิดอะไรบางอย่างขั้นได้ “จริง ด้วย ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ แล้วผู้ปกครองของหนูล่ะ?”
“หนูเป็นลูกของเพื่อนท่านชายฉินเขาหรอ?”

ก่อนจะแต่งงาน เธอก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะคว่าท่าน

ชายฉินเขามีลูก

เด็กน้อยขมวดคิ้ว ก่อนจะพยักหน้า “ก็ใช่ครับ”

“อย่างนี้นี่เอง”

ซูสือเยว่พยักหน้าเบาๆ “ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าท่านชายฉินที่ หน้าตาขี้เหร่ แต่จะมีจิตใจดี”

อย่างน้อย ลูกของเพื่อนตัวเองอยู่บ้านเขาอย่างอิสระเหมือน กันอยู่บ้านตัวเองแบบนี้ได้ นี่เป็นตัวพิสูจน์ ว่าท่านชายฉินคนที่ สามนั้นไม่ได้โหดเหมือนที่คนอื่นเขาพูดถึงกันสินะ

“เขาไม่ได้ขี้เหร่นะครับ”

ชิงหยุนกินข้าวเข้าไปอีกคำหนึ่ง ก่อนจะเตือนอีกทีเบาๆ

ชั้นบนของคฤหาสน์ มีชายคนหนึ่งหนึ่งยืนเงียบๆและมองมา หาเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆที่น้ำลายไหลไม่หยุด สายตาของเขา ราวกับว่ากำลังพูดว่า ดูพี่ชายสิ ดูพี่ชายของลูกสิ

คนหนึ่งพยายามอย่างมากเพื่อที่จะรักษารูปลักษณ์ของเขา อีกคนหนึ่งนั้นต้องการให้คนอื่นรู้ว่าเขานั้นรูปลักษณ์เหมือนสัตว์ประหลาด

ซิงเฉินเบะปาก ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า : “ผมก็แค่ไม่ อยากให้คนแปลกหน้ามาเป็นหม่ามี้ผมนี่ครับ”

ฉินโม่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากไป

ชั้นล่างของคฤหาสน์ เมื่อชิงหยุนกินข้าวเสร็จ ก็สองทุ่มสิบ นาทีแล้วเขากินช้าแล้วก็ระมัดระวังมากๆ

สุดท้าย เขาก็เก็บเค้กมันฝรั่งสองชิ้นสุดท้ายใส่จานเล็กๆ ก่อน จะหันหลังแล้วเดินขึ้นบันไดไป “คุณก็รีบๆเข้านอนนะครับ”

“วางใจได้เลย”

“ต่อไป ผมจะปกป้องคุณเองครับ”

ถึงแม้ว่าเขายังเด็ก แต่ก็ยากที่จะปกปิดความสูงส่งและความ หยิ่งผยองของเขา เมื่อมองย้อนกลับไป คำพูดแบบนี้ไม่สมกับ เป็นเด็กห้าขวบเลยด้วยซ้ำ

ซูสือเยว่อึ้งไปอยู่สักพัก

เมื่อผ่านไปสักพัก เธอก็มองตามแผ่นหลังเล็กๆของเด็กน้อย จนถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
แม้ว่ามันจะยากที่เธอจะต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมนี้ แต่ก็ คงไม่ต้องให้เด็กน้อยมาคอยปกป้องเธอหรอกมั้ง?

เธอหันหลัง ซูสือเยว่เริ่มทำความสะอาดห้องครัว เมื่อเธอเก็บ กวาดที่สิ่งอย่างเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เธอก็ไม่กล้าจะกลับไป ที่ห้องที่น่ากลัวนั้นอีก

สุดท้าย เธอก็ถอนกายใจออกมา ก่อนจะนอนลงบนโซฟาแล้ว ก็ใช้เสื้อคลุมของเธอมาคลุมตัว

ห้องนอนของเด็กชั้นบน

ซิงหยุนถือจานเค้กมันฝรั่งอันหอมกรุ่นมาวางไว้หัวเตียงของ

ซิงเฉิน

เด็กน้อยหน้าเข้าหาผนังห้อง แล้วก็หันหลังให้ซิงหยุนอย่าง

เย็นชา “ผมไม่กิน

“อือ”

แล้วซิงหยุนก็เอาจานนั้นย้ายมาที่หัวเตียงของตัวเอง

ซิงเฉิน :’

เขาเบะปาก ก่อนจะเริ่มบ่นพึมพำ : “เราตกลงกัน ร่วมมือกัน แล้ว ว่าจะไม่ให้ผู้หญิงแปลกหน้ามาเป็นหม่ามี้เราไม่ใช่หรอครับ?”

“แล้วทําไม กลับคำอ่ะ คนทรยศ!”

ซึ่งหยุนกลับมานั่งที่เตียงของตัวเอง ก่อนจะมองแผ่นหลังของ น้องชาย เธอทําอาหารอร่อยมากนะ”

“ทำอาหารอร่อยแต่เธอไม่ใช่หม่ามี้ของเรานี่ครับ!”

ซิงเฉินเอานิ้วน้อยๆของเขาจิ้มที่ผนังด้วยความเศร้าใจ “ผมจะ เอาหม่ามี้จริงๆของเรา เอาหม่ามี้แท้ๆ!”

ซิงหยุนที่ยืนอยู่หน้าเตียงถอนหายใจออกมา ก่อนจะมอง เพดานแล้วก็พูดเงียบๆ “แต่หม่ามี้แท้ๆของเราไม่อยู่ไปแล้วนะ

เขาโตกว่าคนเป็นน้อง ดังนั้นเขาเข้าใจดี ว่าหม่ามี้แท้ๆของ

พวกเขานั้นไม่มีทางกลับมาแล้ว

และแด๊ดดี้ของเขาก็ไม่ควรจะอยู่คนเดียวตลอดไปด้วย

ผู้หญิงที่อยู่ชั้นล่างก็ไม่ได้แย่อะไร

มือของซิงเฉินกำแน่น “หม่ามี่ยังมีชีวิตอยู่แน่ครับ แค่รอให้เรา ตามหาตัวเท่านั้นแหละ!”
ชิงหยุนหลับตาลง และไม่ได้สนใจคนเป็นน้องต่อ

เมื่อผ่านไปสักพักห้องนอนของเด็กๆก็เงียบลง แล้วกลิ่นหอม ของชีสก็ลอยมาในทันใด

ท้ายที่สุด คนน้องก็ลุกขึ้นมาจากเตียง ก่อนจะเขย่งเท้าไปที่ หัวเตียงของคนเป็นพี่อย่างระมัดระวัง แล้วก็หยิบมันฝรั่งทอด

ขึ้นมากิน

ในขณะที่มันเข้าปากไป ดวงตาของเด็กน้อยก็เป็นประกาย ขึ้นมาในทันใด

นี่มันจะอร่อยเกินไปแล้วนะ!

อร่อยกว่าอาหารที่คนใช้ทำเป็นหมื่นเท่าเลย!

“เอาจานลงไปเก็บด้วยนะ”

รอให้ซิงเฉินกินชิ้นที่สองเสร็จ เสียงที่อ่อนโยนของคนเป็นพี่ ที่นอนอยู่บนเตียงก็ดังขึ้น “แล้วก็ ต่อไปอย่าไปแกล้งเธออีก ล่ะ”

“พี่จะปกป้องเธอ”

ซิงเฉิน : “ ”
เขาเบะปาก ” ครับ พี่ดูผิดปกตินะครับ”

ก่อนหน้านี้ชิงหยุนไม่เคยแยแสการกระทำที่แผลงๆของเขา เลย แล้วทำไมวันนี้พี่ชายของเขากลับเริ่มปกป้องผู้หญิงคนนี้ กันนะ?

หรือเพราะว่าผู้หญิงคนนี้ทำอาหารอร่อยงั้นหรอ?

เขาคิดได้เช่นนั้น ก็กัดมันฝรั่งทอดอย่างดุๆไปครั้งหนึ่ง

อร่อยมากจริงๆ

เมื่อกินมันฝรั่งทอดเสร็จ ซิงเฉินก็เดินลงไปเพื่อเอาจานไปเก็บ

เพียงเขาเดินลงมา เขาก็เห็นผู้หญิงที่นอนอยู่บนโซฟาตั้งแต่ หัวบันได

เธอนอนขดตัวยังไม่พอ ร่างยังสั่นเทาอีกด้วย

เขาเดินไปมองใบหน้าที่สะอาดและซีดนั้น หน้าตาก็สวยใช้ได้เลยนะเนี่ย ทำอาหารอร่อยด้วย

ถ้าเธอเป็นหม่ามี้จริงๆของพวกเขาก็ดีน่ะ…..……
สือเยวที่อยู่ในห้วงนิทรา รู้สึกได้ว่ามีคนจ้องมองเธออยู่

เธอตื่นขึ้นมา ก่อนจะพบกับเด็กน้อยคนนี้ตรงหน้าของเธอ

ในตอนนี้ เขากำลังถือจานแล้วก็จ้องมองมาที่เธออย่างจัง

เธอขยี้ตา “หนู……ไม่อิ่มหรอ?”

ทำไมถึงถือจานแล้วก็มาจ้องเธออยู่ตรงนี้ล่ะ?

ซิงเฉินเม้มปาก เขารู้ว่าเธอนั้นจําเขากับพี่ชายของเขาสลับ กันแล้วล่ะ แต่เขาก็ยังพยักหน้า “ครับ”

เขาไม่อิ่มจริงๆนี่นา

เธอมองใบหน้าที่หล่อและน่ารักตรงหน้า ซูสือเยว่แทบจะ ละลายแล้วนะ เธอนกมือขึ้นมาบีบใบหน้าของเธอ “เดี๋ยวน้า ทําให้กินเพิ่มนะ”

เมื่อพูดจบ เธอก็เข้าห้องครัวไปทันที ก่อนจะเท้าสะเอว เขาไม่ ได้บอกว่าเขาไม่กินอะไรหลังสองทุ่มหรอ?

อีกอย่าง…หารที่เธอเมื่อกี้ ก็ไม่ใช่น้อยๆนี่นา……..

ซูสือเยว่ทําอาหารง่ายๆที่เหมาะกับเด็กให้เขาอีกครั้ง
เด็กน้อยคนนี้กินจนหมดเกลี้ยง

สอเยส กับตะลึง

กระเพาะของเด็กคนใหญ่เกินไปรึเปล่านะ?

โดยเฉพาะตอนที่เด็กน้อยส่งจานมาให้เธอ พร้อมกับขอให้ เธอตัดข้าวเพิ่มให้

เมื่อเขากินเสร็จ ซูสือเยวก็อดไม่ได้ที่จะพูด : “ชิงเฉินน้อย หนู ว่ากระเพาะของหนู มันใหญ่เกินมั้ย?”

ชิงเฉินสะดุ้ง ก่อนจะยิ้มขึ้นอย่างได้ใจ “ใช่ครับ ผมกินเก่ จมากๆ!”

เขายกนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว “ต่อไปถ้าจะทำอาหารอร่อยๆให้ผม

ต้องทำสองจานนะครับ

เมื่อพูดจบ เขาก็ครุ่นคิด กลัวว่าพี่ชายของเขาจะไม่เหลืออา หารอร่อยๆไว้ให้ตัวเอง ก็เลยเน้นย้ำ “ทำอาหารเมนูเดียวกัน สองจานเลยนะครับ!”

ซูสือเยว่ตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็พยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะ เก็บจานบนโต๊ะด้วยรอยยิ้ม “ฉันเข้าใจว่าเด็กตัวเท่าหนูน่ะ ร่างกายกำลังเจริญเติบโต”
เธอยื่นคุกกี้ที่เธอทำเอง และเตรียมมาเพื่อจะมอบให้ฉินโม่

หานเป็นของขวัญยื่นให้กับซิงเฉิน “ฉันให้

เมื่อพูดจบ เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบหัวเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “ต้องโตแล้วก็สูงๆร่างใหญ่ๆเลยนะ”

ใบหน้าของซิงเฉินขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะรีบหยิบเอาคุกกี้ แล้วก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน

ในตอนนั้น ซูสือเยว่ก็ถอนหายใจออกมา แล้วก็เดินกลับไปที่ โซฟาแล้วก็นอนต่อ

ชั้นบน

เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูและราคาแพงดังขึ้นในทันใด มือเรียวของชายคนหนึ่งยื่นออกมาหยิบโทรศัพท์เพื่อเปิดดู

ลูกซิงเฉิน : ผ่านครับ

เป็นเสียงของซิงเฉิน เด็กน้อยกินคุกกี้ไปด้วยพูดไปด้วย : “คนนี้ผ่านครับ จริงๆผมไม่ได้ชอบเธอหรอกนะครับ”

“แต่ว่าเธอทำอาหารอร่อยมากๆเลยครับ เพราะกระเพาะของ ผม ผมว่าผมจะลองประนีประนอมสักครั้ง”
ชายคนวางโทรศัพท้อง ก่อนจะยกมือมาเคาะโต๊ะหนังสือ

“จัดการด้วย พรุ่งนี้จะได้จดทะเบียนสมรสเลย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ