บทที่12 ฉันไม่ได้สนิทกับประธานห้อ
คลับกวนดิ่ง
ด้วยความช่วยเหลือจากบริกร เธอสามารถหาตัว
หล่นชิงเจอที่มุมห้องโถงใหญ่
เมื่อเธอเดินไป หล่นชิงกำลังรินน้ำมะนาวลงใน แชมเปญตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย เธอเงยหน้าขึ้นบ่อยๆ เพื่อสำรวจมุมทางเดินใกล้ๆ
“มองอะไรน่ะ”
ซ่งเมียวลากเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามหล่อน เธอนั่งลง เธอถึงได้รู้สึกว่าอาการเวียนหัวเริ่มชัดเจนขึ้น
หล่นชิงเห็นเธอเดินมา ดวงตาก็ลุกเป็นประกาย หล่อนรีบกวักมือให้ซ่งเมียว และถามด้วยน้ำเสียงอันตื่น เต้น “เธอรู้จักลูกคนที่สามของตระกูลห้อมั้ย
ซ่งเมียวรู้สึกว่ามันชัดเจนมากว่าความหมายใน ประโยคนี้ของหล่อนคืออะไร แต่วันนี้เธอรู้สึกไม่ค่อย สบาย เลยไม่ค่อยมีอารมณ์ เลยเตือนหล่อนเฉยๆ “หล่น ชิง แฟนคนก่อนของเธอเพิ่งจะเลิกกันเมื่ออาทิตย์ก่อน ไม่ใช่หรือไง”
“ก็เลิกกันแล้วมั้ยล่ะ!” หล่นชิงตบต้นขาเสียงดัง พร้อมพูดอย่างไม่ค่อยชอบใจ หล่อนกลอกตา และอดไม่ ได้ที่จะเถียง “ฉันจะบอกเธอให้นะ ครั้งนี้ฉันจริงจัง! วันนั้น ฉันเห็นเขาที่ประตูศาลากลางเมือง… เสื้อเชิ้ตขาวสูทสีดำ เขาใส่แล้ว ช่างสง่ามีราศี…สวรรค์ประทานมาแท้ๆ! พ่อ เทพบุตรตัวจริง! ไม่ว่าจะขยับไปมุมไหน ก็ทำให้ฉันหลง ซะ…เมียวเมียว ฉันจะต้องจีบเขาให้ได้ และต้องแต่งงาน กับเขา!”
“เธอเคยบอกว่าผู้ชายที่จะแต่งงานด้วย จะต้องจับเข้าบ้านเธอ” ซ่งเมียวจิบน้ำมะนาว ไม่สนใจคำพูดของ หล่นชิง
หล่นชิงโตมากับซิงเมียว เป็นราชินีเรื่องอื้อฉาวใน วงการบันเทิง เปลี่ยนผู้ชายเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ประสบการณ์ทางอารมณ์นั้นช่างตรงข้ามกับซ่งเมียว เพียงแต่ว่าทุกครั้งที่หล่อนจีบผู้ชาย ก็คิดเป็นมั่นเป็น เหมาะว่าจะต้องแต่งงานกับเขาให้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่า จนถึงตอนนี้ หล่อนก็ยังโสด…
“เมียวเมียวเธอหาเรื่องฉันทุกที ถึงว่าความรักของ ฉันทุกครั้งทำไมถึงได้ไม่ราบรื่น” สีหน้าหล่นชิงอยู่ๆก็ หมองหม่นลง หลังจากการแสดงจบแล้ว แม้แต่รอบตาก็ แดง า นํ้าตาแทบจะร่วงแผะ ซ่งเมียวปวดหัวจนต้องกุม ขมับ “ก็ได้ก็ได้ ฉันจะเชียร์ให้เธอไปจีบ สู้ๆนะ ฉันจะเป็น กำลังใจให้!”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอดีกับฉันที่สุด ถ้าอย่างนั้นเธอ ช่วยไปขอเบอร์โทรของห้อเทียนหยูนให้ฉันหน่อยสิ” หล่นชิงยิ้มหน้าบาน ขับขานใบหน้าอันงดงามของหล่อน นั่นทำให้หล่อนอยู่ยงคงกระพันในวงการบันเทิงและใน หมู่มวลผู้ชายทั้งหลาย!
คิ้วซ่งเมียวขมวดเป็นปม “ห้อเทียนหยูน ลูกคนที่ สามของตระกูลห้อเรอะ ฉันไม่รู้จักเขา”
“เหอเหอ เธอไม่รู้จักเขา แต่ว่าเธอรู้จักลูกคนที่สี่ ของตระกูลห้อนี่นา! คุณชายสี่ห้อ เมื่อวานนี้พี่ชายฉัน บังเอิญเห็นพวกเธอไปทานข้าวคุยกันที่หาวถึง ช่วงนี้มี งานอะไรต้องติดต่อกันเรอะ เมียวเมียว เธอก็ช่วยฉันถาม เขาให้หน่อยนะ เบอร์โทรพี่สามของเขาน่ะ!”
ถามประธานห้ออย่างนั้นเรอะ
หัวสมองซ่งเมียวอยู่ๆก็นึกถึงใบหน้าอันเย็นชาของ เขาขึ้นมา สายตาอันไม่พอใจ แค่คิดถึงมัน ก็เป็นไปไม่ได้
ถามประธานห้ออย่างนั้นเรอะ
หัวสมองซ่งเมียวอยู่ๆก็นึกถึงใบหน้าอันเย็นชา ของเขาขึ้นมา สายตาอันไม่พอใจ แค่คิดถึงมัน ก็เป็น ไปไม่ได้แล้ว เธอส่ายหัว “ฉันไม่สนิทกับประธานห้อ แค่เคยคุยกันหนเดียว” แถมผู้ชายคนนั้นยังไม่ค่อย ประทับใจสักเท่าไหร่อีกด้วย
หล่นชิงหน้าถอดสี อยู่ก็ร้องไห้ออกมา “เมียว เมียวเธอเพิ่งจะบอกเองว่าจะเป็นกำลังใจให้ฉัน แค่ฉัน ขอให้ช่วยนิดหน่อยเท่านั้น เธอก็ยังทำโน่นนี่อีก…
“เอาล่ะเอาล่ะเอาล่ะ ฉันจะลองพยายามดูโอเค มั้ย” ซ่งเมียวทนสายตาน่าสงสารของเธอไม่ไหว ยอม แพ้กับแสดงของหล่อนอีกครั้ง “แต่ว่าฉันไม่กล้า รับประกันนะ ว่าจะช่วยเอามาให้เธอได้รึเปล่า”
“ไม่มีปัญหา ขอแค่เธอไปถามก็พอ!” สีหน้าของ หล่นชิงกลับกลายเป็นร่าเริงในพริบตา อยู่ๆ ที่หางตา หล่อนก็เหลือบไปเห็นบางอย่าง หล่อนผละลุกจาก เก้าอี้ด้วยความตื่นเต้น หล่อนรีบพูดกับซ่งเมียวอย่าง ด่วนจี๋ “ที่จริงวันนี้ฉันยังอยากคุยเรื่องเธอกับหมู่ซ่าว เหยน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว วันหลังค่อยนัดเธอออก มาใหม่ก็แล้วกันนะ เธอวางใจ ฉันรู้เรื่องเคอนาแล้ว และช่วยเธอจัดการไปเรียบร้อย นังนั่นชีวิตนี้ อย่าได้ หวังมีหน้าอยู่ในวงการบันเทิงอีกเลย!”
ตอนที่หล่อนพูดประโยคนี้ สายตาก็จับจ้องอยู่ ที่ที่หนึ่งตลอด ไม่ได้ยินคำตอบรับจากซ่งเมียว เมื่อ เธอได้ยินคำพูดของหล่อนก็หันไปมองในทันใด มีผู้ หญิงที่นิ่งอึ้งไป และพูดอย่างเข้มงวด “หซู่ซ่าวเหยนนี่ มีอะไรดีนะ! ฉันเปลี่ยนแฟนมาแล้วยี่สิบคน เธอก็ยังไม่ หย่ากับเขาซะที! เมียวเมียว เธอเอาตัวเองไปจมปลักอยู่กับการแต่งงานครั้งนี้อีกนานแค่ไหน”
หล่นชิงพูดจบ หล่อนก็เหยียบเท้าเธอ และเดิน พุ่งไปยังกลุ่มคนที่เพิ่งออกมาจากห้องส่วนตัวอย่าง รวดเร็ว
ซ่งเมียวมองตามหลังหล่อนผู้ซึ่งกล้าหาญและ กระตือรือร้นอยู่เสมอ อยู่เธอก็รู้สึกเวียนหัว จ้องมอง น้ำมะนาวตรงหน้าอย่างเหม่อลอย เธอคิดไปว่า ถ้า หากว่าตัวเองเป็นได้อย่างหล่นชิง นึกจะบอกเลิกก็ไม่ สนไม่แคร์ อยากจะพุ่งไปเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้ ก็ดี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ