บ่วงรัก เธอต้องหนีไม่พ้น

บทที่14 ก็แค่สนุกๆ



บทที่14 ก็แค่สนุกๆ

เขานิ่งอึ้งไป ขณะที่ห้อเทียนชินลุกขึ้นยืน มือ หนึ่งก็คว้าสูทที่แขวนด้านข้าง และเดินออกจากห้อง ส่วนตัวไป

พอซ่งเมียวออกมาจากกวนดิ่ง เธอรู้สึกมึนหัว จึงได้แต่เดินกลับไปที่ห้องโถงใหญ่อีกครั้ง เพื่อที่จะนั่ง พักที่นั่น

เธอแตะหน้าผากตัวเอง อย่างกับน้ำเดือด นั่ง พักอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เดินออกมา ขณะนั้นมีคนกลุ่มหนึ่ง กําลังเดินเข้าไปในกวนดิ่ง

คนที่เดินนำหน้าสวมสูทสีเทาควันบุหรี่ คมเข้ม และดูดุนิ่ง รูปหน้างดงามไม่แสดงออกทางอารมณ์ ใดๆ เป็นใบหน้าที่ซ่งเมียวคุ้นเคยกว่าใบหน้าไหนๆ

คาดไม่ถึง ตอนนี้หชู่ซ่าวเหยนกับกลุ่มเพื่อน

ของเขาก็พากันมาที่กวนดิ่ง

กลุ่มเขาล้วนเป็นลูกค้าประจำของกวนดิ่ง ทุก คนหิ้วสาวฮอตมากันคนละหนึ่งนาง หญิงสาวในอ้อม แขนของหชู่ซ่าวเหยนดูขี้อายกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อย หล่อนใส่ชุดคลุมสีขาว แต่งหน้าไม่จัด ซุกอยู่ในอ้อม แขนเขา ให้ความรู้สึกเหมือนนกน้อยที่ต้องพึ่งพาคน เลี้ยงดู

ใจซ่งเมียวต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่ไม่ทัน ได้ตั้งตัว เธอลุกขึ้นยืน “ปึง” ยังไม่ทันได้หันหนีไป ก็ ถูกหนึ่งในคนกลุ่มนั้นเห็นเข้าก่อน
ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับ ซู่ซ่าวเหยน สีหน้าหมู่ ข่าวเหยนบูดบึ้งขึ้นมา และปล่อยผู้หญิงในอ้อมแขน ออก ก่อนจะเดินเข้าหาซ่งเมียวด้วยสีหน้าไม่พอใจ

ซ่งเมียวคว้าหยิบกระเป๋าบนโซฟาขึ้นมา คิดที่ จะออกไปอีกฝั่งหนึ่งของกวนดิ่ง แต่ทันใดนั้นแขนเธอ ก็ถูกดึงไว้จากทางด้านหลัง

“คุณมาที่นี่ทำไม! ”

หซู่ซ่าวเหยนเดินถึงด้านหลังเธอ

เสียงเขาเย็นชืด ซ่งเมียวรู้สึกว่าข้อมือตึงจนเจ็บ

เธอหันไปโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เมื่อหันไป เห็นผู้หญิงเสื้อขาวซึ่งอยู่ไกลๆมองมาทางพวกเขา อย่างผิดหวัง เมื่อเห็นเช่นนั้น ดูเหมือนราวกับว่าเธอจะ เป็นมือที่สามที่ไปทำลายการแต่งงานของพวกเขา ซ่ง เมียวก็ยิ้มเยาะกับตัวเอง “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ล่ะ ฉันก็มาที่นี่ทำอย่างนั้นแหละ”

หชู่ซ่าวเหยนหน้าถอดสี แววตามืดหม่นลง “ที่ คุณบอกว่าตอนเย็นมีธุระ ก็คือการมาเที่ยวที่กวนดิ่ง อะนะ”

“เที่ยวเรอะ”

ซ่งเมียวยิ้ม ด้วยสายตาอันอบอุ่น “ทำไม คุณ ยังมาดื่มและสำเริงสำราญที่นี่ได้เลย ฉันจะมาสนุกที่นี่ บ้างไม่ได้หรือไง”

“หชู่ซ่าวเหยน ที่คุณยังเปลี่ยนผู้หญิงได้ไม่ซ้ำ หน้าทุกวัน แล้วฉันยังจะต้องซื่อสัตย์กับการแต่งงาน ของเราด้วยอย่างนั้นเรอะ ตอนที่คุณอยู่กับผู้หญิงคน อื่น เคยคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม”
ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดวันนี้ของหล่นชิงไปแตะเส้น ประสาทของเธอเข้ารึเปล่า ซ่งเมียวไม่สามารถ ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป เธอนึกถึงว่าตัว เองรอคอยเขาเงียบๆอยู่สองปี เขาก็ยังคงใช้สายตา รังเกียจจ้องมองเธออยู่ เธอชักทนไม่ไหวแล้ว

หมู่ข่าวเหยนคิดว่าเธอหึงเพราะว่าผู้หญิงเสื้อ ขาวที่เขาโอบ สีหน้าเขาก็เลยอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว แต่ เสียงก็ยังแข็งอยู่ ผู้หญิงคนนั้น…ก็แค่สนุกๆเท่านั้น ผม ไม่ได้รู้จักหล่อน”

“เรื่องของคุณ…

หัวสมองเธอทั้งปวดทั้งวิงเวียน ซ่งเมียวอยู่ๆก็ รู้สึกสิ้นหวัง

เธอสลัดมือหมู่ซ่าวเหยนที่คว้าจับเธอเอาไว้

ออก

เธอเวียนหัวจนเกือบจะล้ม ถูกหชู่ซ่าวเหยนคว้า เอาไว้ เมื่อเห็นหน้าเธอแดงก่ำ เขาจึงขมวดคิ้ว “คุณ เป็นไข้เรอะ เดี๋ยวผมไปส่งกลับบ้าน

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ!

สีหน้าหมู่ซ่าวเหยนบูดบึ้ง “ซ่งเมียว อย่าทำตัวมี ปัญหาน่า! ”

ซ่งเมียวสลัดมือหมู่ซ่าวเหยนออกอีกครั้ง เธอ ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ “ฉันก็เป็นผู้หญิงเอาแต่ใจอย่างนี้ แหละ! คุณรีบไปปลอบใจผู้หญิงของคุณซะดีกว่า หล่อนน่าจะรอจนน้อยใจแล้วล่ะ”

ไม่รู้ว่าเพราะเป็นเพราะว่าสายตาสาปส่งหชู่ซ่า วเหยนของซ่งเมียวรึเปล่า ทำให้ลมหายใจเขาฮึดฮัดขึ้นมา และยังคิดที่จะไปคว้าแขนเธอกลับมาอีก แต่ เขากลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นมาพอดี

งเมียวไม่มองเขาอีกต่อไป เธอหยิบโทรศัพท์ ออกมา และรับเลยโดยไม่ดูอะไรทั้งนั้น

“ฮัลโหล ใครคะ”

เสียงของเธอปนเสียงสะอื้นเล็กๆ แต่เธอ พยายามทําเสียงปกปิดมันไว้ เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมา ในขณะที่สายตาหชู่ซ่าวเหยนสงบนิ่ง เธอก็เดินออก ไปด้านนอกกวนดิ่ง

“คุณหนูสัง ผมเองเฉินเหล่น เลขาของประธาน ห้อ เราเคยเจอกันแล้ว”

ที่ปลายสายนั้น เฉินเหล่นในการจับจ้องของ หัวหน้าตัวเองรู้สึกหวาดกลัวนิดหน่อย เขาแกล้งทำ เป็นอย่างกระวนกระวายและพูดกับซ่งเมียวว่า

“เลขาเฉิน มีเรื่องอะไรหรอคะ”

ซ่งเมียวสะกดเก็บอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว และถามเสียงเข้ม

คืนอากาศเย็นสบาย เธอกำลังเดินไปยังลาน จอดรถชั้นบนสุด ทันทีที่รับสายจากเลขาห้อเทียนชิน เธอยังคงคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการเทียนฉิง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ