บ่วงรัก เธอต้องหนีไม่พ้น

บทที่5 ผู้หญิงสองคนนั้น…มาทําอะไร



บทที่5 ผู้หญิงสองคนนั้น…มาทําอะไร

“ติ๊ด” หนึ่งเสียง ลิฟต์สั่นสะเทือนเล็กน้อย

ซ่งเมียวยังไม่ทันได้สติ ตัวบิดไปมา อยู่เธอก็ล้มลง ใส่ชายข้างๆไป

เธอตกใจ คว้าจับราวลิฟต์เอาไว้ไม่ทัน

คว้าปกคอเสื้อของชายด้านข้างจนหน้าผากเข้า ประชิด ใกล้กันมาก จนบ่งเมียวได้กลิ่นตัวของผู้ชายคน นั้น เย็นและสดชื่น ตามมาด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ

“พี่สัง!”

ฉินเซียวเซียวที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเห็นสถานกา รถของซ่งเมียว หล่อนตกใจ รีบดึงเธอขึ้นมา

เมื่อครู่ที่ล้มลงไป ซ่งเมียวสัมผัสได้ว่ามีมือหนึ่ง คว้าจับเอวเธอไว้อย่างคล่องแคล่ว ข้อต่อนั้นสัมผัสได้ว่า มือนั้นทรงพลังมาก

“พี่สัง พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ”

ฉินเซียวเซียวถามด้วยความเป็นห่วง

โชคดีที่ชายทางด้านหน้าคว้าเธอเอาไว้ได้ทัน เลย ยังไม่ถึงกับล้มลงไป ซ่งเมียวไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับชาย ใดยกเว้นหมู่ซ่าวเหยนมาก่อน เธอรีบยืนหยัดขึ้นอย่าง มั่นคง พร้อมส่ายหัวให้ฉินเซียวเซียว และมองไปที่ชาย ด้านหน้า เธอก็ไม่เห็นว่าสีหน้าของห้อเทียนชินจะมีการ แสดงออกใดๆแต่ว่า—

มือของเขา ยังอยู่บนเอวของเธอ

อุณหภูมิบนฝ่ามือ สัมผัสอันแผดเผา ทำให้ร่าง ของซ่งเมียวแข็งเกร็ง

“ประธานห้อ…”
ข่งเมียวเขินอายอยู่บ้าง

การชนกันในลิฟต์นั้นเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เห็นเธอ

จะต้องตกอกตกใจ แต่ว่ามือนั้น…

เดิมชายที่ไม่แม้แต่จะเหลียวมอง ดูเหมือนว่าจะ เพิ่งสังเกตเห็นมือตัวเอง เขาเหลือบมองหน้าซ่งเมียว ก่อน ที่จะเก็บมือกลับไป สีหน้ายังคงเพิกเฉย

คนในลิฟต์ไม่มีใครตกใจ ซ่งเมียวเองก็รู้สึกไม่ดีที่ จะพูดอะไรออกมา

พอออกจากลิฟต์ ฉินเซียวเซียวยังคงเหม่อลอย มองตามประตูลิฟต์ที่กำลังปิดไป เธอทุบหน้าอกก่อนจะ กล่าวว่า “แน่ล่ะ เทพเขามีไว้ชื่นชมไกลๆก็พอแล้ว ถ้าทุก วันต้องอยู่กับก้อนน้ำแข็งแบบนี้ คงต้องตายไปแล้วไม่รู้กี่ หน”

ซ่งเมียวอมยิ้ม เมื่อหัวสมองแวบไปนึกถึงชายเมื่อ สักครู่ ดวงตาก็กลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ก่อนที่จะส่าย หัว และเดินนำฉินเซียวเซียวไปยังแผนกโครงการของ ตระกูลห้อ

ลิฟต์ขึ้นไปต่อ พอถึงชั้นที่หมายชายกลุ่มหนึ่งก็

ก้าวย่างออกมา

เฉินเหล่นซึ่งกดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบน พอหันกลับมา เขาก็กระซิบ

ห้อเทียนชินมองไปยังเสื้อเชิ้ตสีขาวตรงหน้าของ ตน ที่หน้าอกมีรอยลิปสติกอยู่ เหมือนดอกกุหลาบที่กำลัง เบ่งบาน

“ประธานห้อ…”

เฉินเหล่นกระอักกระอ่วน ประธานห้อบริสุทธิ์ ผุดผ่อง โดยปกติแล้วผู้หญิงไม่น่าจะเข้าใกล้เขาได้ ภายในระยะหนึ่งเมตร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงเมื่อครู่ที่ล้มใส่เขา

ห้อเทียนซินเหลือบมองเขา “ไปตรวจสอบดู ผู้

หญิงสองคนเมื่อครู่นี้มาตระกูลห้อทำไม”

“แล้วเสื้อของคุณ…

ห้อเทียนซินลูบบริเวณรอยลิปสติก สีหน้าเอานิ่ง

เฉย

ไม่ได้สนใจตอบ และเดินออกจากลิฟต์ไป

“…” เฉินเหล่นมองดูด้วยสีหน้า “เสียดาย” ติดถึงว่า เมื่อครู่เขาให้ตัวเองเดินมารูดบัตรที่ลิฟต์… เขารู้สึกกลัวว่า ตัวเองจะรู้เรื่องอะไรบางอย่าง!

ผู้หญิงสองคนนั้น…มาทำอะไร

นี่เป็นครั้งแรกที่มานำเสนองานที่ตระกูลห้อ ดังนั้น ซ่งเมียวจึงไม่ได้คาดหวังว่าสามารถตัดคู่แข่งรายอื่นออก ไปได้ ผู้จัดการฝ่ายโครงการของตระกูลห้อออกมา ต้อนรับอยู่ครู่หนึ่ง ซ่งเมียวก็พาฉินเซียวเซียวกลับไปที่ ตระกูลหชู่

ตอนที่รถกำลังเข้าใกล้ลานจอดรถอยู่นั้น เธอก็ เห็นลัมโบกินี่สีดำอันคุ้นตาขับผ่านหน้าไป

ใกล้แค่เพียงฝ่ามือ ซ่งเมียวเห็นผู้หญิงเซ็กซี่มี เสน่ห์อยู่ในห้องโดยสารรถ กำลังจูบบนใบหน้าของชายที่ กำลังขับรถอยู่อย่างดูดดื่ม

คนในรถไม่ใช่เคอนา แต่กลับกลายเป็นฟางซิน แล้ว บางที เขาอาจจะเก็บพวกหล่อนไว้ทั้งสองคน เขาก็ แค่ ไม่แตะต้องตัวผู้ที่เป็นภรรยาของเขาก็เท่านั้น

เสียงเบรกกะทันหันดังขึ้น ฉินเซียวเซียวที่ด้าน ข้างตกอกตกใจ “พี่ส้ง พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย”

ตอนนี้สีหน้าซ่งเมียวไร้ความรู้สึกใด แต่กลัวขาวดจนน่าตกใจ

ที่จริงแล้วเธอก็เคยคิดที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ความพยายามไล่ตามหลายปีมานี้ ชินชากับผู้ชายที่ ตนเองชอบ เธอปล่อยมือไปไม่ได้ หยางนึงบอกเธอเสมอ ว่าข่าวเหยนจะต้องเข้าใจเธอในที่สุด เห็นถึงความดีของ เธอ ตอนนี้เธอเหมือนคนที่จมอยู่ในทะเล ในมีคว้าไว้ได้ แค่เพียงเศษไม้ท่อนนี้…

“ไม่เป็นไร เราขึ้นไปกันเถอะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ