บ่วงรัก เธอต้องหนีไม่พ้น

บทที่9 คุณยังสนใจฉันอยู่ไหม



บทที่9 คุณยังสนใจฉันอยู่ไหม

เขาหัวเราะเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะอันเย็นชา “หมู่ ข่าวเหยน ฉันคิดว่าคุณไม่สนใจเรื่องของฉัน หรือว่าฉัน ควรจะถาม คุณยังสนใจฉันคนนี้อยู่รึเปล่า”

หมู่ข่าวเหยนไม่ได้ตอบ เขาเม้มริมฝีปากแน่น

ซ่งเมียวอึดอัดใจ สีหน้าว่างเปล่า ไม่พูดอะไรทั้ง สิ้น ทางที่ดีได้แต่หันและก้าวขึ้นชั้นบนไป

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนั่งอยู่ในห้องน้ำเย็นๆสักพักหรือ ไม่ คืนนั้นซ่งเมียวรู้สึกมีไข้ต่ำๆ ช่วงหนึ่งแล้วที่หลับฝัน ถึง ตอนแรกพบหมู่ซ่าวเหยน จนถึงกระทั้งเธอแอบมองเขา และหญิงอื่นแอบพลอดรักกัน จนกระทั่งสุดท้ายพวกเขา อยู่ด้วยกัน แต่งงานกัน ฉากสุดท้ายคืออยู่ในงานแต่งงาน ของพวกเขา

หซู่ซ่าวเหยนตาเต็มไปด้วยสีเลือด สีหน้าดูเหนื่อย อ่อน ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และถาม อย่างเยือกเย็น “ไหนคุณพูดอีกครั้งซิ ว่าคุณเคยทำเรื่อง อะไรที่ผิดต่อผมรึเปล่า!”

เธอกำมือแน่น และส่ายหัวอย่างเย็นชา

สีหน้าหชู่ซ่าวเหยนอยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นดำทะมึน “ได้ ก็แล้วแต่คุณเลย”

การแสดงออกถึงความเกลียดชังซ้ำแล้วซ้ำเล่าใน ความฝัน จนในที่สุดมันก็ปลุกซ่งเมียวให้ตกใจตื่น

ซ่งเมียวลุกขึ้นนั่ง กอดผ้าห่มและหายใจลึกๆ เวลา ผ่านไป ตีสี่แล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถนอนได้หลับอีก

ตื่นขึ้นมาเช้าวันรุ่งขึ้น ใต้ตาเธอเป็นสีน้ำเงินคล้ำ ต้องใช้รองพื้นจำนวนมากเพื่อปกปิดมัน

ที่ชั้นล่าง หมู่ซ่าวเหยนกำลังนั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะ หยางฉิงกำลังดุว่าเขาอยู่ที่ข้างๆ

ไม่มีอะไรมากไปกว่าทุกวันให้เขารีบกลับมาบ้าน เร็วๆหน่อย ซ่งเมียวอยู่บ้านคนเดียวจะเหงาอะไรสักอย่าง ทํานองนี้

โดยปกติหมู่ชาวเหยนจะไม่ทนและขัดการพูดของ หยางฉิง แต่วันนี้มาแปลกที่ไม่เถียง ยิ่งไปกว่านั้นพอเห็น ซ่งเมียวที่บนบันได เขายังพูดออกมาอีกว่า “ทราบแล้ว”

หยางฉิงสุขใจมาก พอหันไปหล่อนก็เห็นซ่งเมียว ยืนอยู่ หล่อนจึงยิ้มแย้มเป็นการต้อนรับ “เมียวเมียว รีบลง มาทานข้าวเร็วเข้า

แน่นอนเธอคิดว่าลูกชายของตัวเองตาสว่างแล้ว

ซ่งเมียวหน้าซีดมาก เธอพูดกับหยางฉิงด้วยเสียง แผ่วเบา “แม่ เช้านี้หนูมีธุระ ไม่อยู่ทานข้าวเช้านะคะ” พอพูดจบ เธอก็ไม่รอให้หยางฉิงตอบ เดินตรงออก

ไปนอกคฤหาสน์

หยางฉิงรู้ตัวอีกที หล่อนก็จ้องเขม็งไปที่หมู่ข่าว เหยน “เพราะแกคนเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแกชอบทำเฉย กับเมียวเมียว เมียวเมียวจะไปโกรธได้ยังไง วันนี้ แกจะ ต้องไปง้อเธอซะ ถ้าเย็นนี้ไม่กลับมาพร้อมกัน ต่อไปแกก็ ไม่ต้องกลับมาบ้านหลังนี้อีก”

หชู่ซ่าวเหยนเห็นเงาซ่งเมียวจากไป ในสายตาเขา ก็มีความซับซ้อนอันอธิบายไม่ได้ปรากฏขึ้น

สำหรับเรื่องโครงการเทียนฉิงของตระกูลหชู่ที ตระกูลห้อรับแบบร่างเบื้องต้น ไม่นานก็กลายเป็นข่าวลือ ในบริษัท และวีรสตรีนั้นก็คือซ่งเมียว แน่นอนว่าข่าวนั้น แพร่ออกไป

เช้าตรู่ ซ่งเมียวเซื่องซึม ระหว่างทางมาเธอซื้อยาลดไข้ไว้ ทานไปแล้วรู้สึกง่วงนอน แต่เมื่อนึกแบบร่าง เบื้องต้น เธอก็มีแรงขึ้นมา รีบดำเนินการเพิ่มเติมลงใน แบบร่าง

ขณะที่กำลังคำนวณหาข้อมูลอะไรบางอย่างอยู่ นั้น เอกสารจำนวนหนึ่งก็หล่น “ปัง” ลง

เธอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นฟางซินจ้องเธอด้วยความ โมโห

“มีเรื่องอะไร”

ซ่งเมียวดึงเก้าอี้ออก และถามเรียบๆ ฝ่ายตรงข้าม ฟางซิน เธอเองคิดว่าไม่ได้มีเรื่องใหญ่อะไร ถึงแม้ว่าทั้ง สองจะไม่ได้สนิทชิดเชื้อ แต่เธอก็ไม่สามารถทนทําหน้า ยิ้มแย้มกับหล่อนได้

“คุณยังจะมาถามฉันอีกเรอะว่ามีเรื่องอะไร!”

ฟางซินสีหน้าบูดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด ตาคู่นั้น เหมือนจะพ่นไฟออกมาได้ “ตอนบ่ายเมื่อวานคุณไป ตระกูลห้อคุยเรื่องโครงการเทียนฉิง คุณทำไมไม่รอฉัน!”

สีหน้าฟางซินแดงผิดธรรมชาติ เธอกระแอมขึ้น สองครั้ง ก่อนจะวางปากกาลง “ฉันรอคุณได้ แต่ว่า หัวหน้าโครงการทางนั้นนัดแนะเวลาเอาไว้ คุณคิดว่า ตระกูลห้อจะรอคุณหรือไง”

เมื่อนึกถึงว่าบ่ายเมื่อวานเธอหาเวลาเพื่อไปอยู่กับ หชู่ซ่าวเหยน ดังนั้นจึงไม่ได้กลับมาที่บริษัท น้ำเสียงฟาง ซินก็อ่อนลง แต่เมื่อเห็นท่าทางได้ใจของซ่งเมียว เธอก็ยิ่ง โมโห เรื่องผลงานเมื่อวานนั่น เห็นได้ชัดว่าทุกคนก็ยกให้ เป็นของซงเมียวกันหมด!

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น แล้วตอนเย็นล่ะ ทานข้าวกับ ตระกูลห้อ ทำไมคุณไม่ชวนฉันไปด้วย!” ฟางซินต่อว่าซ่ง เมียว โครงการนี้ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเป็นความผิดชอบของคุณและฉันร่วมกัน ทำไมทำอะไรไม่ถามฉัน!”

“โอ้ ฉันก็รู้ว่าโครงการนี้เรารับผิดชอบร่วมกัน แล้ว เมื่อวานตอนบ่ายคุณหนีไปทำอะไรซะล่ะ” ซ่งเมียวถูกเธอ กวนประสาท เธอได้แต่จ้องกลับฟางซินไปอย่างนิ่งเฉย

“ฉัน…ฉันมีเรื่องที่ต้องคุยกับประธานหมู่ ถ้าคุณไม่ เชื่อ ก็ลองไปถามประธานหมู่สิ! อย่ามานอกเรื่องกับฉัน ฉันพูดถึงเรื่องเมื่อวานตอนเย็น ทำไมคุณไม่บอกฉัน ไม่ ให้ฉันไปด้วย!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ