บทที่ 9 เขารักเธอไหม
“ฉันมีเรื่องบางอย่างที่ปิดบังคู่หมั้นของฉันอยู่ ฉันไม่รู้ว่าควรจะ สารภาพความจริงกับเขาออกไปดีไหม “เขารักเธอมากไหม” โล่ยิ่งช่วยคิดอยู่นาน ก่อนที่จะเอ่ยปาก
ถามออกไป
หมีสาเอ๋อพยักหน้าอย่างแน่วแน่
“คุณเองก็รักเขามากใช่ไหมคะ
หมีสาเอ๋อพยักหน้าอย่างแน่วแน่อีกครั้งหนึ่ง
“ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เขาจะต้องให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคย ทำมาก่อนได้อย่างแน่นอนค่ะ ตราบใดที่คุณยังรักเขา เท่านั้นก็ เพียงพอแล้วค่ะ” เธอไม่มีประสบการณ์กับเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองพูดไปนั้นถูกต้องหรือไม่ แต่สำหรับเธอ
แล้ว ความรักของคนสองคนควรจะซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
หมีสาเอื้อนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และในที่สุด ก็พยักหน้าอย่างแน่ว
แน่
“คุณพูดถูก ในที่สุด ฉันก็กล้าที่จะสารภาพกับเขาแล้ว ขอบคุณมากนะคะ”
หมีสาเอ๋อเดินอย่างล่องลอยจากไป โล่ยิ่งช่วยส่งสายตาเฝ้าดู แผ่นหลังของเธอ เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าหมีสาเอ๋อไม่ขึ้นรถยนต์ที่เธอนั่งมาในตอนแรก กลับเดินทอดน่องไปตามถนน แทน การเดินเหินของเธอราวกับได้ปลดภาระอันหนักอึ้งของ ร่างกายออกไปโดยสมบูรณ์ โล่ยิ่งสวยยังคงเห็นเธอถึงกับ กระโดดตัวลอยเล็กน้อย และวาดแนวโค้งที่แสนสง่างามกลาง อากาศอีกด้วย
“ขอให้พวกคุณมีความสุข” โล่ยิ่งสวยกล่าวอย่างจริงใจ
“อ้าว คุณชายหวงยังไม่ไปอีกเหรอ” คุณป้าที่ขายผักอยู่ชั้น บนเดินมาหา ชี้ไปยังเขาหย่วนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก และเอ่ย ปากกระซิบกับโล่ยิ่งช่วย
ใบหน้าของโลยิ่งสวยแดงก่ำด้วยความเขินอายและพยักหน้า ซึ่งทำให้ป้าอู่หัวเราะอยู่พักหนึ่ง “ไม่เป็นไรน่า ครอบครัวของ คุณชายหวงทั้งร่ำรวยทั้งมีอำนาจ รูปร่างหน้าตาก็ดูดีไม่เลวที เดียว เหมาะสมกับหนูอย่างแน่นอนจ้ะ ป้าของหนูกับแม่ของหนู เป็นเพื่อนสนิทกันมานานปลายปี ก็หวังว่าหนูจะได้พบกับคนที่ เป็นบ้านพักใจที่แสนดีได้ในเร็ววันนะ”
“ป้าอู๋คะ พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” โล่ยิ่งส่วยหลบ สายตา ตอบป้า กลับไปอย่างนุ่มนวลและกระอักกระอ่วน เวลา ขยับเข้าใกล้เวลาเที่ยง น้องสาวของเธอควรจะกลับมาได้แล้ว
ป้าอู่หัวเราะคิกคักเบา ๆ อยู่พักหนึ่ง และหยิบผงยาออกมา จากถุงใบเล็กที่อยู่ในมือ “เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เห็นเธอบอก ว่าที่บ้านมีหนู ป้าบอกให้คุณลุงไปซื้อยาเบื่อหนูสักสองสาม กล่องมาเป็นพิเศษ รับไปสิ”
“โอ้ ขอบคุณมากค่ะ” โล่ยิ่งสวยต้องการจ่ายเงินให้ แต่ป้า กลับปฏิเสธไม่รับ เมื่อมองดูร่างของเธอเดินจากไป ความรู้สึก หอมหวานแห่งความสุขก็ผุดขึ้นมาภายในจิตใจ
แม่คะ แม่เห็นหรือเปล่า หนูกับน้องไม่ได้อยู่กันอย่างโดดเดี่ยว นะ มีคนตั้งมากมายที่คอยดูแลเอาใจใส่พวกเราถึงขนาดนี้ เธอ พนมมือเข้าด้วยกัน และต้องการไประบายความในใจทุกอย่าง ให้แม่ของเธอได้ฟังในตอนนี้ทันที
“แย่แล้ว!” ที่ประตูทางเข้า น้องสาววิ่งเข้ามาอย่างโซซัดโซเซ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
หัวใจของโลยิ่งส่วยจมดิ่งกระแทกก้นบึ้ง และรีบจับมือของ น้องสาวเอาไว้ทันที “เกิดอะไรขึ้น” เท่าที่ดูแล้วน้องสาวไม่ได้บาด เจ็บอะไร แต่ท่าทางของเธอกลับหวาดกลัวอย่างไม่มีสิ้นสุด
ช่วงเวลาการซื้อขายสูงสุดกำลังจะมาถึงในไม่ช้าอีกครั้ง แต่ ทว่าบรรดาเจ้าของแผงร้านค้าจำนวนมากกลับทยอยวิ่งออกไป ข้างนอกกันทีละคนสองคน
“รถชน มีรถชนตรงปากทางด้านหน้า เมื่อคนที่รู้เรื่องราว ตะโกนแจ้งข่าว คนจำนวนมากยิ่งขึ้นก็รีบวิ่งออกไปยังด้านนอก ของตลาดทันที
“ยิ่งเยว่ เกิดอะไรขึ้น” โล่ยิ่งช่วยกุมมืออันเย็นเยือกของโลยิ่ง เยวทั้งสองข้างเอาไว้แน่น พยายามควบคุมสติของเธอให้มั่นคง เอาไว้ เขาหย่วนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จึงถอดหูฟังออก และ เดินมาหาคู่พี่น้องทั้งสองคน
“เกิดอะไรขึ้น” เขาใช้สายตาจ้องเขม็งไปที่ยิ่งเยว่
“รถ…………..ฉันเพิ่ง………………… ” เดิมทียิ่งเยวไม่ เคยรู้สึกหวาดกลัวขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้งเดียว เธอเห็นร่างสี ขาวลอยละล่องขึ้นไปบนท้องฟ้า เธอลงจากรถและวิ่งเข้ามาที่นี่ ทันที โดยไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น
“ไม่ว่าเรื่องอะไร เธอมักจะระมัดระวังมากเสมอ เกิดเรื่องแบบ นี้ขึ้นได้ยังไง” ถึงแม้ว่าโล่ยิ่งเยว่จะเป็นคนเปิดเผย แต่ก็เป็นคนที่ กล้าหาญและระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ยิ่งส่วยที่รู้จักเธอมาก ที่สุดไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องราวแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเธอได้
“ฉัน….ที่ทางแยกตรงปากทาง…..มีแสงจ้ามาก……..องเข้าตา ฉัน…..ฉันมองเห็นทางไม่ถนัด…….คิดไม่ถึง….ว่ามันเป็นไฟ ผู้หญิงคนนั้นวิ่ง…….ข้ามถนนมา……………เหยียบ แดง….. เบรก…..แต่มันก็…..สายไปแล้ว…” คำพูดของยิ่งเยว่ไม่ต่อเนื่อง กัน เมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ยิ่งสวยก็พอรู้แล้วว่ามันเกิดอะไร ขึ้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ