บทที่ 6 ทําดีหวังผล
ล่อตามนางกำนัลผ่านไปยังสวนหลวง แล้วเดินไปตามถนน วังอีกหลายสาย แต่กลับยิ่งเดินยิ่งแย่
นางขมวดคิ้ว จิตใจค่อนข้างไม่สงบ แต่นางไม่คุ้นชินกับเส้น ทางในพระราชวัง จึงไม่ได้เอ่ยอะไร
ที่ด้านข้าง เซียวซูไปดึงแขนซูล่อ ก้มหน้าตามนางไปเงียบๆ ตลอดทาง
เวลานี้ ก้อนหินก้อนหนึ่งถูกเซียวซูไปที่อยู่ข้างหลังเตะมาที่สัน เท้าของนาง ล่อก้มหน้ามองลงไป ถึงได้สังเกตเห็นว่าบนพื้นมี ก้อนหินและใบไม้ร่วงกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก มองแวบแรกก็ รู้ว่ามันคือมุมเปลี่ยวที่ไม่ถูกคนในวังทำความสะอาด
แววตาซูล่อเริ่มมืด แล้วทันใดนั้นก็หยุดลง
“นี่คือทางออกจากวังเหรอ ข้าคิดว่ามันผิดนะ”
สี่เชวหันหน้ากลับมาพูดอย่างเคารพ “พระชายาองค์ชายเจ็ด เส้นทางฝั่งนี้แต่นิดหน่อย แต่ออกจากวังเร็วกว่าเพคะ”
พูดอย่างนั้นแล้วจู่ๆ สี่เชาก็ร้องอุทานออกมาเหมือนกับทำของ หายไปจากตัว จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“โธ่เอ๊ย กําไลหยกที่ฮองเฮาให้หม่อมฉันหายไปเพคะ เป็นสิ่ง ที่ไม่สามารถทําหายได้ เมื่อครู่ต้องร่วงระหว่างทางเป็นแน่ องค์ชายเจ็ด พระชายาองค์ชายเจ็ด โปรดรอที่นี่ก่อนนะเพคะ หม่อม ฉันขอไปหาดูก่อน เดี๋ยวจะพาท่านทั้งสองออกจากวังทีหลังนะ เพคะ”
จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็วและหายวับไปทันที
ซูล่อหรี่ตามองสำรวจรอบๆ สีหน้าไม่แน่นอน กำลังคิด ไตร่ตรองว่าพวกเขาควรจะออกไปเองก่อนดีกว่าไหม ฉับพลัน ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล
“น้องเจ็ด น้องชายาเจ็ด ที่แท้พวกเจ้าก็อยู่ที่นี่นี่เอง พี่องค์ชาย หาเจอแล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงอบอุ่น หากซูล่อไม่ได้เห็นกับตาตัวเองว่า องค์ชายห้าเกลียดนางเข้ากระดูกด่า ก็เกือบจะคิดว่าคนผิด แล้ว
คิดว่าเป็นเพราะเรื่องในวันอภิเษกสมรส เมื่อเซียวซูไปเห็นเงา
ขององค์ชายห้าจึงรีบหลบหลังทันที
ซูล่อเดินขึ้นไปขวางหน้าเซียวซูไปแล้วพูดกับองค์ชายห้าว่า “ไม่ทราบว่าเสด็จ ห้าเสด็จมา มีเรื่องอะไรเหรอเพคะ”
องค์ชายหาเลือรอยยิ้มคนดีบนใบหน้า ไม่แสดงออกถึงความ เกลียดชังและความขยะแขยงต่อล่อแม้แต่น้อย
อันดับแรกเขารับเอากล่องอาหารที่งดงามประณีตจากนางใน ข้างๆ มา จากนั้นก็ยิ้มแล้วส่งให้ซูล่อ
ล่อไม่รับ ในแววตามีการระแวดระวัง
องค์ชายหาอธิบายอย่างไม่รีบไม่ช้า “นี่คือขนมที่แจกในวังวัน ทั้งหมดทำในห้องครัวของวัง คิดว่าปกติน้องเจ็ดไม่ค่อยเข้าวัง จึงเอามาให้เขาเป็นพิเศษ น้องชายาเจ็ด เจ้าก็ลองชิมด้วยสี
ได้ยินคำว่าขนมสองคำ เซียวซูไปก็เริ่มน้ำลายสอ
“อะ…อร่อยไหม”
“อร่อยแน่นอน! น้องเจ็ด ให้!”
พูดอย่างนั้นแล้วองค์ชายห้าก็เอากล่องอาหารให้เชียวชไป ซู ล่อขมวดคิ้ว รู้สึกว่าองค์ชายห้าทำดีหวังผล ต้องมีปัญหาแน่ นาง กำลังจะปฏิเสธ
“เสด็จ ห้า ไม่ต้องหรอก…”
แต่องค์ชายห้ากลับไม่รอให้นางพูดจบ ถอนหายใจแกล้ง ทําท่าทางหมดหนทาง
“น้องชายาเจ็ด ข้ารู้ว่า ในวันอภิเษกสมรสเรามีเรื่องเข้าใจผิด กันนิดหน่อย แต่เสด็จพี่องค์ชายรัชทายาททรงตำหนิข้าแล้ว วัน
นั้นเป็นข้าเองที่ทำไม่ถูก ขนมในวันนี้ ก็คิดเสียว่าเสด็จพี่หาไถ่ โทษ ถ้าน้องเจ็ดไม่รับ เจ้าช่วยรับให้เขาได้ไหม”
ระหว่างที่พูด องค์ชายห้าก็นำกล่องมาตรงหน้าซูล่อเรียบร้อย แล้ว จากนั้นก็ยังแสร้งทำเป็นไม่พอใจอีกด้วย
“ถ้าน้องชายาเจ็ดไม่ยอมรับ เช่นนั้นวันนี้เสด็จพี่ก็จะไม่ไป
ล่อมองท่าทางขององค์ชายห้า ถ้าเอากล่องอาหารให้พวก เขาไม่ได้ก็จะไม่เลิกราสินะ นางรำพึงในใจ ไม่ใช่ว่าในกล่อง อาหารนี้มีอะไรแปลกๆ หรอกนะ…สายตา ล่อเลื่อนลงมองพลาง ครุ่นคิด ข้ามความงดงามประณีตของกล่องอาหารนั้นไป
แต่ใครจะคาดคิดว่าตอนนี้เซียวซูไปเอากล่องอาหารไปถือไว้ แล้ว พร้อมกับเลียริมฝีปาก
“ขนม ข้าจะกิน ข้าจะเอาคืนข้าจะกิน!”
ซูล่อเห็นอย่างนั้นก็กุมหน้าผากอย่างอ่อนใจ
ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นก็รับมาไว้ก่อน มีปัญหา ไหมรอกลับไปค่อยว่ากัน ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาไม่รับ คาดว่า องค์ชายห้าก็คงจะไม่ลดละแน่
“ซูล่อแทนองค์ชายเจ็ดขอบพระทัยเสด็จพี่ห้าเพคะ”
องค์ชายห้าเห็นพวกเขารับไปแล้ว ในแววตาก็เกิดแวว ประหลาด ก่อนจะกลับมาเป็นปกติแล้วพูดว่า
“น้องเจ็ดชอบก็ดีแล้ว จริงสิ ทำไมไม่เห็นนางในที่มาส่งพวก เจ้าเลยล่ะ งั้นเอาอย่างนี้ ข้าจะให้คนไปส่งพวกเจ้าออกนอกวัง แล้วกัน”
“ขอบพระทัยองค์ชายห้า
มองดูพวกเขาจากไปแล้ว ในที่สุดรอยยิ้มบนใบหน้าองค์ชาย ห้าพลันหายไป จากนั้นก็ส่งเสียงขยะแขยงใส่ด้านหลัง ล่อ
“ผู้หญิงอัปลักษณ์ น่าขยะแขยงจริงๆ
ขันที่น้อยข้างๆ หัวเราะและพูดว่า องค์ชายห้าพะย่ะค่ะ เรา
สามารถกลับไปรายงานองค์ชายรัชทายาทได้แล้วนะพะย่ะค่ะว่า
ปลาติดเบ็ดแล้ว” “องค์ชายพระโอรสอย่างข้าจะให้ผู้หญิงอัปลักษณ์คนนี้ใส่ สมองไว้ว่าการเป็นสะใภ้หลวงไม่ใช่เรื่องง่าย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ