พระชายาทูลหัวของข้า

บทที่ 10 เจ้าคนชั้นต่ำแกว่งเท้าหาเสี้ยนอีกแล้วใช่ไหม



บทที่ 10 เจ้าคนชั้นต่ำแกว่งเท้าหาเสี้ยนอีกแล้วใช่ไหม

เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อบ้านหลีใต้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพแล้ว ซูล่อจูงเซียวซูไปงัวเงีย ตบไหล่เขาและพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า

“นี่ ตั้งสติหน่อย แสดงให้เห็นถึงอำนาจขององค์ชายพระโอรส

วันนี้เราต้องไปคิดบัญชี

เซียวซูเปอ้าปากหาว

“กระเทียมตีนเหรอ เป็นตีนเป็ดรสกระเทียมเหรอ ข้าไม่ชอบ ข้าจะกินไก่กรอบ!” (ในภาษาจีนคำว่าคิดบัญชีออกเสียงคล้ายกับ คําว่ากระเทียมตีน)

ล่อสูดหายใจเข้าลึก ในใจรำพึงว่าตนจะไปเถียงกับคนโง่ไม่ ได้นะ วันนี้พาเซียวซูไปไปด้วยเพราะต้องการความแข็งแกร่งและ หยิ่งผยอง แต่ดูเขาแบบนี้ คาดว่าพอถึงเวลานั้นก็คงหมดหวัง

“ช่างเถอะ ขึ้นรถก่อน

ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็มาถึงจวนเจ้าพระยาหอน เพิ่งลงจากรถ

มีคนมาขวางพวกเขาไว้

ซูล่อหรี่ตามองบ่าวเฝ้าประตู

“ทำไม ไม่รู้จักเจ้านายแล้วหรือไง”

“คุณหนูใหญ่ วันนี้ฮูหยินเล็กจ้าวกับคุณหนูรองออกจากจวน ไปงานเลี้ยงขอรับ บอกว่าถ้าท่านกลับบ้าน ให้กลับไปก่อน รอนางวางท่านค่อยกลับมาใหม่ขอรับ

ดูสิด แม้แต่จวนก็ไม่ให้นางเข้า

นางหัวเราะอย่างเย็นชา เชิดคางเล็กน้อยแสดงท่วงท่าของ บุตรหลวงผู้มีศักดิ์สูงอันสมควร

“ถ้าข้าตั้งใจจะเข้า เจ้ามีสิทธิ์จะไล่ข้าไปได้งั้นเหรอ”

บ่าวเกิดความลังเลเล็กน้อย และในขณะนั้นเองก็มีคนเดินออก มา เป็นยายหลินบ่าวรับใช้ดูแลข้างกายฮูหยินเล็กจ้าว

“อ้าว คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ พวกเจ้าแต่ละคน

ไม่มีตาหรือไง ทำไมยังขวางคุณหนูใหญ่อยู่อีก ไสหัวออกไป

พูดก็แค่ปาก แต่ยายหลินไม่ได้ตั้งใจจะต้อนรับซูล่อกับเซียวซู ไปเข้าไป

ซูล่อที่เห็นอย่างนั้นก็เลิกคิ้วและยิ้มอย่างเฉยเมย

ไม่เข้าไปก็ได้ อย่างไรเสียคนที่อับอายก็คือพวกเขา ไม่ใช่ตน

นางไม่สนยายหลิน เพียงหันมองไปยังพ่อบ้านหล

พ่อบ้านหลีเปิดกล่องใหญ่หลายใบออกทันที หลังจากนั้นก็ เป็นสมุดบัญชีรายการ ล่อกระแอมไอก่อนจะส่งเสียงดังลั่น

“แก้วหลิวไห่หนานหนึ่งคู่ ขวดแก้วหลิวฟีนิกซ์ห้าชิ้น ฉากบัง ลมหยกหนึ่งคู่ ผ้าไหมหยุนจินยี่สิบพับ …

ยายหลินฟังถึงตรงนี้ ก็คงรอยยิ้มบนใบหน้าไว้ไม่ไหวอีก นางขัดจังหวะว่า
“คุณหนูใหญ่ ท่านกำลังทำอะไร

ซูล่อปิดสมุดบัญชีและจ้องยายหลินด้วยรอยยิ้มที่ไปถึงดวงตา

อ่าน ให้คนในเมืองหลวงฟัง ในสมุดบัญชีเขียนไว้ แต่ใน สินสอดทองหมั้นกลับไม่มี เจ้าว่าทำยังไงดีล่ะ ข้ารู้ว่าฮูหยินเล็ก จ้าวเป็นแม่บ้าน ทำงานหนัก แต่ถึงงานจะหนักแค่ไหนก็ไม่ควร อย่างมากที่จะทำผิดพลาดเช่นนี้ได้นะ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะคิดว่า ฮูหยินเล็กจ้าวขโมยสินสอดทองหมั้นของข้า จริงไหม

เมื่อซูล่อพูดคำสุดท้ายว่า “ไหม” ทันใดนั้นยายหลินก็หนาวยะ เยือก รู้สึกว่าคุณหนูใหญ่คนนี้ดูเปลี่ยนไปมาก

ยายหลินมองหญิงอัปลักษณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ในใจดูหมิ่น เหยียดหยาม แต่ไม่นานก็สงบสติอารมณ์ ในใจคิดว่าตอนนี้ สุดท้ายแล้วอย่างไรคนที่เป็นผู้ดูแลเรื่องทั้งหมดของจวน เจ้าพระยาแห่งนี้ก็ยังเป็นฮูหยินเล็กจ้าว ใยต้องกลัวซูล่อที่มีชื่อ บุตรตรีนายหญิงหลวงแต่เพียงในนาม

“คุณหนูใหญ่ เรื่องเหล่านี้อยู่เหนือการควบคุมของข้าน้อย ทุก เรื่องไว้รอฮูหยินเล็กจ้าวกลับมาค่อยคุยกันเถอะเจ้าค่ะ”

ซูล่อส่งเสียงเยาะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า “ในเมื่อ หยินเล็กจ้าวไม่ว่าง แต่ข้าพระชายาว่างอยู่พอดี พ่อบ้านหมี่ ไปดู ที่ห้องคลัง ถ้าเห็นอะไรที่มีอยู่ในสมุดบัญชีนี้ นำกลับไปทันที!

พ่อบ้านหลโบกมือ นำคนของตนเข้าประตูจวนเจ้าพระยาไป ยายหลินพยายามจะหยุด แต่ซูล่อยกขาขัดนางจนสะดุดล้มแล้วเอากุญแจที่อยู่ตรงเอวยายหลินโยนให้พ่อบ้านหลีด้วย

พ่อบ้านหมี่รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็กลับมาพร้อม ด้วยทั้งความยินดีทั้งโกรธจัด

ที่น่ายินดีคือสินสอดทองหมั้นยังอยู่ครบในสภาพดี แต่ที่โกรธ จัดคือฮูหยินเล็กจ้าวคนนี้ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน ไม่อยากเชื่อว่า

จะยึดสิ่งของของลูกสาวของเมียหลวง

“ซูล่อ เจ้าทำอะไรกัน!

ทันใดนั้นก็มีเสียงตวาดร้ายกาจตั้งมา ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ หยินเล็กจ้าวที่พอได้รับสารก็รีบร้อนกลับมาจากงานเลี้ยงทันที

นางมองทุกอย่างตรงหน้า ก่อนจะพุ่งไปหาซูล่อ แล้วล้างมือ ต้องการจะตบซูล่อ

“เจ้าคนชั้นต่ำ แกว่งเท้าหาเสี้ยนอีกแล้วใช่ไหม!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ