พระชายาทูลหัวของข้า

บทที่ 9 จวนองค์ชายเจ็ดอันแปลกประหลาด



บทที่ 9 จวนองค์ชายเจ็ดอันแปลกประหลาด

“นั่นใคร!”

ล่อคำรามอย่างโกรธจัดก่อนจะวิ่งออกไป

นอกห้องตอนกลางคืนมีหมอกหนา ทั่วบริเวณเงียบสงัด มี เพียงเสียงลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านกิ่งก้านและใบไม้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น

นางมองไปรอบๆ สายตายิ่งเย็นยะเยือกลงเรื่อยๆ…

คืนนี้นางมาสอบสวนหวังต้าเหนียง เพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้า ให้ตื่น ดังนั้นจึงพามาแค่พ่อบ้านหมี่ ซึ่งพ่อบ้านหลเป็นคนของ เชียงผิง โดยธรรมชาติแล้วนางจึงเชื่อใจ

เช่นนั้นแล้วคนที่ยิงลูกธนูลับเป็นใครกัน

เป็นเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังหวังต้าเหนียงฆ่าคนปิดปาก หรือจะ เป็นศัตรูอื่นที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปอีก

ชั่วขณะหนึ่ง ซูล่อรู้สึกว่าลมกลางคืนเย็นลงกะทันหัน มันหนาวเย็นจนบังคับให้นางต้องเข้าไปข้างใน

พ่อบ้านหลี่เดินออกมา บนศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น “พระชายา ตอนนี้ทำอย่างไรดีพะย่ะค่ะ”

ซูล่อหันเหสายตาไปมองหวังต้าเหนียงที่ไร้ลมหายใจอยู่บน พื้น แล้วออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ต้องเอะอะไป พรุ่งนี้หาเวลาเอานางไปฝังที่สุสานไร้ญาติ ส่วนบ่าวไพร่อื่นๆ ในจวน นอกจากบ่าวคนนั้น พวกคนใกล้ชิด ทั้งหมด ให้หาเหตุผลขายออกไปซะ

หวังต้าเหนียงตายแล้ว คนเดียวที่สามารถติดต่อมือมืดนั่นได้ เหลือเพียงบ่าวคนนั้น

คนคนนี้ จะต้องเก็บไว้

พ่อบ้านหลี่นั้นเป็นคนรู้เหตุผล จึงพยักหน้าตอบรับทันที

“พะย่ะค่ะ กระหม่อมทราบแล้ว พวกบ่าวไพร่ที่รับเงินแต่ไม่ ทำงานทั้งหมดจะทยอยขายออกไป จะไม่ทำให้คนที่อยู่เบื้องหลัง สงสัยแน่นอนพะย่ะค่ะ”

พูดอย่างนั้นแล้วพ่อบ้านหมี่ก็เงียบไป มีอะไรเหมือนจะพูดแต่ก็ ไม่พูด

ซูล่อมองความลังเลของพ่อบ้านหลออก จึงเอ่ยถามออกไปว่า

“พ่อบ้านหลี่ เจ้ามีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ”

พ่อบ้านหลี่ถอนหายใจ “กระหม่อมไม่กล้าล้อเล่นต่อพระชายา ตอนนี้เงินในจวนเราเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ต่อให้พระชายาไม่ทรง ตรัสเรื่องขายบ่าวไพร่ คาดว่าก็ไม่สามารถจ่ายคนเกียจคร้าน เหล่านั้นได้อีกแล้ว”

เมื่อซูล่อได้ยินแววตาก็เกิดประกายวาบเล็กน้อย คิดไปถึงที่ นางได้ยินว่าครั้งนี้ที่เซียวซูไปอภิเษกสมรสนั้นเป็นเชียงผิงที่ใช้ จ่ายเงินทองขององค์เอง และทรงนำเครื่องเงินที่สะสมมาหลายปีออกมาจากวัง จึงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจจากก้นบึง

ดูองค์ชายรัชทายาทมีเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหราอาหารชั้นเลิศ แล้วคิดถึงจวนองค์ชายเจ็ดที่ทรุดโทรม สุดท้ายก็เป็นกฎแห่ง กรรมที่ผู้โหดเหี้ยมย่อมอยู่รอด

เวลานี้ ล่อนึกถึงสมุดบัญชีสินสอดทองหมั้นที่นางเผลอเปิด ออกเมื่อวานนี้โดยบังเอิญขึ้นมาได้ จึงพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน กับพ่อบ้านหลี่

“ไม่เสียหาย ข้ายังมีสินสอดทองหมั้นอีกสองสามกล่อง องค์ ชายเจ็ดอย่างไรก็เป็นพระโอรส เป็นคน ในราชวงศ์ สถานะไม่ ด้อยกว่าใคร หลังจากขายพวกบ่าวไพร่ที่ไม่ทำงานออกไปแล้ว เราก็ไปซื้อบ่าวไพร่ที่ไว้ใจได้กลับมา อย่างไรก็ไม่สามารถทำให้ องค์ชายน้อยเนื้อต่ำใจได้

“พระชายา จะเป็นไปได้อย่างไรพะยะค่ะ นั่นเป็นสินสอดทอง หมั้นของท่านนะพะยะค่ะ

ซูล่อโบกมืออย่างเอื้อเฟื้อ “เรื่องเล็กน้อย ไป ไปที่ห้องคลังดูว่า ในสินสอดทองหมั้นมีเงินสำเร็จรูปหรือไม่ เอาออกมาให้แล้ว ค่อยว่ากัน”

ไม่คิดว่า กระทั่งพวกซูล่อไปถึงห้องคลัง เห็นเหล่าสิ่งของไร้ค่า ทั้งหมด ในกล่องใหญ่… ล่อก็พลันหน้าเขียว

“ฮม ฮูหยินเล็กจ้าวคนนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำเรื่องลับหลังข้า “พระชายา นี่มัน…” พ่อบ้านหมี่สีหน้าแย่มาก
ล่อสายตาเย็นยะเยือก ออกคำสั่งน้ำเสียงเย็นชา

“พ่อบ้าน เตรียมเกวียนใหญ่สักหลายคัน พรุ่งนี้เป็นวันคารวะ

พ่อแม่ฝ่ายหญิงพอดี ไปจวนเจ้าพระยาหอนกับข้า มีบางบัญชี ต้องช่าระก่อน!” ล่อออกจากห้องคลังอย่างฮึดฮัด ส่วนพ่อบ้านหลี่ก็ไปจัดการ

กับศพของหวังต้าเหนียง

ยามค่ำคืน กลับมาสงบอีกครั้ง

ในที่มืดของจวนองค์ชายเจ็ด

“ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมจริงๆ

“หัวหน้า คนที่ยิงธนูลับหลังก่อนหน้านี้ต้องตามไปไหม

“ไม่จําเป็น เจ้านายบอกแล้วว่าอย่าทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง ของท่าน คอยดูไปก่อน

“ขอรับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ