พระชายาทูลหัวของข้า

บทที่ 7 ใช้นางเป็นแพะรับบาป



บทที่ 7 ใช้นางเป็นแพะรับบาป

ในพระราชวังมีสายตาสอดส่องของผู้คนอยู่ทั่วทุกที่ ซูล่อจะ ไม่มีการเปิดกล่องอาหารที่นี่แน่นอน เอาไว้ขึ้นรถม้ากลับจวนไป พร้อมกับเซียวซูไปแล้วค่อยว่ากัน

จนเมื่อล่ออยู่คนเดียวในห้อง นางถึงได้เปิดกล่องอาหาร

สายตาไปตกที่ขนมสวยๆ ในกล่องอาหารนั้น ซูล่อหรี่ตาลง เอาผ้าเช็ดหน้าไหมหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งในนั้นอย่างระมัดระวัง จาก นั้นก็มองดูสำรวจอย่างละเอียด แล้วยังดมกลิ่นมันอีกด้วย ถึง ขนาดบิดชิ้นเล็กๆ ออกมาชิม

จากนั้นไม่นานแววตาของนางก็เป็นประกายคมเฉียบ แล้ว ย ทิ้งไปข้างๆ ทันที

“มีปัญหาจริงด้วย!”

ในขนมถูกคนใส่ยาพิษไว้

แถมยังเป็นพิษที่ทำให้ผู้ชายอสุจิอ่อนแอ

เป็นใครกัน ไม่เพียงแต่ทำให้องค์ชายเจ็ดยิ่งโง่ลงไปเรื่อยๆ ตอนนี้แม้แต่ทายาทก็ไม่ต้องการให้เขามีอย่างนั้นเหรอ

และนี่เป็นเพียงผิวเผิน

ซูล่อจ้องมองกล่องอาหาร สายตาประหนึ่งจะดับพิษ นางยิ้ม

พลางพูดอย่างเย็นชาว่า
“แผนการต่าช้าจริงๆ องค์ชายเจ็ดไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ถ้า เกิดเรื่องขึ้นมาข้าล่อก็จะกลายเป็นแพะรับบาปใช่ไหม”

นี่คืออุบายยืมมืดฆ่าคน เกือบจะแน่ใจว่าองค์ชายห้าเป็นคน ทำ แต่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังยังมีใครคนอื่นอีกหรือไม่

อย่างองค์ชายรัชทายาท อย่างฮองเฮาสวี…

สําหรับเรื่องของยาห้ามครรภ์ ซูล่อจะไม่เอะอะไป เพราะนาง ว่าปริมาณของส่วนผสมนี้ไม่ได้ก่อความเสียหายร้ายแรงต่อ ร่างกาย เว้นแต่ปริมาณจะเพิ่มขึ้นในภายหลัง

ถึงแม้ไม่รู้ว่าครั้งหน้าคนพวกนั้นจะใส่ยาห้ามครรภ์ไว้ในไหน แต่ซูล่อรู้สึกว่าระวังตัวไว้มันดีกว่า

อย่างเช่นช่วงอาหารของเย็นนี้ หลังจากดูแต่ละจานที่เอามา ถวายแล้ว ล่อก็เข้าไปทำการ “พินิจพิจารณา” ทีละจานก่อน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติถึงให้เซียวไปกินได้

ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อาหารแต่ละประเภทเป็นแบบจานเดี่ยว หนึ่งเนื้อสามผัก แถมยังเป็นอาหารค้างคืนอีกต่างหาก สุดท้าย อย่างไรก็เป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับการโปรดปรานสินะ…

หลังจากจบอาหารเย็น ไม่น่าเชื่อว่าในจานไม่มีร่องรอย เงื่อนงำอะไรเลย จุดนี้ทำให้ล่อสงสัย หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง เริ่มระมัดระวังตัวแล้ว

และตอนนั้นเอง บ่าวที่ดูธรรมดาคนหนึ่งก็ถือชามน้ำแกงเห็ดหูหนูขาวเข้ามา
“องค์ชายเจ็ด พระชายาองค์ชายเจ็ด นี่คือน้ำแกงเห็ดหูหนู เสวยหลังอาหารดีต่อสุขภาพ โปรดลองดูพะย่ะค่ะ”

เมื่อเชียวชูไปเห็นว่ามีของกินก็เกิดอาการตื่นเต้น จะเข้าไปรับ

มันมา

ซูล่อปัดมือของเขา แล้วเข้าไปอย่างไม่รีบไม่ช้า จากนั้นก็พูด ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“มันร้อน ข้าจะเป่าให้แล้วท่านค่อยดื่มนะ

ระหว่างที่พูด นางก็ก้มหน้าลงไป สายตานิ่งสงบกวาดมองผ่าน น้ำแกงเห็ดหูหนู

แล้วมุมปากก็กระตุกโดยไร้เสียง ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา

ที่แท้มันก็รอนางอยู่ตรงนี้นี่เอง

“ชายา ข้าอยากดื่มน้ำแกงเห็ดหูหนู อยากดื่มๆ!” ที่ข้างๆ เซียวไปเริ่มเรียกร้อง ซูล่อเงยหน้า แววตาแปลกหายไปก่อน แล้ว นางปลอบเซียวซูไปในขณะที่ส่งน้ำแกงเห็ดหูหนูให้ด้วย

ในช่วงเวลาที่เซียวซูไปเกือบจะรับแล้ว ทันใดนั้นแกงเห็ดหูหนู ก็ลื่นตกจากมือซูล่อ ตกกระทบพื้นเสียงดังเพลง ก่อนจะแตกเป็น เสียง!

“โธ่เอ๊ย ดูมือชายาสิเพคะ ทำไมโง่อย่างนี้ แต่ในเมื่อมันตกพื้น ไปแล้วก็ช่างเถอะ มานี่ ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ข้าจะพา องค์ชายเจ็ดกลับห้องไปบรรทม
ระหว่างที่พูด ซูล่อก็ดึงเซียวซูไปลุกไป ตอนที่นางเดินผ่านอด ไม่ได้ที่จะจ้องบ่าวคนนั้นเล็กน้อย จากนั้นก็พาเขียว ออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แสงจันทร์นุ่มนวลกระจายเงาลางๆ บนร่างคนสองคนคนหนึ่ง เดินหน้าคนหนึ่งตามหลัง

และมันบดบังสายตาชายที่อยู่ข้างหลังนางในเวลานี้ ซึ่งมีแวว ประหลาดและซับซ้อน มันราวกับสงสัย ราวกับค้นหา และราวกับ สนุกที่ได้เจอสิ่งใหม่น่าสนใจ

สุดท้ายแล้วมันก็เป็นอย่างที่เคย ทั้งหมดล้วนถูกปกคลุมด้วย ความโง่เขลาเช่นเดิม ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น…

ค่ำคืน

ร่างลึกลับโผล่ออกมาจากเงาต้นไม้ รูปร่างเหมือนผู้ชาย เขาเดินไปตามทางอย่างระมัดระวังตัวไปจนถึงครัวจาน

ตึกตึกตึก

“ใคร…” ด้านในมีเสียงของหญิงวัยกลางคนดังออกมาอย่าง ระแวดระวังสุดขีด

“ข้าเอง” ผู้ชายเอ่ยเสียงกด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ