เสน่หา เมียนอกหัวใจ

บทที่ 12 เมา(เกินเลย)



บทที่ 12 เมา(เกินเลย)

หลายวันต่อมา

ปายเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้อง ณ คอนโดแห่งหนึ่งพร้อมกับเคาะ ประตูสองสามครั้งด้วยความเป็นห่วงคนข้างใน เธอรอให้เขาออกมาเปิด ให้แต่กลับไม่มีวี่แวว เธอจึงสองผลักเปิดประตูออกพอเห็นว่าเปิดได้ เธอจึง ค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องช้าๆ พร้อมกับกวาดสายตามองหาห้องนอน

ร่างบางเดินตรงเข้าไปในห้องนอนกว้างมองหาคนที่ขอร้องให้เธอมาหา แต่กลับว่างเปล่าไร้เงาคนคนนั้น ร่างบางกำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่กลับถูกรวบร่างเข้าไปกอดแนบชิดกับกายแกร่งของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ ตรงด้านหลังเธอเสียก่อน

“นายจะทําอะไรอะ” ปายสะดุ้งตกใจ

“ขอบใจนะ ทีเธอเป็นห่วงฉันแล้วมาหากัน”

“ถ้านายไม่ป่วยฉันไม่มีมาหาให้เสียเวลาหรอก ว่าแต่นายหายแล้วเหรอ ถึงได้มากอดฉันแบบนี้ ปล่อยได้แล้ว” ปายพยายามดิ้นจะออกจากอ้อม

แขน

“ใครบอกว่าฉันป่วยล่ะ”

“หมายความว่ายังไง” ปายหยุดชะงักนิ่งไป

“ฉันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ฉันแค่อยากจะเรียกร้องความสนใจจากเธอ พูดพลางปล่อยร่างบางเป็นอิสระ

“ทนายพยายามโทรหาฉันแต่เช้า ขอร้องให้ฉันมาหาถึงที่นี้ เพราะตัวเองกำลังป่วยหนักไม่มีแรงเดินไม่มีใครดูแล หมายความว่าที่ นายพูดมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องโกหกเหรอ”

“ใช่ ถ้าไม่ทำแบบนี้ เธอจะเห็นใจยอมมาหาฉันเหรอ

“นายเล่นบ้าอะไรของนาย ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ”

“ฉันมีเหตุผล ฟังฉันหน่อยนะ”

“ไม่! ฉันจะกลับ”

“ได้ ในเมื่อเธอไม่ยอมฟังอะไรจากปากฉัน งั้นฉันจะบอกเธอผ่านทาง ภาษากายก็แล้วกัน” นัทคว้าร่างบางที่ทำท่าจะเดินออกไปเข้ามาประกบจูบ ริมฝีปากบางทันควัน

“อื้อ” ปายพยายามดิ้นขัดขืนแต่กลับถูกมือหนายกขึ้นมาจับตรึงเรียว หน้าของเธอเอาไว้แน่นไม่ให้ขยับหนี

บ่ายจึงหยุดนิ่งไม่ขัดขืนหลับตาลงรับสัมผัสรสจูบจากริมฝีปากหนา อย่างเผลอไผล ลิ้นหนาค่อยๆ ซอกซอนเข้าไปในโพลงปากหวานเกี่ยววัด ลิ้นบางไปมาอย่างดุดัน เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติจนสมใจแล้วชายหนุ่มก็ถอน ริมฝีปากออกมามองใบหน้าเนียน

“ยกเลิกงานหมันเถอะนะ” นัทเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริง

“อะ…อะไรนะ!” ปายเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก

“เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันพูดจริงๆ ”

“นายทำแบบนี้ทำไม ฉันไม่เข้าใจ

“จูบเมื่อกี้ เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
“คือฉัน” ปายพูดไม่ออกเพราะกำลังสับสนอยู่

“รับปากฉันได้ไหม ว่าเธอจะยกเลิกงานหมั้นทั้งหมด

“ไม่ ฉันทำไม่ได้”

“อย่าฝืนใจตัวเอง หมั้นกับคนที่เธอไม่ได้รักเลยนะ”

“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง”

“เปิดใจให้ฉันเถอะนะ ถ้าเธอยังชอบฉันอยู่”

“นาย!” ปายตกใจเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากของชาย หนุ่มที่มองข้ามเธอมาตลอดหลายปี

“ฉันว่าเราอย่าเสียเวลาคุยกันอยู่เลยนะ” นัทพูดพลางซ้อนอุ้มร่างบาง

“นายจะทําอะไร ปล่อยฉันลงนะ!” ปายพยายามดิ้นขัดขืนด้วยความ

ตกใจ

“เดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ” ตรงไปที่เตียงพร้อมกับวางร่างบางลงพร้อมกับ ขึ้นคร่อมทาบทับกักร่างสาวเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

“นายจะทำอะไร” ปายเริ่มหวาดหวั่น

“เธอว่าฉันจะทำอะไรดีล่ะ” นัทยิ้มเจ้าเล่ห์

“นายไม่ควรทำแบบนี้นะ

“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ก็ในเมื่อหัวใจของเราสองคนตรงกัน จริงไหม” ยื่น หน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าเนียน

“ใครบอกว่าฉัน ใจตรงกันกับนาย
“แน่ใจนะ ว่าไม่ตรง แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ” ก้มลงหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง

“นายหยุดทำบ้าๆ กับฉัน เดี๋ยวนี้เลยนะ!”

“ทำไมล่ะ เธอไม่ชอบเหรอหม

“ใช่ฉันไม่ชอบ!” ปายพูดพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง

“งั้นฉันจะทำให้เธอชอบเอง” พูดจบก็ประกบจูบริมฝีปากบางทันที

“อื้อ”ร่างบางเปล่งเสียงอยู่ในลำคอพยายามจะหนีการจู่โจมครั้งที่สอง แต่กลับไม่เป็นผล ริมฝีปากหนาทั้งบดทั้งขยี้ซอกซอนลิ้นเข้าไปในโพลง ปากหวานจนสําเร็จ เมื่อเห็นว่าสาวใต้ร่างเริ่มจะหายใจไม่ทันชายหนุ่มจึง ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก

“จะหยุดเถียงแล้วฟังฉันดีๆ ได้หรือยังยิ้ม” ชายหนุ่มจ้องใบหน้าเนียน ตาเป็นมัน

“อืม ก็ได้ฉันจะฟัง”

“ยกเลิกงานหมั้น แล้วมาเป็นแฟนกับฉันได้ไหม”

“นายกำลังขอฉันเป็นแฟนงั้นเหรอ”

“อืม ฉันกำลังฃอเธอเป็นแฟน”

“แล้วบัวล่ะ นายชอบบัวมากไม่ใช่เหรอ”

“ก็ไม่เท่าที่เธอชอบฉันหรอกใช่ไหม”

“ใช่ฉันยอมรับว่าฉันชอบนายมาก แล้วนายล่ะอะไรโดนใจให้มาขอฉัน เป็นแฟนเอาป่านนี้”
“เพราะฉันกลัวจะเสียเธอไปให้ผู้ชายคนอื่นนะ

“นายนี่มันบ้าจริงๆ เลย” ปายเขินอายหน้าแดง

“ว่าไงตกลงจะเป็นแฟนกับฉันไหม

“อืม” ปายพยักหน้ารับด้วยความเขินอาย

“พยักหน้าแบบนี้แสดงว่าตกลงแล้วใช่ไหม” นัทเชยคางมนขึ้นเงยขึ้น มองหน้าเขาตรงๆ

ปายไม่ตอบโต้ใดๆ แต่กลับจ้องมองเข้าไปในดวงตาคมกริบของชาย หนุ่มด้วยความรู้สึกอยากที่จะครอบครองเป็นเจ้าของชายหนุ่มแต่เพียงผู้ เดียว ซึ่งความรู้สึกนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากชายหนุ่มที่มองเธอตาเป็นมันเหมือน กัน ริมฝีปากของคนทั้งคู่ค่อยๆ ขยับเข้ามาประกบกันช้าๆ ตามหัวใจที่ ร้องเรียกหา

ระหว่างที่ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่จูบสร้างรสรักให้แก่กันและกัน มือหนา ก็ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามสัดส่วนเรือนร่างเนียน เพื่อปลุกอารมณ์สาวให้ลุก โชนขึ้น ไม่กี่อึดใจทั้งสองร่างก็เปลือยเปล่าล่อนจ้อน ร่างแกร่งยกแหกขา เรียวยาวทั้งสองข้างออกจากกัน จากนั้นก็ใช้นิ้วมือสอดใส่เข้าไปในร่อง สวาทอย่างช้าๆ สร้างความเสียวซ่านให้แก่กายสาวเป็นอย่างมาก

“ซี๊ด…นายฉันไม่ไหวแล้ว” ปายเปล่งเสียงแหบพร่า

“ฉันจะช่วยเธอเอง” ก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางพร้อมกับสอดใส่ท่อน เอ็นร้อนเข้าไปในร่องสวาทที่มีน้ำหวานใสไหลชโลมออกมาด้านนอกช้าๆ จนสุดมิดล่า

“นายเบาๆ นะ ฉันเจ็บ” ร่างบางเอ่ยเสียงแหบพร่านิ่วหน้ารับการรุกล้าครั้งแรก

“ได้สิ ฉันจะทำให้เธอมีความสุขที่สุดเลย” กระเด้าเอวสอบเข้าร่องสวาท

ช้าๆ

“อือ…อ๊าส์…ซีด” ปายเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ

“โอย… มันแน่นมากเลย” นัทซูดปากด้วยความเสียวซ่านกระเด้าเอว สอบเข้าหาร่องสวาท ในจังหวะช้าและเร็วสลับกันไปมา เพื่อสร้างความ เคยชินให้กับเป็นอวบอูมที่ไม่เคยผ่านการล่วงล้ำใดๆ มาก่อนได้ปรับตัว

ร่างแกร่งพาท่อนเอ็นร้อนเข้าออกร่องสวาทสาวเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนพา ร่างสาวที่นอนราบอยู่ใต้กายเสร็จสมไปก่อนล่วงหน้า จากนั้นเขาก็ตามเธอ ไปติดๆ เปล่งเสียงคารามพร้อมกับปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งแตกกระจาย ภายในร่องสวาทด้วยความสุขสม

“เป็นยังไงบ้าง เจ็บไหม” นัทกกกอดร่างบางเอาไว้แนบอกกว้าง

“อืม เจ็บ ก็ครั้งแรกของฉันนี่”

“แล้วมีความสุขไหม

“อืม มีสิ”

“ขอบคุณนะ ที่ยอมเป็นของฉัน” ก้มลงจูบหน้าผากมนเบาๆ

“ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีวันนี้

“ยังไงเหรอ”

“ก็เมื่อก่อนนายไม่ชอบขี้หน้าฉันไม่ใช่เหรอ แล้วอยู่ๆ วันนี้ก็มาขอเป็น แฟน พอตกลงนายก็รวบรัดฉันเลย ฉันตั้งตัวไม่ทันแล้วรู้ไหม”

“ใครบอกว่าไม่ชอบล่ะ แค่ปากกับใจไม่ตรงกันก็เท่านั้นเอง เธอจำวันที่ ฉันช่วยเธอที่ผับวันนั้นได้ไหม จริงๆ แล้วฉันแอบตามเธอไปเองเพราะเป็น ห่วง”

“เป็นห่วงแล้วทำไมไม่บอกกันตรงๆ ล่ะ”

“ก็เพราะตอนนั้นฉันยังไม่รู้ใจตัวเองยังไงล่ะ”

“เป็นห่วงฉัน แต่ใจของนายก็มีแต่บัวตลอดมาใช่ไหมล่ะ”

“ใช่ แต่ตอนนี้มันอยู่ที่เธอแล้วนะ” “อะไรทําให้นายตัดใจจากบัวได้ล่ะ”

“เพราะความชัดเจนและใจแข็งของบัวมั้ง และที่สำคัญพอฉันรู้ว่าเธอ กำลังจะหมั้นกับคนอื่น มันยิ่งทำให้ฉันรู้ใจตัวเอง”

“นายแน่ใจนะว่าจะตัดใจจากบัวได้จริงๆ”

“แน่ใจ เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ ฉันไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากเธอเด็ด ขาด”

“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ นายลองเปลี่ยนใจดูสิน่าดู

“ไม่ทันไร ก็หึงฉันแล้วเหรอ”

“บ้า ฉันเปล่าสักหน่อย”

“เธอเป็นของฉันแล้ว อย่าลืมไปจัดการยกเลิกงานหมั้นด้วยนะ”

“ฉันไม่แน่ใจนะว่ามันจะสำเร็จไหม” ปายพูดด้วยใบหน้าเคร่งเครียดลุกขึ้นนั่ง

“ทําไมล่ะ เธอก็แค่บอกว่าไม่อยากหมั้นแล้ว เพราะไม่ได้รักกัน”

“แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเขาหวังในตัวฉันกับพี่ทนมากเลยนะ ท่านต้องผิด หวังในตัวฉันแน่ๆ อีกอย่างเหตุผลไม่ได้รักกันมันยังมีน้ำหนักไม่มากพอ หรอก”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไปคุยกับพ่อเธอเอง”

“ไม่ได้นะ!” ปายตกใจ

“ทำไมล่ะ เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ ฉันจะได้คุยเรื่องของเราด้วย อีกอย่าง ถ้าฉันไปด้วยตัวเองคำพูดมันจะดูมีน้ำหนักมากกว่า ที่เธอจะคุยกับท่าน ด้วยตัวเองเสียอีก”

“แต่ฉันกลัว”

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” สวมกอดปลอบร่างบาง

เอาไว้แน่น

“ฉันดีใจมากเลย ที่นายจริงจังกับฉัน เราจะไปพบคุณพ่อพร้อมกันนะ” ปายยิ้มกว้างมีความสุข

“อืม อย่าเพิ่งกลับนะอยู่กับฉันก่อน” ก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีปากบาง ทันที จากนั้นบทรักบทใหม่ก็ถูกปลุกลุกโซนอีกครั้งด้วยความเต็มใจและ สุขสมกันทั้งสองฝ่าย

ณ บ้านไกรณรงค์บัวตองเดินเข้ามาในบ้านด้วยความน้อยใจ และคนที่ ทําให้เธอเป็นแบบนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นวินแน่นอน ตอนแรกเธอคิดว่าวินจะ กลับบ้านพร้อมเธอหลังจากที่ทำงานเสร็จ แต่ที่ไหนได้ชายหนุ่มกลับให้เธอ นั่งแท็กซี่กลับบ้านเอง เพราะเขามีนัดกับษา ร่างบางทิ้งตัวนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้บรรยากาศในบ้านเงียบเชียบกว่าปกติ เพราะ เนตรนภาไม่อยู่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดต่างจังหวัดหลายวัน บัวตองพยายาม สลัดความคิดฟุ้งซ่านในใจทิ้ง แล้วตรงหายเข้าไปในห้องน้ำทันที

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งษากำลังนั่งมองหน้าวันด้วยความรู้สึกผิดและ กังวลในใจ เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกไปมันจะทำให้เขาเจ็บปวด เสียใจ แต่เธอไม่อยากจะทำร้ายชายหนุ่มตรงหน้าลับหลังอีกไปแล้ว และ วันนี้มันถึงเวลาแล้วที่เธอกับเขาจะต้องตัดขาดกันและกันสักที ซึ่งมันเป็นสิ่ง ที่ควรจะทําตั้งนานแล้ว เพื่อความรักของเธอกับนแพล

“ษามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

ที่มานัดวินมาเจอที่นี่ จริงๆ แล้วษามีเรื่องสำคัญจะบอกคุณค่ะ”

“เรื่องอะไรเหรอ”

“ษาว่าเราเลิกกันเถอะค่ะ”

“อะไรนะ” วินถามอีกครั้ง

“เราเลิกกันเถอะค่ะ ษาไม่อยากจะทำร้ายคุณไปมากกว่านี้อีกแล้ว”

“ษาอย่ามาล้อผมเล่นน่า มันไม่ตลกเลยนะ” วินหัวเราะขบขัน

“ษาพูดจริงๆ ค่ะ ษาไม่ได้รักคุณแล้ว” ษาเอ่ยเสียงหนักแน่นจริงจังพร้อม กับจ้องหน้าวิน
“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากษา” วันเริ่มหน้า ถอดสี

“ตัดใจจากษาซะเถอะนะคะ เราสองคนไปกันไม่ได้จริงๆ ค่ะ”

“ทําไม มาบอกผมมาสิ ว่าผมไม่ดีตรงไหนควรจะปรับปรุงตัวเองยังไง อย่าทำแบบนี้เลยนะ ษาก็รู้ว่าผมรักษาแค่ไหน” ยื่นมือหนาไปจับกุมมือบาง เอาไว้

“มันไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ ทุกอย่างมันเป็นเพราะษาเอง” ซักมืออก จากการจับกุม

“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ”

“จริงๆ แล้วษาไม่ได้รักคุณเลยค่ะ แต่ที่ต้องทำเป็นรักก็เพราะเราหมั้นกัน แล้วไม่อยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเสียใจ และที่สำคัญหาทำเพื่อให้คุณพ่อ สบายใจและไม่มาสนใจจับผิดษาว่าจะไปคบหาผู้ชายคนไหนนอกจากคุณ แต่สุดท้ายษาก็เผลอใจไปรักคนอื่นจนได้คะ”

“มันเป็นใคร!” วินขบกรามแน่นด้วยความเจ็บปวดเสียใจผิดหวังเหมือน ทุกอย่างตรงหน้ากำลังจะพังทลาย

“นาบอกไม่ได้ค่ะ เรื่องของเราขอให้จบแค่นี้เถอะนะคะ” พูดพลางลุกขึ้น

“รักมันมากเลยเหรอ ถึงบอกไม่ได้ว่ามันเป็นใคร” วินเอ่ยเสียงสั่นเครือ

น้ำตาคลอเบ้า

“อย่ารู้ให้ตัวเองต้องเสียใจไปมากกว่านี้เลยค่ะ ษาขอร้อง

“มันคงจะสำคัญมากสินะ ถึงบอกไม่ได้ว่ามันเป็นใคร ที่ยืดเยื้อไม่ยอม แต่งงานกับผมมานานตั้งหลายปีก็เพราะแบบนี่สินะ”

“มาขอโทษ” พูดพลางกลั้นน้ำตาเอาไว้

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราอยู่ด้วยกัน บอกรักกัน นอนด้วยกัน มันไม่มี อะไรจริงเลยใช่ไหม แต่ที่ทำไปก็เพราะความต้องการของผู้ใหญ่” วินมอง หน้าษาตาแดงกา

“มันไม่ใช่ทั้งหมดหรอกค่ะ ษาเคยรักคุณแต่มันยังไม่มากพอเท่านั้นเอง” “ษารู้ไหมว่าผมกำลังจะขอแต่งงานเร็วๆ นี้ แต่ไม่คิดเลยว่ามาจะเหยียบ หัวใจของผมได้ลงคอ”

“ษาขอโทษ ที่ทำให้คุณเสียใจ” พูดพลางน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ผมไม่รับค่าขอโทษ แต่ผมขอแค่คุณกลับมารักและอยู่กับผมเหมือน เดิม ทําได้ไหม” วินส่งสายตาอ้อนวอนอย่างคนหมดสิ้นหนทาง

“ษาทำไม่ได้ค่ะ อย่างษาไว้เลยนะคะ ษาก็เสียใจไม่ต่างอะไรกับคุณ หรอกค่ะ ที่ทำร้ายคุณลับหลังตลอดเวลา” พูดพลางปาดน้ำตาทิ้งหมุนตัว หันหลังให้ชายหนุ่ม

“ษา อย่าไปนะ ผมขอร้อง” วินเข้าสวมกอดษาทางด้านหลังทั้งน้ำตาลูก

ผู้ชาย

“วิน ปล่อยมาไปเถอะนะ” แกะมือหนาออกจากเอวด้วยความละอายใจ “ผมรักคุณ อย่าใจร้ายทิ้งผมไปเลยนะษา ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ
“ตัดใจจากษาเถอะนะคะ อย่าบังคับให้มารักคุณเลย บาหวังว่าสักวัน

คุณจะเจอคนที่รักคุณจริงๆ “ไม่! ไม่ว่าใครก็มาแทนที่ษาไม่ได้หรอก ษายังรักผมอยู่แต่ที่มาบอกเลิก

ผมก็เพราะกำลังหลงคารมผู้ชายคนนั้นอยู่ใช่ไหมษา”

“อย่าหลอกตัวเองเลยค่ะ ษารักเขาค่ะ รักมานานแล้วด้วย แต่ทําได้แค่

แอบซ่อนเอาไว้”

“ผมไม่สนว่ามันจะเป็นใครหรอก ษาไปบอกเลิกกับมันเถอะนะผม ขอร้อง” วินคุกเข่าลงกับพื้นเกาะขาหญิงสาวเอาไว้

“ไม่ค่ะ ปล่อยษาไปเถอะ แล้วอย่ามายุ่งกับมาอีกเด็ดขาด” สลัดขาออก จากมือหนาแล้วรีบเดินตรงออกไปจากร้านทั้งน้ำตา

“บา! อย่าไป! ผมขอร้อง!” วินวิ่งตามร่างบางไปจนถึงรถ

บาเห็นวินวิ่งตามหลังเธอมาติดๆ จึงรีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งพร้อมกับ สตาร์ทเครื่อง จังหวะที่กำลังจะขับออกไปวินก็วิ่งมาถึงที่รถพอดี ชายหนุ่ม ใช้มือเคาะกระจกรถร้องเรียกเธอให้เปิดประตูรถทั้งน้ำตา แต่หญิงสาวก ลับไม่แม้จะสนใจหันมามองเขาสักนิด แต่กลับเร่งเครื่องยนต์ผ่านหน้าชาย หนุ่มออกไปด้วยความรวดเร็ว วันที่เกาะประตูรถไว้จึงทรุดตัวล้มลงกับพื้น ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเจียนขาดใจ

มาเดินเข้าไปในบ้านก็เจอประพันธ์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอจึงเดิน เข้าไปนั่งลงตรงข้ามบิดาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง เธอตั้งใจจะบอกสิ่งที่เธอ เพิ่งทำมาหมาดๆ ให้บิดาได้รับรู้ในตอนนี้เลย เพื่อจะได้ปลดปล่อยตัวเอง ออกจากความทุกข์ใจนี้สักที
“คุณพ่อค่ะ ษามีเรื่องสําคัญจะบอกค่ะ” หญิงสาวเปิดประเด็นขึ้นทันที

“เรื่องอะไร” ถามพลางตามองหน้าจอโทรทัศน์

“มาบอกเลิกงินแล้วนะคะ

“อะไรนะ ไหนแกลองพูดใหม่” ประพันธ์เริ่มที่จะนั่งไม่ติด

“ษาเพิ่งจะบอกเลิกวินไปเมื่อกี้ค่ะ”

“แกเป็นบ้าไปแล้วเหรอ! แกกล้ามากที่ท้าทายฉัน!” ประพันธ์ลุกขึ้นยืน ด้วยความโกรธ

“คูณพ่ออย่าบังคับมาอีกต่อไปเลยนะคะ ษาไม่ได้รักวิน แต่นารักษ์พระ”

“กลับไปคืนดีกับวินซะ ”

“ไม่ค่ะ มารักนพ เราสองคนจะแต่งงานกัน คุณพ่ออย่ากีดกันเราสองคน เลยนะคะ ษาขอร้อง” มานั่งลงเกาะขาบิดาเอาไว้

“ไม่! ยังไงแกก็จะต้องแต่งงานกับวินคนเดียวเท่านั้น!!

“ไม่ค่ะ ษาไม่แต่ง มารักนพษาจะแต่งกับนพคนเดียวเท่านั้น” ษาสาย หน้าน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ไอ้หมอนั้นมันมีดีอะไรนักหนา มันก็แค่พนักงานกระจอกๆ คนหนึ่ง ที่ให้ ตายสักสิบชาติก็สู้วินที่เป็นเจ้าของบริษัทแปรรูปชาไทยอันดับต้นๆ ของ ประเทศที่มีเงินหลายหมื่นล้านไม่ได้หรอก”

“ษาไม่ต้องการเงินค่ะ ษาต้องการความสุข อย่าบังคับมาอีกเลยนะคะ คุณพ่อมาขอร้อง”
เพียะ! ฝ่ามือประพันธ์ฟาดเข้าไปที่แก้มด้านซ้ายของษาจนหน้าหันไปอีก

ทาง

“คุณพ่อ” มาตก ใจหันมามองหน้าบิดาด้วยสายตาตัดพ้อ

“สติแกกลับมาหรือยัง ถ้าแก อยากจะให้ฉันตายคาตีนพวกแก๊งทวงหนี้ ก็ไปอยู่กับมันซะ!”

“คุณพ่อ ว่าอะไรนะคะ”

“ตอนนี้ฉันเป็นหนี้ที่บ่อนแถวชายแดนห้าล้าน กลับไปคืนดีกับวินซะ ถ้า ไม่อย่างนั้นเตรียมจัดงานศพฉันได้เลย”

“คุณพ่อก็รู้ว่าบ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แล้วทำไมถึงก่อหนี้เพิ่ม อีกคะ หาไม่เข้าใจ”

“แกไม่ต้องมาย้อนถามฉัน หน้าที่ของแกก็คือไปคืนดีกับวินซะ”

“ถ้าไม่มีจ่ายจริงๆ งั้นก็ปล่อยให้เขายึดที่ยึดบ้านบริษัทไปเถอะค่ะ ษาจะ

ไม่ทำตามที่คุณพ่อสั่งอีกแล้ว” หมุนตัวหันหลังให้บิดาทันที

“แกแน่ใจนะว่าจะไม่แต่งงานกับวิน”

“ค่ะ ษาจะไปอยู่กับนพ

“ถ้าแกไม่แต่งงานกับวิน งั้นก็เตรียมตัวไปเป็นเมียเสี่ยเจ้าของบ่อนที่ ชายแดนได้เลย”

“คุณพ่อพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงคะ” มาหันไปมองหน้าบิดาตรงๆ “ฉันคุยกับเสียแล้ว ถ้าไม่มีเงินจ่ายฉันจะเอาตัวแกไปใช้หนี้แทน
“คุณพ่อ ยังเห็นมาเป็นลูกอยู่ไหมคะ ทำไมถึงทำแบบนี้ คุณพ่อไม่เคย รักษาเลย มาไม่น่าเกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อเลย” มาร้องไห้สะอึกสะอื้น

“เลือกเอาแกจะเป็นเมียเสียหรือเมียน และอย่าคิดจะหนีไปอยู่กับไอ้ กระจอกนั้นนะ ฉันจะให้เสียไปลากคอแกกลับมา” ประพันธ์ข่มขู่ลูกสาว

” ในที่สุด คุณพ่อก็เลือกความสุขของตัวเองมาก่อนเสมอ ไม่เคยแคร์

ความรู้สึกของษาเลย” พูดจบมาก็เดินขึ้นห้องทั้งน้ำตา

ณ บ้านไกรณรงค์ช่วงกลางดึกวินพาร่างของตนเองที่มีอาการมึนเมาจาก ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดีมมาอย่างหนักเพื่อย้อมใจให้ลืมความเจ็บปวดในใจ เดินขึ้นบันไดเพื่อไปยังห้องนอนของตนเอง ซาแกร่งเดินโซซัดโซเซไปมา จนไปถึงหน้าประตูห้องตนเองจนสำเร็จ แต่จังหวะที่กำลังจะยื่นมือไปเปิด ประตูร่างทั้งร่างก็ล้มลงไปกองกับพื้น

เสียงกุกกักข้างนอกทำให้บัวตองที่นอนไม่หลับลุกลงจากเตียง เดินออก มาดูตรงหน้าห้องของตนเอง ระหว่างที่กำลังกวาดสายตามองหาต้นเหตุ ของเสียง ตาก็เหลือบไปเห็นวินนอนกองกับพื้นอยู่ตรงหน้าห้องของตนเอง บัวตองเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้าไปพยุงชายหนุ่มให้ลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“พี่มานอนอะไรตรงนี้คะ” พูดพลางทำหน้าบิดเบ้เพราะเหม็นกลิ่นสาบ

เหล้าจากตัวของชายหนุ่ม

“ษา…มาหาผมแล้วเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหันมามองหน้าบัวตอง
“ทำไมดื่มหนักขนาดนี้คะ ไปคะ บัวจะพาไปนอน” พูดพลางผลักเปิด ประตูประคองชายหนุ่มเข้าไปในห้องนอน บัวตองค่อยๆ ปล่อยทิ้งร่างแกร่งที่เมาขาดสติที่เอาแต่เพ้อหาษาลงนอน

บนเตียง จากนั้นก็จัดการถอดถุงเท้ารองเท้าออกให้ชายหนุ่ม พร้อมกับดึง

ถอดเข็มขัดราคาแพงออกจากเอวให้ชายหนุ่มได้นอนสบายมากขึ้น พอ

เสร็จเธอก็ตรงเข้าไปในห้องน้ำผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ มานั่งเช็ดหน้าให้ชาย

หนุ่ม

“ษา” ทันทีที่มือบางแตะลงบนหน้าชายหนุ่มก็ตะครุบจับไว้ทันควัน

“บัวเองค่ะ ไม่ใช่คุณษา”

“ษาอย่าทิ้งผมไปนะ ผมรักคุณ ได้ยินไหม” พูดพลางน้ำตาค่อยๆ ไหล ออกจากหางตาช้าๆ

“พี่ทะเลาะกับคุณมาเหรอคะ ถึงได้เสียใจร้องไห้อย่างนี้” บัวตองใช้นิ้ว

เรียวสวยปาดเช็ดน้ำตาออกให้ชายหนุ่มด้วยความอ่อนโยนสงสาร

“พี่นอนพักผ่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวคุณษาเขาก็มาหาพี่เองค่ะ” พูดพลางใช้ ผ้าเช็ดไปตามใบหน้าสากอย่างเบามือพร้อมกับมองพินิจ ใบหน้าอันหล่อ เหลาด้วยความเผลอไผล

“ษา อยู่กับผมนะ” มือหนาจับมือบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“พี่เมามากแล้ว นอนเถอะนะคะ” บัวตองพยายามดึงชักมือออกจากการ จับกุมแต่กลับไม่เป็นผล

“พี่ปล่อยมือบัวได้แล้วค่ะ ” บัวตองยังคงพยายามซักมือออก
“ษา ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนอีกเด็ดขาด” พูดพลางรวบรวมแรงลุกขึ้น

นั่งรวมร่างบางเข้ามาโอบกอดแล้วผลักลงบนเตียงขึ้นคร่อมทาบทับเอาไว้ “ว้าย! พี บัวเอง ไม่ใช่คุณมา” บัวตองตกใจเบิกตาโตจ้องมองหน้าคน

บนร่าง

“ผมรักคุณนะ อยู่กับผมอย่าไปไหนอีกได้ไหม” วินจ้องมองใบหน้าเนียน

ด้วยความเลือนรางพร้อมกับก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีบางทันที

“อื้อ..อย่า” บัวตองดิ้นขัดขืนด้วยหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ

“อย่าดิ้นสิ เรากำลังจะมีความสุขด้วยกันนะ ที่รัก” มือหนาลูบไล้ไปตาม เรียวหน้าเนียนเบาๆ

“พี่วิน” บัวตองเอ่ยเสียงแผ่วเบานอนนิ่งไม่ไหวติ่ง

“เรามาสร้างความสุขไปด้วยกันนะ” ก้มลงประกบจูบริมฝีปากบางอย่าง โหยหารักใคร่

ทันทีที่ริมฝีปากหนาประกบจูบริมฝีบางระเรื่อ อมชมพูดวงตากลมโตอัน ใสซื่อก็ปิดลงรับสัมผัสที่ชายหนุ่มมอบให้ด้วยความเต็มใจ เธอรู้อยู่แก่ใจ ว่าชายหนุ่มเห็นเธอเป็นคนอื่นไปแล้ว เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่หากเธอ ขัดขืนไปก็ไม่เป็นผลอยู่ดี เธอจึงปล่อยให้ชายหนุ่มได้มอบสัมผัสแปลก ใหม่ให้เธอไปตามใจปรารถนาของชายหนุ่ม

ร่างสาววาบหวามไปทั่วกายทุกครั้งที่ชายหนุ่มลูบไล้ไปตามกายสาว ริม ฝีปากหนาซุกใช้ไปตามลำคอขาวเนียนแล้วเลื่อนลงไปยังหน้าอกเต่งตึงทั้ง สองมือหนาบีบเคล้นไปมาอย่างอื่นกระหาย มือหนาจัดการถลกชุดนอน กระโปรงออกไปจากกายสาวอย่างรวดเร็วและตามด้วยเสื้อผ้าของตนเอง

ร่างแกร่งทาบทับร่างบางจมมิดอยู่ใต้ร่าง พร้อมกับส่งนิ้วมือเรียวยาว สอดใส่เข้าไปในร่องสวาทช้าๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ในกายสาวให้ลุกโชน ขึ้น ร่างบางที่ไม่เคยถูกรุกล้ำจุดสงวนสะดุ้งสุดตัวทำให้คนบนร่างอดที่จะ แปลกใจไม่ได้ แต่ด้วยความความปรารถนาที่อยากจะร่วมสุขกับกายสาว เขาจึงไม่สนอาการใดๆ จากคนใต้ร่างทั้งนั้น

มือหนาจับท่อนเอ็นร้อนอันแข็งซึ่งเต็มที่ค่อยๆ จ่อเข้าทางร่องสวาททันที ที่ชักนิ้วมือที่นำร่องไปก่อนออก ร่างบางแทบจะหยุดหายใจในทันทีเมื่อถูก ท่อนเอ็นใหญ่ดุนดันเข้ามาในร่องสวาทอันแสนคับแคบนี้อย่างดุดัน ริม ฝีปากบางเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ร่างแกร่งพาท่อนเอ็น ร้อนที่เพิ่งเข้าไปได้แค่ครึ่งทางกระเด้าเอวสอบอีกครั้งท่อนเอ็นร้อนก็เข้าไป กระแทกภายในร่องจนสุดมิดลำ

“โอย…ซี้ด” เสียงทุ้มครามด้วยความเสียวซ่านพึงพอใจ

“พี่บัวเจ็บ…ซี๊ด” ร่างบางผวาเข้ากอดร่างหนาเอาไว้

ร่างหนาไม่สนค่าประท้วงใดๆ ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความกำหนัด จิตใต้สำนึกยังคงบอกเขาว่าคนที่กำลังร่วมรักครอบครองกายสาวอยู่เป็น คนรักของตนเองอยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มไม่สนความคับแน่นและขนาด สัดส่วนของเรือนร่างที่เปลี่ยนไป ยังคงเดินหน้าพาท่อนเอ็นร้อนไร้สิ่งห่มหุ้ม ป้องกันใดๆ เข้าออกร่องสวาทที่ฉีกขาดจากการถูกรุกล้ำจนมีเลือดซิบออก มาเล็กน้อย

ร่างบางหัวสั่นหัวคลอนไปมาจากแรงกระแทกเข้าออกร่องสวาทครั้งแล้ว ครั้งเล่า ไม่นานความเจ็บปวดก็แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน เธอจึงเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ พร้อมกับจับข ผ้าปูที่นอนไว้ทั้งสองมือเพื่อระบายความเสียวซ่านที่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนกาย สาว แรงกระแทกส่งผลให้เกิดเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง ไม่กี่ อึดใจชายหนุ่มบนร่างก็เปล่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรัก สีขาวขุ่นพุ่งแตกกระจายภายในร่องสวาทด้วยความสุขสมใจ ร่างบาง หลับตาพริ้มเกร็งกระตุกเสร็จสมรับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบพาน มาก่อนด้วยหัวใจที่เต้นรัวหายใจหอบ

ร่างหนาคตแช่ท่อนเอ็นร้อนคาอยู่ในร่องสวาทอยู่อย่างนั้นเพื่อรีดน้ำรัก ปล่อยในช่องรักให้หมดทุกหยด จากนั้นก็ถอดถอนท่อนเอ็นที่ยังคงแข็ง งออกจากร่องสวาทช้าๆ ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ร่างบางพร้อมกับหลับตาลง หายใจหอบถี่ บัวตองเห็นอย่างนั้นก็รีบพลิกตัวนอนหันหลังให้ชายหนุ่ม ทันทีด้วยความอับอาย แต่อยู่ๆ ก็ถูกมือหนารวมร่างเข้าไปกกกอดเอาไว้ แน่นแนบอกกว้าง

“ผมรักคุณนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแล้วหลับตาลง

บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็พยายามจะขยับตัวออกห่าง แต่ชายหนุ่มกลับ กอดรัดร่างเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม เธอจึงทำได้แต่นอนนิ่งซบหน้าลงกับอก กว้างแล้วหลับตาลงไม่นานเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราภายอ้อมกอดอันแสบ อบอุ่นของชายหนุ่มไปด้วยความเต็มใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ