เสน่หา เมียนอกหัวใจ

บทที่11 รักลับๆ



บทที่11 รักลับๆ

ณ ร้านค็อกเทลแห่งหนึ่งในกับนพพลกำลังนั่งดื่มด้วยกันอย่างผ่อน คลายอารมณ์ คืนนี้วันตั้งใจชวนนพพลมาดื่มเพราะเขามีเรื่องสำคัญจะ ปรึกษา และขอความเห็นจากเพื่อนรักที่สนิทที่สุด

“ฉันจะขอมาแต่งงาน” วันเปิดประเด็นขึ้น

“แกว่าอะไรนะ” นพพลถามกลับพร้อมกับเก็บอาการตกใจไว้ข้างใน

ลึกๆ

“ฉันจะขอมาแต่งงาน ฉันว่าเราสองคนคบหาดูใจกันมานานเกินไปแล้ว ล่ะ” ตลอดเวลาที่ผ่านมาษาปฏิเสธเขามาโดยตลอด จนเวลาล่วงเลยจนมา ถึงสี่ปี ถึงเวลาที่เขากับเธอจะสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่นได้แล้ว

“ใช่ มันจะนานเกินไปแล้ว”

“แกพูดแบบนี้ หมายความว่ายังไงวะ

“เปล่า ว่าแต่นายจะขอเมื่อไหร่ล่ะ

“ก็น่าจะเร็วๆ นี้แหละ

“ฉันขอให้นายโชคดีนะ”

“อืม ขอบใจ แกก็หาคนรู้ใจได้แล้วนะ” วันตบไหล่นพพลเบาๆ

นพพลไม่ตอบรับแต่กลับกระดูกแก้วค็อกเทลลงคอทันที วันเห็นท่าทาง นพพลเปลี่ยนไปก็แอบแปลกใจที่อยู่ๆ เพื่อนก็เงียบผิดปกติแถมยังสั่ง เครื่องมาเพิ่มเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าเขากำลังนั่งอยู่ข้างๆ แต่สุดท้ายวันก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจแทนที่ จะถามออกไปตรงๆ

ณ คอนโดใจกลางเมืองชายหญิงสองคนกำลังกกกอด กายกันแน่นมี ความสุขอยู่บนเตียงหลังจากบทรักอันเร่าร้อนเพิ่งจะจบลงหมาดๆ นพพลที่ มีอาการมึนเมาเล็กน้อย ใช้มือหนากกกอดร่างสาวที่เขารักและหวงแหน

ที่สุดไม่ยอมปล่อยเสมือนว่ากลัวเธอจะหายไป

“ทำไมวันนี้ถึงอยากให้มามาหาดึกๆ ตื่นๆ ขนาดนี้ค่ะ แถมพอเห็นหน้า กันก็เข้าจู่โจมอยากมีเซ็กส์ด้วยเลย โดยไม่พูดไม่จาอะไรกันก่อนสักคำ

“ไอ้วินมันกำลังจะขอมาแต่งงาน ”

“อะไรนะคะ!” นาตกใจลุกขึ้นนั่งทันควัน

“ษาฟังไม่ผิดหรอก มันเพิ่งบอกผมในร้านค็อกเทลก่อนที่ผมจะกลับมา นี่เอง”

“ที่นพมีสีหน้าเคร่งเครียดก็เพราะเรื่องนี้เองเหรอคะ”

“ใช่ ษาควรจะบอกเลิกมันได้แล้วนะ เราจะได้คบกันอย่างเปิดเผยสักที”

“ค่ะ ษาจะรีบจัดการ ษาจะทำทุกอย่างเพื่อความรักของเรา ถึงคุณพ่อจะ ไม่เห็นด้วยหรือวินจะโกรธษายังไง มาก็จะไม่สนใจอีกแล้ว”

“ษาไม่ต้องกลัวนะ ผมจะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อของคุณเห็นว่าผมรักและจริง ใจกับบามากไม่แพ้ไอ้วนมัน

“ค่ะ ษารักคุณนะคะ” ซบหน้าลงบนอกกว้างถูกกอดร่างหนาเอาไว้แน่น
“ครับ ผมก็รัก ษา” จูบหน้าผากมันเบาๆ

ทั้งสองคนแอบลักลอบมีความสัมพันธ์กัน หลังจากที่มาหมั้นกับวินตาม สัญญาของทั้งสองตระกูล ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ต่อหน้าวินษาก็ทำเป็น รักชายหนุ่มแต่พอลับหลังเธอก็แอบไปหานพพลอยู่ตลอดระยะหลายปีที่ ผ่านมา แต่ด้วยเธอหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้องเอาใจในทำตามที่ ชายหนุ่มต้องการ และที่สำคัญเธอต้องทำตามที่บิดาต้องการ โดยที่นพพล รับรู้เรื่องราวทุกอย่างมาตลอด ถึงแม้เธอจะร่วมหลับนอนกับวินเขาก็ไม่คิด จะรังเกียจในตัวเธอ เพราะชายหนุ่มเข้าใจเหตุผลที่ต้องทำเพื่อตบตาบิดา และวิน ให้ตายใจ

ษารู้ว่าวินกับนแอบรักเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ด้วยสัญญาของทั้ง สองครอบครัวเธอจะต้องแต่งงานกับวิน เธอจึงเปิดใจคบหากินในเวลานั้น จึงทำให้เธอรู้ว่าวันรักเธอมาก แต่สำหรับเธอมันไม่มากพอ จึงทำให้เธอ เผลอใจไปให้นพพล ทั้งคู่จึงแอบพูดกันลับๆ ตั้งแต่นั้นมา จนทั้งสามคน เรียนจบผ่านมาหลายปี เธอกับวินจึงเข้าพิธีหมั้นกันตามที่ผู้ใหญ่ทั้งสองคน ครอบครัวต้องการ ส่วนนพพลก็ยังคงคบกับเธอลับๆ เหมือนเดิม จนทั้งคู่ ตกเป็นของกันและกันโดยไม่มีใครระแคะระคายเลย

เหตุผลสำคัญที่ษายังคงทำตัวน่าสมเพชคบผู้ชายสองคน ในเวลา เดียวกัน ก็เพราะทําตามความต้องการของบิดา ที่ต้องการจะเกี่ยวดองเป็น ครอบครัวเดียวกันกับบ้านไกรณรงค์เพราะประพันธ์กับบิดาของวินเป็น เพื่อนรักกันและให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่าจะให้ลูกชายกับลูกสาวแต่งงาน

ประพันธ์จึงยื่นคําขาดกับเธอว่าต้องแต่งงานกับวินคนเดียวเท่านั้น ด้วยที่เหลือแค่เธอกับบิดาสองคนเธอจึงไม่อยากขัดใจท่าน กลัวท่านจะโกรธและผู้ใหญ่ผิดใจกัน เธอจึงตกอยู่ในสภาพนี้มาจนถึงทุก วันนี้ และกลัววินกับนพจะแตกหักกัน เพราะรักนพพลเธอจึงปฏิเสธที่จะ แต่งงานกับวินมาโดยตลอดหลายปีโดยอ้างเหตุผลต่างๆนานา เรื่องจึงถูก เก็บเป็นความลับมาโดยตลอด และตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะทำตาม หัวใจของตนเองสักที

เช้าวันใหม่ษากำลังยืนสำรวจตัวเองอยู่ตรงหน้ากระจกในคอนโดนพพล หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ นพพลที่เพิ่งตื่นจึงลุกลงจากเตียงเข้าไปสวมกอด เธอทางด้านหลัง พร้อมกับจูบไข้ไปตามซอกคอขาวเนียนอย่างหุ่นกระหาย

“ไปอาบนํ้าเถอะค่ะ เดี๋ยวสายไปทำงานไม่ทันนะคะ” มาหมุนตัวไปมอง หน้าชายหนุ่มตรงๆ

“นั้นสินะ ผมมันก็เป็นแค่ลูกจ้างไอ้วินมัน”

“อย่าพูดแบบนั้นสิคะ ไม่ว่าคุณจะมีหรือจน มาก็รักคุณค่ะ” ยื่นหน้า

เข้าไปหอมแก้มสากทีหนึ่ง

“ขอบคุณนะษา ที่รักของผม” นพพลสวมกอดร่างบางเอาไว้แน่น “รออีกหน่อยนะคะ เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยแล้ว”

“ครับ ผมจะรอ”

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งปายกำลังนั่งทานมื้อเที่ยงกับในชายหนุ่มว่าที่คู่ หมั้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่นอกร้านกลับมีสายตาคู่หนึ่งมองผ่านกระจก เข้าไปในร้านด้วยความพอใจ นัทยืนมองด้วยความอดทนเขาไม่อยากจะ เข้าไปแสดงตัวตอนนี้ รอให้เธอเดินออกมาเสียก่อน เขาจึงจะขอคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอีกครั้ง หลังจากที่คราวที่แล้วล้มเหลวไม่เป็นท่า เวลาผ่าน

ไปไม่นานนักปายกับดินก็เดินออกมาจากนอกร้าน นัทจึงเดินไปดักหน้า ปายไว้ “ปายฉันขอพูดด้วยหน่อยสิ” นัทพูดพลางมองหินที่ยืนอยู่ข้างๆ หญิง

สาว

“อย่าดีกว่า ฉันไม่สะดวก ไปกันเถอะค่ะพี่ทน” ปายหันไปทางว่าที่คู่หมั้น แล้วเดินผ่านนัทไป

“เดี๋ยวก่อนสิปาย เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” ทรีบคว้าแขนเรียวไว้ “ปล่อยนะ ท! เราไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีก” สลัดแขนออกจากการจับ กุมแรงๆ

“เธอไม่มีแต่ฉันมี ขอโอกาสให้ฉันหน่อยนะปาย”

“นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่ นายเกลียดฉันนักหนาไม่ใช่เหรอ ที่ ผ่านมานายเห็นฉันเป็นแค่ส่วนเกินระหว่างนายกับบัวมาตลอด แล้ววันนี้ฉัน กำลังจะมีความสุขกับคนที่เห็นค่าของฉัน แล้วนายจะเอาอะไรอีก อยากจะ ทําลายความสุขของฉันงั้นเหรอ” ปายตัดพ้อน้ำตาคลอเบ้า

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะปาย ฟังฉันอธิบายก่อนนะ” “เราต่างคนต่างอยู่เถอะ” พูดจบปายก็รีบเดินไปข้างหน้า

“ปายฉันขอร้องล่ะ ฟังฉันก่อน!”

ท่าจะเดินตามไป

“ผมว่าคุณหยุดเถอะ อย่ามาทำลายความสุขของเราสองคนเลย คุณก็ เห็นว่าปายไม่อยากจะคุยกับคุณ”

“แล้วคุณแน่ใจเหรอ ว่าที่ปายตัดสินจะหมั้นกับคุณเพราะว่าปายรักคุณ”

“เรื่องนั้นมันไม่เป็นปัญหาสําหรับผมหรอก คบหาดูใจกันไป เดี๋ยวก็รัก กันเองแหละ” พูดจบกินก็หมุนตัวหันหลังให้นัทแล้วเดินจากไป

นัทยืนนิ่งพร้อมกับใช้ความคิดจนหัวแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ในเมื่อ เผชิญหน้าคุยกันตรงๆ เธอไม่ยอมรับฟัง เขาคงจะใช้เล่ห์กลกับเธอบ้าง แล้วล่ะ นัทครุ่นคิดอยู่ในใจแล้วเดินจากไปเพื่อตั้งหลักใหม่อีกครั้ง

ปายเลือกที่จะเดินเลี่ยงไปยืนอยู่ข้างๆ รถทั้งน้ำตาไหลอาบแก้ม พร้อม กับยกมือขึ้นปาดทิ้ง เพราะเธอยังคงมีความรู้สึกผิดหวังเสียใจกับนัทอยู่ ที่ ผ่านมาเธอได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ แต่มาวันนี้ชายหนุ่มกลับเข้าหา เธออย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่เธอมีคนเคียงข้างกายแล้ว

“ปายไม่เป็นไรใช่ไหม” หินหยุดตรงด้านหลังร่างบาง

“ปายไม่เป็นไรคะ” ร่างบางหันไปส่งยิ้มให้ชายหนุ่มตาแดงก่ำ

“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลยนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“พี่ไม่รู้นะ ว่าปายกับผู้ชายคนนั้นมีเรื่องอะไรกัน แต่ว่าปายควรจะคุย กับเขาให้รู้เรื่องนะ เขาจะได้หยุดวุ่นวายกับปายสักที”

“ช่างเขาเถอะค่ะ ปายไม่มีอะไรจะคุยกับเขาแล้ว เรากลับกันเถอะ”

“ครับ”
ณ บริษัท าไทยจํากัดบัวตองเดินยกถาดใส่ถ้วยกาแฟเข้าไปในห้อง ทํางานของวิน พร้อมกับยกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าของชายหนุ่ม วันนี้เลขา หน้าห้องลาป่วยวินจึงให้เธอมาทำหน้าที่แทน วินยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ พร้อมกับจ้องมองหน้าบัวตองไปด้วย

“บัวขอตัวไปเตรียมเอกสารวาระการประชุมก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อน เธอคิดว่ารสชาติกาแฟที่เธอซงมาให้ดื่มมันดีแล้วเหรอ”

“ค่ะ บัวชงตามรสชาติที่พี่ชอบดื่มทุกครั้งนะคะ ไม่เคยเปลี่ยนเลย

“เธอแน่ใจนะ”

“ค่ะ บัวแน่ใจ” ใบหน้าใสซื่อจ้องมองใบหน้าสากพร้อมกับยืนยันหนัก

แน่น

“ฉันล้อเล่น” วินหัวเราะขบขันอารมณ์ดีที่ได้แกล้งหญิงสาว

“พี่ลอบัวเล่นเหรอคะ” บัวตองทําหน้างอ

“อืม ใช่เธอจะทําไม ไม่พอใจฉันเหรอ”

“เปล่าค่ะ” บัวตองก้มหน้าลง

“เปล่าแล้วทำต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย เธอกลัวฉันโกรธขนาดนั้นเลยเห

รอ”

ค่ะ บัวกลัวจะทำอะไรไปแล้วจะไม่ถูกใจพี่”

“เธอทําดีแล้วล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปทำงานได้แล้วไป” วินเอ่ยด้วยน้ำ เสียงนุ่มนวลพร้อมกับเบนหน้าหนีไปทาง
“ค่ะ” รับค่าแล้วเดินออกไปทันที

บัวตองผลักประตูออกไปก็เจอนพพลยืนอยู่ตรงหน้าห้องพอดี เธอจึงไหว้ ทักทายชายหนุ่มตามมารยาทแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานต่อ นพพลเดินเข้าไป ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า โต๊ะทำงานในอย่างอารมณ์ดี

“ไงวะ วันนี้ดูแกจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ” วินเอ่ยถามเพื่อนรักขึ้น “ทำไมวะ ฉันดูแปลกไปเหรอ” นพพลย้อนถามพร้อมกับยักไหล่

“เปล่า แกไม่คิดจะบอกฉันบ้างเหรอ ว่าอะไรที่ทำให้แกอารมณ์ดี” วิน จ้องหน้านพพล

“แกอยากจะรู้จริงๆ เหรอ” นพพลยกยิ้มมุมปาก

“ทำไม มันสำคัญมากจนบอกฉันไม่ได้เลยงั้นสิ

“ไม่มีอะไรหรอกน่า แกไม่ต้องมาสนใจอยากจะรู้หรอก ว่าแต่แกเถอะจะ ชอษาเขาแต่งงานเมื่อไหร่” นพพลรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อหลีกเลี่ยงความ อยากรู้ของเพื่อน

“แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ เริ่มเปิดใจมีผู้หญิงเข้ามาแล้วสิท่า”

“แกไม่ต้องเดาหรอก สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ”

“เออ ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้วะ” วินถอนหายใจเบาๆ

“แล้วแกจะตอบฉันได้หรือยังว่าแกจะขอมาแต่งงานเมื่อไหร่
“เร็วๆ นี่แหละ” วินยิ้มกว้างจินตนาการภาพเขากับมาแต่งงานกันในหัว

“ฉันขอ ให้แก่โชคดีนะ” นพพลเอ่ยเสียงราบเรียบ

“อืม ขอบใจ” วินพยักหน้ารับ

“งั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ” นพพลพูดพลางลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวก่อน ฉันมีเรื่องจะถามแกหน่อย” วินเอ่ยขึ้น “เรื่องอะไรวะ” นพพลเริ่มว้าวุ่นในใจ

“แกชอบบัวหรือเปล่า”

“อะไรทําให้แกคิดแบบนั้นวะ” นพพลถามกลับ

“ก็ฉันเห็นแกพยายามจะสนิทสนมกับบัว แกไม่ได้ชอบบัวเหรอ”

“ก็อยากจะชอบอยู่นะ แต่มันทำไม่ได้วะ” นพพลหัวเราะขบขัน

“อืม แล้วไป ฉันก็นึกว่าแกจะจีบบ้า

“ทําไมวะ แกหวงเหรอ” นพพลจ้องมองหน้าวินไม่วางตา

“เปล่า ฉันจะหวงไปทำไมวะ

“ก็ไม่รู้สิ บัวไม่ใช่น้องสาวของแกจริงๆ สักหน่อย อยู่ใกล้กันทุกวันแก ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอว่ะ บัวก็ออกจะน่ารักสวยขนาดนั้น”

“แกพูดอะไร แกก็รู้ว่าฉันกำลังคบกับษาอยู่ ถ้าไม่ติดว่าแกเป็นเพื่อนฉัน นะ ฉันตอกหน้าแกด้วยหมัดหน้าหงายไปแล้ว
“ฉันแค่ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้วะ”

“แกอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ฉันขอเตือนแกเอาไว้เลย ต่อให้มีนางฟ้านาง สวรรค์ที่ไหนมายืนต่อหน้าฉัน ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจากษาผู้หญิงที่ฉัน รักที่สุดเด็ดขาด”

“แกเคยคิดไหม ว่าตัวเองอาจจะไม่สมหวังไปเสียทุกอย่างในชีวิตก็ได้”

นพพลลองพูดหยั่งเชิงวินขึ้น

“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไงวะ”

“ไม่มีอะไร ฉันขอตัวไปทํางานก่อนนะ”

“อืม ไปเถอะ”

นพพลเดินออกไปจากห้องด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มแต่ในใจลึกๆ มันยังมี ความรู้สึกผิดอยู่ เขารู้ว่าถ้าหากว่าวันรู้เรื่องระหว่างเขากับษาทุกอย่างก็ คงจะพังทลายไปในพริบตาเดียว มิตรภาพที่เคยมีให้กันก็จะไม่เหลืออีกต่อ ไปแล้ว แต่จะให้ทำยังไงได้ก็ในเมื่อเขากับมารักกัน และเขาก็เข้าใจในเหตุ ผลของมาดีว่าทําเพื่อบิดาตลอดมา และเขาหวังว่าษาจะรีบจัดการตัด สัมพันธ์จากวินในเร็วๆ วันนี้

เวลาล่วงเลยจนถึงเย็นวันเดินออกมาจากห้องทำงานมาหยุดยืนตรงหน้า

โต๊ะทํางานเลขาหน้าห้องพร้อมกับจ้องมองบัวตองจัดเก็บเรียงเอกสารบน โต๊ะและของใส่กระเป๋าอยู่ คนที่ถูกมองก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับ ชายหนุ่มไม่ได้

“พี่มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”

“ทำไมฉันมองไม่ได้เลยเหรอ”

“เปล่าค่ะ ” ก้มลงทันควัน
“เดี่ยวกลับไปถึงบ้านทำกับข้าวให้ฉันทานด้วยนะ”

“พี่มีเวลาทานด้วยเหรอคะ”

“ก็ฉันพูดอยู่นี้ไง ว่าให้เธอทำให้ฉันทาน จะไม่มีเวลาทานได้ยังไง

“บัวก็นึกว่าพี่จะไปทานกับคุณษาเสียอีก”

“ไม่ไปสักวัน จะเป็นไรไป หรือว่าเธอไม่อยากจะทํา”

“เปล่าค่ะ บัวแค่กลัวทำแล้วไม่มีใครทาน”

“ไม่ต้องกลัวหรอก เธอทําอะไรให้ทานฉันจะทานให้หมดเลย พอใจหรือ

ยัง”

“คะ แล้วอยากจะทานอะไรคะ” บัวตองถามด้วยรอยยิ้ม

“ตามใจเธอสิ อยากจะทําอะไรให้ฉันทานละ

“หลายอย่างเลยค่ะ”

“งั้นเรากลับกันเถอะ ฉันเมื่อยคอจะแย่แล้ว”

“กลับบ้านไป ให้บัวนวดให้นะคะ”

“อืม รีบไปกันเถอะ”

“ค่ะ”

ไม่นานทั้งสองคนก็กลับถึงบ้าน วินก็ปลีกตัวขึ้นห้องไปทำธุระส่วนตัว ส่วนบัวตองก็เข้าครัวรีบเร่งทำน้ำพริกอ่องพร้อมกับลวกผักหลากหลาย ชนิดไว้สำหรับแกล้มกับน้ำพริกด้วย และตามด้วยแกงขนุนอีกหนึ่งถ้วย บัว ตองยืนยิ้มมองอาหารตรงหน้าฝีมือตนเองอย่างมีความสุข เธอดีใจที่ได้ทํา อาหารให้กินทานและหวังว่าชายหนุ่มจะชอบมันเพราะเธอตั้งใจทําสุดฝีมือแล้ว

“อ้าว หนูบัวกลับมาจากที่ทำงานนานแล้วเหรอลูก” ลุงหมายคนขับรถ เดินเข้ามาในครัว

“ค่ะ บัวเพิ่งจะมาเมื่อกี้เองค่ะ” “แล้วทำอะไรทานล่ะหนู”

“น้ำพริกอ่องกับแกงขนุนค่ะ”

“น่าทานทั้งนั้นเลย พอจะมีเหลือให้ลุงบ้างไหมล่ะ”

“มีสิคะ บัวทําเพื่อเยอะแยะเลยค่ะ”

“ดีเลย ลุงกำลังหิวอยู่พอดีเลย”

“วันนี้ลุงไปส่งคุณแม่ไปที่ไหนมาบ้างคะ

“ก็หลายที่อยู่นะลูก ทั้งไปวัดและพบปะเพื่อนๆ ในสมาคม”

“งั้นก็ทานเยอะๆ นะคะ จะได้มีแรง” บัวตองส่งยิ้มให้ชายสูงวัย

“จ้ะ หนูบัวตอง” ลุงหมายยิ้มรับ

“อ้าว ตาหมายหิวมากสีทา มาถึงก็นั่งทานข้าวเลย” ป้าเดินเข้ามาใน

ครัว

“อืม ฉันขอทานนะ”

“ตามสบายเถอะ”

“หนูบัวถ้าเสร็จแล้ว หนูก็ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวเถอะนะ ป้ากับ ยายศรีจัดโต๊ะจะเสร็จแล้ว” ป้าณีเอ่ยขึ้น
“ค่ะ บัวขอตัวก่อนนะคะ ฝากยกน้ำพริกกับแกงไปที่โต๊ะด้วยนะจ๊ะ

“จ้ะ ไปเถอะ เดี๋ยวป้าจัดการเอง” ป้าศรีเดินเข้ามาได้ยินพอดี

“ขอบคุณค่ะ” บัวตองส่งยิ้มให้ป้าศรี

บัวตองทำธุระส่วนตัวไม่นานก็ลงมาร่วมโต๊ะทานมื้อเย็นกับเนตรนภา และวันที่นั่งทานอยู่ก่อนแล้ว บัวตองนั่งลงข้างๆ ขึ้นพร้อมกับหันไปมองชาย หนุ่มที่กำลังตักน้ำพริกที่เธอตั้งใจทำให้เขาใส่จานข้าวของตนเองอยู่พอดี

“ทานเยอะๆ นะคะ บัวตั้งใจทำให้พี่สุดฝีมือเลย

“อืม อร่อยมากเลย” วินพูดพลางเคี้ยวข้าวไปด้วย “ขอบคุณค่ะ งั้นบัวตักแกงขนุนให้พี่ด้วยดีกว่า” บัวตองเอื้อมมือไปตัก แกงใส่จานใหงินทันที

“เธอทําสองอย่างเลยเหรอ” วินมองอาหารบนโต๊ะอีกสองสามอย่างฝีมือ

ป้ากับป้าศรีที่เขามองว่าสำหรับสามคนก็มากเกินพอแล้ว แต่บัวตองกลับ

ทําเพิ่มอีกสองอย่าง

“ค่ะ”

“เธอไม่เหนื่อยบ้างเลยเหรอ”

“ไม่ค่ะ บัวเต็มใจทำให้พี่ทาน

“ขอบใจนะ”วินเอ่ยสั้นๆ

“ค่ะ” บัวตองยิ้มรับด้วยหัวใจที่พองโต

“แหม สองคนพี่น้องคุยกันไม่สนใจแม่เลยนะ” เนตรนภายิ้มมีความสุข

“โทษทีครับ เดี๋ยวผมตักน้ำพริกให้” วินพูดพลางตักน้ำพริกฝีมือบัวตอง ใส่จานให้มารดา

“แม่อยากจะรู้จริงๆ ว่าหนุ่มๆ คนไหนจะได้เป็นผู้โชคดีได้ทานฝีมือปลาย จวักของบัวไปตลอดชีวิต”

“คุณแม่” บัวตองเบิกตาโตมองเนตรนภา

“แม่พูดจริงๆ เดี๋ยวแม่ดูให้เอง” เนตรนภายิ้มหัวเราะให้กับท่าทางของ บัวตอง

“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณแม่ บัวยังไม่อยากจะมีใครตอนนี้”

“ทำไมล่ะ บัวโตแล้วนะ ถ้าจะมีแม่ไม่ว่าอะไรหรอก”

“ผมว่า คุณแม่อย่าดีกว่านะครับ เดี๋ยวก็ใจแตกกันพอดี” อยู่ๆ วันก็ โพล่งขึ้น

“แหม ไม่ต้องว่าน้องหรอก เราก็เหมือนกันเมื่อไหร่จะแต่งงานกับหนูษา เขาสักที แม่อยากจะอุ้มหลานจะแย่อยู่แล้ว” เนตรนภามองค้อนลูกชาย

“เร็วๆ นี้แหละครับ คุณแม่รอฟังข่าวดีได้เลย”

“ขอให้จริงเถอะ แม่จะรอดู

“ครับ คุณแม่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ”

“จ๊ะ” เนตรนภายิ้มรับ

บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาเสียดื้อๆ พาลให้ ทานข้าวไม่ลง บัวตองรู้ดีว่าระหว่างเธอกับวินเป็นได้แค่พี่น้องไม่มีทางแปร เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้อย่างแน่นอน รู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่มมีคนที่รักหมดใจและคนทั้งคู่ก็รักกัน มาก แต่ทำไมนะเธอยังคงรู้สึกดีๆ กับชายหนุ่มอยู่ในหัวใจดวงน้อยดวงนี้ เธอไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ

หลังทานมื้อเย็นเสร็จบัวตองก็ตามไปนวดคอนวดไหล่ให้วันถึงในห้อง ทํางาน ตามที่เธอได้รับปากเอาไว้ ระหว่างที่นวดไปในใจก็เอาแต่นึกถึง เรื่องที่ชายหนุ่มกำลังจะขอษาหญิงสาวคนที่เขารักมากที่สุดแต่งงาน การที่ ผู้ชายคนหนึ่งจะขอผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานความรักมันต้องมากขนาดกันนะ เธออยากรู้ความรู้สึกนั้นบ้างจัง บัวตองกรุ่นคิดอยู่ในใจ

ณ ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังนั่งแอบอิงกายแนบชิดกัน อยู่บนโซฟามุมหนึ่งของร้าน พร้อมกับดื่มไวน์ราคาแพงไปด้วยท่ามกลาง บรรยากาศสุดโรแมนติก ทั้งดนตรีบรรเลงสดและแสงไฟตกแต่งอย่าง สวยงาม

“ผมมีความสุขจังเลยษา” นพพล โอบเอวบางพร้อมกับลูบไล้ไปมาเบาๆ ผ่านแผ่นหลังเนียนที่เปลือยเปล่า

“ษาก็มีความสุขค่ะ ที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ แบบนี้” ส่งยิ้มหวานให้นพพล “ษาสัญญากับผมได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ษาจะไม่ปล่อยมือผมและ รักผมคนเดียว”

“ค่ะ ษาจะรักคุณคนเดียวไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด”

“ขอบคุณนะ ที่รักผู้ชายธรรมดาอย่างผม” ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มเนียน ฟอดหนึ่ง

“นาจะรีบจัดการเรื่องวินนะคะ และจะไม่กระทบมาถึงคุณอย่างแน่นอนค่ะ ”

“ยังไงเหรอ” นพพลขมวดคิ้วเข้าหากัน

“นาจะบอกเลิกวิน แต่จะไม่บอกว่านากำลังคบหากับคุณอย่างเด็ดขาด คะ แต่จะบอกแค่ว่ามาหมดรักเขาแล้วดีไหมคะ ”

“ถ้าไม่บอกความจริงมันไปตรงๆ งั้นเราก็คบหากันอย่างเปิดเผยไม่ได้

น่ะสิ”

“ให้เวลาวินทำใจบ้างสิคะ หลังจากนั้นเราจะประกาศให้คนทั้งโลกรู้ว่า เรารักกันมันยังไม่สายหรอกค่ะ”

“ก็ได้ ผมจะรอนะ” นพพลรู้ตัวว่าตัวเองผิดแต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อ เขารักผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อนและเธอก็รักเขามากเช่นกัน เขาหวังว่าเมื่อ ถึงเวลาวินจะผ่านช่วงเวลาอันเจ็บปวดนั้นไปได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ