บทที่ 20 ชิ้นของคุณเป็นของปลอม
ดูเหมือนว่าทุกคนแทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเองเลย เสียงใน
โทรศัพท์เพิ่งจะพูดว่าอะไรนะ?
รอ ปากประตู?
กล่าวได้ว่า อวิ๋นเสบู่เหยนไม่เพียงแต่เชิญเทพเซียนครัวมาแล้ว แต่ยังให้ชายชรารอ โทรศัพท์อยู่ที่ประตูมาโดยตลอด
อวิ๋นเสวเหยนเป็นคนปัญญาอ่อนที่เพ้อฝันอยู่ใช่ไหม?
ในไม่ช้า ความจริงก็ทำลายความสงสัยของทุกคน
ประตูใหญ่เปิดออก ชายชราที่มีผมและเคราสีขาว มือข้างหนึ่ง ถือโทรศัพท์ มืออีกข้างกำลังถือมีดทำครัว เขาเดินเข้ามาพร้อม กับหัวเราะดังลั่น
ชายชรามีลักษณะท่าทางที่ทรงพลังและสง่างามและเดินไปจน สุดทางจนถึงตรงหน้าอนเสาเรียนที่ตกใจจนหน้าซีดเป็นไข่ต้ม ชายชราพูดแซวราวกับเป็นเฒ่าทารก “คุณหนูอน ฉันมาแล้ว ยัง ไม่สายเกินไปหรอกนะ! ฮ่าๆๆ……
“ทะทะทะ……เทพเซียนครัว เป็นคุณจริงๆเหรอคะ?”
ราวกับว่าเธอไม่อยากจะเชื่อ ลิ้นของอวิ๋นเลวเหยนเริ่มพันกัน เป็นปม
เทพเซียนครัวแล้วส่องประกายมีดสีดำสนิทในมือขวา “คน
สามารถเลียนแบบได้ แต่มีดนี้ของฉัน ไม่มีใครเลียนแบบได้ “แต่ว่า…….” ทันทีที่บทสนทนาเปลี่ยนไป ดวงตาของเขาก็เย็น ยะเยือก ในฉับพลัน “ก่อนที่ฉันจะทำอาหารให้กับคุณหนูอน ฉัน
ต้องลงโทษผู้กระทำผิดก่อน!” พูดจบ เขาก็หันไปมอง เซี่ยหูอย่างเฉยชาแล้วคำรามอย่างเป็น ชา “ศิษย์เวร! แกรู้ความผิดของตัวเองหรือเปล่า?!”
ขณะนี้เซี่ยหูเหงื่อออกจนท่วมตัวนานแล้ว เขาคุกเข่าลงบนพื้น แล้วก้มหน้า “อา……อาจารย์”
ทุกคนต่างอยู่ในความสับสนอลหม่าน คิดไม่ถึงเลยว่า หัวหน้า พ่อครัวของภัตตาคารเทียนหลานเอ๋อจะกลายเป็นลูกศิษย์ของ เทพเซียนครัว แน่นอนว่าเสียงที่เรียกว่าอาจารย์ ก็มีความถึงตัว ตนของเทพเซียนครัวได้แล้ว ไม่มีใครกล้าสงสัยอีกต่อไป
“ฉันเคยพูดตอนที่สอนศิลปะให้กับแกว่าต้องเรียนคุณธรรม ก่อนศิลปะ เรียนเป็นมนุษย์ก่อนทำอาหารเป็น แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพื่อผลประโยชน์แกทำให้ฉันผิด กลับกล้าทำเรื่องทำเรื่องที่ไร้ซึ่งคุณธรรมเช่นนี้ หวังจริงๆ!”
“นับจากนี้ไป ในตระกูลเทพเซียนครัว ทุกสูตทุกเมนู แกห้าม
แปดเปื้อนแม้แต่นิดเดียว ถ้าแกฝ่าฝืน!” สายตาของเทพเซียนครัวเย็นชา มีดทําครัวในมือสะท้อนแสง เย็นเยียบ “จุดจบ ตัวแกรู้ดีอยู่แล้ว!!
เซี่ยหูตัวสั่น ทันใดนั้นก็ทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้าเป็นสีเทา
หลังจากจัดการชำระโทษเสร็จแล้ว สายตาของเทพเซียนครัว ก็หันไปมองเผิงไห่เชิงและเอ่ยปากพูดอย่างเรียบเฉยว่า “เป็น นายนี่เอง อยากจะประลองฝีมือทำอาหารกับฉันเหรอ?”
เมื่อพูดคำนี้ เผิงไห่เชิงก็เหงื่อออกจนเปียกโชก แล้วโค้ง คำนับทันทีพร้อมกับกระซิบว่า “ผู้อาวุโสล้อเล่นแล้วล่ะครับ ด้วย ทักษะการทำอาหารของคนรุ่นหลัง น่ากลัวว่าต่อให้ฝึกอีกหลาย สิบปี หนึ่งในหมื่นก็ไม่อาจเทียบผู้อาวุโสได้!”
ในใจของเผิงไห่เชิงก็รู้สึกเป็นทุกข์เช่นกัน เขาแอบชำเลือง มองเถาซิ่งเอ๋อ ใจก็อยากกลืนกินเธอลงไปทั้งเป็น
พ่อครัวที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งภาคเหนือทั้งหมดล้วนแต่เคยได้รับการชี้แนะจากเทพเซียนครัวไม่มากก็น้อย ถ้า หากพวกเขารู้ว่าตนเองกล้าที่จะล่วงเกินเทพเซียนครัวแล้วล่ะก็ น่ากลัวว่าตนเองจะไม่สามารถอยู่ในวงการนี้ได้อีกต่อไป
เทพเซียนครัวพ่นลมแล้วเอ่ยเสียงดังกังวาน เนื่องจากผู้ จํานวยการอวิ๋นเชิญฉันมา และเพราะว่าเป็นแขกผู้ทรงเกียรติชาว ต่างชาติ ถ้าอย่างนั้นฉันจะก็ใช้รสชาติของอาหารหวาเซียแท้ๆ ต้อนรับเขา!”
“รอที่นี่แหละ!”
เมื่อโยนค่าพูดถึงการควบคุมออกมาแล้ว ก็เดินที่ด้านหลัง ห้องครัว
คาเรนที่ติดอยู่ในวงแล้วภาษาหวาเซียก็ไม่ดีจึงเอ่ยถามด้วย
ความสงสัยว่า “ชายชราคนนี้เป็นใครกัน?
ซึ่งจื้อตงที่อยู่ข้างๆยิ้มและเอ่ยว่า “เขาน่ะ เป็นเซฟชั้นยอด ระดับประเทศเป็นที่รู้จักกันในนามเทพเซียนครัว!!
“พูดง่ายๆคือ ถ้าหากฝีมือการทำอาหารของเฮดเชฟเผิง สามารถไล่ตามระดับเชฟมิชลินได้ ถ้าอย่างนั้นระดับของเทพ เซียนครัวก็เพียงพอที่จะได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ของเชฟมิชลินทั้ง หมด!”
ท่ามกลางความหวังคาดหวังชนิดหาที่เปรียบไม่ได้ของคาเรน เทพเซียนครัวได้ถือถาดออกมาแล้วเดินตรงมายังด้านหน้าของ คาเรนแล้วนถาดส่งไปข้างหน้า “เอาล่ะ มาลองชิมฝีมือการทำ อาหารหวาเซียของแท้ที่สุดกันเถอะ!
คาเรนขมวดคิ้วเล็กน้อยและชี้ไปที่ชามบนถาด “นี่มันไม่ใช่ แค่บะหมีหรอกเหรอ?”
ถูกต้องแล้ว!
ที่เทพเซียนครัวทำก็คือบะหมี่ธรรมดาที่คนทั่วไปกินกัน ถ้าจะมี ข้อแตกต่างก็คือมีไข่ลวกกลมๆ ให้อีกหนึ่งฟอง
“บะหมี่งั้นเหรอ?”
เทพเซียนครัวยิ้มอย่างเหยียดหยาม “นายเคราใหญ่ ชาวต่าง ชาติที่กินบะหมี่ของฉันครั้งล่าสุด ตอนนี้ ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำ คนที่สามของประเทศของพวกเขา!
ภาษาหวาเซียของคาเรนนั้นไม่ดีเลย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ เข้าใจว่าเทพเซียนครัวพูดอะไร แต่ถึงยังไงเขาก็ยกมาให้ถึงหน้า ตนเองแล้วโดยมารยาทขั้นพื้นฐานที่สุด เขาเอาตะเกียบคีบ เข้าไปในปากอย่างระมัดระวัง
ภายในเสี้ยววินาทีที่กลิ่นหอมอ่อนๆนั้นเข้ามาในปาก ดวงตาของคาเรนก็แข็งค้างอย่างนิ่งอึ้ง โดยฉับพลัน จาก นั้น ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงจนตาค้างของทุกคน ด้วยความเร็ว ราวกับหมาป่าที่แย่งอาหาร เขาเทบะหมี่ในชามเข้าปากอย่างสุด ชีวิต สุดท้ายก็เลียก้นชาม ด้วยใบหน้าที่พึงพอใจพร้อมทั้งกล่าว ว่า “มันอร่อยมาก! ผมไม่เคยกินบะหมี่ที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน! ไม่สิ! ผมไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดมาก่อนต่างหาก!
“ผมกล้าสาบานเลยว่า แม้แต่พระเจ้าก็ไม่เคยกินอาหารที่มีรส เลิศขนาดนี้แน่นอน!
มองเห็นปฏิกิริยาของคาเรนแล้ว เปรียบเทียบด้วยทักษะการ ทําอาหาร ผลแพ้ชนะก็ชัดเจนแล้ว!
เซี่ยงเส้าหลงเหลือบมองไปที่เกาซึ่งเอ๋อที่มีสีหน้าเลวร้าย ราวกับกินหนูตายเข้าไป มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย จากนั้น เขาก็สะกิดอนเสาเรียน ให้หันไปทางคาเรนที่กำลังจุ้ยปาก ฝ่ายหลังจึงหายจากอาการช็อคทันทีและมีสติคืนกลับมา ใบหน้า เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ พร้อมกับค่อยๆเดินเข้ามาหาคา เรน “มาสเตอร์คาเรนคะ คุณพอใจกับของขวัญที่บริษัทมู่ชือกรูป เตรียมไว้ให้คุณหรือเปล่าคะ?”
“พอใจ! พอใจมากเลย!”
คาเรนพูดอย่างตื่นเต้น “พวกคุณทำให้ผมตื้นตันใจจริงๆ ผม ตัดสินใจแล้ว หุ้นส่วนของความร่วมมือในครั้งนี้ก็คือ…….
“รอก่อนค่ะ!”
เสียงของเถาซิ่งเอ๋อดังขึ้นในทันที เพียงแต่ว่าสีหน้าของเธอมี รอยยิ้มกลับคืนมาอีกครั้ง เธอเดินเข้ามาช้าๆ แล้วยิ้มให้กับคาเร นพร้อมกับกล่าวว่า “อาหารรสเลิศนั้นย่อมมีค่าอย่างแน่นอน แต่ ทว่ามันเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีของความอยากอาหารเท่านั้นเอง ในฐานะที่มาสเตอร์คาเรนเป็นตำนานของอุตสาหกรรมเครื่อง ประดับ ถ้าอย่างเครื่องประดับที่เหนือกาลเวลาย่อมจําเป็นต้องมี เสื้อผ้าที่หรูหรางดงามมาเสริมให้เด่นคู่กัน”
“ได้ยินมาว่ามาสเตอร์คาเรนรักวัฒนธรรมหวาเซีย ผู้ เชี่ยวชาญของเถาชื่อจึงได้เตรียมของขวัญชิ้นนี้ให้กับอาจารย์ เป็นพิเศษ เชื่อว่าอาจารย์จะต้องชอบมันมากอย่างแน่นอน!!
พูดพร้อมกับกวักมือเรียก คนผู้หนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับถือ กล่องผ้าไว้ในมือเถาซึ่งเอ๋อรับมาแล้วแล้วสะบัดฝากล่องให้เปิด ออก มันเป็นชุดถังจวงหรือเสื้อคอจีนสีแดงขนาดใหญ่ได้ ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ท่อนบนของชุดราชวงศ์ถังนี้เป็นสีแดงล่างเป็นสีเข้ม มีมังกรสี ม่วงเลื้อยผ่านตรงช่วงไหล่ ให้ความรู้สึกถึงการถูกควบคุมโดย ไม่สูญเสียความสง่างาม ในความหรูหรายังประกอบด้วยเกียรติ อันสูงส่ง
เมื่อเห็นชุดนี้แล้ว คาเรนก็ตัวสั่นเทาไปทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น ทันที “พระเจ้า! คุณหนูเถา คุณคือนางฟ้าที่พระเจ้าส่งมาใช่หรือ เปล่า?”
“คุณรู้ได้อย่างไรว่านอกจากอาหารอร่อยๆแล้ว ที่ผมชอบมาก ที่สุดยังมีชุดราชวงศ์ถังของหวาเซียแบบดั้งเดิมของพวกคุณ ด้วย!”
“ชุดนี้มันช่าง สมบูรณ์…สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!
เมื่อมองเห็นท่าทางตื่นเต้นของคาเรน เถาซึ่งเอ๋อก็แอบ ชาเลืองมองอวิ๋นเสวีเหยนพร้อมกับมีรอยยิ้มของผู้มีชัยปรากฏ ออกมา แล้วกล่าวต่อว่า “คุณดูผ้าไหมสิคะ นี่เป็นผ้าไหมชั้น ยอดจากเมืองซูโจวและหางโจว และลายมังกรนี้ทำด้วยด้ายทอง ซึ่งทําจากทอง9999 มันเต็มไปด้วยการสะท้อนให้เห็นถึงความ สง่างาม”
“แต่ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดแล้ว คือผู้ที่สร้างมันขึ้นมาค่ะ!” “นี่คือชุดราชวงศ์ถังชุดแรกที่บริษัทเถาชื่อกรุปได้เชิญเหมยเสว่ฉิงมาสเตอร์สเหมย ให้มาลงมือตัดเย็บด้วย ตัวเองเป็นกรณีพิเศษ มาสเตอร์สเหมยผลิตเสื้อผ้าของตนเอง เพียงสามชิ้นต่อปี พวกเขายังไม่ทันทำการผลิต ก็ได้ถูกบุคคลผู้ หนึ่งจับจองเอาไว้ก่อนแล้ว เพื่อให้มาชุดราชวงศ์ถังที่แสนล้ำค่านี้ มา เถาชื่อต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยล่ะค่ะ!
“คุณต้องการมอบของขวัญล้ำค่าขนาดนี้ให้กับผมจริงๆเห รอ?”
เถาซิ่งเอ๋อหัวเราะ “มาสเตอร์คาเรนเป็นผู้นำในแวดวง อุตสาหกรรม ถ้าหากหลังจากที่ร่วมมือกับเถาชื่อสำเร็จ ทั้งยัง กลายเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกเรามากที่สุด ด้วย อารมณ์และด้วยเหตุผล มาสเตอร์คาเรนล้วนมีคุณสมบัติในการ ครอบครองชุดรางวงศ์ถังชุดนี้!”
ความหมายในคำพูดนั้น ชัดเจนกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว มีสีหน้า ของความลังเลใจปรากฏบนหน้าของคาเรน
ไตร่ตรองอยู่นาน ทันใดนั้นเขาก็หันไปพูดกับอวนเสเรียน ด้วยสีหน้าขออภัย “คุณหนูอวิ๋น ผมขอโทษด้วย!”
“ถึงแม้ว่าบะหมี่ชามนั้นจะเป็นบะหมี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคย กินมา แต่ว่าชุดนี้ ผมชอบมันมากจริงๆ ผมทําได้เพียงกล่าวขอโทษกับคุณและบริษัท ชื่อกรุ๊ป ตามที่ได้สัญญากับคุณไว้ ถ้าเกิดการออกแบบเครื่องประดับชิ้น ต่อไปของผมมีการประกาศออกมา ผมจะส่งมอบบริษัท ซี กรุ๊ป ทําการผลิตทันที!
บนหน้าของเถาซิ่งเอือมีรอยยิ้มที่มีประกายแห่งชัยชนะปรากฏ ออกมา
อนเสบู่เหยนมีสีหน้าผิดหวัง ทำมาจนขั้นนี้แล้ว สุดท้ายก็ พ่ายแพ้
“รอก่อนครับ”
ทันใดนั้นเซี่ยงเส้าหลงคว้าชุดนั้นไปไว้ในมือ เมื่อสุ่มดูแล้ว จากนั้นเขาก็กล่าว โดยมีรอยยิ้มเหยียดหยามว่า “มาสเตอร์คา เรน ชุดราชวงศ์ถังนี้เป็นของปลอม แค่สิ่งนี้ก็จับคุณเป็นเชลยได้ แล้วงั้นเหรอ?”
“อะไรนะ?”
ดวงตาของคาเรนเบิกกว้างในทันใด คุณบอกว่านี่คือของ ปลอมงั้นเหรอ?”
“พูดเหลวไหล!”
เถาซิ่งเอ๋อดวงตาจ้องเขม็งไปทางอวิ๋นเสบู่เหยน “คุณหนูอวิ๋น หรือว่าคุณขี้แพ้ชวนตีได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”
“หรือว่านี่คือความน้อยใจที่สู้ฉันไม่ได้เลยเริ่มมาใส่ร้ายฉัน?”
ทุกคนต่างพากันเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ ความ ประทับใจที่มีต่ออวิ๋นเสบู่เหยนเมื่อกี้นี้เริ่มค่อยๆลดลง เซี่ยงเส้าหลงไม่เห็นด้วย “คุณบอกว่านี่คือของแท้ก็ต้องเป็น
ของแท้งั้นเหรอ แล้วมันอ้างอิงจากอะไรล่ะ?”
เถาซึ่งเอ๋อทําเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา ” ในเมื่อคุณถามมาแล้ว ฉันก็จะทำให้คุณยอมแพ้โดยสิ้นเชิง!”
จากนั้นเธอก็หยิบกระดาษสองแผ่นออกมาจากล่องผ้า “นี่คือ ใบรับรองที่มาสเตอร์สเหมยลงนามด้วยตนเอง ใบนี้คือเอกสาร รับรองความเป็นเจ้าของชุดราชวงศ์ถังพร้อมกับตราประทับของ มาสเตอร์สเหมย หนังสือรับรองสองฉบับนี้เพียงพอต่อการพิสูจน์ หรือยัง?”
“เฮอะ!”
เซี่ยงเส้าหลงพ่นเสียงดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นเขาก็คว้าชุด ราชวงศ์ถังชุดนั้นขึ้นมาแล้วเปิดตำแหน่งของปกเสื้อ “ถ้าอย่าง นั้นคุณไม่รู้แน่ๆว่า เสื้อผ้าทั้งหมดที่มาสเตอร์สเหมย ทำด้วยตัวเองนั้น ที่แผ่น ป้ายตรงคอเสื้อจะใช้การเย็บมือแบบพิเศษ กอักษรคำว่า เหมย เสว่ฉิง สามตัวลงไป เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างของจริงกับ ของปลอม!”
“สิ่งนี้ ถึงจะเป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันการปลอมแปลงที่มี พลังมากที่สุด!”
ทำไมเซี่ยงเส้าหลงถึงได้รู้ดีขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะว่า ในตอนที่ อยู่กองทัพภาคเหนือ เซี่ยงเส้าหลงรักเสื้อผ้าราชวงศ์ถังถึงขั้น ลำเอียง สินค้าของเหมยเสฉิงที่ผลิตปีละสามชิ้น สองชิ้นจะถูก ส่งไปที่กองทัพภาคเหนือ เขาใส่มาแล้วห้าปีโดยไม่ยอม เปลี่ยนแปลงเลย แล้วเขาจะไม่รู้อย่างชัดเจนได้อย่างไร?
ฟังจบแล้ว เถา งเอ๋ออดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา “พูด มากขนาดนี้ ฟังแล้วก็สมเหตุสมผลดีอยู่หรอก ถ้าไม่รู้ ก็คงนึกว่า คุณเคยใส่ชุดที่มาสเตอร์สเหมยทำ!!
“แต่ความจริงก็คือ ด้วยฐานะของคนอย่างคุณ น่ากลัวว่ายังไม่ เคยแม้แต่จะได้เห็นเสื้อผ้าของมาสเตอร์สเหมยใช่ไหมล่ะ?”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ที่คุณพูดมาทั้งหมด มันก็เป็นแค่เรื่องตลกที่ น่าสมเพชเท่านั้น!”
“เหอ……”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วรู้ได้ยังไงว่าที่ผม พูดทั้งหมดเป็นเรื่องตลก!”
เถาชิงเอ๋อมองเขาด้วยความมั่นใจ “แม้แต่ บริษัทเถาชื่อกรุ๊ปที่ ยิ่งใหญ่ของพวกเรายังต้องใช้ความพยายามอย่างสุดกำลัง ความสามารถถึงจะซื้อได้ ถ้าหากแม้แต่ไอ้คนยาจกอย่างคุณยัง เคยเห็น ฉันจะตัดชุดนั้นออกเป็นชิ้นๆทันที แล้วฉันเดาซึ่งเอ๋อจะ ยอมรับต่อหน้าทุกคนด้วยว่ามีตาหามีแววไม่และไม่เคยเห็นโลก กว้าง!”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะเคยเห็นโลกกว้างหรือเปล่า แต่ว่า เสื้อผ้าชุดนี้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องตัดทิ้ง
ทันใดนั้นเสียงที่ทุ้มหม่นได้ดังขึ้น เมื่อกันไปมองตามเสียง พบ ว่าเป็นหญิงชราคนหนึ่งสวมชุดราชวงศ์ถังแบบคลาสสิคนั่งอยู่ บนรถเข็นและมีคนผลักเข้ามาช้าๆ
เถาซิ่งเอ๋อขมวดคิ้วและเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “คุณคือใคร? รูปภ.สะเพร่าชะมัด แม้แต่ยายแก่พิการก็ยังเข้ามาในสถานที่จัด งานได้ตามใจชอบแบบนี้งั้นเหรอ?”
“เหอะๆ……
หญิงชราหัวเราะเบาๆ “บังเอิญาฉันเป็นยายแก่พิการที่คุณพูด ถึง คือเหมยเสว่ฉิง ที่เป็นคนทําสิ่งที่เรียกว่าเสื้อผ้าในมือของคุณ ยังไงล่ะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ