กินห์ฟ้าฆาตปฐพี

บทที่ 16 คุณว่ายุติธรรมใหม



บทที่ 16 คุณว่ายุติธรรมใหม

เมื่อเซี่ยงเส้าหลงเปิดประตูรถ ชายหนุ่มก็ส่งเสียงคำราม “แม่ มึงตาบอดหรือไง! ไม่เห็นว่ารถของกูเข้ามาแล้วหรือยังไง? แม่ง ยังจะขับเข้าไป จึงอยากรนหาที่ตายใช่ไหม?”

“รู้ไหมว่านี่คือรถอะไร? ถึงรู้จักปอร์เช่ไหม?! รู้จักรถสปอร์ต ไหม!? มีรอยนิดเดียว ขายรถพังๆของมึงยังไม่พอชดใช้เลย!”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ อวิ๋นเสบู่เหยนก็ลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ และพูดโต้แย้งตามเหตุและผล “เห็นได้ชัดว่าที่จอดรถนี้พวกเรา มาถึงก่อนนะคะ แล้วทำไมต้องยกให้คุณด้วย?”

“ถ้าชนกัน พวกคุณต้องรับผิดชอบ!”

“โอ้โฮ!”

“นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่สวยขนาดนี้อยู่ในรถพังๆคันนี้!

ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายขึ้นมาทันทีแล้วหัวเราะคิกคัก “ที่นี่คือที่ไหน รถพังๆของพวกคุณมีคุณสมบัติเข้าไปได้ด้วยเห รอ?”

“คนสวย เห็นว่าคุณดูดี มานั่งรถโทรมๆแบบนี้ราคาจะตกลง มาได้นะ ที่นั่งในรถปอร์เช่ของพี่ชายยังว่าง คืนนี้ให้พี่พาไปนั่งรถ เล่นไม่ดีกว่าเหรอ?”

พูดพร้อมกับยื่นมือสกปรกไปแตะใบหน้าที่สวยงามของอวันเสเรียน แต่ยังไม่ทันสัมผัส ข้อมือทั้งสองข้างถูกมือราวกับเหล็ก จับเอาไว้ ชายหนุ่มตะโกนด้วยความเจ็บปวด “เจ็บๆๆ! ถึง แม่มึงปล่อยกูนะ!”

เซี่ยงเส้าหลงสะบัดมือของเขาออกอย่างแรงแล้วพูดด้วยเสียง เย็นซาว่า “ฉันไม่อยากเสียเวลากับแก ไสหัวไป

ชายหนุ่มมีท่าทางโกรธเคืองอย่างมาก เขาหันหลังกลับแล้ว หยิบท่อเหล็กออกมาจากรถ แล้วตรงไปที่รถโฟล์คสวาเกนแล้ว ฟาดลงไปอย่างแรงจนกระจกหน้ารถแตกเป็นเสี่ยงๆ

“รถของฉัน!”

อวิ๋นเสบู่เหยนเจ็บปวดใจจนต้องการจะเข้าไปห้าม แต่ถูกเซี่ยง เส้าหลงดึงเอาไว้ แล้วมองดูชายหนุ่มระบายอารมณ์เช่นนี้อยู่ชั่ว ครู หลังจากนั้นไม่นาน รถดีๆก็มีสภาพถูกทุบจนพังยับเยิน

ชายหนุ่มโยนท่อเหล็กลงบนพื้น คำรามอย่างเย็นชาแล้วพูดจา

ยั่วยุ “ไอ้หนู เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ? ให้กไสหัวไปงั้นเหรอ!

“ตอนนี้กูพังรถมึงแล้ว ยังจะให้กหลบไปอยู่ไหม?” “ตอนนี้แกอยากจะหลบไป ก็ไปไม่ได้แล้ว!”

“เฮอะๆ…..เป็นอะไรไป ไม่พอใจใช่ไหม? เห็นหรือเปล่า นั่น รถของฉัน ยกท่อเหล็กให้แกเลย ไม่พอใจก็ทุบรถฉันด้วยเลย!”

“ฉันทุบรถแก ฉันจะชดใช้ให้ แกทุบรถฉัน แกก็ชดใช้ให้ฉัน ว่ายังไงล่ะ?!”
สายตาของเซี่ยงเส้าหลงเย็นเยียบในทันที ในเวลานี้เองมี เสียงหนึ่งดังขึ้นมา “ใครกัน กล้ามาก่อเรื่องบนพื้นที่ของโรงแร มออนเซ็น?”

มองเห็นผู้มาเยือนอย่างชัดเจนแล้ว ชายหนุ่มจึงเอ่ยปากว่า “ผู้ จัดการเฝิง ผมเอง!

เห็นลักษณะของชายหนุ่มปรากฏชัดแล้ว ผู้จัดการเฝิงก็ยิ้ม

ทันทีและพูดว่า “ที่แท้ก็คุณชายเวียนี่เอง! แล้วคุณ….. “ไม่มีอะไร ผมแค่อยากจะมาทานอาหารว่างนึกไม่ถึงเลยว่าจะ

มาเจอเข้ากับพวกคนจน!”

“กล้าที่จะมาแย่งที่จอดรถกับผม ไม่มองดูเลยว่าตัวเองเป็น อะไร!”

ผู้จัดการเฝิงซ่าเลืองมองรถที่ถูกทุบ คิ้วก็ขมวดเล็กน้อยและ

พูดว่า “ไอ้หนู รีบย้ายรถของคุณออกไปให้ไว แล้วให้รถของคุณ

ชายเว่ยเข้ามา!”

เซี่ยงเส้าหลงยิ้มแล้วสายตามองไปทางเขา คุณไม่เห็นเหรอ ว่ารถของผมถูกเขาทุบ?”

ผู้จัดการเชิงทำท่าทางว่าสมควรแล้ว “ถูกทุบก็เป็นสิ่งที่คุณ สมควรโดนนี่นา! ใครให้คุณเข้ามาขวางทางคุณชายเว่ย? สถาน ที่แห่งนี้เป็นที่ที่รถโทรมๆของคุณเข้ามาได้หรือไง?

“รีบย้ายรถออกไป! ไม่อย่างนั้น ผมจะโยนมันทิ้งที่โรงงานขยะ!”
“ช่าๆ …….ผู้จัดการเฝิง ผมชอบความกล้าหาญของคุณ ไว้วัน หลังที่ผมเจออาหวง ผมจะต้องพูดถึงคุณต่อหน้าเขาแน่นอน แล้ว เลื่อนตำแหน่งให้คุณสักสองสามตำแหน่ง!”

ผู้จัดการเฝิงยิ้มประจบทันที “โอ้ ถ้าอย่างนั้น ขอขอบคุณคุณ ชายเว่ยเป็นอย่างยิ่งครับ!!

ได้ยินคําว่าอาหวง หัวใจของเซี่ยงเส้าหลงก็ขยับ หลังจาก คลําหาอยู่นาน เขาก็หยิบการ์ดใบหนึ่งออกมา ในตอนนั้นหวง เทียนหู่บอกกับเขาว่า มีการ์ดใบนี้ก็เหมือนกับเป็นแขกVIP ที่มี เกียรติสูงสุดของโรงแรมออนเซ็นใช่ไหมนะ?

เมื่อกดเบอร์โทรออกตามหมายเลขบนการ์ด ไม่นานนัก มี กลุ่มคนสวมชุดสูทและรองเท้าหนังวิ่งเข้ามาจากด้านนอก เมื่อ เห็นชัดเจนดังนี้แล้ว ผู้จัดการเฝิงจึงถามด้วยความสงสัยว่า “ผู้ จัดการใหญ่? ผู้จัดการร้าน? ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่กันหมดเลย ล่ะ?”

ผู้ที่มาไม่มีใครสนใจเขาเลย เมื่อชำเลืองมองก็ดูเห็นเซี่ยงเส้า หลงกำลังถือนามบัตรอยู่ เขากล่าวด้วยความเคารพนบนอบ ทันทีทันใด “ขอโทษนะครับ คุณคือคุณเซี่ยง ใช่ไหมครับ?”

สีหน้าของผู้จัดการเฝิงชะงักไปทันที

เซี่ยงเส้าหลงเล่นกับนามบัตรในมือ แล้วพูดอย่างมีอารมณ์ว่า “ผมไม่ได้รับอนุญาตให้จอดรถที่นั่งั้นเหรอ?”

“คุณล้อเล่นแล้ว คุณเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุดของเรา เกรงว่า ถ้าคุณต้องการจอดรถ ในล๊อบบี้โรงแรมของเรา พวกเรายังต้องถอดประตูให้เร็วที่สุดเพื่ออำนวยความสะดวกการจอดรถให้ กับคุณ!

“ทายาทเศรษฐีที่เอาแต่ใจแย่งจอดจัดการโรงแรมของคุณกลับเย่อหยิ่งและต้องการโยนรถผม ไปที่โรงงานขยะโดยไม่แยกมองไม่เห็นเลยไหนมีว่าแขกเกียรติน่ะ

สีหน้าของจัดการใหญ่เปลี่ยนไปทันทีและอย่างเย็นชาจัดการเฝิง คุณล่วงเกินคุณเซี่ยง เมื่อค่าตอบและสวัสดิการ ทั้งหมดของคุณมีโรงแรมออนเซ็นแล้ว คุณได้เลย”

“คุณชายเว่ย! ขอโทษด้วยครับ ตั้งแต่วันเป็นต้นไป ถูก ห้ามเข้ากิจการทั้งหมดใต้ชื่อของโรงแรมออนเซ็น!

หน้าของทั้งสองซีดเผือด

จากจัดการเคารพ “สิครับ คุณพอใจกับผลลัพธ์การจัดการหรือไม่ ?

หลังเซี่ยงเส้าหลง คิดๆแล้ว ทันใดนั้นเขาเตะของเหล็กเข้ามาสปอร์ตยี่ห้อปอร์เช่

ตู้ม

เมื่อแท่งเหล็กกระแทกลงไป กระโปรงก็ยุบลงไปทันทีรถกู
คุณชายเว่ยร้องอุทานแล้วจะเดินไปข้างหน้า ผู้จัดการใหญ่ โบกมือ ก็มีชายสองคนขวางหน้าเขาเอาไว้ทันทีทันใด และมอง เขาก่อนเอ่ยบทสนทนาขึ้นมาก่อนด้วยใบหน้าที่เย็นชา “คุณชาย เว่ยเราขอแนะนำว่าอย่าได้หุนหันพลันแล่น ให้คุณเชียงระบาย ให้เสร็จก่อน เขาเป็นแขกผู้ทรงเกียรติของประธานหวง ดังนั้น ต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ ถ้าหากเขายังรู้สึกไม่พอใจแม้ เพียงนิดเดียว ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของคุณจะอยู่ที่นี่ ก็ปกป้องคุณไม่ ได้หรอกนะครับ!”

หลังจากนั้นไม่นาน รถสปอร์ตราคาหลายร้านก็กลายเป็นกอง เศษเหล็ก เซี่ยงเส้าหลงเดินตรงไปหาคุณชายเว่ย เขายิ้มและพูด ว่า “คุณทุบรถผม ผมก็ทุบรถคุณ คุณว่านยุติธรรมไหม?”

คุณชายเวยใบหน้าซีดเผือด ภายใต้สายตาที่ข่มขู่ของผู้ จัดการใหญ่ เขาจึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างแข็งทื่อ “ยุติ . ยุติธรรมครับ”

“ในเมื่อยุติธรรมดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นรถของผมก็ไม่จำเป็นที่คุณ จะต้องชดใช้หรอก งั้นรถของคุณ ผมก็ไม่ต้องผมชดใช้แล้วใช่ ไหม?”

คุณชายเวยเกือบจะด่าออกมาแล้วว่ารถของมึงมันโทรมอย่าง กับอะไร รถของกูคันเดียวซื้อรถมึงได้เป็นสิบคัน จะพูดว่ามัน เหมือนกันได้ยังไง? แต่ว่าเขากล้าปฏิเสธงั้นเหรอ? เขาไม่กล้า

“ใช่ …….ไม่จําเป็นแล้ว”

เซี่ยงเส้าหลงพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วจับข้อมือของอวิ๋นเสเรียน “ไปกันเถอะ งานเลี้ยงมือ กำลังจะเริ่มแล้ว!

“คุณเซี่ยง ผมจะนำทางคุณไปเองครับ เชิญทางด้านนี้

มาจนถึงชั้นดาดฟ้าโรงแรมออนเซ็น ที่ประตูทางเข้าประชุมอัน หรูหรา ขณะที่กำลังต่อแถวเข้างานทีละคนอวิ๋นเสาเรียนก็จัดแต่ง รูปร่างหน้าตาของตนเองนิดๆหน่อยๆแล้วเอาความคิดต่างๆ โยน ทิ้งไปจนหมด คืนนี้จะต้องใช้วิธีการใดเพื่อนำไปสู่การร่วมมือ กับมาสเตอร์คาเรนต่างหากที่สำคัญที่สุด

ในขณะที่เธอรอเข้าแถวอยู่นั้น จู่ๆเสียงที่ฟังแล้วไม่ลงรอยกัน ได้ดังขึ้น “ฉันไม่ได้ดูผิดหรอกนะ อวิ๋นเสาเรียน เป็นเธอจริงๆ ด้วย?”

หันมองไปตามเสียง มีหญิงสาวที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งเดิน ควงแขนมากับผู้ชายอายุสี่สิบหรือห้าสิบปีคนหนึ่ง และมองมาที่อ วันเสาเรียนด้วยสีหน้าประหลาดใจ

“เธอคือ ……เจียวเจียว?”

อวิ๋นเสบู่เหยนเองก็รู้สึกประหลาดใจ หลังจากนั้นสีหน้าก็เลว ร้ายทันที คนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่กลับเป็นสวีเจียว เพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายที่ไม่ถูกกับตนเองตลอดสามปี

สวีเจียวมองดูชุดที่หรูหราของเธอ ในดวงตาที่ประหลาดใจมี ประกายของความอิจฉาริษยาอยู่ด้วย จากนั้นก็มีใบหน้าดูถูก เหยียดหยาม “ไม่ต้องพูดเลยนะ เกิดมาดีไม่สู้โตมาสวยจริงๆ ถึง แม้จะเป็นของมือสองเน่าๆก็เถอะ แค่แต่งตัวลวกๆ ก็ยังเป็นคนที่ หาได้ยาก เสบู่เหยนเอ่ย ฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆ!
“สวีเจียว เธอกำลังพูดเหลวไหลเรื่องอะไร?!

“ฉันพูดเหลวไหลงั้นเหรอ? ทั่วทั้งเมืองเทียนให้ใครไม่รู้บ้างว่า เธออวนเสวีเหยน ท้องก่อนแต่ง อายุยังไม่ถึงยี่สิบก็แบกท้องโตก ลับมาจากเมืองนอกแล้ว ใครก็รู้ทั้งนั้นแหละว่าเธอทำเรื่องน่า อับอายขายหน้าอะไรบ้างตอนที่อยู่ข้างนอก

“วันนี้เป็นงานเลี้ยงแบบไหน? คนดังชั้นนำทั่วทั้งเมืองเทียนให มาร่วมงานด้วย! ถ้าเธอไม่พึ่งพาหน้าตาของเธอหลอกลวงเศรษฐี สักคน ด้วยสถานะของเธอจะมีสิทธิ์ปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง?

“โอ๊ะโอ ฉันลืมไปว่าแม่ของเธอก็ทำสิ่งนี้ด้วย ลูกสาวสืบต่อ ธุรกิจของแม่ มันช่างเข้าขาได้กันดีมากเลยนะเนี่ย!

“พอรู้ว่าคนดังระดับชั้นนำของเมืองจะมารวมตัวกันในงานนี้ เลยพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแทรกตัวเข้ามาที่นี่ให้ได้ แล้วก็ใช้ความงามอีกนิดๆหน่อยๆมาล่อหลอกผู้ชาย

“แต่ยังไงก็ตาม ในฐานะของเพื่อนร่วมชั้น ฉันก็อยากแนะนำ เธอนะว่า การเป็นสาวสังคมมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ผู้ชายยิ่ง รวยยิ่งมีลูกเล่นแพรวพราว ถ้าอยากจะเอาใจให้พวกเขาเบิกบาน ใจ ไม่ใช่แค่หน้าสวยๆก็พอหรอกนะ!”

“แต่ดูจากการที่เธอที่ประสบการณ์โชกโชนตั้งแต่อายุยี่สิบ แล้ว จะสามหรือสี่คน ฉันคิดว่าก็ไม่น่าจะปัญหาสินะ ฮ่าๆ

ชายที่อยู่ข้างๆสวีเจียว มองไปทางอวิ๋นเสาเรียนด้วยใบหน้า ที่ตะกละตะกลามและเอ่ยว่า “คุณหนูอวิ๋น ที่แท้คุณทำแบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นหลังจากงานเลี้ยงแล้ว ผมมีหุ้นส่วนที่ใช้ได้อยู่สองสามคน ลองเทียบแล้วก็นับว่าดี สามารถแลกเปลี่ยนเพื่อ เชื่อมสัมพันธ์เชิงลึกกับคุณหนูอนได้นะครับ! ”

“แน่นอนว่าคุณหนูอนจะต้องพอใจกับราคา!

“สวีอีเจียว! เธอใส่ร้ายฉัน! ”

ตอนอยู่มัธยมปลายปีสาม ปากของสวีเจียวก็ขึ้นชื่อในเรื่อง ความชั่วร้าย อวิ๋นเสบู่เหยนย่อมสู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคำ พูดต่าทรามขนาดนั้น เธอโกรธจนตัวสั่น ใบหน้าแดงก่ำ “ฉันมา ที่นี่เพราะได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการ มีบัตรเชิญอยู่ในมือ ไม่ ได้สกปรกอย่างที่เธอคิด!”

“บัตรเชิญ? แล้วเธอคู่ควรเหรอ?”

ใบหน้าของสวีเจียวเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม “ไม่เชื่อ! เธอก็ดูสิ!”

พูดพร้อมกับพลิกหาในกระเป๋า ทันใดนั้น ใบหน้าที่โกรธจัด ได้เปลี่ยนไปในทันใด การเคลื่อนไหวของมือก็สับสนวุ่นวายเช่น

กัน

“บัตรเชิญล่ะ? ทำไมถึงหาไม่เจอ? เห็นอยู่ชัดๆว่าฉันเอาใส่ไว้ ในกระเป๋านี่นา!”

“โอ๊ะโอ ความแตกแล้วสินะ? ไหนจะบัตรเชิญอีก? จะดีร้ายยัง ไงนี่ก็เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำของเหล่าคนดังระดับสูงนะ สาว สังคมที่ขึ้นเตียงมาเป็นร้อยเหมาะสมที่จะได้บัตรเชิญด้วยงั้นเห รอ?”
พูดพร้อมกับหยิบบัตรเชิญออกมาจากกระเป๋าแล้วอวดต่อหน้า เธอ “ตูสิต นิสิถึงจะเป็นบัตรเชิญ!”

“เธอ! …..”

ในเวลานี้เองเซี่ยงเส้าหลงมาขวางหน้าเธอเอาไว้แล้วน้ำเสียง ที่เย็นชาก็ดังขึ้น “มันเหมือนกับว่ามีแต่คนชั้นต่ำอย่างพวกคุณจะ ต้องใช้บัตรเชิญ ถ้าพวกเราต้องการจะเข้าไป เราไม่จำเป็นต้อง ใช้บัตรเชิญใดๆทั้งสิ้น!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ