บทที่ 7
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วยวิกฤติครอบครัวครั้งนี้ แต่เป็นเพราะ เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นมากกว่าที่ทำให้เธอต้องคิดมาก ขนาดนี้ ถ้าหากเป็นผู้ชายคนอื่นเธออาจจะตอบตกลงทันทีก็เป็น ได้ เพราะเธอมั่นใจว่าสามารถหาวิธีจัดการต่อรองแลกเปลี่ยน กับผู้ชายพวกนั้นได้อย่างแน่นอน แต่กับแอชตัน มารีโน่ เธอไม่ มั่นใจเลยจริงๆ แต่ว่าทั้งบริษัท ทั้งครอบครัว ก็ฝากความหวังไว้ กับเธอเพียงคนเดียว แล้วจะให้เธอทำลายความหวังเพียงหนึ่ง เดี๋ยวนี้ได้ยังไงกัน ไหนคุณแม่ก็มาล้มป่วยอีก เธออยากจะถาม เหลือเกินว่าทำไมทางออกของปัญหามันถึงออกมาในรูปแบบนี้ แต่ใครที่จะเป็นคนตอบคำถามนี้ได้ละ
“แต่งก็แต่งค่ะ”
เฮ้ออ! แทบจะพร้อมกันที่ทุกคนถอนหายใจกับคำตอบของ แพรวา รอยยิ้มกลับมาประดับบนใบหน้าของทุกคนอีกครั้งด้วย ความยินดี
“แต่มีข้อแม้นะคะ”
ทุกคนหันหน้ามองคนเอาแต่ใจที่เกิดอาการตั้งแง่ขึ้นมาอีก ครั้งด้วยความเป็นกังวล ร้อยยิ้มสดใสหุบลงทันทีกับข้อแม้ของ แพรวาที่ไม่รู้ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน
ข้อแม้อะไรลูกแพร”ลูคัสถามลูกสาวสุดที่รักด้วยอาการสั่น
เล็กน้อย
“เราต้องปลดหนีบริษัทให้ได้ภายในหนึ่งปี และลูกแพรจะหย่า ทันทีค่ะ”
“อะไรนะ! อะไรนะ!/อะไรนะ!”
“ตกใจอะไรกันคะ”
“ปะเปล่า คือ แอ๊ดว่ามันจะดูไม่ดีนะลูกแพร เราเป็นผู้หญิงจะ เป็นฝ่ายเสียหายนะลูก แต่งงานกันแค่ปีเดียวก็หย่าแบบนี้
“ลูกแพรไม่แคร์ค่ะ เอาตามนี้ก็แล้วกันนะคะ”
แพรวาลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นบันไดไม่สนใจฟังคำคัดค้านของเด็ด และพี่ๆ ที่ส่งเสียงเรียกตามหลังให้กลับมาคุยอีกครั้ง แพรวา ยกมือบางปิดหูทั้งสองข้างก่อนเดินหายลับไปตามทางเดินแล้ว ตรงไปยังห้องพักของมารดาที่นอนป่วยด้วยอาการช็อกกับเรื่องที่ เกิดขึ้น
“แด๊ด ผมว่าแล้วไหมละ ลูกแพรยอมง่ายๆ ซะที่ไหน จะให้ แต่งงานแค่ปีเดียวละก็หย่า ฝ่ายนั้นเขาจะยอมเหรอครับ”
“ใจเย็นๆ ลูฟ แอ๊ดว่าคอยดูกันไปก่อนแล้วค่อยหาวิธีทำให้ทั้ง คู่รักกันทีหลังก็ยังไม่สาย เรายังเหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งปี”
“โธ่แด๊ด ถ้าเจ้าแอชตันรู้นะว่าผมรู้เห็นเกี่ยวกับงานแต่งงาน ครั้งนี้ มันเลิกคบกับผมแน่
“พี่ลูฟ ก็อย่าทำให้แอชตันรู้ก็หมดเรื่อง”
“พูดง่ายนะโลฟ แต่มันทำยากนะจะบอกให้
ลูฟมองหน้าน้องชายที่ทำเหมือนเรื่องทั้งหมดจะจบลงได้ง่ายๆ แต่มันไม่ง่าย ในเมื่อเขากับแอชตันเป็นเพื่อนสนิทที่ถึงแม้จะไม่ ค่อยได้เจอกัน แต่พวกเขาก็รู้จักนิสัยใจคอของแต่ละฝ่ายเป็น อย่างดีว่าจะต้องโมโหกับการจับคู่ที่ไม่ต้องการครั้งนี้แน่นอน ถึง แม้อีกฝ่ายจะรู้ว่าเป็นแพรวาเป็นน้องสาวของเขาแต่ทั้งคู่ก็แทบจะ ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนด้วยเหตุที่แพรวาไม่ค่อยอยู่ติดที่ อีกทั้ง เขาก็นัดเจอกันข้างนอกมากกว่าจะชวนกันเกี่ยวก้อยผู้หญิงมา นอน ในบ้าน ให้ใครเห็น จึงไม่มีทางที่แอชตันจะยอมแต่งงานตาม ความต้องการของครอบครัวอย่างแน่นอน เพลย์บอยที่หวงชีวิต โสดยิ่งกว่าอะไรจะยอมหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียวง่ายๆ ไม่มีทาง
“มัม แอ๊ด นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงประกาศว่าผมจะ แต่งงานสายฟ้าแลบแบบนั้น” แอชตันเอ่ยถามบิดามารดาทันทีที่
เข้ามาในบ้าน
“กลับมาก็ดี จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง” คุณหญิงสุชาดาที่นั่งอยู่ เคียงข้างสามีสะบัดหน้าใส่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่หนีหน้า หายตัวไปกับสาวๆ ไม่เว้นแต่วัน จนเธอทนไม่ไหวกับพฤติกรรม ฉาวโฉ่ต้องทำอะไรสักอย่าง
“ผมขอคุยเรื่องแต่งงานก่อนเลยครับ มันหมายความว่ายังไง ที่มัมกับแดดประกาศออกสื่อไปแบบนั้น ผมไม่แต่งงานกับใคร ทั้งนั้น ผมรักชีวิตโสดของผม ผมไม่ยอมให้มัมกับแด๊ดจับผม แต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น”
“อายุปูนนี้แล้วจะมารักชีวิตโสดอะไร ควงคนนั้นที่คนนี้ที่มีแต่ เรื่องขึ้นหน้าหนึ่งไม่เว้นแต่ละวัน แต่ละคนมัมเห็นละปวดหัว ลูกจะต้องแต่งงานกับคนที่มีมหามาให้คนนี้เท่านั้น
“มัมครับ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทยที่มันจะจับคู่ให้ผมแต่งงานกับ
ใครตามที่มีมต้องการได้นะครับ” “ยะ แต่มันเป็นคนไทย มีอะไรไหมแล้วลูกก็เป็นลูกครึ่งไทย
อเมริกัน เพราะฉะนั้นมัมก็มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่งในตัวลูก”
“แต่อีกครึ่งหนึ่งต้องไม่ยอมแน่ ใช่ไหมครับ แด๊ด”
“ยอม”
“โธ่แด๊ดครับ” แอชตันขยี้ผมตัวเองด้วยความโมโหจนไม่เป็น ทรง ที่จริงมันก็ไม่ได้เป็นทรงมาตั้งแต่แรกแล้วเพราะความรับ ร้อนในการเดินทางข้ามน้ำทะเลกลับมาที่นี่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ