บทที่ 14
มาเคลีนกำลังจะถูกนำตัวออกไป แต่ในขณะนั้นหญิงสาวที่ มีท่าทางสงบเยือกเย็นเดินตรงไปหามาดามแลงฟอร์ดและ กระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของเธอ
ทันใดนั้น มาดามแลงฟอร์ดก็แสดงท่าที่เปลี่ยนไป เธอมอง ไปยังมาเคลีนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะพูดว่าเรื่อง ทั้งหมดมันคือเรื่องเข้าใจผิด
มาเคลีนไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เมื่อเธอมองไปยังใบหน้า ของหญิงผู้นั้น เธอก็สังเกตได้ว่าหล่อนกำลังมองเธออย่าง รังเกียจ
สายตาของเธอทำให้มาเคลีนรู้สึกไม่ดีนัก ในขณะเดียวกัน เมเรดิธก็ได้เดินเข้ามา
“แมดดี้ นี้แม่ของเจเรมี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เธอไม่ต้องเดิน ทางไปยังสถานีอีกต่อไปแล้ว แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าจะ ไม่ทำอะไรที่น่าขายหน้าแบบนี้อีก
เมเรดิธพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลมาเคลีนพยายามที่จะ อธิบาย แต่แม่ของเจเรมี่ก็ได้เดินจากไปหลังจากที่มองดู เธอด้วยความไม่พอใจเมเรดิธกระตุกยิ้ม เธอเดินตามหลังหล่อนไปและคอยอยู่ ข้าง ๆ แม่ของเจเรมี่ มันดูเหมือนพวกเขาเป็นคู่แม่สามีกับ ลูกสะใภ้ที่รักกันดี
เสียงหัวร่อต่อกระซิกดังแว่วเข้ามาในหูของเธอ และยังมี เสียงหัวเราเบา ๆ อีกด้วย
คุณนายวิทแมนเป็นคนที่ได้เล่ห์เหลี่ยมเกินกว่าที่จะไป เกี่ยวข้องกับเรื่องการโจรกรรม มันช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี
มาเดลีนรู้สึกเสียใจและทำอะไรไม่ถูกเมื่อเธอต้องเผชิญกับ สายตาที่น่าสงสัยล้อมรอบตัวเธอ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะ เดินกลับเข้าไปในบ้าน และในที่สุดเธอก็เห็นเจเรมี่
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจเรมี่เห็นมาเดลีนถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น แต่งตัวเลอะเทอะ เขาก็มีสีหน้าที่บ่งบอกถึงความร้อนรนบน หน้าของเขา
“วันนี้เป็นวันเกิดของแม่ฉัน เธอไม่ได้แค่มาสายเท่านั้น แต่ เธอยังแต่งตัวแบบนี้อีก แล้วเธอยังกล้าที่จะขโมยของของ คนอื่นด้วย นี่เธอเบื่อกับชีวิตขนาดนั้นเลยหรือ?
เขากล่าวหาเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นมาเคลีนยิ้มอย่างขมขื่น เธอต้องไปโรงพยาบาลเพราะ การกระทำที่แสนหยาบคายของเขาในคืนก่อนหน้า ไม่ต้อง พูดถึงเรื่องที่เธอเกือบจะต้องเสียลูกของพวกเขาไปอีก
ก่อนที่เธอจะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องเนื้องอกเมื่อเธออยู่ ในโรงพยาบาล เธอต้องรีบมาที่นี่ มาเพื่อปกปิดมัน และใน จังหวะที่เธอเดินผ่านประตู เธอก็เจอกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซะก่อน เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะแต่งตัวด้วยซ้ำ
มาเคลีนมองไปที่ใบหน้าอันเคร่งขรึมของชายผู้นั้น “เจเรมี่ ฉันไม่ได้ขโมยอะไรทั้งนั้น เมเรดิธต่างหาก…
“เธอเป็นคนมือไวไม่พอ แต่นี่เธอยังจะกล่าวหาเมเรดิธ เป็นคนค้นเจอสร้อยข้อมือในกระเป๋าของเธออีกเหรอ? มา เดลีน นี่เธอไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือไง?
มาเดลีน นี่เธอไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือไง?
มาเดลีนรู้สึกเจ็บที่หัวใจจนแทบหายใจไม่ออก เธอมองเจเร มีที่เดินจากไปและตรงไปยังชั้นบนอย่างเสียใจ
นี่เป็นห้องของเจเรมี่ในคฤหาสน์หลังเก่านี้ และนี่เป็นครั้ง แรกที่เธอได้เข้ามา ในห้องมีเสื้อผ้าราคาแพงอยู่ในตู้ เสื้อผ้า พวกมันมาจากแบรนด์ระดับนานาชาติทั้งนั้นในขณะที่มาเคลีนกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เมเรดิธก็เดินเข้า
มา
เธอมองสภาพที่โชคร้ายของมาเคลีนและหัวเราะออกมา “มาเคลีน เธอช่างไร้ค่าเสียจริง เธอดูไม่เหมือนราชินีที่สวม มงกุฎด้วยซ้ำ”
มาเคลีนหัวเราเบา ๆ อย่างไรก็ตาม พูดตามตรงนะ ฉัน เป็นราชินี ในขณะที่เธอเป็นได้แค่เมียน้อยที่ไร้ยางอาย
1
“เธอ…” เมเรดิธรู้สึกโกรธมาก “อย่าดีใจไปนักเลยมาเด ลีน เจเรมี่จะหย่ากับเธอเร็วกว่าที่เธอคิด แล้วเจเรมี่ก็จะ ทำให้เธอและลูกในท้องของเธอหายไปซะ!
“เธอน่าจะรู้ดีที่สุดว่าใครเป็นลูกของเขา” มาเดลื่นมองไป ที่เมเรดิธด้วยความเกลียดชัง “เธอคือคนที่เอาสร้อยข้อมือ มาไว้ที่ฉันใช่ไหม?”
“หม แล้วถ้ามันเป็นฉันจริง ๆ ? ใครจะเชื่อเธอ?” เมเรดิธ ไม่สนใจที่ทำในสิ่งนั้นลงไป เธอหัวเราะขณะที่เธอรู้สึก พอใจกับตัวเอง “ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะได้เป็นคุณหญิงวิท แมน”
หลังจากที่เมเรดิธจากไป มาเคลีนก็รีบอาบน้ำและใส่เสื้อสูทสองชิ้นของชาแนล นอกจากนี้เธอยังแต่งหน้าเบาๆ
สายตาของเธอดูเปล่งประกายเมื่อมองเข้าไปในกระจก เธอ ดูสง่างามและเกลี้ยงเกลา อย่างไรก็ตามไม่ว่าเธอจะดูดี มากแค่ไหน เจเรมี่ก็ไม่แม้แต่ละชายตามองเธอ
เมื่อเธอคิดถึงสิ่งที่เธอเป็น เธอก็สัมผัสหน้าท้องแบนราบ ของเธอและยิ้มออกมา
ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเหมือนที่เอวาพูดก็ได้ ความรักของเธอที่ มีต่อเจเรมี่จะไม่อีกต่อไป เพราะชีวิตของเธอใกล้จะจบลง แล้ว
ประตูถูกเปิดออก ในขณะที่เจเรมี่เข้ามาเร่งเธอมาเคลีนเก็บ ซ่อนความกังวลและหันไปยิ้มให้เจเรมีอย่างอบอุ่น
มีแววตาแห่งความตกใจในดวงตาของชายหนุ่ม เขาเดิน เข้ามาอยู่ข้าง ๆ มาเดลีนและเอื้อมมือมาโอบเอวของเธอ อย่างใกล้ชิด
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ