100 วัน รักฉันต้องมีเธอ NC25

บทที่ 3 การเดินทางระหว่างสองโลก



บทที่ 3 การเดินทางระหว่างสองโลก

ทุกครั้งที่ขลุ่ยเพรียกบุปผานพวกเขาเดินทางกลับโลก ปัจจุบัน เขาจะเห็นดวงตาละห้อยของเจ้าอี้เฟยที่คอยมองตาม แต่เดิมที่นางยังเล็กนางจะร้องไห้ฟูมฟายทั้งน้ำตา จวบจนเติบ ใหญ่จึงค่อยทำใจได้ไร้น้ำตามีเพียงดวงตาเศร้าสร้อยที่คอย มองเขาและโจวเจ้าเว่ยหายไปต่อหน้า

อีกประการหนึ่งที่ทำให้โจวเจี๋ยหลุนหนักใจ คือเจ้าอี้เฟยปักใจ ในตัวเขาตั้งแต่เล็ก นางถึงขนาดออกปากว่าจะไม่ยอมแต่งงาน กับใครหากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เขา

นั่นทำให้โจวเจี๋ยหลุนถึงกับปวดเศียรเวียนเกล้าเมื่อเด็กน้อยผู้ นี้จริงจังขึ้นทุกวัน ในขณะที่ตัวเขานั้นไม่กล้าคิดที่จะมีความ สัมพันธ์ไปมากกว่าการเป็นพี่ชายที่แสนดีของนาง

ด้วยตัวเขายังไม่รู้อนาคตว่าจะเกิดเรื่องราวใดขึ้นหากไม่ สามารถแก้คำสาปที่ติดตัวโจวเจ้าเว่ยได้ เขาอาจจะต้องกลับยัง โลกอนาคตไปตลอดกาล หรือไม่อาจจะหายไประหว่างเดินทางก็ เป็นได้

อนาคตที่มืดมนเช่นนี้โจวเจี๋ยหลุนจึงไม่อาจให้เจ้าอี้เฟยเอาตน เข้ามาเสี่ยงกับเขาได้ เขาจึงวางตนเป็นพี่ชายที่แสนดีมาตลอด แม้ว่านับวันที่เจ้าอี้เฟยเติบโตทำให้เขาหวั่นไหวขึ้นทุกวันก็ตาม

“ท่านพี่ท่านเอามาเยอะหรือไม่” เจ้าอี้เฟยถามขึ้นเมื่อคิดได้ว่า ตนเองกินช็อกโกแลตเข้าไปเยอะ จนลืมนึกถึงวันหน้าไป
“เท่าที่เจ้าเห็นข้ายังไม่มีเวลาเตรียมมาก

โจวเจี๋ยหลุนยักไหล่จับจ้องสมาธิกับภาพวาดอีกครั้ง เขาแตะ พู่กันลงบนกระดาษแล้วลากเส้นเล็ก ๆ จนกลายเป็นภาพดอกไม้ กระจุ๋มกระจิ๋ม ในขณะที่เด็กสาวตั้งอกตั้งใจแกะห่อขนมกิน อย่าง ช้าๆ เป็นเพราะอีกสามเดือนต่อจากนี้ที่ท่านพี่กลับมา หากนางยัง ตะกละเช่นนี้คิดว่าของสิ่งนี้ย่อมไม่พอกินเป็นแน่

เมื่อเจ้าอี้เฟยเงียบเสียง โจวเจี๋ยหลุนจึงเพียงมองนางผ่านๆ แล้วตั้งใจกับสิ่งที่ทำตรงหน้าต่อ เป็นเช่นนี้ทุกครั้งที่เขากลับมา เด็กน้อยจะวิ่งเข้ามาหาสนทนาเรื่อยเปื่อยแล้วเกาะเขาแจไม่ยอม ห่าง

จวบจนโจวเจ้าเวยมาดึงตัวนางไปทำเรื่องพิเรนทร์ให้ปวดหัว นั่นแหละ เจ้าอี้เฟยถึงยอมห่างเขาได้ หากไม่ใช่ว่าโจวเจ้าเว่ย ต้องอยู่เป็นเพื่อนเสด็จย่าให้หายคิดถึง ป่านนี้ทั้งคู่คงได้ออกไป สร้างเรื่องแล้ว

เสียงลมพายุพัดกระหน่ำพร้อมกับเสียงสายฝนที่สาดโหม กระหน่ำลงมา สตรีร่างอรชรบ่นออกมาคำหนึ่ง

“ฝนตกหนักเช่นนี้ท่าทางจะตกทั้งคืนขาเห็นทีจะกลับจวนไม่ได้ เสียแล้ว”

“ท่านอาจะเป็นห่วง รอฝนซาพี่จะไปส่ง

“ไม่เอา หากโดนฝนเพียงเล็กน้อยข้าอาจป่วยได้นอนที่นี่ แหละ” น้ำเสียงคนตัวเล็กช่างเอาแต่ใจนัก
“เจ้าผ่านพิธีปักปั่นแล้ว ทำตัวงอแงเป็นเด็กเห็นจะไม่งาม

“ท่านเป็นว่าที่สามีข้าทำตัวงอแงกับท่านได้” นางโต้เถียงใน ขณะที่ท่านพี่ของนางดูเหมือนจะสนใจกระดาษด้านหน้ามากกว่า จะตำหนินางจริงจัง

“ข้ารักเจ้าประดุจน้องสาวแต่งงานกันไม่ได้”

“รักเช่นใดก็รักเหมือนกัน” เจ้าอี้เฟยไม่เข้าใจจริงๆ สำหรับ นางแล้วเพียงโจวเจี๋ยหลุนรักนางไม่ว่าแบบไหนก็คือรัก เช่นนี้ก็ แต่งงานได้

“เจ้ายังเด็กวันนี้อาจไม่เข้าใจ แต่โตขึ้นจะเข้าใจความหมายที่ พี่พูด”

“ท่านพี่เพิ่งบอกว่าข้าผ่านพิธีปักปั่นแล้วโตแล้ว ท่านพูดจาวก วนเช่นนี้เฟยเอ๋อเริ่มงงเสียแล้ว”

กล่าวจบนางก็ถือวิสาสะมุดศีรษะเข้าไปที่หน้าตักของเขาแล้ว ใช้ต่างหมอนหนุนนอนอย่างสบายใจ โจวเจี๋ยหลุนไม่อาจขยับ หนี ใบหน้าเล็กนุ่มนิ่มของนางทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวนัก เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาแล้วพยายามเพ่งสมาธิ ในสิ่งที่ตนเองทําอยู่

“ท่านอย่าผลักไสเฟยเอ๋อเลย เพียงมีท่านอยู่เคียงข้างข้าก็ไม่ ต้องการสิ่งใดแล้ว ขอเพียงมีท่าน”

มือเรียวของโจวเจี๋ยหลุนชะงักค้าง นางยังไร้เดียงสานักใน โลกนี้นอกจากความรักแล้วมีสิ่งที่น่ากลัวที่เรียกว่าการพลัดพรากจากคนที่รักรออยู่

หากเป็นเช่นนั้นจริง สตรีที่อ่อนต่อโลกเติบโตมาภายใต้ความ รักความอบอุ่นของครอบครัวเช่นเจ้าอี้เฟยจะอดทนได้อย่างไร เขาหลุบตามองใบหน้างามหวานซึ้งที่หลับตาอย่างผ่อนคลาย

เส้นผมยาวสลวยของนางช่างนุ่มละมุนคลอเคลียอยู่บนตัก ของเขา อ่อนหวานจนโจวเจี๋ยหลุนไม่อาจผลักไสนางได้อีก เขา กำมือแน่นเพื่อระงับความต้องการของตนเองเพื่อไม่ให้ยกมือได้ ใบหน้างามของหญิงสาว เขาและนางเพียงเท่านี้ก็เจ็บปวดเกิน ทนแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ