100 วัน รักฉันต้องมีเธอ NC25

บทที่ 10 โลกใบใหม่



บทที่ 10 โลกใบใหม่

เจ้าอี้เฟยกลัวช่างเงินจะรำคาญ นางจึงไม่ถามว่า คำว่าทัน สมัยหมายความว่าอย่างไร

ในขณะที่เจ้าอี้เฟยตาโตเมื่อเห็นว่ามีบางสิ่งปิดดวงตาเขาอยู่ และอาภรณ์ของเทพกาลเวลาก็ยังเปลี่ยนไปจนนางที่เพิ่งมาถึงยิ่ง

งงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อลิฟต์เริ่มขยับเจ้าอี้เฟยรู้สึกตกใจ นางกระโดดกอดโจวเจี๋ย

หลุนเอาไว้ แต่กลับวูดอากาศไม่อาจสัมผัสได้

เทพกาลเวลาหัวเราะเยาะ พร้อมอธิบายเกี่ยวกับโลกสมัยใหม่ ให้นางอย่างละเอียดไปทีละอย่าง

เจ้าอี้เฟยผู้ซึ่งเพิ่งเหยียบเท้าเข้ามาในโลกนี้ฟังจนรู้สึกว่า

สมองของตนเองกำลังจะบวมอยู่แล้ว

แต่นางก็ยังพยักหน้าและฟังอย่างตั้งใจ

กระทั่งลิฟต์หยุดลง เจ้าอี้เฟยเดินตามโจวเจี๋ยหลุนมาอย่าง ใกล้ชิด เพียงแต่สัมผัสเขาไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่านางจะไม่สามารถ ละโมบ ในการเข้าใกล้เขาอีกนิดนี่นา

สิ่งใดที่ควรทํามาตั้งนานนางก็จะทำเสีย หลังจากเข้าร่างของ คนผู้นั้นแล้ว นางจะต้องรีบครอบครองเขาให้จงได้

“เจ้าออกห่างเขาได้แล้ว เกาะติดแจเป็นวิญญาณเด็กตามแม่อยู่ได้”

เสียงตำหนิเยียบเย็นดังแทรกอากาศขึ้นมา

“ท่านยมทูตขาว”

เจ้าอี้เฟยงงงัน เมื่อมองยมทูตขาวและยมทูตที่ยืนลิ้นห้อย ใบหน้าถมึงทึงอยู่เบื้องหน้า

“ข้าได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่แล้วนะเจ้าคะ ท่านจะมาจับตัวข้า หรือ” นางรีบออกตัว

ยมทูตทั้งสองทำความเคารพเทพกาลเวลาโดยไม่สนใจที่จะ

พูดคุยกับนางสักคํา

เทพกาลเวลาโบกมือ

“เอาเถิดอย่ามากพิธีเลย โลกนี้มีผู้ใดคร่ำครีกันพวกเจ้าก็ด้วย หากมารับคนโลกนี้ก็แต่งกายเสียใหม่ แฟชั่นน่ะต้องเข้ากับยุค สมัย”

ยิ่งซางเป็นผู้นั้นเอ่ยเจ้าอี้เฟยก็ยิ่งมึนงง นางไม่อาจเรียนรู้ได้ ทั้งหมดในชั่วพริบตา แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาสนทนากับเทพกาล เวลาอยู่นางจึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอีก

พวกเขาไม่ได้มาจับนางกลับไปเป็นแน่ คงได้รับมอบหมายมา ทำหน้าที่กับผู้อื่นกระมัง

ที่ทำได้คือตามท่านพี่โจวเจี๋ยหลุนของนางไปติด ๆ กระทั่งเขา เปิดประตูเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง
เจ้าอี้เฟยมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ นางสังเกต เห็นสตรีผู้หนึ่งรูปร่างผอมจนเหลือเพียงกระดูกนอนแนบอยู่บน เตียงประหลาดที่ขยับได้ ใบหน้าของสตรีผู้นั้นคล้ายมีเพียงหนัง หุ้มโครงกระดูกเท่านั้น

นางผอมจนน่ากลัวกว่าวิญญาณที่เจ้าอี้เฟยเคยพบ สตรีผู้นั้น ยังมีบางสิ่งครอบอยู่ที่จมูกของนาง เจ้าอี้เฟยจึงมองอย่างสนอก สนใจ

แน่นอนว่าท่านเทพกาลเวลาที่กำลังสนุกที่นานนับหมื่นปีจะได้ พาใครสักคนมายังโลกนี้ เขาจึงสนุกที่ได้กลายเป็นผู้รอบรู้จึง อธิบายให้เจ้าอี้เฟยฟังด้วยความภาคภูมิใจ

“มันคือเครื่องช่วยหายใจ ในนั้นมีออกซิเจน”

เจ้าอี้เฟยเกาศีรษะ ยิ่งฟังก็ยังไม่เข้าใจ กระทั่งเตียงหลังนั้นเริ่ม ขยับตัว นางตกใจจนดวงตาแทบถลนออกมา

ตั้งแต่นางตายนางก็ไม่เคยตกใจเช่นนี้ กระทั่งเหาะเหินเดิน อากาศหรือทะลุกําแพง ทะลุกาลเวลาก็ได้ผ่านมาหมดแล้วก็ยัง นิ่งเฉยอยู่ได้

แต่เจ้าอี้เฟยผู้นี้ดันกรีดร้องกับการเห็นเตียงที่ขยับได้หลังนี้ ออกมาด้วยความดังที่ทำให้คนแทบหูแตก

“กรี๊ดดดดดดด”

ยมทูตดำและยมทูตขาวยกมืออุดหู ในขณะที่เทพกาลเวลา เสกหูฟังมาปิดพร้อมกับฟังเพลงของจัสตินบีเบอร์เรียบร้อยแล้วจึงไม่ได้ยินเสียงทำลายโสตประสาทของเจ้าอี้เฟย

“สิ่งนี้คืออะไรหรือเจ้าคะ”

นางกระตุกชายเสื้อที่แปลกประหลาดของเทพกาลเวลาไม่ หยุดทั้งชี้มือไปที่เตียงประหลาด

เมื่อเห็นนางไม่ส่งเสียงหนวกหูแล้วเขาจึงยอมทำตัวเป็นพี่ เลี้ยงให้นางอีกสักรอบ

“นี่ก็คือเตียง ที่เจ้าเห็นมันขยับได้เขาเรียกว่าเทคโนโลยี…

หลังจากนั้นก็อธิบายการทำงานอย่างละเอียดราวกับว่าเทพ กาลเวลาผู้นี้เป็นผู้คิดค้นและประดิษฐ์มันขึ้น สุดท้ายแล้วเขาจึง เอ่ยว่า

“ข้ารู้เพราะข้าเห็นทุกสิ่งไม่ต้องกล่าวชมเกินไป

ที่ไหนได้ในตอนนี้เจ้าอี้เฟยคล้ายรู้สึกว่าตนเองสติกำลังฟัน เฟือนไปแล้ว

โลกนี้ไม่ต้องอาศัยเวทมนตร์ก็คล้ายจะมีเวทมนตร์ที่แปลก ประหลาดเสียจริง

นี่คือโลกที่บุรุษที่นางรักเติบโตและคุ้นเคยหรอกหรือ เช่นนั้น นางก็จะพยายามคุ้นเคยกับมันให้เร็วที่สุดเสียแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ