โซ่พิศวาสใยเสน่หา

บทที่ 4 ขายขนมจีบ 1



บทที่ 4 ขายขนมจีบ 1

“หา! ว่าอะไรนะ คุณนาน โอนตแกนเนอร์เหรอ”

ธารทิพย์ถามวารุณีเสียงสูง ใบหน้ามีความตกใจเล็กน้อย “ก็ใช่น่ะสิ” วารุณีตอบ “แล้วทำไมแกต้องทําหน้าตกใจแล้ว

ถามฉันเสียงสูงด้วยล่ะ”

“แหมแก ฉันก็ตกใจน่ะสิ ที่แกบอกว่าคุณนานโอจะมารับแก ไปดินเนอร์ด้วย”

“ตกใจทําไม ก็แค่ไปดินเนอร์ปกติธรรมดา” วารุณีไม่เห็น ว่าเป็นเรื่องแปลก ทว่าธารทิพย์ไม่คิดเช่นนั้น

“ธรรมดากะผีน่ะสิ” วารุณีมองหน้าเพื่อนหลังจากได้ยิน ประโยคนี้ “ฉันว่ามันไม่ธรรมดา แกลองคิดดูสิว่า คุณนานโอเป็น ถึงผู้บริหารระดับสูงปรี๊ด จะมาเลี้ยงฉลองที่แกได้เป็นพรีเซนเตอร์ ทำไม แล้วฉันก็ไม่เคยได้ยินได้รู้มาก่อนว่า คนที่เซ็นสัญญาเรื่องนี้ จะเป็นท่านประธานบริษัท เขาต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนี้สิถึงจะ ถูก ฉะนั้นที่เขาชวนแกไปดินเนอร์เพราะสนใจแกแน่ๆ เลยวา”

ธารทิพย์ดีใจแทนเพื่อนที่มีคนหล่อ รวย และดูดีมีระดับมา ชอบพอ งานนี้หล่อนจึงสนับสนุนเพื่อนรักเต็มที่

“ไม่จริงมั้ง คนระดับนั้นจะมาสนใจฉันได้ไง ไม่มีทางหรอก” วารุณีกลับคิดสวนทางกับเพื่อน ทว่าอีกใจกลับพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปลื้มปริ่มเมื่อธารทิพย์บอกว่า นานโอสนใจ ตน แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้ในใจ ไม่กล้าเปิดเผยให้เพื่อนรู้

“คนระดับนั้นที่เราพูดถึงก็คนคนหนึ่งนะ มีหัวใจ ตับไตไส้พุง เหมือนเรา เกิดแก่เจ็บตายก็ด้วย ไม่ได้วิเศษเป็นเทวดาถึงจะได้ อิ่มทิพย์ อีกอย่างมีออกถมไปที่ผู้ชายรวยล้นฟ้า แต่มองผู้หญิง ยาจก แต่จะว่าไป ฐานะของแกก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะ พี่เหนือออกจะ รวย พี่เหนือรวยแกก็รวย” ธารทิพย์พูดมาล้วนแต่เป็นความจริง “ถ้าคุณนานโอจีบแก แกก็รับขนมจีบเขาเลยนะ ผู้ชายเพอร์เฟค แบบนี้หายาก”

“เขาไม่ได้จีบฉันหรอก คนอย่างคุณนานโอมีผู้หญิงที่เทียบ เท่ากับเขาตั้งเยอะ อีกอย่างอายุของเขาก็มากกว่าฉันตั้งยี่สิบห้า ปีเชียวนะแก”

“อายุห่างกันยี่สิบห้าปีแล้วไง เป็นผัวเมียกันไม่ได้เหรอ อายุ ห่างกว่านี้ฉันก็เห็นว่าเป็นผัวเมียกันได้เลย อายุน่ะมันเป็นแค่ ตัวเลข ไม่เกี่ยวกับความรักความใคร่สักหน่อย” ธารทิพย์หาข้อ มาแย้งวารุณี “อีกอย่างแกชอบคนมีอายุกว่าไม่ใช่เหรอ ฉันจำ คำพูดของแกได้ แกบอกฉันว่า มีแฟนอายุเยอะกว่าดีกว่ามีแฟน อายุเท่ากัน เพราะแฟนที่อายุมากกว่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่ มี ความคิดความอ่านและความเป็นผู้นำมากกว่า คุณนานโอ โจทย์แกได้ทุกข้อเลยนะ แถมหล่อ รวยอีกต่างหาก”

ธารทิพย์พูดอีกก็ถูกอีกและสมกับที่เป็นเพื่อนวารุณี รู้ลึกรู้ จริงเรื่องวารุณีมากทีเดียว วารุณีแทบจะหมดคำโต้เถียงกับการ วิเคราะห์ของเพื่อน
“ถึงคุณนานโอจะจีบฉันจริง ฉันก็ไม่คิดว่าจะจีบสำเร็จ แกก็รู้ นี่ว่า ถ้าคุณนาน โอคิดจีบฉันจริง เขาก็ต้องถูกพี่น็อตสกัดดาวรุ่ง อีกตามเคย”

วารุณีเป็นคนสวย หุ่นก็เร้าใจผู้ชายที่เมียงมอง มีหรือจะไม่มี ผู้ชายมาจีบ แน่นอนว่ามีและหลายคนด้วย ทว่าผู้ชายทั้งหลายก็ ถูกบุรินทร์เพื่อนสนิทของเหนือเมฆ ที่คอยสอดส่องดูแลน้องสาว ของเพื่อนรักทำให้ชายทั้งหลายม้วนเสื่อยอมแพ้ไม่เดินหน้าจีบ วารุณีต่อ จะว่าไปส่วนหนึ่งวารุณีไม่คิดมีแฟนด้วย ตั้งใจเรียนให้ จบนำความสำเร็จไปให้เหนือเมฆ หล่อนจึงไม่เดือดร้อนเรื่อง ผู้ชายที่ถูกสกัดให้พ้นทาง

แต่ทำไมหนอ ทำไม เพียงแค่คิดว่า นานโอจะจีบตน หล่อน รู้สึกว่า ไม่อยากให้บุรินทร์ทำให้นานโอหยุดขายขนมจีบตน เป็น ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนมาก่อนเลย

“ก็บอกแล้วไงว่า เรื่องพี่น็อตฉันจัดการเอง แกสบายใจได้ ถ้า

คุณนานโอจีบแก แกรีบรับซื้อเลยนะ”

“แกจะทำยังไงล่ะ พี่น็อตไม่ใช่เล่นๆ นะ” ธารทิพย์ยิ้มกว้าง เมื่อได้ยินคําพูดของวารุณี

“แกพูดแบบนี้ แกก็อยากให้คุณนานโอจีบแกจริงๆ ใช่ม้า ธารทิพย์พูดอย่างรู้ทันความคิดเพื่อน

“บ้าเหรอ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย” วารุณีตอบกลับด้วย ท่าทางเขินอาย หน้าแดงระเรื่อ

“เชื่อมือไอ้เถอะ ฉันจัดการพี่น็อตได้อยู่แล้ว” คนพูดพูดอย่างมั่นใจ “ฉันว่าเราขึ้นไปเรียนกันดีกว่า จวนได้เวลาแล้ว

สองสาวเพื่อนสนิทยุติการสนทนาลง พากันเดินขึ้นอาคาร เรียน โดยไม่รู้ว่า คนที่สองสาวกำลังเป็นกังวล จะมาหาวารุณีที่ มหาวิทยาลัยแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว

วารุณีกับธารทิพย์เดินออกมาจากอาคารห้องสมุดเมื่อใกล้ ถึงเวลานัดหมายไว้กับนานโอ สองสาวเดินไปคุยกันไปตามปกติ บางครั้งธารทิพย์กล่าวแซวเพื่อนรักเรื่องหนุ่มใหญ่รูปหล่อที่จะมา รับไปดินเนอร์ แน่นอนว่าแก้มทั้งสองข้างของวารุณีเห่อร้อนและ ขึ้นเลือดฝาดด้วยความเขินอาย

“นั่นไงแก คุณนาน โอมายืนคอยแกอยู่โน่นแน่ะ” ธารทิพย์ บอกวารุณีด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับชี้ไปทางนานโอที่ยืนพิงรถ สปอร์ตสุดหรู ก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบเมื่อเห็นรถยนต์ของใครคน หนึ่งมาจอดต่อท้ายรถซุปเปอร์คาร์ของนานโอ ซึ่งหล่อนจำได้ดี ว่า คือรถใคร “แย่แล้ววา พี่น็อตมา

วารุณีทำหน้าตกใจ เมื่อได้ยินชื่อเล่นของบุรินทร์ มองหา เจ้าของชื่อ

“ไหนล่ะพี่น็อต”

“นั่นไงล่ะ จอดรถต่อท้ายรถคุณนานโอ

วารุณีจำรถบุรินทร์ไม่ได้ เนื่องจากรถยนต์ของเขามีหลายคัน หล่อนจำได้อยู่คนเดียวคือ แลมโบกินี่สีแดง ซึ่งรถที่เขานำมาวัน นี้คือรถจากัวร์ ธารทิพย์รีบฉุดวารุณีให้หลบหลังรูปปั้น เพื่อไม่ให้ สองหนุ่มเห็น
“เราจะทำยังไงดีล่ะ ถ้าพี่น็อตเห็นคุณนาน โอมารับฉันไป ดินเนอร์ ความแตกแน่” วารุณีถามคนมากแผนด้วยเสียงร้อนรน อีกฝ่ายนิ่งคิด ก่อนที่สมองจะสว่างปิ้ง

“แกอยู่ตรงนี้นะ อย่าเพิ่งออกไปไหน แกจะออกไปก็ต่อเมื่อฉัน ขึ้นรถไปกับพี่น็อต” ธารทิพย์บอกวารุณี

“แล้วแกจะทํายังไง” วารุณีอดถามไม่ได้

“เชื่อหัวไอ้เถอะ” ธารทิพย์ตอบกลับ “ทำตามที่ฉันบอกนะ วา ฉันไปล่ะ”

วารุณียืนหลอบหลังรูปปั้นตามเดิม เยี่ยมหน้าออกไปมองดู ธารทิพย์ที่เดินไปหาบุรินทร์ด้วยความเป็นห่วงและกังวลใจ หล่อนไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ อารมณ์เหมือนหนีผู้ปกครอง ไปเที่ยวอย่างไหนอย่างนั้น

“พี่น็อต” ธารทิพย์ปั้นหน้ายิ้มกว้าง เรียกชื่อบุรินทร์ที่ก้าวเดิน มาหา “มารับกลับบ้านเหรอคะ”

“แล้ววาล่ะไปไหน”

เขาไม่ตอบแต่กลับถามถึงวารุณี ธารทิพย์หุบยิ้ม นึกน้อยใจ ชายหนุ่มรูปงามรูปร่างดีคนนี้ขึ้นมาทันใด ในสายตาเขามีแต่ วารุณี ไม่มีหล่อนเลยสักนิด

“แหม แทนที่จะทักทายน้ำกลับ ดันถามถึงคนที่ไม่อยู่ตรงนี้ น้อยใจดีไหมเนี่ย” ธารทิพย์งอนใส่

“ก็ทุกทีเห็นตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ พอพี่ไม่เห็นว่า พี่ก็ถามสิบุรินทร์ตอบ ก่อนถามถึสตรีที่เขาไม่เห็นหน้า “แล้ววาไปไหน”

“วาอยู่ในห้องสมุด ทำรายงานพิเศษกับกลุ่มเพื่อนๆ คงจะอีก สองสามชั่วโมงกว่าจะเสร็จ

“แล้วทำไมไม่อยู่กับว่าด้วยล่ะ

“ทำงานคนละกลุ่ม จะให้ไปนั่งเสนอหน้าได้ไง” สาวจอมแก่น ตอบ เดินไปคล้องแขนบุรินทร์ “พี่น็อตขา น้ำหิวแล้ว เราไปหา อะไรกินกันดีกว่านะ”

บุรินทร์ดึงแขนตัวเองออกจากแขนเรียวเล็กที่คล้องแขนตน ออก ขยับเท้าออกมาทางด้านข้างหนึ่งก้าว ทิ้งระยะห่างไม่ให้ดู น่าเกียจ ธารทิพย์หน้าชาวาบ ไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนี้ ทำให้ หล่อนรู้สึกเหมือนกับว่า เขารังเกียจตน

“อย่าทำอย่างนี้มันไม่ดี” บุรินทร์สอน ธารทิพย์อยากเถียง กลับ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองมีหน้าที่อะไร ธารทิพย์เก็บคำพูด โต้เถียงไว้ในใจ หล่อนต้องพาบุรินทร์ออกไปจากที่นี่

“พี่น็อต น้ำหิว เราไปหาของอร่อยกินกันดีกว่านะ

“รอวาก่อนสิ แล้วค่อยไปด้วยกัน”

“โห กว่าวาจะทำงานเสร็จ น้ำเป็นโรคกระเพาะกันพอดี หล่อน โวยเล็กน้อย “เอาอย่างนี้ดีไหมพี่น็อต กว่าว่าจะทำงาน เสร็จตั้งสองสามชั่วโมง เราไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับ มารับวา ดีกว่ามานั่งแขวนท้องรอสามชั่วโมง ไม่ไหวนะพี่น็อต นะ พน ตนะ”
บุรินทร์มองหน้าคนหิว สลับไปมองตัวอาคารเรียนหลังใหญ่ที่ เขารู้ดีว่า ห้องสมุดอยู่บนชั้นที่สี่ของอาคารหลังนั้น ก่อนตัดสินใจ

“ก็ได้”

“งั้นไปกันเลยนะพี่น็อต น้ำหิวจนจะกินพี่น็อตได้แล้ว”

ธารทิพย์พูดเย้า เป็นคำพูดที่บุรินทร์ไม่มีทางรู้ว่า หล่อนอยาก จะกินเขาจริงๆ แต่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองเต็มที่ เพราะ รู้ตัวดีกว่า ไม่คู่ควรกับเขา ที่สำคัญที่สุด บุรินทร์คงไม่ชายตาแล มองหล่อน ในสายตาเขามีเพียงวารุณีคนเดียวเท่านั้น

วารุณีเดินออกมาจากหลังรูปปั้นเมื่อรถยนต์ของบุรินทร์ขับ ออกไปจากจุดที่จอด หล่อนรีบเดินไปหานานโอที่ยืนรออยู่ที่เดิม หล่อนฉีกยิ้มให้เขา ซึ่งก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา

“สวัสดีค่ะคุณนานโอ คอยนานไหมคะ” หล่อนทักนานโอ

“รอนานตลอดชีวิตยังไหวครับ” นานโอหยอดคำหวาน

“รู้อย่างนี้ฉันลงมาช้ากว่านี้ก็ดี คุณจะได้คอยนานๆ สมใจ

วารุณีเข้ากลับ

“ผมยินดีรอคอย ถ้าปลายทางแห่งการรอคือได้พบคุณ มันก็ คุ้มค่ากับการอครับ” นานโอพูดจากใจ หยอดคำหวานที่ทำให้ คนฟังยิ้มเขิน หัวใจพองโตคล้ายลูกโป่งและเต้นรัว “อ้อ…ผมมี อะไรจะให้คุณด้วย”

นาน โอเปิดประตูรถ หยิบบางอย่างที่วางอยู่บนเบาะด้านหน้า ออกมา ก่อนส่งให้วารุณี ที่มองดอกกุหลาบสีขาวในมือหนาสลับกับเงยหน้ามองความหล่อของนาน โอ

“ผมซื้อดอกไม้มาให้คุณครับ ตอนแรกตั้งใจว่าจะซื้อช่อ ดอกไม้ช่อใหญ่ๆ และมีหลายสิบดอกมาให้คุณเพราะคิดว่าคุณ ต้องชอบ แต่มาคิดอีกที ไม่ว่าผมจะให้ดอกไม้สิบดอกยี่สิบดอก หรือเพียงแค่ดอกเดียว มันแทนความหมายและความรู้สึกของ ผมได้เหมือนกัน” นาน โอพูดจาแฝงด้วยความหมาย และเปิดเผย ความรู้สึกทางแววตาให้วารุณีรับรู้ ทว่าความอ่อนประสบการณ์ ด้านความรัก ทําให้หล่อนไม่กล้าสบตามหาเสน่ห์ของเขา ความ เขินอายประทับทั่วดวงหน้า แดงระเรื่อจนถึงลำคอ “เพื่อมิตรภาพ ที่ดีของเราครับ”

นานโอนดอกกุหลาบส่งให้วารุณีที่ยกมือขึ้นรับดอกไม้มาไว้ ในมือ หล่อนเงยหน้ายิ้มให้นานโอที่ยิ้มตอบรับ

“ขอบคุณค่ะ”

“ด้วยความยินดีครับคนสวย” เขาตอบกลับยิ้มหล่อบาดใจให้ ก่อนหมุนตัวไปเปิดประตูรถ “เชิญครับเจ้าหญิงของผม ดินเนอร์ ค่ำนี้จะเป็นมื้อพิเศษสำหรับเราสองคน ผมเชื่อว่าคุณต้องประทับ ใจแน่นอนครับ”

วารุณีลุ้นและอยากรู้ไปกับคำพูดของนานโอ ทว่าหล่อนกลับ ไม่มีคำถาม เพราะคำตอบที่ตนต้องการรู้รออยู่อีกไม่ถึงหนึ่ง ชั่วโมง

นานโอขับรถซุปเปอร์คาร์ออกไปบนถนนสายหลักของเมือง สถานที่ที่เขาตั้งใจพาวารุณีไปดินเนอร์ ไม่ใช่ห้องอาหารหรูในโรงแรมดัง หรือร้านอาหารสุดแสนโรแมนติก แต่เป็นบ้านพัก ส่วนตัวของเขา ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนย่างกายเข้ามา หากเขา ไม่ต้องการให้เข้า วารุณีจึงเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่จะพามา เหยียบย่างอาณาจักรชายโสด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ