แฟนเก่าวันนั้น ปัจจุบันเป็นสามี ครับผม

ตอนที่2 อดีต



ตอนที่2 อดีต

วินเป็นนักเรียนชายสุดป๊อปในโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัด คนที่ทิมทั้งรักและเกลียด คนที่หายไปโดยไม่มีแม้แต่คำร่ำลา สิบปีที่เขาจากไป แต่วันนี้ในเวลาที่ไม่เหมาะสมที่สุด เขากลับ มาแล้วมาขอทิมแต่งงาน ทิมรู้สึกว่ากำลังเจอเรื่องบ้าบอที่สุด ในชีวิต

“วิน พอเถอะอย่าพูดอะไรบ้าๆ อีกเลย เราโตๆ กันแล้ว นะ” ทิมถอนหายใจพร้อมตอบกลับเสียงสั่น

“ผมจริงจังนะ” วินกล่าวพร้อมจ้องไปยังใบหน้าของทีม “แต่งงานกันเถอะ ผมไม่อยากแยกจากคุณอีกแล้ว”

“นี่คุณคิดว่าผมจะดีใจ แล้วตอบตกลงเหรอ” ทิมตอบ พร้อมกับหัวเราะอย่างประชดออกไป

“กลับไปเหอะ ผมไม่แต่งงานกับคุณหรอก” ทิมพร้อม สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวอีกว่า

“คุณก็น่าจะรู้ ว่าผมมีคนรักแล้วและเรากำลังจะแต่งงาน

แม้จะได้ยินอย่างนั้นวินยังคงนิ่งเฉย และพูด “ไม่หรอก

คุณจะไม่แต่งงานกับคนอื่น คุณจะต้องแต่งงานกับผม”

ทิมถอนหายใจที่ดินทำเหมือนไม่รับรู้ในสิ่งที่เขากำลัง พยายามบอก และเอาแต่พูดซ้ำๆ ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

“วิน ฟังอีกรอบ ฟังชัดๆนะ ผมกำลังจะแต่งงานแต่ไม่ใช่ กับคุณ ต่อให้คุณเป็นคนสุดท้ายบนโลกใบนี้ ผมก็ไม่แต่งงาน กับคุณหรอก สำหรับผมเรื่องของเรามันเป็นฝันร้ายที่ผมอยาก จะลืม ระหว่างเรามันจบไปแล้ว ผมมีคนที่ผมรักแล้ว คุณกลับไป เถอะ ผมไม่อยากเจอคุณอีก”

ทีมยืนยันอย่างหนักแน่นแล้วหันหลังเพื่อเดินกลับเข้าไป เมื่อเห็นอย่างนั้น วันรีบคว้าแขนแล้วดึงทิมให้หันกลับไป

ในบ้าน

“วิน ปล่อย…คุณจะทำอะไร” สิ้นคำพูดของทิม วันก็ดึงเขา

เข้าไปสวมกอดไว้ในอ้อมแขนอันอัดแน่นไปด้วยกล้ามเฟิร์มๆ

หลังจากที่ทีมถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงที่คุ้น เคย ความทรงจำที่เคยมีก็ย้อนกลับมา ทำให้น้ำตาเอ่อขึ้นใน ดวงตา

เมื่อรู้สึกตัว ทิมก็ตกใจและพยายามผลักวินออกไปพร้อม กับตะโกนใส่วินว่า “คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?”

แต่นอกจากจะไม่ปล่อยแล้ววินกลับกอดทีมแน่นกว่าเดิม

“วิน ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นผมจะตะโกนให้คนช่วยนะ” ทีม เงยหน้าสบตาวิน พร้อมบอกอย่างจริงจัง

แต่วินกลับกอดทีมให้แน่นขึ้น กอดราวกับกลัวว่าทีมจะ หายไป กอดให้สมกับที่เขาคิดถึงทีมมาโดยตลอด เขากลับมา แล้ว จากนี้จะไม่มีใครพรากทีมไปจากเขาได้อีก

ในขณะนั้นเอง ทีมได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังมาจากข้างหลัง “ทิม … คุณทําอะไรอยู่?

ทิมตัวสั่นเมื่อหันไปเห็นสิทธาแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่างจาก จุดที่เขาและวินยืนอยู่

สิทธาที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน ยืนมองทั้งคู่ด้วยแววตาที่เต็ม

ไปด้วยคําถาม

ทีมรีบผลักวินออกไป และรีบบอกทันที “สิทธา … มัน

ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ

“แล้วที่คุณพูดกันเมื่อกี้ มันเรื่องอะไรกัน” สิทธาเต็มไป ด้วยความสับสน แต่ยังคงถามด้วยความสงบเพราะเขารู้ดีว่า ทิมไม่ใช่คนเหลวไหล ทั้งคู่คบกันบน พื้นฐานของความเชื่อใจและมันก็เป็นไปด้วยดีมาตลอด

ไม่ทันที่ทีมจะพูดอะไรออกไป ในรีบแทรกขึ้นมาทันที “ทิม … เป็นคนรักของผม

สิ้นประโยค ทิมรู้สึกว่าสันหลังเย็นวาบและเลือดหายไป จากบนหน้า … เรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหมือนเป็นเรื่องตลกร้าย ที่เกิดขึ้นกับเขา

หลังจากได้ยินประโยคนั้น ความเย็นชาก็เกาะกุมใบหน้า ของสิทธา แววตาที่เคยอ่อนโย กลายเป็นแข็งกร้าว

“วิน คุณพูดอะไรหน่ะ” ทิมถามด้วยความโกรธ

“ที่ไอ้หมอนี่พูดมันคืออะไร ทิม?” สิทธาชี้ไปที่วิน พลาง ถามทีมด้วยความสับสน

“สิทธา ฟังผมนะคนนี้เขาเป็นแค่ เพื่อนเก่าสมัยมัธยม ปลาย” ทิมตอบสิทธา แต่รู้ดีว่าน้ำเสียงของตนนั้น สั่นไหวไม่มี ความมั่นคงในน้ำเสียง แต่มันคือเรื่องจริง ทั้งคู่เป็นเพื่อนเก่า กัน

“แน่ใจเหรอ ว่าเป็นแค่เพื่อนเก่า สิ่งที่เราเคยทำ มันเป็น กว่าเพื่อนไปเยอะเลยนะ” วินพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ แล้วมอง ตรงไปยังสิทธา
หลังจากได้ยินประโยคนั้น ใบหน้าสิทธาก็แข็งกร้าวขึ้น

วินมองตรงไปที่สิทธาแล้วถามว่า “ทิมเค้าเคยเล่าอดีต ของเขาให้คุณฟังรึเปล่า อดีตที่เขาเคยมีกับผม คุณเคยได้ยิน บ้างมั้ย?”

อดีตเหรอ? สิทธาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เขารู้จักแค่ อาร์ทเพื่อนสนิทของทิม และรู้เพียงแค่ว่าทีมไม่ได้ติดต่อเพื่อน สมัยมัธยมปลายคนอื่นเลย

“ถ้าไม่เคยบอก ผมจะบอกให้ ผมเป็นคนรักของทีม สิบปี ก่อนเรารักกันมาก” คำพูดของวินเหมือนมีดที่กรีดซ้ำลงไปใน แผลเป็นของทีม

“ทิม ที่ผู้ชายคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงมั้ย?” สิทธา ถามทีม ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

11 ไม่สิทธา ฟังผมอธิบายก่อน ทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่ คุณคิด”

“คุณจะโกหกเหรอทิม อย่างน้อยคุณก็ควรจะยอมรับ ความจริงและบอกเค้าไปตามตรงนะ” วิน ถามทีมด้วยน้ำเสียง

โมโห

“ทิม พูดมาส ที่คนคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงเปล่า พูดมา สิทธาถาม พร้อมเดินสาวเท้าเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ใบหน้าโมโหแดง แววตาที่ต้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ท่าที่คุกคามของสิทธาเช่นนี้เป็นสิ่งที่ทิมไม่เคยเจอมาก่อน

สิทธาภูมิใจเสมอที่ได้คบกับทีมเพราะตลอดเวลาหลายปี ที่รู้จักกันในมหาวิทยาลัย จนได้คบกันเขาเห็นมาตลอดว่าทีม ไม่ใช่คนเหลวไหลคบกับใครง่ายๆ มันเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจและ รู้สึกว่าได้เป็นเจ้าของทีมแต่เพียงคนเดียว

แต่ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้านี้กลับมาบอกว่าทีมเป็นของเขา อดีตที่ทั้งคู่เคยมีร่วมกัน อดีตที่สิทธาไม่เคยได้รับรู้ แค่คิดถึงมัน ก็ทําให้ใจเขาร้อนเหมือนมีไฟเผาแล้ว

ทิมไม่ได้โกหก แต่คิดเสมอว่าเรื่องของเขาและวันมันผ่าน ไปนานแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะคบกับสิทธา เขาไม่อยากทำให้ สิทธากังวลใจหรือเข้าใจผิดมากไปกว่านี้

ขณะที่ทีมกำลังจะใคร่ครวญว่าจะอธิบายถึงเรื่องราวเมื่อ สิบปีที่แล้ว ให้สิทธาฟังอย่างไรดี เสียงของวินก็ดังขึ้นทำลาย ความเงียบนั้น

“ไม่รู้ด้วยใช่มั้ย ว่าเราสองคนเคยนอนด้วยกันมาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว?”
ประโยคนั้นของวิน ทำลายความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ ของทีมทันที

ทิมคาดไม่ถึงเลยว่าวินจะพูดถึงสิ่งต่างๆที่เคยเกิดขึ้นได้ อย่างง่ายดายเช่นนี้ วันที่เขาเคยรู้จักนั้นทั้งสุภาพ ระมัดระวัง คำพูด และรักษาน้ำใจคนเสมอ ผู้ชายคนนี้เหมือนเป็นคนแปลก หน้าที่ทิมไม่เคยรู้จักมาก่อน

“วิน คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง?” ทิม ถามด้วยความตกใจและ เจ็บปวดจากสิ่งที่วินพูดออกมา

“ไหนมึงลองพูดใหม่ ซึ่งเคยทำอะไรนะ?” สิทธาปา กุญแจรถใส่หน้าอกของวินและพุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของวิน แล้วถามด้วยความโมโห

วินสบตาพร้อมเบ้ปากใส่สิทธา “ดูเหมือนว่าทีมจะไม่ได้รัก

และไว้ใจคุณมากพอจะเล่าอดีตให้ฟังสินะ”

“ปากดีนักนะมึง” สิทธาพูดจบก็เนื้อหมัดเพื่อชกหน้าวิน

หมัดของสิทธาชกเข้าไปที่หน้าของวิน ทำให้เขาเซลอย หลังไปสองสามก้าว แล้วพูดว่า “ยอมให้แค่หมัดแรกนะ แต่ อย่าหวังว่าจะมีหมัดต่อไป” วินบอกกับสิทธา

สิทธาโกรธจนตัวสั่น ความคิดที่ว่าวินเคยมีอดีตกับทีมมาก่อนเขา อดีตที่เขาไม่เคยรู้ทำให้เขาเจ็บปวดและ โมโหอย่างที่สุด

สิบปี สิบปีที่แล้ว ทีมอายุเท่าไหร่นะ? 18ปี ยังเป็นนักเรียน มัธยมอยู่ ทิมแฟนที่เขาคิดว่าวางตัวดีมาตลอด ไปนอนกับไอ้ หมอนตั้งแต่มัธยม เมื่อคิดได้เช่นนั้น สิทธาก็โกรธจนแทบบ้า และอยากจะฆ่าคนตรงหน้าให้ตายเสีย

สิทธาไม่สนคำเตือนของวิน เขาพุ่งเข้าไปเพื่อทำร้ายวินอีก

ครั้งนี้วนไม่หลบ แต่กลับชกสวนเข้าไปที่หน้าของสิทธา ทำให้เขาล้มลงไปกองกับพื้น

เมื่อเห็นอย่างนั้น ทิมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแต่ก็รีบวิ่ง

เข้าไปหาสิทธิและถาม “สิทธา… เป็นยังไงบ้าง? เจ็บมั้ย?”

แต่สิทธากลับผลักเขาจนเกือบล้มลงไปกองกับพื้น

“ถอยไป…อย่ามาแตะตัวผม แค่นี้ผมก็เจ็บพอแล้ว”

ทิมส่ายหน้าพร้อมน้ำตาที่พรั่งพรู “ไม่จริงนะสิทธา ผมกับ เค้าจบไปนานแล้วจริงๆ ได้โปรดเชื่อผมเถอะ
“จะให้ผมเชื่อทั้งๆ ที่เมื่อกี้ผมเห็นคุณยืนกอดกับมันอยู่นั้น เหรอ” สิทธาตะคอกถามทีมอย่างมีอารมณ์

“คุณกล้าพูดมั้ยว่าสิ่งที่ไอ้หมอนั่นพูดมามันไม่จริง” สิทธา ชี้ไปที่วินพลางถามทีมด้วยน้ำเสียง โกธรสุดขีด

“มันจริงที่ผมเคยคบกับเค้า แต่มันจบไปแล้ว คุณฟังผม

อธิบายหน่อยได้มั้ย สิทธา”

ยังไม่ทันจบประโยค มือของสิทธาก็ตบเข้าที่ข้างแก้มทิม อย่างแรงจนเขาล้มลง

วินปราดจะเข้าไปพยุงทิม แต่ถูกเขาปัดมือออก

“ที่ผ่านมา ผมคิดว่าคุณเป็นคนที่มีค่าพอที่ผมจะใช้ชีวิต ด้วย ไม่คิดเลยว่าคุณจะร่านขนาดนี้ คุณปล่อยให้ผมตามตื้อ คุณมาตลอดปี ในมหาวิทยาลัย คุณทำให้ผมคิดว่าคุณเป็นคน ระมัดระวังตัวไม่คบใครง่ายๆ แต่นี่อะไร คุณนอนกับมันมา ตั้งแต่มัธยม ทุเรศสิ้นดี ผมรู้สึกเหมือนเป็นไอ้โง่ ที่ปล่อยให้คุณ หลอกมาตลอดหลายปีเลย

“สิทธาคุณจะด่าผมหรือตีผมอีกก็ได้นะ แต่คุณไปหาหมอ ทำแผลก่อนเถอะได้โปรด” ทิมอ้อนวอนสิทธาอย่างสิ้นหวัง
ทิม พยายามพยุงสิทธาลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ถูกเขาสะบัด แขนออก

“อย่ามายุ่งกับผม จะเจ็บจะล้มก็เรื่องของผม” สิทธาต่อว่า ทิม แล้วเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างโมโห

ทิมได้แต่ยืนร้องไห้เมื่อเห็นสิทธาจากไป เขาไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมเรื่องต่างๆถึงเป็นเช่นนี้ ในวันที่ทุกอย่างในชีวิตของเขา ดูเหมือนว่าจะลงตัว แต่กลับเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาแค่อยาก สร้างครอบครัวที่มั่นคงและมีชีวิตเรียบง่าย

“ทิม กลับมาหาผมเถอะ แต่งงานกับผมนะ” เสียงปืนดังมา จากด้านหลังเป็นน้ำเสียงที่เน้นเกือบจะเป็นการสั่ง วันเกิดมา ในครอบครัวร่ำรวย ไม่เคยมีสิ่งไหนที่เขาต้องการแล้วไม่ได้มัน มา และด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเช่นนี้ เขารู้ดีว่านี่เป็นแค่จุดเริ่ม ต้น วินจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ

ทิมจำไม่ได้แล้วว่าเขากลับเข้าบ้านได้อย่างไร เขาได้แต่ นั่งนิ่งอยู่ในความมืด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง หากแต่แก้มยังเจ็บแปลบๆจากน้ำมือของสิทธา

หลายปีในมหาวิทยาลัย เขาตามจีบทิมมาตลอดหลังจากคิดมานานหลายปี ทีมก็ตัดสินใจคบกับสิทธา แม้จะไม่ โดดเด่นแต่เขาดูสุภาพและให้เกียรติทิมเสมอ ทิมคิดว่าเขา กำลังจะได้สร้างครอบครัวที่เรียบง่ายแต่มีความสุข

แต่ … วิน ทิมไม่คิดเลยว่าเขาจะกลับมา และทำให้ แผนการในชีวิตของเขาพังทลาย

ทิมหยิบโทรศัพท์ออกมาดู มีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย ทั้งหมดเป็นสายเรียกเข้าจากอาร์ท เพื่อนสนิทของเขา

นอกจากนี้ยังมี อาร์ทยังส่งข้อความมาหาอีกหลาย

ข้อความ

“ทิม ถึงบ้านรึยัง? ไม่สบายมากรึเปล่า? ทำไมไม่รับ

สาย?”

“ทิม นอนรึยัง? ถ้ายังไม่นอนโทรกลับด้วยนะ”

“นอนแล้วเหรอทิม วินออกจากงานตามหลังนายไปติดๆ เขาไปหานายรึเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?

ทิมรู้สึกสับสนเกินกว่าจะบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ เพื่อนฟัง แต่ก็ไม่อยากให้อาร์ทเป็นห่วง

เมื่อนิ่งคิดสักพัก ทิมก็ตอบข้อความไปอย่างเรียบง่าย
“ถึงบ้านแล้วรู้สึกอยากพัก เราไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้อง เป็นห่วง ไว้คุยกันวันหลังนะ

อาร์ทตอบกลับหลังจากผ่านไปสักครู่

“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว เรากลัวนายจะเครียดเพราะสิ่งที่ เจอวันนี้

เพราะอาร์ทรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างทีมและวิน ทำให้ อาร์ทเป็นห่วงเพื่อนกว่าใคร ตลอดระยะเวลาสามปี ในช่วง มัธยมปลาย อาร์ทรับรู้เรื่องราวความรักของทีมและวินมา โดย ตลอดและเมื่อความรักของทั้งคู่จบลง อาร์ทก็รู้สึกเสียใจไม่ น้อยไปกว่าทั้งคู่เลย

ทิมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งเขามองเบอร์โทรศัพท์ของ สิทธา แต่ไม่กล้ากดโทรหาเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้มัน คงเจ็บปวดและน่าตกใจไม่น้อยสำหรับเขา

อดีตที่ทิมซ่อนไว้ อดีตที่เขาอยากจะลืม มันย้อนกลับมา หลอกหลอนเขาอีกครั้ง

ณ หมู่บ้านหรูใจนอกตัวเมืองเชียงใหม่ รถสปอร์ตสุดหรูสี ดำสนิทแล่นเข้าไปจอดหน้าบ้านหรูหลังใหญ่อย่างช้าๆ
ชายหนุ่มหล่อเข้มลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้านอย่าง รวดเร็ว

คุณธาราเดินปรี่เข้ามาหาลูกชายด้วยรอยยิ้มและพูดอย่าง อ่อนโยนว่า “วินกลับมาแล้วเหรอ แม่กับพ่อรอทานข้าวอยู่ไป ล้างมือ ลูก”

หากชายหนุ่มไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปนั่งลงข้างๆพ่อของเขา ที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะรับประทานอาหาร วินมองไปที่พ่อของเขาด้วย แววตาที่ยากจะอ่านออก

“ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ

“ถามอะไรเหรอ?” แววตาของลูกชายที่มองมาทำให้คุณ เจริญรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

“พ่อ ทำอะไรกับครอบครัวทม? เพื่อที่จะแยกผมกับเขาพ่อ

ทําอะไรลงไปบ้าง?”

เมื่อได้ยินได้ยินคำถามของลูกชาย เจริญผู้เป็นพ่อก็มี สีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที

“วิน … ลูกถามอะไร อย่างนี้” คุณธาราพยายามทักท้วง ลูกชายจากการซักไซ้ บิดา

หากแต่วินไม่ตอบคำถาม แต่กลับจ้องมองไปยังบิดา เหมือนพยายามจะค้นหาบางอย่างที่เขาไม่รู้
สิบปีที่อยู่ต่างประเทศ เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ เพราะท่าทางเกลียดชังที่ทีมแสดงออกต่อเขา ทำให้เขาสงสัย ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงที่เขาไม่อยู่และมันเลวร้ายแค่ไหน ทำไมทีมถึงมีท่าทีเกลียดชังเขาขนาดนั้น

วินเป็นคนฉลาด เขาจึงคาดเดาได้ไม่อยากว่าหากมีบาง สิ่งเกิดขึ้นกับทีมคงไม่พ้นฝีมือของครอบครัวเขา

คุณเจริญสบสายตาที่น่าอึดอัดของลูกชาย พลางตอบ เลี่ยงๆว่า

“พ่อจะรู้ได้ยังไง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนั้น ถามอะไร ไม่เข้าท่า”

“พ่อ ตอบผมมาตามตรงได้มั้ยครับ พ่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับ

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับของพ่อทิม รึเปล่า” วินถามย้ำอีกครั้งด้วย

แววตาที่เย็นชา

“วิน จะถามถึงครอบครัวนั้นขึ้นมาทำไม เรื่องทั้งหมดมัน ผ่านมาตั้งนานแล้ว” เสียงของธาราขัดขึ้นมา

หลังจากได้ยินดังนั้น ในก็ลุกขึ้น “ตอบไม่ได้ แสดงว่าพ่อ กับแม่คงมีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆด้วยสินะ”
วินหันหลังและเดินออกจากห้องอาหารมุ่งหน้าไปยังห้อง นอนของเขาที่อยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน จากสิ่งที่แม่พูดเห็นได้ ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และทั้งสองคนคงไม่ยอมบอกเขาแน่ๆ ว่าทำอะไรลงไป

“วินไม่ทานข้าวเหรอลูก” คุณธาราร้องถามลูกชายที่เดิน ออกไป หากแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากวิน

“คุณค่ะ วิน เขายังไม่ลืมเด็กนั่นอีกเหรอ มันหลายปี แล้วนะ กลับมาถึงปุ๊ปก็ถามเรื่องนี้ทันที” ธารากล่าวด้วยท่าที กลัดกลุ้ม

สิบปีแล้ว…. ในที่สุดลูกชายของเธอก็กลับบ้าน เธอหวังว่า เขาจะลืมเรื่องราวเก่าๆ ไปให้หมดแต่ดูเหมือนวินจะยังไม่ลืม

“อย่ากลุ้มใจไปเลย วินเขาโตแล้วคงไม่ทำอะไรบ้าๆ

หรอก” คุณเจริญกล่าวอย่างไม่สนใจแล้วลงมือทานอาหารต่อ

คุณธาราไม่พูดอะไรออกมา แต่ในใจเต็มไปด้วยความ ร้อนรน วินยังรักเด็กคนนั้นอยู่ เธอจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อ ขัดขวางไม่ให้ทั้งคู่กลับมาคบกัน

ในห้องนอน บนชั้นสองที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหรา สมฐานะลูกชายคนเดียวของเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ วิน โทรศัพท์ไปหาใครบางคน “ช่วยตรวจสอบให้เร็วที่สุด ยิ่ง เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” เขาพูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

วินนั่งลงที่โซฟาข้างเตียง และหยิบรูปถ่ายที่เก็บไว้ใน กระเป๋าเงินออกมา มันเป็นรูปที่เขาเก็บรักษาไว้อย่างดี

รูปถ่าย ใครบางคน พร้อมรอยยิ้มกว้าง สดใส ในชุด นักเรียนมัธยมธรรมดา แต่ดูน่ารักมากในสายตาเขา

สายตาของเขาทอดยาวออกไป พลางหวนนึกถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อสิบปีที่แล้ว…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ