บทที่13 ความลับ (ไม่แคร์)
เช้าวันใหม่บัวตองขยับตัวลืมตาตื่นขึ้นด้วยความขบเมื่อยไปทั่วร่างกาย โดยเฉพาะตรงร่องสวาทที่ถูกรุกล้ำอย่างหนักหน่วงเมื่อคืน ทันทีที่ลืมตาตื่น ขึ้นเธอก็เห็นว่าตนเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่ได้ครอบ ครองความสาวของเธอเมื่อคืนเป็นคนแรก มือบางจึงค่อยๆ ยกขึ้นไปแตะ ลูบแก้มสากอย่างเบามือที่สุดด้วยความเผลอไผล แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอ กําลังทําผิดจึงรีบชักมือออกทันที
ร่างบางค่อยๆ ยกท่อนแขนหนาที่พาดอยู่ตรงช่วงเอวออกอย่างช้าๆ ไม่ อยากปลุกคนที่กำลังหลับสบายอยู่ตื่น เมื่อท่อนแขนหน้าออกพ้นจากเอว แล้ว เธอจึงขยับตัวจะลุกขึ้นนั่งแต่กลับโดนคนที่กำลังหลับอยู่ตวัดแขนมาก อดไว้แล้วรวบลงนอนดั้งเดิม
“อุ๊ย!” บัวตองสะดุ้งตกใจ
“ษา อย่าทิ้งผมไป อยู่กับผมก่อนนะที่รัก” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทั้งที่ยังหลับตา
“พี่วิน บัวเองค่ะ ไม่ใช่คุณมา
วินได้ยินอย่างนั้นก็ค่อยๆ กะพริบลืมตาตื่นขึ้นช้าๆ ด้วยอาการปวดหนัก อึ้งศรีษะ แต่พอลืมตาขึ้นเห็นคนข้างกายเป็นบัวตองไม่ใช่ษาหญิงสาวที่เขา รักมากที่สุด ดวงตาคมก็เบิกกว้างด้วยความตกใจพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้น ออกห่างจากบัวตองด้วยความรวดเร็ว สายตาคมจ้องมองร่างเปลือยเปล่า ของสาวตรงหน้าด้วยความตะลึง บัวตองเห็นชายหนุ่มจ้องมองเธอไม่ยอมวางตาจึงรีบดึงผ้าห่มมาปิดกายเอาไว้ทันควันพร้อมกับ มหน้าก้มตาลง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” วินถามด้วยความร้อนรน
พยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“พี่จําอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ” บัวตองถามกลับ
“บอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น! ไม่ใช่ให้เธอมาย้อนถามฉัน!” วินตวาด เสียงดัง
“คือเมื่อคืนบัวเห็นพี่เมานอนอยู่ตรงหน้าห้อง บัวก็เลยพาพี่เข้ามานอน ในห้องค่ะ แต่ระหว่างที่บัวกำลังเช็ดหน้า ให้ที่อยู่ พี่ก็จับมือบัวไว้ไม่ยอม ปล่อยเพราะพี่คิดว่าบัวคือคุณษาค่ะ”
“แล้วยังไงต่ออีก!” วินเอ่ยเสียง คาดคั้นอยากจะรู้เหตุการณ์เมื่อคืนทุก อย่าง
“จากนั้นพี่ก็จับบัวผลักลงนอนบนเตียงทับไว้ไม่ยอมปล่อย แล้วพี่ก็
“ไม่ต้องเล่าแล้ว ดูจากสภาพฉันกับเธอตอนนี้ ฉันก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น” วินก้มลงมองสำรวจตนเองที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดๆ ปกปิด มีแต่ชาย ผ้าห่มที่ปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น
“พี่กับคุณมาทะเลาะกันเหรอคะ ทำไมถึงได้ดื่มจนเมาหนักขนาดนั้น” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
“มันเรื่องของฉัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เมื่อคืนฉันคงคิดว่าเธอเป็นนา สินะ ถึงได้เกิดเรื่องบ้าๆ นี้ขึ้น แต่เธอก็มีสติตินี้ ทำไมถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้น
“บัวพยายามแล้วค่ะ แต่พี่ไม่ยอมปล่อย บัวบอกแล้วว่าบัวไม่ใช่คุณมา แต่พี่ไม่ยอมฟังอะไรเลย”
“ฉันยอมรับนะว่าฉันเมามากจนไม่รู้เรื่องอะไร แต่ถ้าเธอไม่เต็มใจฉัน คงจะทําอะไรเธอไม่ได้หรอกจริงไหม”
“พี่วิน” บัวตองตกใจกับคำพูดของชายหนุ่มที่เหมือนจะรู้ความรู้สึกลึกๆ ในใจของเธอ
“แต่ก็ช่างเถอะ ถือซะว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน ”
“อะไรนะคะ!” บัวตองตกใจกับคำพูดของชายหนุ่ม
“อย่าให้ใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเด็ดขาด ถ้าไม่อย่างนั้นฉันเอาเธอ ตายแน่!” วินเอ่ยเสียงเข้มดุดันส่งสายตาแข็งกร้าวไปให้หญิงสาว
“แต่เรามีอะไรกันแล้วนะคะ”
“หี เธอจะให้ฉันรับผิดชอบเธอนั้นสิ ฝันไปเถอะ ไม่ว่าใครก็มาแทนษาไม่ ได้หรอก รีบ ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปซะ!” พูดพลางหันหลังให้หญิงสาวทันที
บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็รีบก้มลงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ทั้งน้ำตาคลอเบ้า จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เธอผิดเองที่รู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่มมีคน รักอยู่แล้วแต่กลับเผลอใจเผลอกายให้ชายหนุ่ม ทั้งที่รู้ว่าเรื่องเธอกับเขา ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ยิ่งนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มก็ยิ่งตอกย้ำว่าชายหนุ่ม รักคู่หมั้นมากและไม่ว่าเธอหรือใครก็ไม่สามารถไปแทนที่ได้
ทันทีที่บัวตองออกจากห้องไปวันก็ตวัดผ้าห่มออกจากกาย ระหว่างนั้น สายตาคมก็เหลือบไปเห็นคราบหยดเลือดบนผ้าปูที่นอนฝั่งที่บัวตองนอน เมื่อคืนเลอะติดอยู่เล็กน้อย สายตาคมจ้องมองคราบเลือดอยู่อย่างนั้นด้วย ความรู้สึกหลากหลายอยู่ในใจ จากนี้ ก็ลุกเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
ระหว่างที่บัวตองอาบน้ำก็เกิดอาการแสบขัดตรงร่องสวาทเกิดมา เธอ นิ่วหน้าค่อยๆ ใช้มือล้างคราบคาวที่แห้งกรังออกอย่างเบามือที่สุด เธอเพิ่ง จะรู้ว่าการถูกรุกล้ำจุดสงวนครั้งแรกอาการเป็นอย่างนี้เอง แต่น่าเสียดายที่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เกิดขึ้นเพราะชาย หนุ่มเห็นเธอเป็นคนอื่น ไม่ใช่เพราะเป็นตัวเธอ พอแต่งตัวเสร็จก็ลงไปนั่งรอ วินอยู่ที่โต๊ะอาหาร รอแล้วรอเล่าแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าชายหนุ่มจะเดินเข้ามา สักที ป้าเห็นว่าหญิงสาวรอชายหนุ่มนานแล้ว จึงอาสาไปเรียกชายหนุ่ม ถึงที่ห้อง ไม่นานป้าก็กลับเข้ามาในห้อง
“คุณวินบอกว่าไม่หิวจ๊ะ ปวดหัวอยากจะนอนพัก” ป้าเอ่ยขึ้น
“เหรอจ๊ะ งั้นบัวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” พูดพลางลุกขึ้นยืนพร้อมกับ ยกมือไหว้ป้า
“อ้าว หนู จะรีบไปไหน ทานข้าวสักหน่อยสิ”
“บัวไม่หิวค่ะ เจอกันตอนเย็นนะคะ” พูดจบร่างบางก็เดินออกไปทันที
บัวตองเดินเท้าไปจนถึงหน้าปากซอยแล้วโบกแท็กซี่ตรงไปยังบริษัท พอ เข้าไปถึงในห้องทำงานเธอก็ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความไม่สบายใจ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเธอจะเก็บเรื่องเมื่อคืนระหว่างเธอกับวันไว้เป็นความลับตลอดไป จะไม่มี ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด เพราะถ้าหากมีคนรู้เรื่องคนที่จะเดือดร้อนที่สุดคงจะ หนีไม่พ้นวิน และคนที่จะเสียใจผิดหวังที่สุดก็คือษาคนที่ชายหนุ่มรักมาก ที่สุด เธอจะไม่มีทางทำลายความรักของคนทั้งคู่เด็ดขาด
ร่างบางนั่งทํางานไปโดยไม่มีสมาธิ อีกไม่กี่วันเนตรนภาก็จะกลับบ้าน หลังจากที่ปฏิบัติธรรมแล้ว ถ้าเกิดวันไหนเนตรนภารู้เรื่องนี้ขึ้นมาคงจะผิด หวังในตัวเธอมาก ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้กิน ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มก็มีคนรักอยู่ แล้ว บัวตองก้มหน้าลงกุมขมับที่ปวดหนึบด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่านคิดไม่ตก
ช่วงสายวินกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องนั่งเพียงลำพังด้วยสีหน้า เคร่งเครียด ระหว่างที่ในหัวกำลังคิดเรื่องมากับบัวตองตีกันไปมาอยู่บ้า ศรีก็เดินถือถ้วยกาแฟอีกแก้วที่ชายหนุ่มสั่งเข้ามาในห้อง
“กาแฟมาแล้วค่ะ” ป้าศรียกถ้วยกาแฟวางลงตรงหน้าชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ”
“คุณวินยังปวดหัวอยู่หรือเปล่าคะ ป้าจะได้เอายามาให้
“ดีขึ้นแล้วครับ ไม่ต้องหรอก” พูดพลางยกกาแฟขึ้นจิบ
“ป้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“ครับ ป้ามีอะไรหรือเปล่า”
“เมื่อกี้ป้าเข้าไปทำความสะอาดในห้องของคุณ ป้าเห็นคราบเลือดบน ผ้าปูที่นอนก็เลยเปลี่ยนผืนใหม่ให้ คุณวินมีแผลตรงไหนหรือเปล่าคะ ”
“ครับ ผมมีแผลที่ขานิดหน่อย” วินเอ่ย โกหกไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ไปโดนอะไรมาเหรอคะ”
“พอดี เมื่อคืนผมเมาก็เลยทำแก้วที่ผับแตก เลยบาดเข้าที่ขานะครับ” ด้วยหญิงสูงวัยตรงหน้าเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ เขาจึงเกรงใจก็เลยเลือกที่จะตอบคำถามทุกข้อสงสัยไปส่งๆ ดีกว่าบ่าย เบี่ยงไม่ตอบอะไรเลย
“ตายแล้ว! ให้ป้าทำแผลให้ดีไหมคะ” ป้าศรีถามด้วยความเป็นห่วง เจ้า นายหนุ่มที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ
“ไม่เป็นไรครับ มันแห้งแล้ว”
“คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อยนะคะ ป้าเป็นห่วง
“ครับ”
คล้อยหลังป้าศรีเดินออกไปวินก็ถอนหายใจโล่งอก เขาหวังว่าจะไม่มี ใครสงสัยอะไรในตัวเขาอีก และเขาหวังว่าบัวตองจะไม่ปริปากบอกใคร อย่างที่รับปากเอาไว้ไม่อย่างนั้น เขานี่แหละจะเป็นคนสั่งสอนเธอให้ หลาบจำเองที่สร้างความวุ่นวายให้กับเขา มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ต่อสายหามาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่กลับไม่ติด ชายหนุ่มจึงปาโทรศัพท์ลงพื้น ด้วยความโมโหขบกรามแน่น เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าผู้ชายที่หญิงสาวรัก คนนั้นมันเป็นใครกัน ถึงทำให้เธอเปลี่ยนใจจากเขาไปอย่างไร้เยื่อใย อย่างนี้ กํามือแน่นตาแดง น้ำตาคลอเบ้า
ช่วงเย็นบัวตองเดินเข้ามาในบ้านด้วยอาการร้อนๆ หนาวๆ ครั่นเนื้อ ครั่นตัว ร่างบางพาตัวเองเข้าไปในห้องเพื่อชำระล้างร่างกายด้วยน้ำอุ่น พอพาตัวเองออกจากห้องร่างกายกลับหนาวสั่นมากขึ้นกว่าเดิม เธอจึง เลือกที่จะสวมใส่เสื้อแขนยาวขายาวแทนแขนสั้นขาสั้นเหมือนเช่นเคย
บัวตองนั่งทานมื้อเย็นเพียงลำพังอยู่ที่โต๊ะอาหารไปเงียบๆ ส่วนวันออก ไปข้างนอกก่อนที่เธอจะกลับมาถึงนานแล้ว เธอทานแค่คำสองคำก็วาง ช้อนลง จากนั้นก็ยกจานข้าวของตนเองเข้าไปล้างในครัว ท่าทางของเธอที่ เงียบผิดปกติทําให้ป้าแม่บ้านทั้งคนสองอดที่จะเป็นห่วงเป็นใยไม่ได้
“บัวเป็นอะไรหรือเปล่า” ป้าศรีเอ่ยถามขึ้น
“เปล่าจ๊ะ บัวรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ
“ไม่น่าล่ะ ทานข้าวแค่นิดเดียวเอง แล้วมีอาการยังไงบ้างล่ะหนู”
“ร้อนๆ หนาวๆ เหมือนจะเป็นไข้ค่ะ”
“สงสัยจะเป็นไข้จริงๆ ด้วย ตามป้ามาลูก เดี๋ยวป้าเอายาให้” ป้าศรีเดิน นําออกไปตรงตู้ยาประจําบ้าน
พอทานยาเสร็จบัวตองก็พาตัวเองขึ้นห้องไปนอนพักผ่อน ทันทีที่หัวถึง หมอนเธอก็หลับสนิทไป ส่วนวินเข้าไปหาษาถึงที่บ้านแต่กลับไม่เจอเขา พยายามติดต่อหาเธอ แต่เธอก็ไม่รับสายแถมยังปิดเครื่องใส่เขาอีก เขาจึง นั่งคุยกับประพันธ์บิดาของเธอที่ออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี
“พ่อขอโทษด้วยนะ ที่ษาทำให้วินเสียใจ” ประพันธ์เปิดประเด็นขึ้น
“ผมรักษา ผมอยากให้มากลับมารักผมเหมือนเดิม” วันตัดพ้อ
“ไม่ต้องกลัวนะ วินได้แต่งงานกับ าแน่นอน”
“หมายความว่ายังไงครับ ก็ในเมื่อมาไม่ได้รักผมแล้ว
“พ่อไม่มีทางยอมรับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้นมาเป็นลูกเขยของพ่อหรอก นอกจากวินคนเดียวเท่านั้น
“อย่าบังคับษา ให้ทำแบบนั้นเลยนะครับ” เขาไม่อยากจะบังคับจิตใจ ใครให้มาแต่งงานกับเขาหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะความรัก
“เปล่านะ พ่อไม่ได้บังคับษา วินก็รู้อยู่แก่ใจว่ามาตกลงหมั้นกับวิน เพราะความรัก ถึงจะเป็นความต้องการของเราทั้งสองครอบครัวตั้งแต่แรก ก็ตามเถอะ”
“ครับ ผมรู้ว่าเราสองคนหมั้นหมายกันเพราะความรัก แต่ผมไม่รู้ว่าตอน ไหนทนาเริ่มเปลี่ยนใจไปจากผม”
“วินอย่าคิดมากเลยนะ ตอนนี้มาคงยังจะคิดไม่ได้ แต่อีกไม่นานษาจะ กลับไปหาวินเอง เชื่อพ่อนะ”
“ผมยังมีหวังอยู่อีกเหรอครับ”
“มีสิ สำหรับวินแล้วลูกสาวของพ่อเท่านั้นที่เหมาะสมกับวิน
“คุณพ่อพอจะรู้ไหมครับ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
“พ่อไม่รู้หรอก มันก็แค่ผู้ชายที่มาทีหลังไม่มีตัวตนคุณไม่ต้องไปสนใจ หรอก”
“ผมมันคงจะโง่มากสินะครับ ”
“พ่อยอมรับนะ ว่าลูกสาวของพ่อเป็นคนผิด แต่ตอนนี้มาคงจะยังหลงอยู่ แต่ถ้าคิดได้แล้ว ษาจะต้องเลือกวิน”
“ผมอยากจะคุยกับษาครับ อีกสักครั้งก็ยังดี
“วินไม่ต้องห่วงหรอก วันได้ยิ่งกว่าคุยอีก เชื่อพ่อนะ”
“ผมขออะไรคุณพ่อหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้”
“อย่าเพิ่งให้คุณแม่รู้เรื่องนี้นะครับ ให้เวลาผมสักหน่อย ถึงเวลาผมจะ บอกคุณแม่เอง ” เขาไม่อยากจะให้มารดาที่กำลังจะกลับมาในอีกสองวัน จากการปฏิบัติธรรมไม่สบายใจ
“พ่อว่าวินไม่ต้องคิดจะบอกอะไรใครหรอก เดี๋ยวมาก็ตกลงแต่งงานกับ วันแล้วล่ะ ให้ถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็แล้วกันนะ”
“ถ้าเป็นอย่างที่คุณพ่อพูดจริงๆ มันก็ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องบอกใคร
หรอกครับ”
“พ่อขอบใจนะ ทวินยังพร้อมที่จะให้โอกาสนา”
“ษา เป็นผู้หญิงที่ผมรัก ผมพร้อมที่จะให้โอกาสเธอเสมอครับ”
“ไว้ถ้าษากลับมา พ่อจะคุยกับษาอีกทีนะ”
“ครับ”
ณ คอนโดใจกลางเมืองหากำลังยืนคุยกับนพพลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กันทั้งคู่ มาตัดสินใจบอกเรื่องที่บิดาของเธอติดหนี้พนันและกำลังถูกข่มขู่ ให้ใช้หนี้อยู่ จำนวนเงินหลายล้านทำให้นพพลคิดไม่ตก แต่สิ่งที่เขาไม่คิด ไม่ฝันเลยก็คือประพันธ์บิดาของเธอจะเอาตัวหญิงสาวใช้หนี้แทน ถ้าเธอไม่ ยอมแต่งงานกับวิน
“ผมไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้” นพพลส่ายหน้า
“ษาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วค่ะ มันมืดแปดด้านไปหมด
“เราหนีไปอยู่ที่อื่นด้วยกันไหม” นพพลเสนอทางออก
“ไม่ได้หรอกค่ะ มาทิ้งพ่อไม่ได้จริงๆ
“ตอนนี้ปัญหาคงจะติดที่คุณพ่อคนเดียวสินะ ส่วนไอ้วันถึงมันจะไม่รู้ว่า ผมเป็นคนที่มารักษาบอกเลิกและตัดเยื่อใยไปแล้วมันคงจะทำใจยอมรับ ความจริงได้”
“บากลัวค่ะ กลัวว่าคุณพ่อจะโดนคนที่บ่อนพนันทำร้าย
“ษาอย่าเพิ่งคิดไปไกล ”
“แต่ถ้าคุณพ่อไม่ทยอยจ่าย พวกมันเอาคุณพ่อตายแน่ค่ะ”
“ษาไม่ต้องกลัวนะ ผมจะหาเงินมาช่วยคุณพ่อเอง
“คุณจะไปหาจากที่ไหนคะ เงินตั้งห้าล้าน”
“คนรู้จักนะ”
“ไม่ได้นะคะ ษาไม่ยอมให้คุณเป็นหนี้หรอก ษาขอหาทางออกเองนะคะ”
“ษาจะทํายังไง”
“ษาขอคิดดูก่อนนะคะ”
“ผมหวังว่า บาจะเลือกความรักของเรานะ” นพพลเอยด้วยใบหน้า เคร่งเครียด สวมกอดร่างบางเอาไว้แน่น
“ค่ะ” รับค่าอย่างหนักแน่น
ณ บ้านไชยพัฒนาปายกับนัทจับมือกันไว้แน่นเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับ คํารงบิดาของปายอยู่ในห้องรับแขกภายในบ้านด้วยความเป็นกังวลใจใน สิ่งที่กำลังจะบอกออกไป ดำรงเห็นลูกสาวกับชายหนุ่มข้างกายสนิทสนม กันมากเกินไป ก็แอบสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ขึ้นมาทันที เพราะเขา รับรู้มาตลอดว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันในมหาวิทยาลัย
“สวัสดีครับ คุณลุง” นัทเอ่ยทักทายด้วยความนอบน้อม
“อืม” ดารงพยักหน้ารับ
“คุณพ่อค่ะ ปายมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณพ่อค่ะ” ปายเปิดประเด็นขึ้น
“เรื่องอะไรเหรอ แล้ววันนี้คิดยังไงถึงได้พาเพื่อนมาด้วย” ดำรงจ้องหน้า นัทไม่วางตา
“คือเรื่องที่หนูจะบอกมันเกี่ยวกับนัทด้วยค่ะ ก็เลยพานิทมาด้วย” ปาย
พูดพลางหันไปมองหน้าชายหนุ่มข้างกาย
“ยังไง” ดำรงขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ปายขอให้คุณพ่อยกเลิกงานหมั้นค่ะ”
“อะไรนะ!” ดำรงตกใจ
“ปายขอโทษนะคะ แต่ปายหมั้นกับพี่ทนไม่ได้จริงๆ ”
“ทำไม ก่อนหน้านั้นลูกยังรับปากรับคำเป็นอย่างดีว่าจะหมั้นกับหินเขา เอง”
“ตอนนั้นบ่ายคิดว่า ตัวเองคงจะไม่มีโอกาสสมหวังกับคนที่ตัวเองรัก แล้ว ปายก็เลยอยากจะตัดใจจากเขา โดยการคบหาคนอื่นเพื่อให้ลืมเขา ไปค่ะ”
“ปายก็รู้ว่าพ่อตกปากรับคำฝ่ายโน้นเขาเป็นอย่างดีแล้ว จะมายกเลิก เป็นเด็กเล่นขายของแบบนี้ไม่ได้นะ” ดำรงเริ่มจะมีอารมณ์
“ปายขอโทษค่ะ”
“แล้วผู้ชายคนนั้นมันเป็นใคร”
“ผมเองครับ” นัทยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำ
“นี่เหรอ ผู้ชายคนที่ลูกรัก”
“ค่ะ ปายแอบรักนัทมานานแล้ว และตอนนี้เราสองคนตกลงคบกันเป็น แฟนแล้วค่ะ”
“เลิกกันซะ! ยังไงลูกก็ต้องหมั้น ถ้าไม่อยากให้พ่อเสียผู้ใหญ่ที่ไม่รักษา
คําพูด”
“แต่ปายไม่ได้รักพี่ทน ยังไงปายก็ไม่ยอมหมั้นกับพี่ทนหรอกค่ะ”
“ไม่ยอมก็ต้องยอม กลับขึ้นห้องไปได้แล้วไป” ดำรงพยายามทำใจเย็น
“ให้โอกาสผมหน่อยเถอะนะครับ เราสองคนรักกัน คุณลุงอย่ากีดกันเรา สองคนเลยนะครับ ผมขอร้อง”
“นะคะคุณพ่อ” ปายเอ่ยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า
“ไม่!” ตรงปฏิเสธเสียงแข็ง
“แต่ปายเป็นเมียของผมแล้ว ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบครับ และตอนนี้
อาจจะท้องแล้วก็ได้” “นัท” ปายอ้าปากค้างตกใจเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าพูดออกมา
ตรงๆ
แบบนี้
“หมายความว่ายังไง ไม่จริงใช่ไหมปาย!! ดำรงหันไปถามลูกสาวเพื่อ
ยืนยันอีกครั้ง
“จริงค่ะ แต่ยังไม่ท้อง” ปายก้มหน้าลง
“ให้มันได้อย่างนิสิ” ดำรงส่ายหน้า
“ให้ผมกับปายคบกันเถอะนะครับ หรือจะให้ผมหมั้นหรือแต่งก็ได้ ผม ทำได้ทุกอย่าง ขอแค่คุณลุงยอมให้ผมกับชายคบกัน”
“คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ลูกสาวทั้งคน”
“แต่มันก็ดีกว่า ให้ปายมีพันธะกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักนะครับ”
“คุณพ่อ ให้ปายกับนัทคบกันเถอะนะคะ ปายไม่ได้รักพี่ทนหมั้นกันไปก็
เปล่าประโยชน์ค่ะ” ปายเอ่ย โน้มน้าว
“ถ้าจริงใจกับลูกสาวฉันจริงๆ ก็พิสูจน์สิ” ดำรงลองหยั่งเชิง
“ได้ครับ ผมจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าผมก็ดูแลปกป้องปายได้”
“ดี ฉันจะคอยดู”
“มีเรื่องอะไรกันคะคุณ” ทิพเดินเข้ามา
“ถามลูกสาวตัวดีของคุณเอาเองเถอะ” พูดจบดำรงเดินออกไป
“มีอะไรกันเหรอลูก” ทิพหันไปถามลูกสาว เพราะเธอพึ่งลงจากชั้นบน
“คุณแม่นั่งลงก่อนสิคะ ปายจะเล่าให้ฟัง
“จ๊ะ” นั่งลงตามที่ลูกสาวบอก
พอปายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้มารดาฟังทั้งหมด ทิพก็ส่งยิ้มให้ปายกับนัก เธอดีใจที่ลูกสาวสมหวังในสิ่งที่หวังถึงมันจะดูปุบปับไปหน่อยก็ตาม แต่ อย่างน้อยๆ ลูกสาวคนเดียวก็มีความสุขแค่นี้เธอก็พอใจแล้วทิพอยู่คุย ทำความรู้จักกับนัทสักพักก็ขอตัวออกไป
ทันทีที่ทัพเดินออกไปปายก็โผล่เข้าสวมกอดนัทด้วยความดีใจ ทั้งคู่ต่าง ก็สวมกอดกันไว้แน่นพร้อมกับยิ้มกว้างมีความสุข ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองเปิด โอกาสให้คนทั้งคู่ได้พิสูจน์ตนเอง ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของนัทที่จะพิสูจน์ ความจริงใจให้ตรงยอมรับในตัวของเขาให้ได้ในเร็ววัน
ช่วงหัวค่ำวันเดินเข้าไปในบ้าน เจอป้าศรีกับป้าณีออกมารับพอดี ชาย หนุ่มจึงมองหญิงสูงวัยทั้งคู่ด้วยความแปลกใจ พร้อมกับกวาดสายตามอง ไปรอบบ้าน แต่กลับไร้เงาของบัวตอง
“ป้าสองคนมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คุณวินทานอะไรมาหรือยังคะ” ป้าถามขึ้น
“ยังเลยครับ กำลังหิวอยู่พอดีเลย
“ไปค่ะ เดี๋ยวป้าไปจัดโต๊ะให้” ป้าสูงวัยทั้งสองเดินนำไปยังโต๊ะอาหาร
วินนั่งทานข้าวไปเงียบๆ แต่ในใจกลับนึกถึงหญิงสาวที่เขาเผลอไปมี อะไรด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้นึกถึงคราบเลือดที่ติดอยู่บนผ้าปูที่นอนเมื่อเช้านี้ วินสลัดความคิดทิ้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“คุณวินอิ่มแล้วเหรอคะ” ป้าศรีถามขึ้น
“ครับ”
“เมื่อตอนเย็นบัวบอกว่าไม่ค่อยสบาย ป้าเลยเอายาให้ทาน คุณวินจะไป ดูหน่อยไหมคะ” ป้าศรีเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ดีกว่าครับ มีอะไรก็บอกก็แล้วกัน”
“ป้าไปเคาะประตูห้องเมื่อกี้ ไม่มีเสียงขานรับเลยค่ะ สงสัยจะหลับไป แล้ว” ป้าเอ่ยเสริมขึ้น
“เรื่องแค่นี้ ผมว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องบอกผมก็ได้นะ”
“ค่ะ” ป้าณีรับนํา
“ป้าสองคนก็ช่วยกันดูหน่อยก็แล้วกันนะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน
นะครับ” พูดจบวินก็เดินขึ้นห้องไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ