เศรษฐีรุ่นใหม่

บทที่ 8



บทที่ 8

บทที่ 8

ไปยีเฟยขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “ไปเดินเล่นสักหน่อ ยล่ะมั้งครับ” บริษัทดูกว้างใหญ่ขนาดนี้ เขาคงต้องไป ทําความคุ้นเคยเสียหน่อยล่ะ

หลงหลิงหลิงเองก็จำเป็นต้องตามเขาไปด้วย เธอลอบ ถอนหายใจอยู่ในใจ บริษัทที่ดีๆ บริษัทหนึ่งแท้ๆ ควรจะ ต้องถูกส่งต่อให้กับผู้ลาภมากดีสิ แล้วแบบนี้อนาคตของ ทั้งบริษัทจะไม่ถูกดับสลายไปอย่างนั้นหรือ?

ช่างเถอะ เธอก็แค่มาทำงานหาเงินเท่านั้น อีกอย่าง หาก อีกฝ่ายเป็นคนรวยจริงๆ แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ?

ไป์ยี่เฟยเดินสำรวจรอบๆ อย่างสนใจใคร่รู้ เขาสำรวจ ทุกซอกทุกมุม ราวกับเป็นนักท่องเที่ยวเสียอย่างนั้น

ระหว่างทางก็ได้พบเจอกับผู้บริหารมากมาย ซึ่งพอเห็น เขา พวกเขาก็เคารพเขาอย่างนอบน้อมถ่อมตน แถมยัง เรียกเขาด้วยว่า “ท่านประธาน”

ในตอนแรกไป์ยี่เฟยดูไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ แต่พอถูก เรียกหลายๆ ครั้งเข้า เขาก็เริ่มจะชินขึ้นมาเสียแล้วล่ะ
ขณะนั้นเอง ไป์ยี่เฟยก็เดินมาถึงที่แผนกจัดซื้อ ก่อนที่ เขาจะได้ยินเสียงพูดคุยด้านในดังขึ้น

“ดูสิคะผู้จัดการสวี่ บริษัทของพวกเรานี่ซื่อสัตย์มากๆ เลยนะคะ ดูนี่สิคะ…”

ผู้จัดการสวี่ก็หัวเราะขึ้น “เสี่ยวโจวก็! จะซื่อสัตย์ขนาด ไหนไม่ใช่แค่พูดออกมาเท่านั้นไม่ใช่หรือ? อีกอย่างคนที่ ซื่อสัตย์มากกว่าเธอก็มีถมไปอีก”

“ถ้าอย่างนั้นความซื่อสัตย์ที่ผู้จัดการสวี่พูดถึงก็คือ… โจวฉวี่เอ๋อถามอย่างระมัดระวัง

แววตาของผู้จัดการสวี่จับจ้องอยู่ที่ต้นขาของโจวฉวี่เอ๋อ ตลอด “เสี่ยวโจวเอ๋ย! เธอเองก็อยู่ในสังคมแบบนี้มานาน เธอยังไม่รู้อีกหรือว่าสิ่งที่ฉันพูดหมายความว่าอย่างไร น่ะ?”

โจวฉวี่เอ๋อเริ่มรู้สึกได้ถึงสายตาของผู้จัดการสวี่ ใบหน้า เธอจึงขรึมลงทันที

“ผู้จัดการสวี่คะ พอดีฉันมีธุระที่จะต้องทำ ส่วนเรื่อง สัญญาเอาไว้คุยกันวันหลังเถอะนะคะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ ค่ะ” โจวฉวี่เอ๋อยันกายลุกขึ้น คิดที่จะเดินออกไป แต่กลับ ถูกผู้จัดการสวี่รั้งไว้
“ในเมื่อมาถึงนี่แล้ว ก็อย่ารีบร้อนไปนักสิ!” ผู้จัดการสวี่ หรี่ตาลง “เรื่องสัญญาน่ะมีอะไรต้องคุยกันอีกเยอะเลยนะ ขอเพียงคืนนี้เธอยอมนอนกับฉัน รับรองได้เลยว่าใบจอง ครั้งหน้า จะเป็นสัญญากับบริษัทพวกเธออย่างแน่นอน”

ทุกๆ คืนหลี่เสว่มักจะคุยผ่านกล้องกับโจวฉวี่เอ๋อตลอด ทำให้เขาคุ้นเคยเสียงของโจวฉวี่เอ๋อได้เป็นอย่างดี เพราะ ฉะนั้นไป์ยี่เฟยไม่มีทางหูฝาดไปแน่ๆ!

พอคิดได้แบบนั้น เขาก็รีบตะโกนขึ้นเสียงดังทันที “หลง หลิงหลิง!”

หลงหลิงหลิงเหลือบไปมองในห้องทํางาน ก่อนจะเดิน ต๊อกแต๊กด้วยรองเท้าส้นสูง มาหยุดอยู่ตรงหน้าของไปยื่ เฟย “คะท่านประธาน

“ฝากจัดการด้วยล่ะ ผมไม่อยากให้มีครั้งต่อไป” ไป์ยี่ เฟยพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

วันแรกที่เขาได้มาที่บริษัท ก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เสีย แล้ว ทำให้เขาอดทนไม่ได้จริงๆ!

ยิ่งไปกว่านั้น ด้านในก็เป็นเพื่อนสนิทของหลี่เสว่ที่ชื่อว่า โจวฉวี่เอ๋อด้วย!
แน่นอนว่าถ้าหากเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาก็ยังคงทำเหมือน เดิม ในเมื่อตอนนี้บริษัทนี้เป็นของเขาแล้ว เขาจะไม่มีทาง ยอมให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด

พอผู้จัดการสวี่ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นของไปยี่เฟยเขา ก็ตกใจเสียจนเข่าอ่อน เขาแทบไม่กล้าขยับไปไหนเลย แม้แต่น้อย

โจวฉวี่เอ๋อจึงอาศัยโอกาสนั้นเดินออกมาจากห้องทํางาน ทันที ขณะที่เธอคิดจะออกมาขอบคุณคนที่ช่วยเธอเอาไว้ ผลก็คือเธอเห็นหลงหลิงหลิงกับแผ่นหลังของคนที่ดูมีรูป ร่างสูงใหญ่เท่านั้น

พอเห็นแผ่นหลังของคนๆ นั้น ในใจของโจวฉวี่เอ๋อก็เต้น ระรัวขึ้นมาทันที

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยแบบนี้กันล่ะ?

หรือว่าเธอจะเคยเห็นมาก่อนกัน?

ที่ห้องทํางานของประธาน หลังจากที่หลงหลิงหลิง จัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็กลับมารายงาน ให้ทราบ หลังจากรายงานเสร็จ เธอก็ยืนมองไป์ยี่เฟยอยู่ แบบนั้น ราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

ไปยี่เฟยเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น “มีเรื่องอะไรหรือ?”

หลงหลิงหลิงครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดว่า : “ผู้จัดกา รส เป็นบุคคลเก่าแก่ของที่นี่น่ะค่ะ ประกอบกับความ สัมพันธ์และความสามารถของเขา การจะไล่ออกเลยมัน

“ถ้าอย่างนั้นเธอรู้สึกว่าไม่สมควรจะไล่ออกใช่ไหม?” ไป ยี่เฟยถามอย่างเรียบเฉย

หลงหลิงหลิงขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบกลับ : “แต่หากทํา เรื่องผิดกฎก็สามารถไล่ออกได้ค่ะ”

ไปยี่เฟยหัวเราะในล่าคอเบาๆ “ที่บริษัทจะไม่มีทางเก็บ คนแบบนี้ไว้หรอกนะ”

หลงหลิงหลิงอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ขณะนั้นเอง ไป์ยี่เฟยก็ถามขึ้นว่า : “แล้วเมื่อกี้นี้คนๆ นั้น มาคุยเรื่องอะไรล่ะ?”

หลงหลิงหลิงเองก็ตอบกลับอย่างเป็นการเป็นงาน : “เกี่ยวกับเรื่องก่อสร้างค่ะ” พูดจบ เธอก็ยื่นเอกสารให้ไปยื่ เฟยดู
ไป์ยี่เฟยพลิกเอกสารนั้นดูไปมาครู่หนึ่ง ก่อนจะพบว่า ราคาของการก่อสร้างนั้นค่อนข้างต่ำ จึงเซ็นชื่อลงไป ทันที ก่อนจะโยนกลับไปให้หลงหลิงหลิง

หลงหลิงหลิงที่เห็นแบบนั้นเธอก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นเข้าไป ใหญ่ พวกคนรวยผู้ลาภมากดีส่วนใหญ่ มักจะชอบเรื่อง รักๆ ใคร่ๆ นี้เป็นปกติ ยิ่งพอเห็นสาวสวยก็ยิ่งสมองกลวง ไปทันที

แต่ไปยี่เฟยกลับไม่ใช่คนแบบนั้น เขาไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ อะไรเลย พอมองเห็นเอกสารนั้น เขาก็ทําการประเมินอยู่ พักหนึ่ง พอรู้สึกว่าใช้ได้เขาถึงจะเซ็นชื่อลงไป

“อ้อ ใช่แล้ว ฝากบอกพวกระดับสูงให้ด้วยนะ ว่าตอนนี้ อย่าเพิ่งเปิดเผยตำแหน่งของผมไปนะ”

ในใจของหลงหลิงหลิงตอนนี้รู้สึกไม่เห็นด้วยกับไป ยี่เฟยขึ้นมา แต่เธอก็ยังคงพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ ท่าน ประธาน”

ตอนนี้ไปยี่เฟยไม่ได้อยากจะโอ้อวดอะไรมากนัก สำนวนที่ว่าไม้ใหญ่โดนล้มโค่นนั้น เขาเข้าใจดี!

ก่อนหน้าที่เขายังไม่ได้ควบคุมบริษัทนี้ไว้ทั้งหมด เขาไม่ ควรที่จะเปิดเผยตัวตนของเขาไปก่อน
หลังจากนั้นไปยี่เฟยก็จัดการธุระอีกเรื่องหนึ่ง ก่อน จะกลับไป เขาให้อำนาจกับหลงหลิงหลิงอย่างมาก ซึ่ง สามารถจัดการแทนเขาได้ทุกอย่าง ดังนั้นเขาจะได้ไม่ ต้องกังวลใจอะไรมากนัก

หลังจากที่ออกมาจากบริษัท ไปยี่เฟยก็คิดออกว่าตัว เองยังต้องไปซื้อห้องชุดสักห้องให้กับเสบู่เอ๋อ เขาจึงโบก แท็กซี่เพื่อไปที่สํานักงานหลันโปกึ่งใจกลางเมือง

ห้องที่หลันโปกึ่งที่นี่ เป็นห้องที่ราคาแพงที่สุดของทั้ง เมืองเทียนเป่ยเลย แถมยังเป็นตึกที่มีต้นไม้ใบเขียวเยอะ ที่สุดอีกด้วย และมีการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่มีระดับ สูง ทำให้มีคนรวยหลายคนอยากที่จะมาซื้ออยู่

ขณะนั้นเองที่สํานักงานขายก็มีคนไม่ค่อยเยอะ มีเพียง คนที่มาดูห้องอยู่บางตาเท่านั้น ซึ่งมองออกเลยว่าไม่ใช่ คนที่มีเงินปกติเท่าไหร่ ซึ่งไม่มีทางจะอยู่ที่นี่ได้แน่นอน

ขณะที่ไป์ยี่เฟยเดินเข้าไปนั้นเอง ก็มีพนักงานขายผู้ หญิงคนหนึ่ง สวมชุดทํางานเดินออกมาต้อนรับเขา “มาดู ห้องหรือคะคุณผู้ชาย? ตอนนี้พวกเรามีห้องชุดเหลืออยู่ เยอะเลยล่ะค่ะ”

พลันเขาก็คิดถึงตอนที่เขาไปซื้อรถก่อนหน้านี้ เป็น เพราะว่าเขาสวมชุดที่ดูมอซอ ทำให้เขาโดนดูถูกดูแคลน มาตอนนี้เขาสวมชุดสูทที่มียี่ห้อทั้งชุด ทำให้ท่าทีของคนพวกนี้ ดูราวกับเห็นญาติสนิทมิตรสหายของ ตัวเองอย่างไรอย่างนั้น!

พนักงานขายคนนั้นก็ยิ้มถามเขาว่า : “เชิญด้านนี้ค่ะคุณ ผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายต้องการดูห้องแบบไหนดี คะ?”

ไป์ยี่เฟยก็เดินเข้ามาดูด้วยก่อนจะถามขึ้น : “อยากได้ ห้องที่วิวดีๆ แล้วก็อยู่ชั้นสูงๆ หน่อย มีพื้นที่กว้างๆ น่ะ ครับ”

“ทางด้านนี้เลยค่ะ อาคารหก เฟสหนึ่ง ชั้นที่ยี่สิบแปด มีเนื้อที่ทั้งหมดสองร้อยตารางเมตร เหมาะกับความ ต้องการของคุณผู้ชายเลยล่ะค่ะ”

ไปยี่เฟยพยักหน้า “ดูดีเลยล่ะ”

เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นอีกครั้งว่า : “ยังพอมีห้อง ที่ใหญ่กว่านี้ไหมครับ?”

พนักงานขายอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดแนะนำอย่างเบิก บานใจ : “หากเป็นห้องที่ใหญ่กว่านี้ ก็ต้องเป็นโซนบ้านพัก แล้วล่ะค่ะ”

ไป์ยี่เฟยก็มองตามเธอไปด้วย ก็พบว่าสภาพแวดล้อมขอ โซนบ้านพักดูดีอย่างมาก ประกอบกับเนื้อที่ที่กว้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ