เศรษฐีผู้ลึกลับเป็นผม

บทที่ 17 ถูกรางวัลแสนห้า



บทที่ 17 ถูกรางวัลแสนห้า

บทที่ 17 ถูกรางวัลแสนห้า

เส้เหวินจั๋งตกตะลึง นี่มันสถานการณ์อะไรกัน: “ผู้จัดการ คุณดู ผิดหรือเปล่า ข้อความของเขาต้องปลอมขึ้นมาแน่ๆ!

จูจี้เหวินก็หยิบมือถือของตนเองขึ้นมา ส่งข้อมูลการจองไปให้ผู้ จัดการดู: “พวกเราก็เพิ่งจะจองโต๊ะเบอร์ 8!”

ผู้จัดการจึงดูข้อความของจูจี้เหวิน ยิ้มอย่างมีมารยาทพูดขึ้น พวกคุณจองโต๊ะเบอร์ 8 ไม่ผิดหรอกค่ะ เพียงแต่ที่คุณจองไว้เป็น โต๊ะธรรมดา แต่ที่คุณฉินจองเอาไว้เป็นโต๊ะพิเศษค่ะ

“อะไรนะ? เขาจองโต๊ะพิเศษ?” เส้เหวินจึงมองผู้จัดการอย่าง ประหลาดใจ เขาเป็นแค่คนจนๆ ทุกๆวันแม้กระทั่งเงินกินข้าวใน โรงอาหารยังไม่มีเลย คนอย่างนี้จะจองที่นั่งดีๆได้ยังไง? เส้เห วินจึงไม่เชื่อเลยสักนิด

เพื่อเป็นการชดเชยความผิดพลาดเมื่อครู่ ผู้จัดการจึงพาฉินหลั่ง กับหลี่เสียไปที่โต๊ะพิเศษเบอร์ 8 อย่างกระตือรือร้น!

มาถึงโต๊ะพิเศษเบอร์ 8 ผู้จัดการก็ขมวดคิ้ว เนื่องจากบนโต๊ะยังมี อาหารวางอยู่ แต่ละจานก็กินไปแล้ว แขกจองโต๊ะเอาไว้ พอมาถึง กลับเป็นสถานการณ์อย่างนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าโรงแรมของพวกเขาไม่มีความมืออาชีพอย่างชัดเจน!

“สองท่านรอสักครู่นะคะ” ผู้จัดการพูดกับฉินหลั่งเสร็จ ใบหน้า ก็อึมครึมทันที เรียกหัวหน้าคนงานที่อยู่ใกล้ๆคนหนึ่งมา: “นี่เกิด อะไรขึ้น? ลูกค้ามาแล้วนะ ทำไมของที่อยู่บนโต๊ะยังไม่เก็บออก ไปอีก?”

“ลูกค้าโต๊ะนี้มาตั้งนานแล้ว พวกเขาไปเข้าห้องน้ำ” หัวหน้าคน งานพูด

“มาแล้ว?” ผู้จัดการโมโหมาก เอียงตัวไปทางฉินหลั่งทั้งสองคน นั้น: “สองท่านนี้ถึงจะเป็นลูกค้าของโต๊ะนี้สิ พวกคุณต้อนรับลูกค้า อะไรมา?”

“เอ่อ…” สีหน้าของหัวหน้าคนงานอึดอัดขึ้นมาทันที: “ผู้จัดการ เดี๋ยวฉันจะไปตรวจดูสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น!” พูดจบ ก็รีบเดิน ออกไป

“อ้าว พวกนายยืนอยู่ข้างโต๊ะพวกฉันทำอะไรกัน?” ตอนนี้ เส้เห วินจิ้งที่กอดแขนของจูจี้เหวินอยู่ก็เดินเข้ามา

“ทั้งสองท่านทานอาหารที่โต๊ะนี้เหรอคะ?” ผู้จัดการถามอย่าง สุภาพ
“ใช่สิ หาไมเหรอ?” เส้เหวินจิ้งถามด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

ด้านนั้น หัวหน้าคนงานเมื่อครู่ก็ดึงบริกรสาวคนหนึ่งเข้ามาด้วย: “ผู้จัดการ เธอเป็นคนที่พาลูกค้ามาผิด!”

บริกรก้มหน้า: “ขอโทษค่ะ ผู้จัดการ ฉันเพิ่งมาตอนบ่าย ยังไม่คุ้น เคยกับโรงแรมสักเท่าไหร่ แต่เดิมลูกค้าโต๊ะนี้เป็นโต๊ะทั่วไปเบอร์ 8 แต่ฉันพามาที่โต๊ะพิเศษ……

ผู้จัดการมองไปที่จูจี้เหวินกับเส้เหวินจิ้ง: “สองท่านคะ เนื่องจากความประมาทของพวกเราทำให้พวกคุณไม่สะดวก ขอ ประทานโทษนะคะ คุณลองดูว่าสามารถไปทานอาหารที่โต๊ะ ทั่วไปได้ไหมคะ ค่าใช้จ่ายของทั้งสองท่านก่อนหน้านี้ไม่คิดค่า บริการค่ะ เนื่องจากลูกค้าสองท่านนี้รอมาสักพักแล้วค่ะ”

จะให้เส้เหวินจิ้งยกที่นั่งให้ฉินหลั่ง เส้เหวินจิ้งก็ยอมไม่ได้อยู่ แล้ว!

“ไม่ได้!” เส้เหวินจึงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

“เอ่อ…” ผู้จัดการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก: “ทั้งสองท่านยืนยันว่า จะนั่งทานที่นี่ต่อไปใช่ไหมคะ?”
“แน่นอน พวกเราชอบทานข้าวที่ตำแหน่งนี้ นอกจากตรงนี้ ที่ไหนพวกฉันก็ไม่ไป ดูแล้วตอนนี้ใส่เหวินจิ้งเหมือนกับคนไม่มี เหตุผล

ผู้จัดการทอดถอนใจบ่นพึมพำกับตนเอง ได้ค่ะ แต่ดิฉันต้อง อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน ราคาโต๊ะพิเศษสูงกว่าราคาโต๊ะ ทั่วไปมากนะคะ

“สูงก็สูงสี ในเมื่อพวกฉันได้มากินข้าวที่นี่แล้ว ยังจะกลัวกินไม่ ได้อีกได้ยังไง? เส้เหวินจังหัวเราะอย่างเย็นชา ท่าทางไม่แคร์ เลยสักนิด

ยังไงก็ตามโต๊ะนี้เธอไม่ยอมถอยเด็ดขาด ฉินหลังนายแสร้งเป็น คนรวยไม่ใช่เหรอ? ฉันจะแย่งโต๊ะของนายจะไม่ยอมให้นายได้ เสวยสุขหรอก!

เส้เหวินจึงสบายใจ เพราะจุดสำคัญคือ เธอไม่ได้เป็นคนจ่ายเงิน

“ประมาณเท่าไหร่?” จูจี้เหวินรีบถาม ในใจยังคงมีความกังวล เล็กๆ

“ก็ที่พวกคุณทานไปตอนนี้ราคาประมาณ 5000 หยวน แล้วยังมี ค่าจองโต๊ะ 500 หยวน คำวิวทิวทัศน์ระหว่างการทานอาหาร 800 หยวน ค่าการแสดงวงดนตรีชาวต่างชาติ 2500หยวน ค่าบริการชุดทานอาหารอันทรงเกียรติ 1200 หยวน……

ผู้จัดการพูดไป 7-8 อย่าง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็พุ่งไปถึงระดับสอง หมื่นกว่าหยวนแล้ว

เยอะขนาดนี้! จูจี้เหวินก็ตกใจ! ในใจของเขากระวนกระวายมาก หน้าเริ่มร้อนผ่าว ในหัวมีเพียงแค่ประโยค อาหารมื้อนี้กินไม่ไหว อยู่แล้ว’ เท่านั้น ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง!

“เหวินจิ้ง พวกเราไปที่โต๊ะธรรมดาเถอะ” จูจี้เหวินพูดกับเส้เหวิน งเบาๆ

“ที่รัก ก็ฉันชอบตรงนี้ พวกเราก็กินตรงนี้เถอะ!” เส้เหวินจิ้งไม่ อยากจะขายหน้าต่อหน้าของฉินหลั่งสักนิด

“เธอไม่ไปใช่ไหม ได้ เธอไม่ไปฉันไป” จูจี้เหวินโมโหแล้ว แต่ เดิมเขาก็มีเงินไม่พออยู่แล้ว ถ้าจะกินตรงนี้ต่อไป สุดท้ายแล้วก็มี แค่ขายขี้หน้าเท่านั้น

พูดจบ จูจี้เหวินก็ไม่สนใจเส้เหวินจึงแล้ว เดินออกไปคนเดียว

ตอนนี้ จึงเหลือเพียงเส้เหวินจึงคนเดียว เธอน่ะยิ่งไม่มีเงินเลย

คนอื่นๆรอบข้าง ต่างก็มองมาที่เธอ เส้เหวินจึงแค่รู้สึกขายหน้า จะแย่แล้ว ตอนนี้ถ้าให้อยู่ตรงนี้อีกแค่หนึ่งวินาที เธอก็รู้สึกว่าทั้ง ร่างกายไม่เป็นอิสระเลย!

เส้เหวินจิ้งจ้องมองฉินหลั่งอย่างดุร้าย หยิบกระเป๋าตนเอง แล้วก็ เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ผู้จัดการให้พนักงานจัดการของบนโต๊ะอาหารให้เรียบร้อยอย่าง รวดเร็ว และเชิญฉินหลังกับ หลี่เสี้ยนั่งอย่างนอบน้อม อาหารที่ จัดจานอย่างประณีตงดงามแต่ละอย่างถูกยกมาเสิร์ฟทีละจานๆ วงดนตรีของชาวต่างชาติก็เข้ามาแสดงใหม่อีกครั้ง แล้วยังมี บริกรมืออาชีพยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร เตรียมตัวบริการฉินหลั่งได้ ทุกเมื่อ!

เส้เหวินจิ้งกับจูจี้เหวินก็ยังไม่ไปไหน แม้ว่าเมื่อครู่จะประสบกับ ความอึดอัดเข้าแล้ว เส้เหวินจิ้งก็ไม่อยากละทิ้ง โอกาสที่ได้กินมื้อ ใหญ่ที่ Sofitel Hotel

พวกเขาสองคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะธรรมดาเบอร์ 8 จากตรงนี้ สามารถมองเห็นฉินหลั่งกับหลี่เสียได้

เห็นวิวทิวทัศน์ที่ล้อมรอบฉินหลั่งดีขนาดนั้น ใจของเส้เหวินจิ้งก็ กลัดกลุ้มจนถึงที่สุด! คนจนๆคนหนึ่งที่โดนตนเองทิ้งกำลังนั่งกินอาหารมื้อใหญ่อยู่ในตำแหน่งหน้าท้อง ต่อหน้า ตนเอง ในใจของเธอไม่มีความสวยเลย แม้กระทั่งอาหารมื้อใหญ่ ก็ไม่รู้สึกว่าอร่อยเลย แต่ว่ารสชาติและข้าวของมหาวิทยาลัย เสียอีก

ในเวลาเดียวกัน ภายในใจของเล่น พิเศษแทรกอยู่ด้วย! รามองขึ้นเป็น

กินอาหารมื้อหนึ่งที่โต๊ะพิเศษต้องจ่ายเป็นอย่างน้อยสองหมื่น หยวน แม้กระทั่งเหวินก็รับไม่ไหว ฉันหลังคนจนคนนี้จ่าย ไหวเหรอ? ทำไมดูแล้วเหมือนเขาสวยมากเลยทางไม่ดีน ตกใจสักนิด? เขาเอาเงินมาจากไหน?

เส้เหวินจึงกำลังจ้องฉันหลังอยู่ในที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ก็ยัง เอาอาหารเข้าปากทีละคำๆ อันที่จริงนี้เป็น Sofitel Galaxy Hotel นะ ครั้งนี้ถ้าไม่กินให้พอ คราวหน้าจะออกมาไหร่ก็ไม่รู้

ความประหลาดใจและความสงสัยของหมีเตี้ย ก็ไม่ได้น้อย ឯកាលើឯងតីនាពដ នឹងទៅដើមបីIIវាំងចខាងធំ ក៏ដឹង ไม่กลับมาเป็นปกติ ยังเหมือนกับฝันอยู่อย่างนั้น

“ฉินหลัง นายจองโต๊ะของที่นี่ได้ยังไง แล้วก็มาบอกฉันมา ว่ามีเงินจ่ายจริงๆใช่ไหม หลัง มาอย่างยังไม่ค่อยสบายใจ
“เธอสบายใจได้ ฉันบอกไปแล้วไง ว่าจะไม่ทำให้เธอเสียหน้า ฉินหลั่งยิ้มบางๆพูดขึ้น

“งั้นนายเอาเงินมาจากไหน?” หลี่เสี้ยซักไซ้

“เอ่อ…” ฉินหลั่งคิดๆ: “ฉันซื้อลอตเตอรี่ แล้วดวงดี ซื้อแค่กี่สิบ หยวน แต่กลับถูกรางวัลตั้งแสนห้า

ฉินหลั่งไม่อยากให้หลี่เสี้ยรู้เรื่องสถานะของตนเอง ไม่อย่างนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนก็จะห่างเหินกัน แล้วก็จะพา ปัญหามาให้เขาอีกไม่น้อยเลย!

หลังจากหลี่เสียได้ฟัง กลับบนเขาไม่หยุด

“มีเงินแล้วก็ไม่ควรใช้จ่ายขนาดนี้ ข้าวมื้อนี้ก็เสียไปสองหมื่น หยวนแล้ว เงินพวกนั้นของนาย ใช้แล้วใช้อีกไม่นานเท่าไหร่ ก็จะ โดนนายใช้จดหมด!

“ไม่เป็นไรหรอก เงินก็มีไว้ใช้ใช่ไหมล่ะ” ฉันหลังไม่สนใจมากๆ อย่างชัดเจน: “เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันฉินหลังรักษา สัญญากับเพื่อนที่สุด ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกว่าจะพาเธอมากิน ข้าวที่ Sofitel ก็ต้องพาเธอมาสิ!”

หลี่เสี้ยได้ฟังคำพูดของฉันหลัง ในใจก็สั่นไหวเล็กน้อย ในทันที เธอจึงรู้สึกว่าฉินหลั่งน่ารักมากทีเดียว

สองคนกินข้าวเสร็จแล้ว หลังจากฉินหลังจ่ายเงิน ก็ออกจาก Sofitel Galaxy Hotel เลย และพวกเส้เหวินจึงออกไปเร็วกว่า พวกเขาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว

แต่เดิมวันนี้ จูจี้เหวินเตรียมตัวพาเส้เหวินจิ้ง ไปกินข้าวที่ Sofitel เสร็จแล้ว ก็จะไปเปิดห้องมีความสุขด้วยกันสักหน่อย คิดไม่ถึง ตอนอยู่ใน Sofitel จะเกิดเรื่องน่าอับอายยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เขาจะ ยังมีใจไปมีความสุขกับเส้เหวินจังที่ไหนล่ะ? ส่งเธอที่หน้าหอพัก หญิง แล้วจูจี้เหวินก็ออกไปคนเดียว

ฉินหลั่งกลับมาถึงหอพัก นอนอยู่บนเตียงคิดถึงตอนอยู่ที่ Sofitel Hotel ตอนที่เขากำลังกินข้าวกับหลู่เสี้ยอยู่ ไม่ใช่เพียง ครั้งเดียวที่เขาเห็นถึง สายตาของเส้เหวินจิ้งที่ส่งมาทางตนเอง แววตานั้นซับซ้อนมาก เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย!

มุมปากของฉินหลังมีรอยยิ้มเล็กน้อย!

นี่ก็ทำให้ฉินหลั่งตกใจเล็กน้อย เขาทำเพื่อเส้เหวินจิ้งทุกอย่าง เพื่อเส้เหวินจิ้งแล้วอะไรก็ตามเขารับมือได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ ไม่นึก ว่าเขาจะมีความสุขเล็กน้อยที่ได้เห็นเส้เหวินจิ้งอับอาย
ผู้หญิงอย่างนั้น ควรจะลืมให้หมดสิ้น ในใจของฉินหลั่งคิดเอาไว้ วันนี้เป็นเพียงแค่เริ่มต้น ต่อไปถ้าเส้เหวินจิ้งจะมายั่วโมโหเขาอีก งั้นเธอก็อย่าลังเลแล้วกัน!

เส้เหวินจึงตอนนี้กลับมาถึงหอพักแล้ว ในหัวของเธอครุ่นคิด อย่างหนัก ฉินหลั่งมีเงินจริงๆเหรอ?

เส้เหวินจิ้งจึงตัดสินใจยอมเสียหน้า ไปถามหลี่เสี้ย

เส้เหวินจึงผลักประตูหอของหลี่เสี้ยเปิดออก ในหอของหลี่เสื้ ยกําลังคุยกันอย่างกระตือรืนร้น เนื้อหาที่คุยกัน ก็ต้องเป็นเรื่องที่ หลี่เสี้ยไปกินข้าวที่ Sofitel Galaxy Hotel อยู่แล้ว สำหรับ หลี่ เสี้ยที่สามารถไปโรงแรมระดับสูงขนาดนั้นได้ ในใจของพวกเธอ ก็อิจฉาอย่างมาก!

“อ้าว เหวินจิ้ง เธอมาแล้ว ฉันเห็นแวดวงเพื่อนของเธอ วันนี้เธอก็ ไป Sofitel ใช่ไหม? เธอกับ หลี่เสี้ยเจอกันไหม?”

ผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งถามขึ้น

“เอ่อ…” ทําให้เหวินจึงพูดอย่างอึดอัด วันนี้ตนเองไป Sofitel แล้ว แล้วก็เจอกับหลี่เสี้ย แต่ไปยึดครองที่นั่งของหลี่เสี้ย สุดท้าย จึงทําได้เพียงออกมาอย่างหม่นหมอง นี่จะให้พูดยังไงล่ะ?
เส้เหวินจึงพูดเป็นนัยๆออกไป อย่างคลุมเครือ มองไปที่หลี่เสี้ย: “หลี่เสี้ย เธอออกมาหน่อย ฉันมีเรื่องจะถามเรื่องหนึ่ง!

แม้ว่าหลี่เสียจะไม่อยากสนใจเส้เหวินจัง แต่สุดท้ายก็ยังตามเธอ ออกไป

“หลี่เสี้ย วันนี้เธอกับฉินหลั่งกินข้าวที่ Sofitel ฉินหลังเป็นคน จ่ายเงินเหรอ?” ก่อนหน้านี้ เส้เหวินจึงก็พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องไป กองใหญ่ ในที่สุดจึงถามที่สิ่งที่สงสัยที่สุดในใจออกมา

“ใช่สิ ทำไมเหรอ” หลี่เสี้ยก็คิดไว้แต่แรกแล้ว เส้เหวินจึงต้อง ถามคำถามนี้แน่ๆ

เส้เหวินจึงประหลาดใจ “เขาเอาเงินมาจากไหน?

เส้เหวินจึงเข้าใจสถานการณ์ของฉินหลังเป็นอย่างดี แต่ไหนแต่ ไรเขาก็ไม่สามารถมีเงินมากมายขนาดนั้นได้อยู่แล้ว

“เธอถามเรื่องนี้ทำไม?” หลี่เสี้ยระวังตัวขึ้นมาทันที เธอรู้สึกอยู่ ตลอดว่า เส้เหวินจึงมีจุดประสงค์อื่น

“อี๊ยหยา หลี่เสี้ย เธออ่อนไหวขนาดนี้ทำไม? ฉันเป็นแฟนเก่า ของฉินหลั่ง เป็นห่วงเขานิดหน่อยไม่ได้เหรอ?” เส้เหวินจี้งยิ้มปกปิด แล้วคุยเรื่องอื่นกับหลี่เสียแทน

เส้เหวินจิ้งประจบหลี่เสียอยู่ครู่หนึ่ง รวมกับก่อนหน้านี้ตอนที่ทั้ง สองคนยังไม่แตกคอกัน ความสัมพันธ์ก็ไม่เลวเลย ตอนนี้ สําหรับ หลี่เสียแล้วเส้เหวินจิ้ง ก็ไม่น่าปฏิเสธเหมือนเมื่อครู่สักเท่าไหร่ แล้ว!

“หลี่เสี้ย เงินของฉันหลังมาจากไหนกันแน่?” เส้เหวินจึงเห็นถึง โอกาสแล้ว จึงถามขึ้นอีก

“เขาซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกรางวัล ได้มาแสนห้า” ลังเลเพียงชั่วครู่ หลี่เสียก็ยอมบอกเส้เหวินจิ้ง

“แสนห้า เส้เหวินจึงอ้าปากค้าง เธอเคยคิดที่ไหน ว่าฉันหลังจะ มีดวงดีขนาดนี้?

“เหวินจิ้ง เธอเป็นอะไร?” หลี่เลี้ยพูดอีก: “ตัวของฉินหลั่งเองจน มากทีเดียว ได้รับเงินพวกนี้ จะได้ลดความกดดันทางการเงินเขา สักหน่อย เธอคงไม่ได้สนใจเงินพวกนี้ของเขาใช่ไหม?”

“เฮ้ หลี่เสี้ย ดูเธอพูดสิ เธอวางใจได้เลย ฉันไม่สนใจเงินพวกนี้ หรอก” บนหน้าของเสเหวินจิ้งมาพร้อมกับรอยยิ้มเย็นชาเล็กน้อย ในใจกำลังพูดอย่างน่าสะพรึงกลัว “ฉันแค่จะทำให้เขาเอาเงินมา วางไว้บนมือฉันอย่างว่าง่ายเท่านั้นเอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ