บทที่ 15 น้าของสังเล่นเอ๋อ
บทที่ 15 น้าของสังเล่นเอ๋อ
เมื่อวานสังเล่นเอ๋อยอมรับอย่างแน่นอนทันทีเลยว่าจางเชื้อเป็น คนจัดการ รวมกับที่สังเล่นเอ๋อ บอกว่าประธานชื่อเป็นคนช่วย เหลือ เขาก็เลยไม่ได้สงสัยแม้แต่น้อย
จางเชื่อมองคนอื่นๆอย่างค่อนข้างขาดความมั่นใจ พวกเขาต่าง กำลังมองตนเองด้วยแววตาที่เป็นประกาย ก็รู้สึกไม่สบายใจมากๆ
“ครับ ขอบคุณพ่อมากครับ เล่นเอ๋อก็ซาบซึ้งใจพ่อเป็นพิเศษเลย นะครับ!” จู่ๆจางเชื่อก็พูดออกมาเสียงดัง พูดจบ ก็วางโทรศัพท์ ทันที
จางเชื่อหันไปมองซุนเย่ว แววตาสั่นไหวเล็กน้อย บังคับตนเอง ให้พูดอย่างสงบ: “ผมยืนยันกับพ่อแล้ว เมื่อวานก็เป็นพ่อผมที่ไป พบประธานชื่อ จัดการเรื่องนี้ให้
“น้า ดูเอาเถอะ หนูก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้ว ต้องเป็นจางเชื่อที่ ช่วยเหลือแน่ๆ น้ายังจะสงสัยเขาอีก” สายตาของสังเล่นเอ๋อ ตำหนิเล็กน้อย แล้วก็หันไปหาจางเชื้อ ยิ้มหวานแล้วพูดขึ้น: “จาง เชื่อ นายอย่าตำหนิน้าฉันเลยนะ เธอน่ะ บางทีก็ไม่ค่อยระวังตัวสัก เท่าไหร่”
“จะทำงั้นได้ไงล่ะ? เธอวางใจได้” จางเชื้อพูดยิ้มๆ
แม้ว่าในใจของซุนเย่วจะยังลังเลอยู่บ้าง แต่ยังไงก็โทรไปถาม เพื่อยืนยันแล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจจางเชื่อแล้ว
“ยัยเด็กแสบ รีบร้อนจะมาหาเธอเนี่ย แม้กระทั่งข้าวกลางวันน้า ยังไม่ได้กินเลย ตอนนี้หิวจะตายแล้ว” ซุนเย่วลูบๆท้องแล้วพูดขึ้น
“น้า ขอโทษได้ไหมล่ะคะ อ้อ เพื่อนๆหนูก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย ไม่งั้นหนูสั่งอาหารจากโรงแรมให้พวกน้าก็แล้วกัน พอดีเลยหนู จะได้กินด้วยนิดหน่อย พวกเธออยากกินอะไรกัน ฉันจะสั่งให้” สัง เล่นเอ๋อมองเพื่อนๆที่มาอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งช่วงเช้า แล้วพูดกับ ซุนเย่ว
“ก็ดี”
“สั่งเอาก็ได้ ตอนนี้หิวมากแล้ว!”
คนอื่นๆทยอยๆกันตอบรับ
“เอ๊ะ นี่อะไรน่ะ?” ซุนเย่วบังเอิญเห็นกล่องอาหารที่วางอยู่บนพื้น
จึงเดินเข้าไป
“น้า อย่าไปจับของพวกนั้น ข้างในเป็นแค่พวกข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ผัดที่ราคา 7-8 หยวน อีกสักพักหนูจะเตรียมให้แม่บ้านเอาไปให้ หมากิน!” สังเล่นเอ๋อขมวดคิ้ว
“เล่นเอ๋อ ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ จะทิ้งสะเปะสะปะได้ยังไง? น้าหิว ไม่ไหวแล้วจริงๆ บอกินแก้หิวก่อนแล้วกันนะ” พูดๆอยู่ ซนเยวกั เปิดกล่องอาหาร
ในทันที กลิ่นอาหารที่หอมเย้ายวนใจก็แพร่ออกมาจากในกล่อง อาหาร!
“หอมจัง!”
“ทําไมหอมขนาดนี้?”
“ด้านในใส่อะไรไว้กันแน่?
คนที่อยู่ในห้องคนไข้ต่างก็ส่งเสียงชมเชยออกมา แล้วก็เข้ามา ล้อมรอบกล่องอาหารไว้ ซุนเย่ว หยิบอาหารแต่ละกล่องออกมา วางเอาไว้ วางอยู่บนหลังตู้ที่อยู่ข้างเตียงคนไข้
“นี่มันหลุยส์ที่ 13 ของปี 1980…” ซุนเย่วหยิบขวดไวน์ทรงกลม แบนๆขวดหนึ่งออกมาจากกล่องอาหารด้วยใบหน้าประหลาดใจ ด้านในบรรจุไวน์แดงใสๆแวววาวเอาไว้
“นี่ก็คือหลุยส์ที่ 13 ที่ขวดละสี่หมื่นกว่าหยวน!?” คนอื่นๆก็เบิก ตาโพลงกันหมด จ้องไวน์ขวดนั้นที่อยู่ในมือของซุนเว
“น้า น้าไม่ได้พูดผิดใช่ไหม?” สังเล่นเอ๋อก๋าลังมอง เยวอย่าง ไม่กล้าจะเชื่อ ยังไงเธอก็หมดหนทางที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างฉินหลังกับหลุยส์ที่ 13 ที่ขวดละสี่หมื่นกว่าหยวนเข้าด้วย กันได้
นเย่วเปิดฝาขวดแล้วคนๆดู มองสังเล่นเอ๋อด้วยท่าทางที่เบิก มาน: “จริงๆน่ะสิ ก็ตอนที่น้าไปทำงานที่ฝรั่งเศส เคยดื่มไวน์นี่ครั้ง หนิง กลิ่นแบบนี้เลย!
ซุนเย่ววางขวดไวน์ลง คนอื่นๆก็เปิดกล่องอาหารแต่ละกล่อง กลิ่นหอมๆตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องคนไข้
“นี่เป็นกุ้งล็อบสเตอร์สีฟ้าของบริททานี่ย์!” ซุนเยวกำลังมองกุ้ง ล็อบสเตอร์สีฟ้าตัวหนึ่งที่วางอยู่ในกล่องอาหาร แล้วพูดขึ้นอย่าง เบิกบานใจอีกครั้ง
“อะไรนะ? กุ้งล็อบสเตอร์สีฟ้าบริททานี่ คืออะไร?” คนอื่นๆ น หน้ามาสบตากัน ไม่รู้ว่าคืออะไร
“กุ้งล็อบสเตอร์สีฟ้าบริททานี่ย์เป็นวัตถุดิบอาหารทะเลที่ถูกร้าน อาหารมิชลินทั่วโลกเลือกเป็นอันดับแรก มันเป็นสายพันธุ์กุ้ง ล็อบสเตอร์ที่หายากมากๆ มีจำนวนน้อยมากถึงมากที่สุด ในทุกๆสองล้านตัวจะปรากฏล็อบสเตอร์สีฟ้าออกมาเพียง ตัวเดียว โอกาสที่จะจับได้มีเพียงแค่ 0.0001% เท่านั้น และใน ประเทศก็มีน้อยมาก
ซุนเย่วพูดต่อ: “งานของน้าต้องไปกินข้าวเป็นเพื่อนลูกค้าอยู่ บ่อยๆ สําหรับอาหารที่มีชื่อเสียงก็ค่อนข้างรู้จักพอประมาณ
“นี่เป็นสเต็กเนื้อโกเบ!” ซุนเย่วมองไปที่กล่องอาหารอีก ชมเปาะ ด้วยความตื่นตะลึง: “พวกเธอดูสิ ด้านนอกของสเต็กนี้ชั้นไขมัน กับเนื้อสลับชั้นกันราวกับเป็นเกล็ดหิมะ ลายเส้นราวกับลายหิน อ่อน นี่เป็นลักษณะพิเศษที่โดดเด่นที่สุดของสเต็กเนื้อโกเบเลย ล่ะ!”
“นี่คือคาเวียร์ของแม่น้ำเนวาประเทศรัสเซีย……
“ส่วนนี่เป็นปลาปักเป้าเนื้อขาวของญี่ปุ่น….……..
“และนี่เนื้อหมูมังกาลิก้าของฮังการี……
“พระเจ้า อาหารพวกนี้ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศทำทั้งหมด รสชาติและ ราคาของอาหารห่างไกลจากร้านอาหารทั่วไปมาก เพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้วัตถุดิบที่ล้ำค่าที่สุดในโลกมากมายขนาดนี้ น้ายังไม่เคยเห็นที่โรงแรมแห่งไหนมาก่อนเลยจริงๆ” ในสายตา ของซุนเย่วเปล่งประกายระยิบระยับ
“น้า พวกเราก็ไม่เคยกินมาก่อนเลย น้าไม่ได้แกล้งพวกเราเล่น ใช่ไหม?” สังเล่นเอ๋อก็รู้ว่าซุนเย่วมีความรู้กว้างขวาง แต่เธอก็ไม่ เชื่อว่า ฉินหลังจะสามารถนำของกินที่แพงขนาดนี้มาให้ตนเอง ได้!
ทำไม น้าดูเหมือนกำลังล้อเธอเล่นเหรอ?” ซุนเย่วชำเลืองมอง สังเล่นเอ๋ออย่างหมดคำพูด: “ตอนนี้อาหารพวกนี้ยังร้อนๆอยู่ พวกเราทุกคนรีบกินกันเถอะ ถ้ารอจนเย็นรสชาติก็คงไม่อร่อยเท่า เดิมแล้ว” ซุนเย่วพลางดึงตะเกียบออกจากกัน พลางเรียกคนอื่นๆ ไปด้วย
“อ่ำ อร่อยจริงๆ!”
“หอมมากเลย! ฉันไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย!” คนอื่นๆที่กินอาหารแล้ว ก็พากันชมเปาะออกมากันทั้งนั้น
“เล่นเอ๋อ เธอก็มาชิมดูสิ!
โจวซินส่งตะเกียบคู่หนึ่งไปให้สังเล่นเอ๋อ
สังเล่นเอ๋อคีบสเต็กโกเบชิ้นหนึ่งเข้าปากอย่างลังเล ในทันที ความอร่อยที่อธิบายไม่ถูกก็แพร่อยู่ในปากของเธอ มันอร่อยกว่า สเต็กทั้งหมดที่เธอเคยกินมาก่อนจริงๆ
อาหารเหล่านี้อร่อยเกินไปแล้ว บวกกับที่ทุกคนยังไม่ได้กินข้าว เที่ยง เพียงครู่เดียว ก็กินอาหารที่สิบกล่องนี้จนหมดเกลี้ยง
“ครั้งนี้มาเยี่ยมเธอก็ไม่ถือว่าเสียเปล่าแล้ว คิดไม่ถึงไม่นึกว่าจะ มีคนส่งอาหารที่ล้ำค่าขนาดนี้มาให้เธอนะ!” ซุนเย่วยิ้มพอใจ ดูๆ นาฬิกา: “เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้แล้ว น้าคงต้องกลับแล้วล่ะ!
พูดๆอยู่ ซุนเย่วก็เดินไปถึงประตูห้องคนไข้แล้ว เธอหันกลับมา มองสังเล่นเอ๋อพูดขึ้น: “เล่นเอ๋อ ลูกคนรวยคนนั้นที่ส่งของขวัญ ล้ำค่าขนาดนี้มาให้เธอ ของพวกนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินก็จะได้กินนะ เธอ ต้องขอบคุณเขาเป็นอย่างดี ฉวยโอกาสดีๆเอาไว้ล่ะ”
ลูกคนรวย ฉินหลั่งถือเป็นลูกคนรวยตระกูลไหนล่ะ?
ซุนเย่วกลับไปแล้ว โจวซินเดินมาข้างกายสังเล่นเอ๋อแล้วพูดขึ้น “เล่นเอ๋อ เธอคงจะเข้าใจฉินหลงผิดแล้วนะ ฉันว่าเธอน่าจะหาเวลาไปขอโทษเขาสักหน่อย?”
“ขอโทษ…
สังเล่นเอ๋อพูดไม่ออก แต่เธอยังคงไม่ชอบฉินหลั่งเอามากๆ “ทำไมฉันต้องขอโทษเขา? เขาก็เป็นแค่ผู้ชายจนๆ เป็นไปได้ ยังไงที่จะซื้ออาหารที่แพงขนาดนี้? ฉันว่าเขาต้องทำงานอยู่ที่ โรงแรมไหนสักแห่งแน่ๆ แล้วเก็บอาหารที่คนอื่นกินเหลือกลับ มา!”
“เอ่อ…”
โจวซินคิดไม่ถึงว่าสังเล่นเอ๋อจะพูดอย่างนี้ อาหารพวกนั้นไม่ พร่องเลยสักนิดอยู่ชัดๆ จะเป็นไปได้ยังไง จะห่อกลับมา? อีก อย่าง เป็นไปได้เหรอที่โรงแรมจะให้พนักงานเอาหลยส์ที่ 13 ที่ ขวดละสี่หมื่นกว่ากลับมาด้วย?
หลังจากกินข้าวที่โรงพยาบาลกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันไป
พวกหวงเกอแค่ออกมาก็อดทนรอไม่ไหวที่จะโทรหาฉินหลั่ง ถามเรื่องอาหารพวกนั้นสรุปว่ายังไงกันแน่ คำตอบนี้ ฉินหลังจึง โกหกไปเล็กน้อย บอกว่าเขาทำงานที่โรงแรมระดับสูงในเมือง แลัวบอสเห็นว่าเขาน่าสงสารจึงให้เขามา พวกหวงเกองซักใช้ ต่ออีก ฉินหลังก็เลยไม่ยอมพูดแล้ว พวกเขาจึงทําได้เพียงยอมแพ้
เลิกเรียนช่วงบ่ายแล้ว ฉันหลังก็เดินออกจากอาคารเรียนตามฝูง ชน
“ฉินหลั่ง” ด้านหลังของฉันหลังมีเสียงของผู้หญิงดังขึ้น: นาย ยังไม่เคยดูไลฟ์สดของฉันเลยสินะ?”
ฉินหลั่งแค่หันไป ก็เป็นจางเจียซินที่กำลังไลฟ์สดอยู่
“ฉันไลฟ์สดไปสองครั้งแล้ว ในระหว่างทีไลฟ์ไม่เห็นนายเลย นายรีบไปลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้ ติดตามฉันเพิ่มความนิยมให้ฉัน หน่อย” จางเจียซินเบะปากเล็กๆ กำลังมองฉันหลังอย่างไม่พอใจ อยู่บ้างพูดขึ้น
“เจียซิน ให้เขาติดตามจะมีประโยชน์อะไร เธอคงไม่ได้คิดอะไร กับเขาใช่ไหมเนี่ย?” ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆจางเจียซินพูด หยอกล้อ
“มีที่ไหนล่ะ? ฉันก็แค่อยากให้เขาเพิ่มความนิยมให้ฉันเท่านั้น เอง” จางเจียซินก้มหน้าเล็กน้อย พูดเบาๆ “ฉันจะชอบเขาได้ยัง ไง? เธออย่ามาล้อฉันเล่นนะ
“จริงๆจะมีหรือไม่มีเขาก็เหมือนกัน ด้วยความที่ฉันรู้จักเขาอย่างแจ่มแจ้งน่ะนะ เขาคงไม่ให้รางวัลเธอแน่ๆ เขาขี้งกมาก!” เส้ เหวินจึงเดินออกมาจากด้านหลัง แล้วก็พูดโพล่งออกมา
“เหวินจึงพูดไม่ผิดเลย แฟนคลับที่ไม่ให้รางวัลอย่างนี้ ต้องการ แล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายจางเจียซิ นก็ชำเลืองมองฉันหลังแล้วพูดขึ้น
“ครั้งที่แล้วในระหว่างที่เธอไลฟ์สดอยู่ ‘ซิงเฉิน’ คนนั้นเจ๋งสุดๆ ไปเลย แค่คนเดียวก็ให้รางวัลมาตั้งห้าหมื่นกว่าหยวนแล้ว คนๆนี้ คงไม่ใช่คนรวยทั่วๆไปแน่เลย!”
“ไม่ผิดแน่ ฉันก็เห็นแล้ว เมื่อวานซืน ระหว่างไลฟ์ของเจียซินก็ เข้ามาก่อนสามร้อยคนอย่างรวดเร็ว ผู้ประกาศข่าวคนหนึ่งที่เพิ่ง จะถ่ายทอดสดเพียงสองครั้ง ก็สามารถเข้ามาก่อนสามร้อยได้ เจียซินอนาคตไกลแล้ว!”
“เจียซิน ต่อไปได้เป็นผู้ประกาศข่าวใหญ่แล้ว ก็อย่าลืมพวกเรา นะ”
พวกผู้หญิงที่อยู่ข้างๆจางเจียซินกำลังพูดจาเอาอกเอาใจ
ในทันทีจางเจียซินก็กลายเป็นเป้าหมายที่น่ายกย่องของผู้หญิง ทั้งหมด ราวกับกลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางหมู่หญิงสาว
เส้เหวินจั๋งที่อยู่ข้างๆค่อนข้างไม่สบายใจแล้ว เมื่อก่อน ท่ามกลางผู้หญิงคนอื่นๆ ระดับความเป็นที่ชื่นชอบของเรื่องรา เจียซินก็พอๆกัน แต่ตอนนี้ เธอโดนเป็นอย่างชัดเจนแล้ว
ในใจของเส้เหวินจึงกำลังบ่นๆอยู่ มีอะไรยอดเยี่ยและก็แค่ตอน ที่ไลฟ์อยู่เจตนาก่อความวุ่นวาย เพื่อดึงดูดเงินที่เป็นรางวัลจาก คนรวยงั้นเหรอ? ถ้าจับไลฟ์สดบ้าง ซึ่งเจ็บ จะยังให้รางวัลเธอ ไหม?
และตอนนี้ รถพาสสาทสีดำคันหนึ่งคอย กับมาถึงหน้าอาคาร เรียน หน้าต่างรถเปิดออก เห็นถึงชายหนุ่มนักศึกษาที่กำลังขับ รถมา นักศึกษาที่ผ่านไปผ่านมามากมายก็ส่งสายตาจะไปทาง เขากันทั้งนั้น
รถหยุดลงแล้ว ผู้ชายที่สวมชุดชุดลำลองรางหนึ่งเดินลงมาจาก
50
“จี้เหวิน!” เห็นชายหนุ่ม เส้เหวินจังก็พูดเบาๆอย่างประหลาดใจ แล้วก็ตะโกนออกมา: “จี้เหวิน ฉันอยู่นี่
พูดๆอยู่ เส้เหวินจิ้งก็โบกมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยสั้นวิ่งเข้าไป หาจูจี้เหวิน
จูจี้เหวินจับมือของเส้เหวินจึงอย่างเป็นธรรมชาติ เส้เหวินจิ้งจึง เป็นฝ่ายจูบไปที่ริมฝีปากของจู เหวินเบาๆ ผู้คนรอบๆด้านต่างก็กำลังมองพวกเขาอยู่
จูจี้เหวินเปิดประตูรถ ให้เส้เหวินจึงเข้าไปนั่ง แล้วเขาก็กลับ เข้าไปในที่นั่งคนขับ ค่อยๆขับรถออกไปด้านนอก
เส้เหวินจั๋งกำลังมองนอกหน้าต่างรถ นักศึกษาคนอื่นส่งสายตา ที่อิจฉามา ความไม่พอใจเมื่อกี้เพียงแค่กวาดสายตามองไป ในใจ ตอนนี้ก็พึงพอใจอย่างถึงที่สุด
คนที่ขับรถในมหาวิทยาลัยอันที่จริงก็มีน้อยมาก เส้เหวินจิ้งจึง รู้สึกมีหน้ามีตาทีเดียว!
คงเป็นแฟนของฉันที่มีฝีมือสินะ ฉันยอมแพ้กับคนจนอย่างฉัน หลังก็ฉลาดเฉียบแหลมเกินไปจริงๆ! อยากจะให้ฉินหลั่งขับรถมา รับฉัน ชีวิตนี้คงเป็นไปไม่ได้หรอก!
และวันนี้ทั้งสองคนยังจูบกัน ต่อหน้าของฉินหลั่งอีก! เส้เหวินจิ้ง จึงรู้สึกสบายใจเป็นพิเศษ!
ฉินหลง แหกตาต่าๆของนายดูไว้นะ หลังจากที่เลิกกับนาย ฉัน เส่เหวินจึงมีชีวิตยังไง! ดีกว่าแต่ก่อนตอนที่อยู่กับนายร้อยเท่า
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ