บทที่ 3 มาขายปลาอะไรกัน
หลังจากผ่านช่วงเวลาอันวุ่นวายอย่างเรียบง่าย แถวอันแสนยาว ราวกับลำตัวมังกรที่อยู่เบื้องหน้าก็หายไปในที่สุด โล่ยิ่งสวยจึง หายใจออกอย่างแผ่วเบา เมื่อใกล้ถึงช่วงเที่ยง ตั้งแต่ตีสี่ในตอน เช้าจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้นมาเสียแล้ว
“พี่เขาหย่วน” เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาหย่วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และกำลังตั้งใจชื่นชมในตัวเธออยู่ ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาอีก ครั้ง และเรียกเขาให้ตื่นขึ้นอย่างเขินอาย “ต่อไปไม่ต้องทำ แบบนี้แล้วนะ แบบนี้ไม่ดีเลยค่ะ” ถึงแม้ว่าจะเป็นการตำหนิ แต่ เมื่อมันถูกเปล่งออกมาจากปากของเธอ ล้วนแต่ให้ความรู้สึกที่ แสนนุ่มนวล ทำให้ผู้คนใจไม่แข็งพอที่จะต่อต้านได้เลย
เขาหย่วนเกาศีรษะของเขา และรู้สึกอับอายที่ตัวเองทำตัวไร้ มารยาทไปเมื่อสักครู่นี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองใบหน้าอัน งดงามไม่เหมือนใครและสดใสน่าดึงดูดของเธออีกสักครั้งหนึ่ง
เขาสายศีรษะด้วยความไม่พอใจ และเอ่ยถึงเรื่องในอดีตขึ้น มาอีกครั้ง “ส่วยเอ๋อ พี่บอกเธอแล้วไง ว่าเธอไม่จําเป็นต้อง ทำงานอย่างหนักมากถึงขนาดนี้ พี่สามารถเลี้ยงดูเธอได้ รวมถึง น้องสาวของเธอ แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่เคยฟังพี่เลย มาขายปลา อะไรแบบนี้อยู่กัน มัวแต่ทำงานหนักแบบนี้อยู่ได้
โล่ยิ่งสวยนวดขมับของตัวเองที่ปรากฏอาการปวดศีรษะสำหรับเรื่องนี้นั้น เขาพูดให้เธอฟังไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
“พี่เชาหย่วน ฉันสามารถเลี้ยงดูตัวเองกับน้องสาวได้ พี่ฟังนะ ตอนนี้ทุกอย่างล้วนแต่ไปได้สวยไม่ใช่เหรอ น้องสาวของฉันจบ การศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายแล้ว รอเพียงแต่จดหมายตอบรับ จากมหาวิทยาลัยเท่านั้น ธุรกิจแผงร้านค้าเองก็ดีวันดีคืน ไม่เห็น ยากลำบากอะไรตรงไหนเลย แต่ตัวพี่นี่สิ ไม่สามารถคอยเก็บค่า คุ้มครองร้านค้าไปตลอดชีวิตนะคะ”
เขาหย่วนยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน พ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าของ ตลาดรวมแห่งนี้ ก่อนหน้านี้ เขาชื่นชอบที่จะพึ่งพาตัวตนของพ่อ เขาเสมอ และคอยเก็บค่าคุ้มครองร้านค้าจากพ่อค้าแม่ขายเหล่า นั้น
เขารีบหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ของ เขาอย่างรวดเร็ว และนำมาเปิดเผยต่อหน้าโล่ยิ่งสวย “ส่วยเอ๋อ นั่นมันเป็นเรื่องในอดีต พี่ในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอดูสิ นี่คือ จดหมายตอบรับเข้าศึกษาของมหาวิทยาลัยเยต้า พี่รู้ว่าเธอไป สมัครเรียนต่อที่คณะการออกแบบของมหาวิทยาลัยเยต้าพี่ก็เลย ไปสมัครด้วย”
ใบหน้าเรียวเล็กของโล่ยิ่งส่วยดูเบิกบานเล็กน้อย มองดู จดหมายตอบรับเข้าศึกษาของเขาแผ่นนั้นด้วยความพึงพอใจ พยักหน้า และจากนั้นก็เริ่มสายศีรษะ “พี่เขาหย่วนทุกคนล้วนแต่ มีจุดแข็งและงานอดิเรกของตัวเอง ทำไมถึงได้สมัครเข้าคณะ ออกแบบตามฉันอย่างนี้ล่ะคะ”
เขาหย่วนเกาศรษะของตัวเองอีกครั้ง เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกวางตัว ไม่ถูก เขาจะชอบเป็นแบบนี้เสมอ ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็รีบส่าย ศีรษะอีกครั้ง และจัดแต่งทรงผมที่ดูยุ่งเหยิงให้สูงขึ้น เมื่อเส้นผม กลับมาปกปิดยอดศีรษะอย่างไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไหร่อีกครั้ง เขา จึงเอ่ยปากพูดออกมา
“ส่วยเอ๋อ เธอสมัครเรียนภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ ส่วน ฉันสมัครเรียนภาควิชาสถาปัตยกรรม ไม่เหมือนกันสักหน่อย
เมื่อได้เห็นโลยิ่งสวยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาถึงจะ รู้สึกผ่อนคลายลง และนำจดหมายตอบรับเข้าศึกษาเก็บกลับ เข้าไปภายในกระเป๋ากางเกง
“ฉันรู้สึกมีความสุขมากเลยที่ได้เห็นพี่ก้าวหน้า” โล่ยิ่งสวย กล่าวอย่างจริงใจ
“แหม ยิ่งสวย อันนี้ซื้อมาจากที่ไหนเหรอ สวยงามจริง ๆ เลย แพงหรือเปล่าจ๊ะ” เถ้าแก่หญิงของร้านขายอาหารทะเลข้าง ๆ เดินมาหาเธอ ด้วยท่าทางที่ดูร่ำรวย ราวกับประดับประดาไป ด้วยทองคำและเงิน ร่างกายของเธออ้วนท้วนสมบูรณ์ จึงทำให้ดู ตุ้ยนุ้ยบวมเป่ง
ยิ่งช่วยพยักหน้าให้อย่างสุภาพ ถึงจะกล่าวออกไปว่า “ไม่แพง เลยค่ะ อันนี้…หนูเป็นคนออกแบบเอง หนูเป็นคนทำเองด้วยค่ะ”
“แหม มันสวยมากจริง ๆ นะ” เถ้าแก่หญิงกล่าวชื่นชมเธอ และ จับจ้องไปที่คอของเธอด้วยความตะลึงงัน
“ถ้าเกิดว่าคุณป้าชอบ หนูทำให้คุณป้าเส้นหนึ่งได้ค่ะ” เธ เธอกล่าวอย่างกระตือรือร้น และรู้สึกชนะโดยที่ทำให้เถ้าแก่หญิงคน นั้นปลื้มปิติได้ “ยิ่งส่วย หนูช่างเป็นคนที่ฉลาดมากเหลือเกิน คราวก่อนที่หนูส่งของชิ้นนั้นให้ป้า ยายพวกนั้นล้วนแต่ถามว่าไป ซื้อมาจากตลาดระดับไฮเอนด์ที่ไหนกันทั้งนั้น แถมยังถามอีกว่า ป้าต้องจ่ายเงินหลายพันหยวนเลยใช่ไหม ป้าเลยบอกไปว่าหนู เป็นคนออกแบบให้ยายพวกนั้นต่างอยากได้กันคนละเส้นเลยล่ะ เพียงแต่ว่าหนูละยุ่งเหลือเกิน ป้าละเกรงใจหนูจัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ยิ่งช่วยพูดอย่างอ่อนโยน และรู้สึกมีความสุขที่ สิ่งของฝีมือเธอสามารถทำให้ทุกคนชื่นชอบได้ “ถ้าเกิดพวกเขา อยากได้ละก็ หนูสามารถวัดตัวและออกแบบให้เข้ากับพวกเขา ได้ค่ะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ