บทที่6 ความใจดีโดนหมากินไปแล้ว
“ลูกสาว…….ของฉัน
“ฉันมี.. ..ลูกสาวแล้วหรอ”
อารมณ์ของถังเฉากลายเป็นตื่นเต้นสุดๆทันที เม้มปากไปสักพัก ถึงจะพ่นพึมพำออกมาสองคำ
ดวงตาของเขาซาบซึ้ง มีความสุข รอคอย แล้วก็สับสน
ไม่นาน อารมณ์เหล่านี้ก็กลายเป็นความรู้สึกผิดที่แน่นหนา
ห้าปีที่ผ่านมา เขายอมตายเพื่อประเทศชาติเพื่อทุกคน
ขอโทษหลินชิงเสว่คนเดียว
คนสองคนที่ไม่ควรมีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งแต่แรก ถูกผูกมัดกัน เพราะโชคชะตา
คืนนั้น ถังเฉาเริ่มไม่มีสติแล้ว หลินชิงเสว่กลายเป็นฟางเส้น สุดท้ายที่ช่วยชีวิตเขา
คืนนั้นฟ้าร้องฟ้าสะเทือนพื้นดินและไฟก็กระทบพื้นโลก
สำหรับทั้งสองคนแล้ว เป็นครั้งแรกที่เจ็บ และมีความสุข
ห้าปีต่อมา ถังเฉาเพิ่งจะรู้ว่า เป็นเพราะการกระทำของตัวเองใน คืนนั้น หลินชิงเสว่เลยได้ตั้งท้องเลือกเนื้อของเขา
นึกถึงตอนนี้ แววตาของถังเฉาก็แน่วแน่ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่โกรธ
ไม่คิดอะไร
ในเมื่อไม่สามารถใช้หนี้บุญคุณในชีวิตนี้ให้คุณได้แล้ว ถ้างั้น…….
ก็ขอให้คุณมีความสุขปลอดภัย สงบสุขไร้กังวล
ถังเฉาค่อยๆยิ้มขึ้น ถามว่า “เธอทำงานอยู่ที่อาคารระหว่าง ประเทศใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ หัวหน้า”
เพิ่งหวงมองถังเฉาผ่านกระจกมองหลัง มองเห็นหัวหน้าไม่ เหมือนเดิมจากเมื่อก่อน
“ซื้ออาคารระหว่างประเทศไว้ให้หมด
“ค่ะ”
พูดจบ เพิ่งหวงก็หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปเบอร์หนึ่ง บอกคำ สั่ง และบอกความต้องการของหัวหน้า
ตอนนั้น ถ้ามีคนได้ยินคำพูดของเพิ่งหวงกับถังเฉา คงจะตกใจ จนลูกตาหลุดออกมาแน่นอน
อาคาร วจี้เรียกอีกอย่างว่าหมิงจูอาคาร สูงถึงหนึ่งร้อยชั้น เรียก ได้ว่าเป็นศูนย์รวมชั้นสูงที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหมิงจู
ทุกคนความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานในอาคารกั่ว ไม่ใช่แค่เพราะ สวัสดิการที่นี่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รวมของชนชั้นสูงระดับสูงอีก ด้วย
ขอแค่ได้เข้าไปคลุกคลีในวงการนี้ ก็เท่ากับว่าได้ก้าวเท้าเข้า มาในวงการสิทธิการค้าขายของหมิงจูแล้ว มีมูลค่าทางการค้าที่ มากมายมหาศาล และในบทสนทนาที่เสียงเบาของทั้งสองคน ก็ พูดว่าจะซื้ออาคาร วจี้ทั้งตึก จะเป็นไปได้ยังไงกัน
แต่คนที่สนิทกับหัวหน้า จะรู้ว่า หัวหน้านั้นไม่มีปัญหาเรื่องเงิน
แต่กลับกัน เงินทุนไหลเวียนของหัวหน้านั้น ได้อยู่ในจุดที่น่ากลัวแล้ว
เงิน สําหรับหัวหน้าแล้ว ก็เป็นแค่ตัวเลขค่านึง
ไม่ถึงครึ่งนาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เพิ่งหวงตอบรับเสียงเบา แล้วก็วางไป หันหน้ามา แล้วพูดด้วย ความเคารพว่า “หัวหน้าคะ ซื้อเรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้ชื่ออาคารกั วจี้อยู่ภายใต้ชื่อของท่านแล้ว
“นอกจากนี้ เจ้าของคนเก่ายังถามด้วยว่าท่านพอจะมีเวลาว่าง เปล่า อยากจะจัดพิธีส่งมอบให้ท่าน
“ไม่ว่าง”
เพิ่งหวงยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนถังเฉาพูดขัดก่อนแล้ว “ให้เขา ดูแลต่ออีกนึ่งเดือน หลังจากหนึ่งเดือนค่อยว่ากัน
“ค่ะ”
เพิ่งหวงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่ส่งถังเฉาเสร็จ หลินจ่ายเวยก็กลับมาที่ห้อง แล้วนั่ง เหม่ออยู่ที่โซฟาคนเดียว
โจวเหม่ยหยูน, โจวเหม่ยหลัง, หลินจ้องต่างพากันล้อมอยู่ ข้างหลินเจิ้นสูงที่ยังหมดสติอยู่ หน้าตาเคร่งเครียด
การ ตระกูลหลินสูญเสียเสาหลักแบบนี้ เหมือนกับว่าได้พบกับ ความพินาศ
“เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดต่อไปดีกว่า”
หลินจ้องยืนขึ้น พูดด้วยความโศกเศร้า
พอทุกคนได้ยินแล้ว ก็รู้สึกสะท้าน แต่มองไปที่ใบหน้าที่เงียบ สงบของหลินเจิ้นสงแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไร
“อะแฮ่ม——”
จู่ๆ หลินเจิ้นสูงที่หมดสติอยู่ก็ส่งเสียไอ แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น
ในตอนนี้ทุกคนในบ้านหลินต่างอึ้งและงงเป็นไก่ตาแตกกัน อึ้ง ไปสามวิ งงจนลุกขึ้นยืน แล้วก็ล้อมหลินเจิ้นสูงไว้
“พี่ใหญ่ พี่ฟื้นแล้ว”
“ฉันกังวลแทบแย่ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม
“พ่อ!”
ทุกคนในบ้านหลินรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก โล่งใจไม่
น้อย
หลินจ่ายเวยยิ่งกอดหลินเจิ้นสงแน่นเข้าไปใหญ่
ท่าทางดีใจของทุกคน ทำให้หลินเจิ้นสงรู้สึกงงแล้วงงอีก
จากนั้น เขานึกถึงเรื่องราวก่อนที่เขาจะสลบไป กำลังเตรียม ข้อมูลการประมูลในห้องหนังสือคนเดียว คอแห้งเลยดื่มชาไป พอดีมได้ไม่ทันไร โรคหัวใจก็กำเริบขึ้น
ไม่รู้ว่ายาที่ใช้รักษาโรคหัวใจหายไปไหน เขาทนไม่ไหว เลย สลบไป จนถึงตอนนี้ถึงจะฟื้นขึ้นมา
ตอนที่ตัวเองหมดสตินั้น มีครอบครัวที่ทุ่มเททุ่มใจอยู่ข้างๆ หลินเจิ้นสงก็ยิ้ม แล้วพูดว่า “ฉันยังไม่ได้ตายสักหน่อย แต่ละคน ร้องไห้อะไรกัน”
พูดถึงตอนนี้ หลินเจิ้นสงก็อึ้งไปสักพัก รับรู้ถึงสภาพร่างกาย ของตัวเองแล้วพูดว่า “ ตอนนี้ฉันรู้สึกดีมาก ไม่ปวดเลยสักนิดเป็นเพราะพวกเธอเชิญแพทย์แผนจีนมาหรือเปล่า”
“คือ……
คำนี้ไม่พูดดีกว่าถ้าพูดไป คนทั้งหมดที่มีคงจะตกใจ
ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นถังเฉาที่เป็นคนดูแลรักษาฝังเข็มให้หลินเจิ้น สงทั้งหมด
หรือว่าเป็นถังเฉา
ด้วยความคิดนี้ โจวเหม่ยหยูน โจวเหม่ยหลิงแล้วก็หลินฉ่ายเวย นั้นเหมือนกินแมลงวันเข้าไปมากกว่า สติเฉื่อยชา
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้……….
“ต้องเป็นเพราะ แมวตาบอกเจอหนูตายแน่ๆ ใช่ เป็นแค่เรื่อง บังเอิญแน่นอน”
“เกิดอะไรขึ้นหรอ”
เห็นคนส่วนใหญ่พากันมองหน้ากัน สีหน้าของหลินเจิ้นสงก็ เคร่งขรึมขึ้น
อาการป่วยของเขาดีแล้ว บวกกับการที่เขาเป็นหัวหน้าครอบครัว ด้วย เพราะฉะนั้นดูแล้วก็จะมีความรู้สึกเกรงกลัว
โจวเหม่ยหยูนและหลินฉ่ายเวยตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าพูด
“จะพูดไหม ไม่ฟังแม้แต่คำพูดของฉันแล้วใช่ไหม”
เห็นเมียและลูกของตัวเองปิดบังตัวเองแล้ว น้ำเสียงของหลิน เจิ้นสงก็หนักขึ้นไปอีกหลายเท่า
โจวเหม่ยหยูนตกใจไปที ทำได้แค่หัวแข็งแล้วเล่าเรื่องที่ถังเฉา กลับมาให้ฟังรอบนึง
ถึงแม้เธอจะพูดจากแมวตาบอดที่เจอหนูตายนั้น นั่นก็เป็นถังเฉา ที่รักษาหลินเจิ้นสงให้หาย ผลจะไม่เปลี่ยนแปลง
“อะไรนะ เสี่ยวเฉามาหรอ”
“รักษาฉันด้วยหรือ
มองเห็นกับตา ตัวของหลินเจิ้นสงสั่นไปสักพัก หยิกตัวเองแรงๆ หนึ่งที
เจ็บมาก
ไม่ได้ฝันไปด้วย
จากนั้นหลินเจิ้นสงจึงได้รีบถามต่อว่า “แล้วเขาอยู่ที่ไหน
พอได้ยินคำนั้นแล้ว สีหน้าของหลินจ่ายเวยก็เงื่อนไป พูดด้วย ใบหน้าที่ประหม่าว่า “โดนหนูไล่ไปแล้วค่ะ……
“อะไรนะ”
พอได้ยินแล้ว หลินเจิ้นสงก็โมโหทันที ชี้หลินฉ่ายเวยแล้วด่าว่า “พวกแกโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ความมีเมตตามันโดนหมากินไป แล้วรึไง อีกอย่างเสี่ยวเฉาก็เป็นคนรักษาฉันด้วย พวกแกมีสิทธิ์ อะไรมาไล่เขาไป
“ดูสิว่าพวกแกทำอะไรลงไป คิดแต่แก้แค้น เนรคุณ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ คนบ้านหลินของฉันควรทำ”
“อะแฮ่ม——”
หลินเจิ้นสงเต็มเปี่ยมไปด้วยความโมโห โมโหจนไอไม่หยุด
โจวเหม่ยหยูนรีบไปตบที่หลังให้หลินเจิ้นสูง “คุณระวังหน่อย เพิ่งจะหายดี ยังกระทบเยอะไม่ได้”
โจวเหม่ยหยูนรู้นิสัยของหลินเจิ้นสูง เรื่องความถูกต้องนั้น วัว เก้าตัวยังลากกลับมาไม่ได้ ต้องใช้แผนยืดเยื้อไปก่อน
“เจิ้นสง เสี่ยวเฉา ต้องกลับมาแน่นอนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เป็น เพราะหน้าที่สำคัญคือการประมูลในตอนเย็น คุณคิดรึยังว่าจะทำ ยังไง”
คำนี้พูดถึงประเด็นแล้ว ทันใดนั้น คนบ้านหลินคนอื่นๆก็มองมาที่ หลินเจิ้นสง
ทั้งๆที่รู้ว่านี่คือการที่ถ้าเลี่ยงหนักก็จะเบา แต่การประมูลนั้นเป็น สิ่งที่สำคัญสำหรับบ้านหลินในตอนนี้
จากนั้น หลินเจิ้นสูงทำได้แค่ทำหน้าขรึมแล้วพึมพำว่า “ฉันใน สภาพนี้คงไปไม่ไหวแล้ว เอาแบบนี้ เหม่ยหยูนแกพาฉ่ายเวยไป ด้วยกัน
“หนึ่งคือแกเป็นผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของบริษัทเรา ก็ต้อง ไปอยู่แล้ว อีกด้านนึงคือฉ่ายเวยก็ต้องหางาน เป็นการให้เขาได้ ไปดูงานพอดี”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ